ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์สิ่งจำเป็นสำหรับคนมีรถที่ห้ามละเลย
เมื่อคิดซื้อรถยนต์มาใช้งานสักคันค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมไม่ได้มีแค่เงินดาวน์ ภายหลังยังมีค่าใช้จ่ายตามมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะค่าบำรุงรักษาดูแลรถยนต์ ค่าประกันภัยรถยนต์ การต่อพ.ร.บ รถยนต์ ไปจนถึงการต่อภาษีรถยนต์ประจำปี ล้วนแล้วแต่เป็นค่าใช้จ่ายที่คนมีรถไม่ควรมองข้ามหรือละเลย โดยวันนี้พี่เบิ้มจะมาพูดถึงการต่อภาษีรถยนต์ประจำปีหรือการต่อทะเบียนรถยนต์ กระบวนการที่ผู้มีรถต้องไปยื่นเอกสารที่กรมการขนส่งเพื่อดำเนินการต่อภาษีรถ สำหรับป้ายภาษีรถยนต์มีลักษณะเป็นกระดาษสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ซึ่งผู้ใช้รถต้องนำมาติดไว้ที่หน้ากระจกรถยนต์ เพื่อแสดงว่ารถคันดังกล่าวได้ทำการจ่ายภาษีรถยนต์ตามที่กฎหมายกำหนด หากละเลยปล่อยให้ภาษีรถยนต์ขาด อาจทำให้ถูกปรับและเสียเวลาในการดำเนินการต่อใหม่
ปัจจุบันการจ่ายภาษีรถยนต์หรือการต่อทะเบียนรถมีความง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น เนื่องจากกรมการขนส่งทางบกได้เปิดให้ประชาชนสามารถต่อภาษีรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ สำหรับรถยนต์ที่ใช้งานไม่เกิน 7 ปี และรถจักรยานยนต์ไม่เกิน 5 ปี ทำให้ประชาชนไม่จำเป็นต้องเดินทางมายังสำนักงานขนส่งใกล้บ้าน เพื่อให้ทุกคนสามารถยื่นต่อภาษีรถยนต์แบบออนไลน์ได้อย่างราบรื่น พี่เบิ้มจะมาแนะนำขั้นตอนต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ว่าต้องทำยังไงบ้าง มาดูกันครับ
ประเภทรถยนต์ที่สามารถต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ได้
ภาษีรถยนต์ประจำปี
- รถเก๋ง รถตู้ รถกระบะ และรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล
- รถเก๋ง รถตู้ รถกระบะ จดทะเบียนไม่เกิน 7 ปี
- รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จดทะเบียนไม่เกิน 5 ปี
- เป็นรถจดทะเบียนจังหวัดใดก็ได้
- รถที่ค้างชำระภาษีไม่เกิน 1 ปี และชำระภาษีล่วงหน้าไม่เกิน 3 เดือน
เอกสารและข้อมูลที่ต้องใช้ก่อนต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
สำหรับเอกสารที่ต้องใช้เมื่อดำเนินการต่อภาษีรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ มีดังนี้
- ข้อมูลทะเบียนรถ
- ข้อมูลประกันภัยภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ. ที่มีวันสิ้นอายุความคุ้มครองไม่น้อยกว่า 90 วัน
*ซึ่งรถทุกจังหวัดทะเบียนสามารถยื่นต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ได้ แต่รถติดแก๊สทุกชนิดต้องทำการสภาพตามประกาศกรมขนส่งทางบก และต้องยื่นชำระภาษีที่กรมขนส่งเท่านั้น สำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี รถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี ให้นำเข้าตรวจกับสถานตรวจสภาพรถก่อนยื่นต่อภาษีออนไลน์
แนะนำขั้นตอนต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
เว็บไซต์ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
1.เข้าเว็บไซค์ eservice.dlt.go.th หรือผ่านทางแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax (สำหรับช่องทางแอปพลิเคชัน รถอายุเกิน 7 ปี ไม่สามารถทำได้)
2.ทำการ Log-in เข้าสู่ระบบ หรือหากยังไม่เคยต่อภาษีแบบออนไลน์ให้เลือก “ลงทะเบียนสมาชิกใหม่” เพื่อทำการกรอกข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลเกี่ยวกับรถ ทำการตั้งรหัสผ่านเพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใช้งานครั้งต่อไป จากนั้นล็อคอินเพื่อเข้าใช้บริการ
3. เลือก “ชำระภาษีรถประจำปี” ในเมนูย่อยเลือก “ชำระภาษีรถประจำปีผ่านอินเทอร์เน็ต” และทำการลงทะเบียนรถ โดยระบุข้อมูลรถยนต์ให้ครบ เช่น ประเภทรถ จังหวัด เลขทะเบียนรถ ชื่อผู้ครอบครอบ รวมถึงกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับหลักฐานการเอาประกัน ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 (กรณี พ.ร.บ. ที่มีความคุ้มครองมากกว่า 3 เดือน) เป็นต้น จากนั้นกดบันทึก แล้วกดยื่นชำระภาษี
4.ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ จ่ายเงินยังไง ? คำตอบหลังจากระบุที่อยู่ในการจจัดส่งเอกสาร ให้กดปุ่ม “เลือกวิธีการชำระเงิน” โดยการเลือกวิธีชำระเงินสามารถทำได้หลากหลายช่องทาง ดังนี้
- บริการหักบัญชีออนไลน์ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารยูโอบี
- บริการชำระด้วยบัตรเครดิตออนไลน์ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- บริการรับชำระตามใบแจ้งชำระภาษีรถ ที่เคาน์เตอร์ธนาคารบริการ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารธนชาติ ธนาคารทหารไทย เคาน์เตอร์เซอร์วิส ทรูมันนี่เซอร์วิส ธนาคารยูโอบี ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นต้น
- ชำระที่ตู้ ATM ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารธนชาต ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารยูโอบี ธนาคารกรุงเทพ เป็นต้น
- บริการรับชำระทางโทรศัพท์มือถือ ได้แก่ ทรู มันนี่ เซอร์วิส
*หลังชำระเงินเสร็จสิ้นสามารถตรวจสอบสถานะการดำเนินการยื่นชำระต่อภาษีรถยนต์ สถานะการจัดส่งเอกสาร หรือหมายเลข EMS ได้ที่เมนู “ตรวจสอบผลการชำระภาษี” ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ กี่วันได้? สำหรับระยะเวลาการดำเนินการรวมทั้งสิ้นประมาณ 5 วันทำการ
อัตราค่าบริการ
- ค่าจัดส่งเอกสาร รายการละ 32 บาท
- ค่าธรรมเนียมธนาคาร รายการละ 20 บาท
- ค่าธรรมเนียมการใช้บัตร (กรณีชำระด้วยบัตรเครดิต) ร้อยละ 2 รวม Vat 7% ของค่าธรรมเนียม
การต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์สิ่งสำคัญที่คนมีรถไม่ควรมองข้ามหรือละเลยเพราะเป็นข้อบังคับทางกฏหมาย ทั้งปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกได้เพิ่มช่องทางการต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ที่ง่าย ๆ และสะดวกสบายสามารถดำเนินการได้ทุกที่หากรถของคุณเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อกำหนด ที่สำคัญถือเป็นการดูแลรถยนต์ช่วยให้อุ่นใจว่าเวลานำรถเข้ารับการตรวจสภาพก่อนต่อภาษี ไม่ต้องมานั่งลุ้นเรื่องควันดำ นอกจากนี้ควรมี พ.ร.บ. รถยนต์ที่ช่วยให้อุ่นใจหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน
สำหรับใครที่กำลังมองหาตัวช่วยด้านการใช้จ่าย ทั้งจำเป็นต้องใช้เงินก้อนฉุกเฉิน เพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาล ขาดสภาพคล่องทางการเงินเพราะหมุนเงินไม่ทันหรือรายได้ลดลง เพียงคุณมีรถยนต์ปลอดภาระ พี่เบิ้มขอแนะนำผลิตภัณฑ์สินเชื่อดี ๆ ที่ตอบโจทย์คุณได้เป็นอย่างมากกับ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ที่สามารถสมัครสินเชื่อผ่านช่องทางออนไลน์ ให้วงเงินใหญ่เบิ้มสูงสุด 1 ล้านบาท แถมรถยังมีขับ เพียงเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนพี่เบิ้ม Delivery ก็พร้อมเดินทางไปตรวจเช็คสภาพรถถึงที่หน้าบ้าน อนุมัติไวใน 2 ชั่วโมง เมื่อผ่านการอนุมัติรับเงินโอนเข้าบัญชีทันที หากต้องการวงเงินฉุกเฉินพี่เบิ้มพร้อมอยู่เคียงข้างคุณ
อ้างอิงข้อมูลจาก : กรมการขนส่งทางบก(1), (2) , thansettakij
สมัคร KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ทุกเรื่องการใช้จ่ายฉุกเฉินพี่เบิ้มช่วยได้…ที่นี่