การยื่นภาษี คือสิ่งที่ประชาชนคนทั่วไปในวัยทำงาน จะต้องทำตามหน้าที่พลเมือง โดยการยื่นเสียภาษีออนไลน์ จะต้องทำก่อนวันที่ 31 มีนาคมของทุกปี ซึ่งการยื่นภาษีในปี 2567 นี้ ควรมีการเตรียมเอกสารให้เรียบร้อยก่อนจะถึงวันที่กำหนด เพื่อที่จะได้ดำเนินการต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว สำหรับใครที่เป็นแรงงานหน้าใหม่ อยู่ในวัย First Jobber อาจจะสงสัยว่า การยื่นภาษีต้องทำอย่างไรบ้างนะ มาอ่านบทความนี้ และทำตามที่เคทีซีแนะนำกันได้เลย
สารบัญบทความ
- ทำไมเราถึงต้องยื่นภาษี?
- ใครบ้างที่ต้องยื่นภาษี?
- ยื่นภาษีแบบออนไลน์และออฟไลน์ ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง?
- ยื่นภาษีได้ที่ไหนบ้าง อัปเดตปี 2567
- วิธีการยื่นภาษีออนไลน์ด้วยตัวเอง อัปเดตปี 2567
- วิธีการคำนวณภาษีเงินได้
- เงินเดือนเท่านี้ เราต้องยื่นภาษีเงินได้เท่าไหร่กันนะ?
- หากยื่นภาษีไม่ทัน จะต้องทำอย่างไร?
- คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการยื่นภาษี
- ข้อสรุปเกี่ยวกับการยื่นภาษีปี 2567
ทำไมเราถึงต้องยื่นภาษี?
ประชาชนที่มีรายได้ทุกคน ควรจะต้องยื่นภาษีตามกฎหมาย และหน้าที่ของพลเมือง เพื่อที่รัฐจะได้นำเงินส่วนนี้ ไปใช้พัฒนาประเทศที่เราอยู่อาศัยต่อไป และเพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ทางการเงินของตนเอง ในกรณีที่คุณถูกหักภาษีจากรายได้ไปในระหว่างปี ถ้าทำเรื่องยื่นแบบภาษี คุณก็มีโอกาสที่จะได้รับเงินบางส่วนคืนกลับมา
ทั้งนี้ คุณควรที่จะยื่นภาษีทุกปี หากมีรายได้ถึงเกณฑ์ที่กำหนด เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาการโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง ซึ่งอาจมีบทลงโทษ และค่าปรับมหาศาลตามมาได้ สามารถจ่ายภาษีได้ด้วยเงินสด, เช็คธนาคาร, ธนาณัติ หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เช่น บัตรเครดิต บัตรเดบิต เป็นต้น
สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่กำลังกังวลว่าจะขาดสภาพคล่องทางการเงินตอนจ่ายภาษี สามารถสมัครบัตรกดเงินสดจากเคทีซี ตัวช่วยในยามฉุกเฉินที่เสริมสภาพคล่องให้คุณได้อุ่นใจในการใช้เงิน แค่มีเงินเดือนเริ่มต้น 12,000 บาท ก็สามารถสมัครได้แล้ว
ใครบ้างที่ต้องยื่นภาษี?
สำหรับผู้ที่มีเงินได้ หากมีฐานเงินเดือนไม่เกิน 10,000 บาท จะไม่ต้องทำการยื่นภาษี แต่ถ้ามีเงินเดือนมากกว่านี้ ต้องยื่นภาษีในทุกกรณี และผู้ที่ยื่นภาษี ไม่ได้จำเป็นที่จะต้องจ่ายภาษีทุกคน จะจ่ายก็ต่อเมื่อมีเงินเดือนถึงเกณฑ์ที่กำหนดไว้เท่านั้น ซึ่งรายละเอียดสำหรับบุคคลที่ต้องจ่ายภาษีมีดังนี้
บุคคลธรรมดา
- สถานะโสด : เป็นบุคคลธรรมดาที่มีสถานะโสด และได้รับเงินเดือนเพียงอย่างเดียว มากกว่า 120,000 บาทต่อปี หรือ ได้รับเงินประเภทอื่น มากกว่า 60,000 บาทต่อปี
- สถานะสมรส : เป็นบุคคลธรรมดาที่มีสถานะสมรสแล้ว และได้รับเงินเดือนเพียงอย่างเดียว มากกว่า 220,000 บาทต่อปี หรือ ได้รับเงินประเภทอื่น มากกว่า 120,000 บาทต่อปี
ห้างหุ้นส่วนสามัญ
ห้างหุ้นส่วนสามัญที่มิใช่นิติบุคคล หรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล ซึ่งมีรายได้มากกว่า 60,000 บาทต่อปี
กองมรดก
กองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง ซึ่งมีเงินได้เกิน 60,000 บาท
สมัครบัตรกดเงินสด KTC PROUD ผ่อนได้สูงสุด 24 เดือน
วงเงินใหญ่ อนุมัติไว รับเงินทันที
ยื่นภาษีแบบออนไลน์และออฟไลน์ ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง?
ในการยื่นภาษีปี 2567 มีรายการเอกสารที่ต้องใช้สำหรับประกอบการยื่นภาษี ทั้งแบบออนไลน์ และออฟไลน์ ดังนี้
- เอกสารแสดงรายได้ : หนังสือรับรองเงินเดือนจากบริษัทอย่างใบทวิ 50 หรือ ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย เพื่อเป็นการยืนยันว่ารายได้ตลอดทั้งปี รวมแล้วมีเท่าไร และมีการเสียภาษีไปในส่วนใดแล้วบ้าง เช่น เงินสมทบประกันสังคม เงินจ่ายสะสมสำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นต้น
- เอกสารประกอบการลดหย่อนภาษี : เป็นเอกสารที่สำคัญเป็นอย่างมากสำหรับการยื่นภาษีออนไลน์ เพื่อที่คุณจะได้จ่ายภาษีน้อยลง ตัวอย่างเอกสารเช่น เอกสารรับรองเบี้ยประกันชีวิต เอกสารรับรองการซื้อหุ้น และรายการลดหย่อนภาษี 2567 อื่น ๆ ตามที่รัฐบาลกำหนดให้สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้
- เอกสารใบเสร็จรับเงินการบริจาคประเภทต่าง ๆ : สามารถเก็บหลักฐานการบริจาคเงินมาลดหย่อนภาษีได้ เช่น เงินบริจาคสนับสนุนการศึกษา เงินบริจาคแก่พรรคการเมือง เงินบริจาคทั่วไป เป็นต้น
ยื่นภาษีได้ที่ไหนบ้าง อัปเดตปี 2567
สามารถยื่นภาษีปี 2567 ได้ที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาของแต่ละเขต และส่งทางไปรษณีย์ไปยังกรมสรรพากร สำหรับการยื่นแบบภาษี ภ.ง.ด. 90 หรือ ภ.ง.ด. 91 เท่านั้น โดยการส่งทางไปรษณีย์ จะทำได้ก็ต่อเมื่อผู้ยื่นภาษี มีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพมหานคร หากมีภูมิลำเนาอยู่ในต่างจังหวัด จะไม่สามารถยื่นส่งทางไปรษณีย์ได้ และยังสามารถยื่นแบบภาษีออนไลน์ ผ่านทางเว็บไซต์ของกรมสรรพากร ที่ https://efiling.rd.go.th/rd-cms หรือ Rd smart tax application ได้อีกด้วย
วิธีการยื่นภาษีออนไลน์ด้วยตัวเอง อัปเดตปี 2567
ในปัจจุบัน สำหรับการยื่นภาษีในปี 2567 นอกจากจะสามารถไปยื่นภาษีที่กรมสรรพากรของแต่ละเขตพื้นที่การปกครองโดยตรงได้แล้ว ยังสามารถที่จะสมัครเข้าระบบ E-FILING ของเว็บไซต์กรมสรรพากร เพื่อทำการยื่นเสียภาษีออนไลน์ได้ด้วยตัวคุณเองอีกด้วย โดยมีวิธียื่นภาษีออนไลน์ง่าย ๆ ดังนี้
1. เข้าหน้าเว็บหลักของกรมสรรพากร
เข้าเว็บไซต์ https://efiling.rd.go.th/rd-cms ซึ่งหากคุณยังไม่ได้เป็นสมาชิก ให้ทำการกดปุ่ม “สมัครสมาชิก” ทางด้านขวามือก่อน เพื่อทำการลงทะเบียนเข้าระบบ โดยทำตามขั้นตอนที่หน้าเว็บจะแสดงขึ้นมาทีละขั้นตอน
2. กรอกรหัสส่วนตัวและ OTP ยืนยันตัวตน
เมื่อได้รับบัญชีเข้าใช้งานแล้ว ให้เข้าสู่ระบบตามหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (เลขประจำตัวประชาชน) และกดรับรหัส OTP เพื่อเป็นการยืนยันเข้าระบบ
3. เลือกประเภทของภาษีบุคคลธรรมดาที่ต้องการยื่น
ทางหน้าเว็บจะมีประเภทภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้ได้เลือกเข้าไปยื่น ซึ่งได้แก่ แบบ ภ.ง.ด. 90/91, ภ.ง.ด. 94 และแบบแจ้งเงินต่างด้าว ให้คุณเลือกที่ ภ.ง.ด. 90/91 สำหรับผู้ที่มีเงินได้ในกรณีทั่วไป
4. จัดการกรอกรายละเอียด
เมื่อเลือก ภ.ง.ด. 90/91แล้ว ขั้นตอนต่อไปที่คุณต้องทำ คือ การกรอกรายละเอียดรายได้ส่วนตัวให้ถูกต้องชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น ชื่อ, ที่อยู่, เบอร์ติดต่อ, ที่มาของรายได้, รายจ่ายที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษี และดำเนินการตามขั้นตอนของเว็บไซต์ต่อไป
5. ตรวจสอบความถูกต้องและกดยืนยันการยื่นแบบ
เมื่อกรอกข้อมูลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้ตรวจสอบข้อมูลทุกอย่างให้ถูกต้อง ก่อนที่จะกดยืนยันการยื่นภาษีบุคคลธรรมดา เพื่อไปยังหน้าเว็บไซต์ที่ยืนยันการยื่นภาษีอย่างเสร็จสมบูรณ์ และควรพิมพ์หน้านี้ออกมาเป็นเอกสารเก็บไว้ เพื่อเป็นหลักฐานว่าคุณได้ทำการยื่นเสียภาษีเรียบร้อยแล้ว
6. ตรวจสอบผลการยื่นแบบ
หลังจากกดยืนยันการยื่นแบบแล้ว ให้ทำขั้นตอนสุดท้ายคือ การตรวจสอบผล ว่ามีการยื่นแบบภาษีรายได้บุคคลธรรมดาสำเร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นอันสิ้นสุดขั้นตอนการยื่นภาษีออนไลน์
วิธีการคำนวณภาษีเงินได้
สำหรับวัย First Jobber ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีรายได้ทางเดียวจากเงินเดือนพนักงานประจำนั้น จะต้องยื่นภาษีแบบ ภ.ง.ด. 91 โดยมีวิธีคำนวณภาษีเงินได้ง่าย ๆ ดังนี้
- เริ่มจากการนำ เงินได้ - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อนภาษี = เงินได้สุทธิ
- ต่อมานำ เงินได้สุทธิ x อัตราเสียภาษี = เงินภาษีที่ต้องจ่าย
ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายจะสามารถคิดได้ไม่เกิน 100,000 บาท และค่าลดหย่อนภาษี สามารถคิดค่าลดหย่อนได้ตามรายการที่รัฐบาลกำหนด ส่วนอัตราเสียภาษี จะมีการกำหนดเป็นขั้นบันได ยิ่งเงินได้สูง อัตราภาษีที่ต้องจ่ายก็จะสูงตาม
เงินเดือนเท่านี้ เราต้องยื่นภาษีเงินได้เท่าไหร่กันนะ?
ในแต่ละฐานเงินเดือน จะมีอัตราเสียภาษีที่ต้องจ่ายไม่เท่ากัน ซึ่งรายละเอียดค่าใช้จ่ายในการยื่นภาษีของแต่ละฐานเงินเดือนเบื้องต้น มีดังนี้
เงินเดือน (บาท) |
อัตราเสียภาษี (%) |
เสียภาษีไม่เกิน (บาท) |
20,000 |
- |
- |
30,000 |
5% |
2,050 |
40,000 |
10% |
8,600 |
50,000 |
10% |
20,600 |
60,000 |
10% |
31,150 |
70,000 |
15% |
53,150 |
80,000 |
20% |
73,200 |
90,000 |
20% |
97,200 |
100,000 |
25% |
122,750 |
หากยื่นภาษีไม่ทัน จะต้องทำอย่างไร?
หากยื่นภาษีปี 2567 ไม่ทันตามกำหนดวันที่ 31 มีนาคม สามารถยื่นภาษีย้อนหลังได้ด้วยตนเองที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาของแต่ละเขต แต่จะต้องเสียค่าปรับตามกฎหมาย 2,000 บาท และชำระเงินภาษี พร้อมเงินเพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ต่อเดือน หากผู้ที่ยื่นภาษีย้อนหลัง ไม่มีเงินภาษีต้องชำระ ก็จะเสียค่าปรับเพียงอย่างเดียว
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการยื่นภาษี
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี คืออะไร? หาได้จากที่ไหน?
สำหรับบุคคลธรรมดา เลขประจำตัวผู้เสียภาษี ก็คือหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก กรณีเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล จะใช้เลขทะเบียนนิติบุคคลที่ออกให้โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้ามาเป็นเลขผู้เสียภาษี ส่วนกิจการร่วมค้า ห้างหุ้นส่วน และคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล จะต้องติดต่อกรมสรรพากร เพื่อขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษีสำหรับยื่นภาษี
ยื่นภาษีแบบ ภ.ง.ด. 90 และ ภ.ง.ด. 91 ต่างกันอย่างไร?
การยื่นภาษีแบบ ภ.ง.ด. 90 และ ภ.ง.ด. 91 ต่างกันที่จำนวนรายการของรายได้ที่ได้รับ โดย ภ.ง.ด. 90 คือ ภาษีสำหรับผู้มีเงินได้ทั่วไปหลายรายการ เช่น รายได้จากการลงทุน รายได้จากกิจการ ส่วนภาษีแบบ ภ.ง.ด. 91 คือภาษีสำหรับผู้มีรายได้จากการจ้างงานเพียงรายการเดียว
ยื่นภาษีผิดประเภท ทำยังไงดี?
หากยื่นภาษีผิดประเภท สามารถยื่นใหม่ได้อีกครั้ง จนกว่าจะหมดช่วงเวลาของการยื่นภาษีประจำปี ซึ่งก็คือวันที่ 31 มีนาคม
ข้อสรุปเกี่ยวกับการยื่นภาษีปี 2567
การยื่นภาษีปี 2567 สามารถยื่นได้จนกว่าจะถึงวันที่ 31 มีนาคม หากยื่นเกินกำหนดเวลา จะมีการเสียค่าปรับบางส่วนตามกฎหมาย อีกทั้งในปัจจุบัน สามารถยื่นภาษีได้ทั้งแบบออฟไลน์ และออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ บุคคลผู้เป็นแรงงานซึ่งมีรายได้ 10,000 บาทขึ้นไป จำเป็นที่จะต้องยื่นภาษีทุกคน แต่จะต้องจ่ายภาษีก็ต่อเมื่อเงินได้ถึงเกณฑ์ที่กำหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้ ยิ่งเงินเดือนสูง อัตราการเสียภาษีก็จะยิ่งสูงขึ้นไปด้วยเช่นกัน
ผู้เสียภาษีสามารถชำระภาษีได้ด้วยเงินสด, เช็คธนาคาร, ธนาณัติ หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เช่น บัตรกดเงินสด ซึ่งสามารถรูดบัตร หรือกดเงินสดมาจ่ายภาษีได้ตามวงเงินที่ธนาคารกำหนดไว้ สมัครบัตรกดเงินสด KTC PROUD อนุมัติปั๊ป รับเงินกู้โอนเข้าบัญชีทันที สามารถผ่อนคืนทีหลังได้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ หมดกังวลเรื่องขาดสภาพคล่องทางการเงินไปเลย
สมัครบัตรกดเงินสด KTC PROUD ไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
แค่มีรายได้ประจำ 12,000 บาทขึ้นไป