ผ่านช่วงยื่นภาษีประจำปีมาเรียบร้อย หลายคนคงใจจดใจจ่อว่า “จะได้เงินคืนเมื่อไหร่” หรือ “ทำไมคนอื่นได้แล้ว แต่เรายังไม่ได้?” บทความนี้จะพาคุณไปดู วิธีตรวจสอบภาษีเงินคืน แบบง่าย ๆ เช็กเองได้ผ่านมือถือ ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที แถมยังมีคำแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับการใช้เงินภาษีคืนให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เลือกอ่านตามหัวข้อ
ทำไมถึงได้ภาษีเงินคืน?
การได้เงินคืนจากกรมสรรพากรเกิดขึ้นเมื่อคุณยื่นภาษีแล้วมี "ยอดภาษีที่ชำระจริงมากกว่าภาษีที่ควรต้องเสีย" ซึ่งมักจะมาจากการใช้สิทธิลดหย่อนต่าง ๆ เช่น
- ประกันชีวิต
- กองทุนรวม RMF/SSF
- ดอกเบี้ยบ้าน
- บุตร/คู่สมรสไม่มีรายได้
ใครที่ยื่นภาษีอย่างถูกต้องตามกำหนด มีเอกสารครบถ้วน ก็มีสิทธิ์ได้รับเงินคืนจากกรมสรรพากร
วิธีตรวจสอบภาษีเงินคืน แบบง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
ช่องทางหลักในการ ตรวจสอบภาษีเงินคืน มี 2 ช่องทาง คือ:
1. ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร rd.go.th
ขั้นตอนง่าย ๆ:
- เข้าเว็บไซต์ www.rd.go.th
- เลือกเมนู "ตรวจสอบสถานะการขอคืนภาษี"
- กรอกเลขบัตรประชาชน 13 หลัก และปีภาษีที่ต้องการตรวจสอบ
- ระบบจะแสดงสถานะทันที เช่น "อยู่ระหว่างตรวจสอบ" / "โอนเงินเรียบร้อยแล้ว"
2. ผ่านแอปพลิเคชัน RD Smart Tax
ดาวน์โหลดฟรีได้ทั้ง iOS และ Android ใช้เพียงเลขบัตรประชาชนก็เช็กได้เหมือนกัน สะดวกสุด ๆ สำหรับคนที่ใช้มือถือเป็นหลัก
ตรวจสอบภาษีเงินคืนแล้วได้สถานะอะไรบ้าง?
หลังจากทำการ ตรวจสอบภาษีเงินคืน เรียบร้อยแล้ว คุณอาจเจอสถานะต่าง ๆ ดังนี้:
1. อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
หมายความว่าเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบเอกสารเพิ่มเติม อาจต้องรออีกสักระยะ
2. ข้อมูลไม่ถูกต้อง / เอกสารไม่ครบ
แนะนำให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่านโทร. 1161 หรือเข้าไปที่สำนักงานสรรพากรเขต
3. โอนเงินเรียบร้อยแล้ว
เตรียมเฮได้เลย! เงินจะโอนเข้าบัญชีที่คุณระบุไว้ตอนยื่นภาษี
ได้เงินคืนแล้ว ควรจัดการยังไงดี?
เมื่อได้เงินคืนจากภาษี สิ่งที่ควรทำคือวางแผนการใช้จ่ายให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น:
1. ใช้ชำระหนี้ที่ดอกเบี้ยสูง
หากคุณมีบัตรเครดิตหรือสินเชื่อที่ดอกเบี้ยสูง ควรนำเงินคืนไปโปะก่อน ช่วยลดภาระในระยะยาว
2. กันเงินไว้ใช้จ่ายฉุกเฉิน
เงินก้อนนี้อาจเป็นทุนสำรองในเดือนที่รายจ่ายสูงกว่าปกติ เช่น ค่าซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาล
3. ลงทุนต่อยอด
บางคนอาจใช้เงินภาษีคืนเป็นเงินตั้งต้นลงทุนในกองทุนรวม หรือลงเรียนคอร์สเพิ่มทักษะในสายงานของตัวเอง
แล้วถ้ายังไม่ได้ภาษีคืน ต้องทำยังไง?
หากตรวจสอบแล้วพบว่าเลยกำหนดมาหลายเดือนแต่ยังไม่ได้เงินคืน แนะนำให้ติดต่อเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรโดยตรงเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม เพราะอาจติดปัญหาเรื่องบัญชีไม่ตรง หรือเอกสารไม่ครบ
โทร: 1161
หรือไปที่สรรพากรใกล้บ้านได้เลย
หมุนเงินไม่ทัน รอภาษีคืนไม่ไหว? ให้ “KTC PROUD” ช่วยดูแล
สำหรับใครที่กำลังรอเงินคืนแต่ยังมีภาระจ่ายตรงหน้า ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าบ้าน ค่ารถ หรือค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน การมี บัตรกดเงินสด KTC PROUD อาจเป็นทางเลือกที่ช่วยให้คุณสามารถบริหารค่าใช้จ่ายได้อย่างคล่องตัว โดยมีคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ต้องการความยืดหยุ่นทางการเงิน
- สมัครง่าย เงินเดือน 12,000 บาท ก็สมัครได้
- อนุมัติไว เลือกรับเงินโอนเข้าบัญชีได้ทันที เมื่ออนุมัติ
- เบิกเงินได้ 24 ชั่วโมง ผ่านแอป KTC Mobile และ ATM ทั่วประเทศ
- ผ่อนสินค้า 0% นานสูงสุด 24 เดือน ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ
- รูดซื้อสินค้า และช้อปออนไลน์ พร้อมรับสิทธิพิเศษทั้งปี
วางแผนการเงินให้คล่องตัวในทุกสถานการณ์ ใช้บัตรกดเงินสด KTC PROUD
*กู้เท่าที่จําเป็นและชําระคืนได้ตามกําหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 25% ต่อปี