สร้างร้านขายของเล็ก ๆ ในชุมชนอย่างไรให้ทุนไม่หาย กำไรไม่จม
ปัจจุบันเทรนด์การค้าขายหรือการทำธุรกิจส่วนตัวกลายเป็นกระแสนิยม เพราะสามารถบริหารจัดการเวลา บริหารการเงิน และสร้างกำไรเป็นกอบเป็นกำ ที่สำคัญยังช่วยต่อยอดเงินที่มีอยู่ให้เพิ่มขึ้นได้อีกด้วย โดยหนึ่งธุรกิจค้าขายที่น่าสนใจคือการเปิดร้านโชห่วยหรือร้านขายของชำในชุมชน ที่เน้นการลงทุนแบบเรียบง่ายและเลือกรายการสินค้าจำหน่ายในจำนวนที่พอดี เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของคนในชุมชนมากที่สุด
ซึ่งธุรกิจดังกล่าวดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่าย เพียงแค่มีเงินลงทุนและทำเลที่ตั้งก็เพียงพอแล้ว แต่ทว่าปัจจุบันธุรกิจประเภทดังกล่าว ต่างต้องเผชิญหน้าคู่แข่งคนสำคัญอย่างร้านค้าปลีกรายใหญ่ ที่แทรกซึมอยู่แทบทุกพื้นที่ในไทย สะดวก เข้าถึงง่าย จึงทำให้การขายของชำกลายเป็นเรื่องท้าทายมากกว่าเดิม วันนี้ KTC เปิดไอเดียร้านของชำยุคใหม่ เพื่อช่วยให้การค้าขายเป็นไปอย่างราบรื่น ทุนไม่หาย กำไรเพิ่มขึ้น และช่วยให้คุณมีธุรกิจที่มั่นคง
ลงทุนร้านโชห่วยสู้ร้านค้าขนาดใหญ่ได้หรือไม่?
ร้านขายของชำ ร้านขายของ หรือร้านโชห่วย เป็นธุรกิจที่ช่วยสร้างรายได้ให้คนได้เป็นอย่างดี ซึ่งเรามักเห็นกิจการประเภทนี้บ่อย ๆ ในหมู่บ้านหรือชุมชน เพราะสามารถเข้าถึงได้ง่าย มีสินค้าทุกอย่างทั้งของใช้ในบ้าน อาหาร เครื่องดื่ม ขนม ยาสามัญประจำบ้าน และของใช้จิปาถะอื่น ๆ ช่วยให้คนในชุมชนสามารถเลือกซื้อสินค้าตามต้องการได้ใกล้บ้าน แต่เนื่องจากปัจจุบันมีร้านค้าปลีกสมัยใหม่ หรือ Modern Trade ขยายตัวอย่างรวดเร็ว จึงเป็นเรื่องที่สร้างความท้าทายให้กับร้านขายของชำทั้งเก่าและใหม่ เพราะร้าน Modern Trade มักมีความทันสมัย เข้าถึงง่าย มีของกินของใช้ให้เลือกมากมาย ที่สำคัญยังมีการบริการที่ดี
ร้านขายของชำในชุมชนทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ
หากถามว่าการลงทุนร้านขายของชำ ตลอดจนร้านขายของเล็กๆ มีโอกาสชนะร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ที่ได้รับความนิยมได้หรือไม่? คำตอบของเรื่องนี้คือคุณต้องย้อนถามตัวเองเสียก่อน ว่ามีความพร้อมในด้านการค้ามากน้อยขนาดไหน มีการวางแผนธุรกิจ การขาย และการบริการเป็นอย่างไร เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า ณ ตอนนี้ ทุกธุรกิจทั้งแบบมีหน้าร้านและธุรกิจออนไลน์มีการแข่งขันที่ดุเดือด คนมองหารายได้เสริมมากขึ้น ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นร้านขายของชำที่เปิดมานาน ร้านขายของชำในบ้าน หรือร้านขายของชำที่เพิ่งเปิดใหม่ การสร้างจุดเด่นและวางแผนกลยุทธ์เพิ่มยอดขาย มักส่งผลให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
ร้านขายของชำสมัยใหม่เตรียมอะไรบ้าง?
1. เตรียมทำเลร้านอย่างเหมาะสม
การขายของแบบมีหน้าร้าน มีข้อเสียเปรียบกว่าการขายของออนไลน์ โดยเฉพาะร้านขายของชำเล็ก ๆ ที่ต้องเลือกทำเลร้านค้าอย่างเหมาะสม เช่น แหล่งชุมชน หน้าหน่วยงาน บริษัท โรงเรียน ใต้อพาร์ทเม้นท์ ฯลฯ ที่สำคัญต้องเช็กด้วยว่าบริเวณรอบข้างมีคู่แข่งมากน้อยแค่ไหน และควรหลีกเลี่ยงทำเลที่มีร้านค้านายทุนอยู่แล้ว เพราะหากมีคู่แข่งที่อยู่มานานและมีชื่อเสียงมาพอสมควร อาจทำให้คุณขายสินค้าได้ยากขึ้น นอกจากนี้ต้องเช็กความต้องการของผู้บริโภค ว่ามีความประสงค์ต่อสินค้าประเภทไหน เพื่อให้คุณออกแบบร้านขายของและเลือกสินค้ามาจำหน่ายได้อย่างเหมาะสม
2. เตรียมเงินให้เหมาะสมกับขนาดร้าน
งบประมาณในการเปิดร้านชำขึ้นอยู่กับขนาดร้าน ตัวอย่าง
- ร้านค้าที่ไม่มีพื้นที่และต้องก่อสร้างร้านใหม่ทั้งหมด งบประมาณอาจเริ่มต้นที่ประมาณ 150,000 บาทเป็นอย่างต่ำ
- ร้านค้าที่มีพื้นที่อยู่แล้วอาจเสียเพียงแค่ค่าสินค้าที่ต้องนำมาหมุนเวียนในร้าน เริ่มต้นที่ 50,000 บาท (ไม่รวมค่าอุปกรณ์อื่นๆ)
- ร้านค้าที่ต้องเสียค่าเช่า ค่าหมุนเวียนในร้าน รวมไปถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 50,000 – 100,000 บาท
อย่างไรก็ตามงบประมาณการเปิดร้านขายของชำไม่มีตายตัว เพราะทั้งหมดนี้ต้องขึ้นอยู่กับขนาดร้านและการวางแผนทางการค้า ดังนั้นแนะนำว่าไม่ควรเทเงินจนหมดหน้าตักตั้งแต่ครั้งแรก แต่ให้ลงทุนเปิดร้านตามกำลังทรัพย์ที่จ่ายไหว จากนั้นค่อย ๆ ขยายกิจการให้ใหญ่ขึ้น ตามการเติบโตของธุรกิจ ที่สำคัญต้องมีเงินทุนสำรองที่เพียงพอเสมอ หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินจะได้มีเงินเพียงพอ ไม่ต้องวิ่งวุ่นกู้หนี้ยืมสินจากแหล่งเงินกู้นอกระบบที่แสนโหด
3. เตรียมขออนุญาตและจดทะเบียนให้ถูกต้อง
การเปิดร้านขายของชำ จำเป็นต้องมีการขออนุญาตและจดทะเบียนอย่างถูกต้อง เช่น การขออนุญาตจากกรมสรรพสามิต จดทะเบียนพาณิชย์ร้านค้า การเสียภาษีเงินได้ ฯลฯ เพื่อความสบายใจ ถูกต้องตามกฏหมาย และไม่มีหน่วยงานใด ๆ มาตามทวงถามทีหลัง หากเป็นเช่นนั้นอาจทำให้ร้านค้าของคุณต้องหยุดชะงักลงเลยก็ได้ ซึ่งการจดทะเบียนดังกล่าวเป็นเพียงแค่ตัวอย่างเท่านั้น หากต้องการทราบข้อมูลโดยละเอียดว่าร้านของชำของคุณ ต้องจดทะเบียนอะไรเพิ่มอีกบ้าง สามารถสอบถามเจ้าหน้าที่อบต. หรือเทศบาลในชุมชนนั้น ๆ เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่แจกแจงรายละเอียดเบื้องต้น
4. มีสินค้าให้เลือกซื้ออย่างหลากหลาย
ร้านขายของชำยุคใหม่ จำเป็นต้องหลุดออกจากกรอบการขายสินค้าเดิม ๆ ควรมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ครบครัน ครอบคลุมความต้องการของลูกค้ามากที่สุด ที่สำคัญให้หมั่นสำรวจสินค้าของคู่แข่ง เพื่อพัฒนาร้านตัวเอง และนำสินค้าที่ร้านอื่นไม่มีมาทดลองจำหน่ายเพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้า เพราะผลิตภัณฑ์บางอย่างเป็นสิ่งที่ลูกค้าไม่สามารถหาซื้อได้ที่ร้านทั่วไป หรือหาซื้อได้ในร้านค้าใหญ่ ๆ ที่อยู่ไกลเท่านั้น หากคุณทำได้และมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนสินค้าใหม่ ๆ อยู่เสมอ เชื่อว่าช่วยให้ลูกค้าต่างพากันมาแวะเวียนร้านของคุณเป็นประจำทุกวันแน่นอน
5. เตรียมแหล่งซื้อของใกล้บ้าน ราคาประหยัด
การเตรียมแหล่งซื้อสินค้าเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ต้องจดไว้ เพราะการหาซื้อของใกล้บ้านที่ได้ราคาขายส่ง มักช่วยให้เจ้าของร้านชำประหยัดค่าใช้จ่ายได้หลายเท่าตัว อีกทั้งยังช่วยประหยัดต้นทุนในการขนส่ง หรือหากใครไม่สะดวกเดินทางไปซื้อเอง แนะนำดีลกับร้านขายส่ง ห้างขายส่ง หรือตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้ทางร้านนำสินค้ามาส่งให้ถึงที่ตามต้องการ แต่ต้องเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียและเช็กประวัติของแหล่งซื้อให้ดี มิเช่นนั้นอาจเสี่ยงต่อการถูกฉ้อโกงและจำหน่ายสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ
6. เตรียมจัดร้านขายของชําให้น่าเข้า
นอกจากความสะอาดภายในร้านที่มีความสำคัญแล้ว การจัดวางสินค้าตามประเภท เช่น อาหาร เครื่องดื่ม ของใช้ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีสารเคมี ฯลฯ ไม่เพียงแต่ช่วยทำให้ร้านดูน่ามองขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ลูกค้าเดินเลือกสินค้าได้ตามหมวดหมู่ที่ต้องการ และไม่ต้องคอยเสียเวลาถามคุณซ้ำ ๆ ว่าสินค้าที่อยากซื้อวางอยู่ตรงไหน สะดวกทั้งคนบริโภคแถมไม่เสียเวลาคนขายอีกด้วย
7. จัดโปรโมชั่นและหมั่นทำการตลาด
ข้อได้เปรียบของร้านขายของชำเล็ก ๆ คือสามารถขายสินค้าได้อย่างหลากหลาย และจัดสินค้าเป็นเซตได้อย่างเหมาะสมตามความต้องการ เช่น การจัดโปรโมชั่นถุงยังชีพสุดคุ้ม โดยในถุงรวมของกินและของใช้จำเป็นไว้ครบ ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาร อาหารแห้ง ปลากระป๋อง น้ำตาลทราย กาแฟ โอวัลติน ไข่ไก่ ยาสระผม แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้มค่าและเหมาะสมต่อการจ่าย นอกจากนี้การทำการตลาดออนไลน์ถือเป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจ เพราะแม้ร้านคุณเป็นเพียงร้านขายของชำเล็ก ๆ แต่คุณมีการจัดทำเพจเฟซบุ๊กเพื่อโปรโมทร้านค้า อาจช่วยให้ผู้บริโภคในชุมชนข้าง ๆ เห็น และมาซื้อสินค้าจากร้านคุณเมื่อเห็นโปรโมชั่นสุดคุ้ม หรือคุณพร้อมจัดส่งสินค้าให้ในระยะทางใกล้ ๆ เมื่อมีค่าใช้จ่ายตามที่กำหนด เป็นอีกไอเดียดึงดูดลูกค้าที่น่าสนใจเลยทีเดียว
8. บริการด้วยความจริงใจ อัธยาศัยดี
การบริการอย่างซื่อสัตย์ จริงใจ ไม่หลอกลวงผู้บริโภค เป็นหัวใจหลักของการค้าขาย หากคุณสามารถทำตามสิ่งเหล่านี้ได้ เชื่อว่าช่วยให้ลูกค้าติดใจและพร้อมอุดหนุนคุณอยู่เสมอ ที่สำคัญคำพูดคำจาและรอยยิ้ม เป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของร้านขายของชำไม่ควรมองข้ามเช่นกัน
บริการรับชำระเงิน KTC สะดวกสบาย ใช้จ่ายสะดวก ไม่ต้องพกเงินสด
9. เพิ่มช่องทางชำระเงินเพื่ออำนวยความสะดวก
ในสมัยนี้อุปกรณ์สื่อสารอย่างสมาร์ทโฟน ได้เข้ามามีบทบาทต่อการใช้ชีวิตของคนมากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่คนในชุมชน ดังนั้นร้านขายของชำเล็ก ๆ ที่มีการเพิ่มช่องทางชำระเงินให้ลูกค้า ถือเป็นไอเดียที่น่าสนใจ เพราะวิธีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าเท่านั้น แต่ร้านค้ายังหมดห่วงเรื่องการเก็บเงิน ไม่ต้องคอยรับ - ทอนเงินสดให้เสียเวลา ที่สำคัญยังไม่ต้องเก็บเงินสดไว้ที่ร้านเยอะ ๆ จนเสี่ยงถูกโจรกรรมอีกด้วย หากกำลังมองหาช่องทางชำระเงินเพื่อเอาใจลูกค้า KTC แนะนำ KTC QR PAY ระบบชำระเงินผ่าน QR Code ช่วยเติมเต็มความสะดวกสบายให้ลูกค้าและเจ้าของกิจการ เข้าถึงง่าย หมดห่วงเรื่องค่าเช่าเครื่อง/ค่าติดตั้งเครื่อง ตอบโจทย์ได้ดีกับทุกธุรกิจ
- รองรับการชำระค่าสินค้าและบริการด้วย QR Code ได้หลายช่องทาง ทั้งผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต และพร้อมเพย์ ที่ช่วยตอบโจทย์ธุรกิจออนไลน์
- รองรับบัตรเครดิต Visa หรือ Mastercard ที่ออกในประเทศไทยโดย KTC, SCB, Citibank และเครื่องกรุงศรีฯ
- รองรับการสร้าง QR Code ได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบตั้งป้ายหน้าร้าน หรือการสร้าง QR Code ผ่าน TapKTC Merchant
- ร้านค้าได้รับผลการยืนยันชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน TapMerchant หรือผ่านช่องทาง SMS และอีเมล โดยที่ลูกค้าได้รับผลการยืนยันชำระเงินผ่าน SMS และอีเมลเช่นกัน
- ร้านค้าสามารถตรวจสอบรายการรับชำระเงินได้หลายช่องทาง ทั้งผ่านทางแอปพลิเคชันและผ่านบริการ KTC Online
- KTC QR PAY ใช้งานง่าย ตอบโจทย์ร้านค้าทั้งแบบมีหน้าร้านและร้านค้าออนไลน์ทุกขนาด
ทั้งหมดนี้เป็นไอเดียการเปิดร้านขายของชำยุคใหม่ที่ KTC นำมาแนะนำ โดยเคล็ดลับเหล่านี้สามารถนำไปปรับใช้กับการเปิดร้านขายของชำได้ทุกขนาด ที่สำคัญการเปิดร้านขายของชำยุคใหม่ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพราะแม้ปัจจุบันจะมีคู่แข่งทางการค้ามากหน้าหลายตา แต่หากคุณมีความตั้งใจ มีเคล็ดลับการวางแผนค้าขายที่ดี และช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้คุณกุมหัวใจลูกค้าและมีรายได้ที่ยั่งยืนแล้ว
สะดวกสบาย ตอบโจทย์ร้านค้าทุกประเภทด้วยช่องทางชำระเงิน KTC MERCHANT