เคยไหมกับการขับรถทางไกลเป็นเวลานาน ๆ แล้วรู้สึกเมื่อยล้าจากการต้องเหยียบคันเร่งค้างไว้อยู่ตลอดเวลา? ระบบ Cruise Control คือหนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยให้การขับรถทางไกลสะดวกสบายและผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากความสะดวกสบายแล้ว ระบบนี้ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่หลายคนอาจคิดไม่ถึง
ตั้งแต่ Cruise Control คืออะไร ไปจนถึง วิธีการใช้งาน อย่างละเอียด เราจะอธิบายขั้นตอนการตั้งค่า การเพิ่ม-ลดความเร็ว และการยกเลิกระบบอย่างเข้าใจง่าย นอกจากนี้ ไปดูกันว่า ระบบ Cruise Control เหมาะสำหรับใช้ตอนไหน เพื่อให้คุณใช้ประโยชน์จากฟังก์ชันนี้มากที่สุด รวมถึงข้อควรระวังในการเปิดใช้งาน มีอะไรบ้างไปติดตามกันได้เลย
เลือกอ่านตามหัวข้อ
Cruise Control คืออะไร
ระบบ Cruise Control หรือที่เรียกกันว่า ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ มีหลักการทำงานง่าย ๆ คือ เมื่อคุณตั้งค่าความเร็วที่ต้องการ ระบบจะทำการควบคุมคันเร่งโดยอัตโนมัติ เพื่อรักษาความเร็วของรถให้คงที่ตามที่คุณกำหนดไว้ โดยที่คุณไม่ต้องเหยียบคันเร่งเอง ทำให้การขับขี่บนทางหลวงหรือถนนโล่ง ๆ ที่มีการจราจรไม่หนาแน่นมีความผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น
ระบบ Cruise Control ไม่ได้มีไว้แค่เพิ่มความสะดวกสบายเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อีกด้วย เช่น ช่วยให้คุณขับขี่ด้วยความเร็วคงที่ตามที่กฎหมายกำหนด ลดโอกาสในการขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งอาจนำไปสู่การถูกปรับได้
นอกจากนี้ การรักษาความเร็วให้สม่ำเสมอยังช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการเร่งความเร็วโดยไม่จำเป็น ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม การใช้งานระบบ Cruise Control ก็มีข้อควรระวังที่ผู้ขับขี่ควรทราบ เพื่อให้การขับขี่เป็นไปอย่างปลอดภัยเช่นเดียวกัน
วิธีการใช้งาน Cruise Control
การใช้งานปุ่ม Cruise Control นั้นไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด โดยรถยนต์แต่ละรุ่นอาจมีสัญลักษณ์และตำแหน่งของปุ่มควบคุมแตกต่างกันเล็กน้อย แต่โดยทั่วไปจะมีขั้นตอนการทำงานที่คล้ายคลึงกันดังนี้
- เปิดระบบ (ปุ่ม ON/OFF หรือ CRUISE) ขั้นตอนแรกคือการเปิดใช้งานระบบ Cruise Control โดยส่วนใหญ่มักจะมีปุ่ม "ON" หรือ "OFF" หรือสัญลักษณ์ "CRUISE" บนพวงมาลัย กดปุ่มนี้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งค่าความเร็ว
- ตั้งความเร็ว (ปุ่ม SET หรือ SET +/-) เมื่อรถยนต์วิ่งด้วยความเร็วที่ต้องการ (โดยทั่วไปต้องมีความเร็วขั้นต่ำตามที่ระบบกำหนด เช่น 40 กม./ชม.) ให้กดปุ่ม "SET" หรือ "SET +/-" ระบบจะทำการล็อคความเร็วปัจจุบันของรถไว้ ทำให้คุณสามารถปล่อยเท้าออกจากคันเร่งได้
- เพิ่ม/ลดความเร็ว (ปุ่ม RES+ หรือ SET+ / SET-) หากต้องการปรับเพิ่มหรือลดความเร็วที่ตั้งไว้ สามารถกดปุ่ม "RES+" หรือ "SET+" เพื่อเพิ่มความเร็วทีละน้อย หรือกดปุ่ม "SET-" เพื่อลดความเร็วตามต้องการ
- ยกเลิกระบบ (ปุ่ม CANCEL หรือ เหยียบเบรก) หากต้องการยกเลิกระบบ Cruise Control สามารถทำได้โดยการกดปุ่ม "CANCEL" หรือแตะเบรกเบา ๆ ระบบจะตัดการควบคุมความเร็วอัตโนมัติทันที
- กลับสู่ความเร็วที่ตั้งไว้ (ปุ่ม RES หรือ RESUME) หลังจากยกเลิกระบบแล้ว หากต้องการกลับไปใช้ความเร็วที่ตั้งไว้ก่อนหน้า โดยไม่ต้องเหยียบคันเร่งเพื่อเร่งความเร็วใหม่ สามารถกดปุ่ม "RES" หรือ "RESUME" ระบบจะค่อยๆ เร่งความเร็วกลับไปยังค่าที่ตั้งไว้เดิม
ระบบ Cruise Control เหมาะสำหรับใช้ตอนไหน
แม้ว่าระบบ Cruise Control จะสามารถเปิดใช้งานได้ตลอดเวลา (โดยมากแล้วความเร็วรถจะต้องมากกว่า 30 - 40 กม./ชม. ขึ้นไป) แต่แนะนำว่าควรเปิดใช้งานเฉพาะสถานการณ์ที่เหมาะสมเท่านั้นเพื่อความปลอดภัย โดยลักษณะการใช้งาน Cruise Control ที่เหมาะสมมีดังนี้
- เมื่อขับขี่บนทางโล่ง เมื่อคุณเดินทางไกลบนทางหลวงที่มีการจราจรเบาบาง และไม่มีสัญญาณไฟจราจร การใช้ Cruise Control จะช่วยรักษาความเร็วให้คงที่ ลดความเมื่อยล้าจากการเหยียบคันเร่งต่อเนื่อง และยังช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย
- เมื่อต้องการรักษาความเร็วสม่ำเสมอ บางเส้นทางที่ต้องการรักษาระดับความเร็วให้คงที่ เช่น เขตควบคุมความเร็ว หรือเมื่อต้องการหลีกเลี่ยงการขับรถเร็วเกินกำหนดโดยไม่รู้ตัว Cruise Control จะช่วยให้คุณรักษาระดับความเร็วไม่ให้เกินที่ตั้งไว้ได้
- เมื่อต้องการลดความเมื่อยล้า การขับรถทางไกลเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดความเมื่อยล้าบริเวณเท้าและขา การใช้ Cruise Control จะช่วยลดภาระในการเหยียบคันเร่ง ทำให้คุณสามารถผ่อนคลายกล้ามเนื้อขาได้บ้าง และมีสมาธิกับการควบคุมพวงมาลัยกับสภาพแวดล้อมรอบข้างมากขึ้น
ใช้ระบบ Cruise Control ควรระวังอะไรบ้าง
ระบบ Criuse Control ช่วยให้การขับรถทางไกลง่ายขึ้นก็จริง แต่ก็มีบางสถานการณ์ที่ควรหลีกเลี่ยงการเปิดใช้งานโดยเด็ดขาดเพื่อความปลอดภัยขณะขับรถ ดังนี้
- ขณะถนนลื่น เมื่อขับขี่บนถนนที่เปียก มีน้ำท่วมขัง หรือมีกรวดทราย ระบบ Cruise Control อาจไม่สามารถควบคุมความเร็วได้อย่างแม่นยำ หากเกิดการลื่นไถล ระบบอาจเร่งเครื่องโดยไม่จำเป็น ส่งผลทำให้รถเกิดอาการเสียหลักได้
- มีจราจรหนาแน่น ในสภาพการจราจรที่ติดขัด มีการหยุดและเคลื่อนตัวบ่อยครั้ง การใช้ Cruise Control จะทำให้คุณต้องยกเลิกระบบและตั้งค่าใหม่บ่อยครั้ง ซึ่งอาจไม่สะดวก และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุชนรถคันหน้าได้ จึงควรควบคุมคันเร่งด้วยตัวเองเพื่อปรับเปลี่ยนความเร็วได้ตามสถานการณ์
- ทางโค้งคดเคี้ยว การขับขี่บนถนนที่มีทางโค้งจำนวนมาก หรือโค้งที่แคบและชัน อาจต้องมีการปรับความเร็วให้เหมาะสมกับแต่ละโค้ง การปล่อยให้ระบบ Cruise Control รักษาความเร็วคงที่อาจทำให้รถหลุดโค้งได้ ควรปิดระบบและควบคุมคันเร่งด้วยตัวเองเพื่อใช้ความเร็วขณะเข้าโค้งอย่างเหมาะสม
- ทางขึ้นลงเขา เมื่อขับขี่ขึ้นเขาระบบ Cruise Control จะพยายามเร่งเครื่องยนต์เพื่อรักษาความเร็วที่ตั้งไว้ ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันและอาจเป็นอันตรายได้ ในทางลงเขา ระบบอาจไม่สามารถหน่วงความเร็วของรถได้อย่างเพียงพอ ทำให้ต้องใช้เบรกบ่อยครั้งและเสี่ยงต่อเบรกไหม้ได้
Cruise Control ประโยชน์เหลือล้น แต่ต้องใช้อย่างระวัง
Cruise Control คือหนึ่งในตัวช่วยที่มีประโยชน์ต่อการขับขี่บนท้องถนน แต่ควรเปิดใช้งานเฉพาะสถานการณ์ที่เหมาะสมเท่านั้น การใช้งาน Cruise Control ขณะถนนเปียกหรือเส้นทางคดเคี้ยว อาจส่งผลให้รถเสียหลักจนเกิดอุบัติเหตุได้
และนอกจากการขับรถจะมีตัวช่วยอย่างระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแล้ว การเงินของคุณก็สามารถควบคุมได้เช่นกัน หากกำลังตกอยู่สถานการณ์ฉุกเฉินอยู่ล่ะก็ สินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม สินเชื่อรถแลกเงิน ไม่ว่ารถจะยังผ่อนอยู่ หรือรถปลอดภาระแล้วก็กู้ได้ โดยสามารถนำทะเบียนรถมาเป็นหลักประกัน รถยังมีใช้ วงเงินสูงสุด 100% อนุมัติไวใน 1 ชั่วโมง รับเงินทันที อาชีพไหนก็สมัครได้ ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน เลือกรับบัตรกดเงินสด KTC พี่เบิ้ม ไว้ใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉินได้อย่างอุ่นใจ หากไม่มีการกดใช้ก็ไม่เสียดอกเบี้ยเพิ่ม!
กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร
เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
*วงเงินอนุมัติเป็นไปตามความสามารถในการชำระหนี้และราคาประเมินมูลค่ารถ v*อนุมัติไวใน 1 ชั่วโมง รับเงินทันที เมื่อเอกสารครบถ้วนถูกต้องและโอนเงินเข้าบัญชีกรุงไทยหรือพร้อมเพย์
*เมื่อวงเงินกู้ 200,000 บาทขึ้นไป สามารถเลือกผ่อนชำระได้นานสูงสุด 84 เดือน
*กรณีรถยนต์ติดไฟแนนซ์ อนุมัติและโอนเงินหลังจากกรรมสิทธิ์ในรถเป็นชื่อผู้กู้เรียบร้อยแล้ว
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21%-24% ต่อปี
กรณีที่รถยังผ่อนไม่หมด สามารถนำมาประเมินวงเงินเบื้องต้นก่อนได้