พิษของภาวะเงินเฟ้อ ทำให้มูลค่าของ ‘เงิน’ มีค่าน้อยลงในทุก ๆ ปี ส่งผลให้เราต้องใช้เงินมากขึ้นเพื่อใช้จ่ายสิ่งเดิม ๆ หากสถานะทางการเงินไม่สามารถเติบโตได้ทันค่าครองชีพที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ อาจทำให้การใช้ชีวิตกลายเป็นเรื่องยาก เพราะฉะนั้นก่อนจะปล่อยให้เกิดปัญหาทางการเงินที่ยากจะรับมือไหว ไปดูกันว่าจะมีแนวทางไหนบ้างที่ช่วยรับมือกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นได้อย่างมั่นคง
เลือกอ่านตามหัวข้อ
ค่าครองชีพ คืออะไร
ค่าครองชีพ หรือ Cost of living คือ ค่าใช้จ่ายพื้นฐานของมนุษย์ในชีวิตประจำวัน ประกอบไปด้วย ค่ากินอยู่, ค่าที่อยู่อาศัย, ค่าน้ำค่าไฟ, ค่าเดินทาง, ค่าใช้จ่ายในการอุปโภค, ค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น โดยค่าครองชีพในแต่ละพื้นที่แตกต่างกันไปตามเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ ซึ่งการที่มีค่าครองชีพสูงขึ้นนั้น จะทำให้อำนาจและความสามารถในการซื้อสินค้า หรือการบริโภคสินค้าที่น้อยลงเพราะค่าแรงขั้นต่ำหรือรายได้สวนทางกับรายจ่าย
10 อันดับ ค่าครองชีพสูงสุด - ต่ำสุดจังหวัดในประเทศไทย
มาดูกันว่า ค่าครองชีพในประเทศไทยจะมีจังหวัดไหนบ้างที่ติดอันดับสูงสุด-ต่ำสุด 10 อันดับแรก
จังหวัดที่มีค่าครองชีพต่อครัวเรือนต่อเดือนสูงที่สุด*
1. ภูเก็ต 33,150.86 บาท
2. กระบี่ 29,073.90 บาท
3. ชลบุรี 27,129.51 บาท
4. สระบุรี 25,607.66 บาท
5. ราชบุรี 25,476.12 บาท
6. จันทบุรี 25,374.26 บาท
7. สุราษฎร์ธานี 24,991.02 บาท
8. ระยอง 24,951.65 บาท
9. พระนครศรีอยุธยา 24,684.11 บาท
10. ชุมพร 23,540.14 บาท
จังหวัดที่มีค่าครองชีพต่อครัวเรือนต่อเดือนต่ำที่สุด*
1. เชียงราย 12,206.69 บาท
2. แม่ฮ่องสอน 12,816.26 บาท
3. พะเยา 13,028.46 บาท
4. ศรีสะเกษ 14,492.28 บาท
5. ยะลา 15,603.31 บาท
6. กาฬสินธุ์ 15,802.02 บาท
7. สุโขทัย 16,139.49 บาท
8. ตาก 16,319.32 บาท
9. ลำปาง 16,644.73 บาท
10. อุทัยธานี 16,720.94 บาท
*ไม่นับรวมค่าครองชีพในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
5 วิธีรับมือเมื่อค่าครองชีพสูงขึ้น
ถึงแม้ว่าเพียงแค่ตัวเราจะไม่สามารถหยุดยั้งค่าครองชีพที่สูงขึ้นในทุก ๆ ปีได้ แต่เราสามารถวางแผนรับมือกับสถานการณ์ค่าครองชีพสูง เพื่อให้การใช้ชีวิตไม่ติดขัดและสร้างความมั่นคงทางการเงินได้ในระยะยาว ในหัวข้อนี้เราจะพาไปดูวิธีการรับมือเมื่อค่าครองชีพสูง จะต้องทำอย่างไรบ้าง?
1. พัฒนาความสามารถเพื่อหางานเสริม
ค่าครองชีพสูงจากเงินเฟ้อเกิดขึ้นในทุก ๆ ปี การพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอไม่เพียงแต่จะทำให้คุณเป็นคนที่มีความสามารถมากขึ้น แต่ยังเป็นช่องทางในการหารายได้ ลดผลกระทบจากค่าเงินที่ลดลงอีกด้วย โดยเฉพาะการฝึกฝนและเรียนรู้สกิลเฉพาะทาง ทำให้คุณมีโอกาสรับงานได้หลากหลายเพื่อหารายได้มากกว่าการทำงานหลักเพียงทางเดียวแน่นอน
2. สร้างวินัยในการออมเงิน
เพื่อความมั่นคงทางการเงินในอนาคต การสร้างวินัยในการออมเงินเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก ถึงแม้ว่าคุณจะหารายได้จากงานเสริมมากแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีวินัยในการออมเงินเลย ก็อาจทำให้คุณไม่มีเงินเก็บสำรองไว้ยามฉุกเฉิน เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นอาจกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินได้
การสร้างวินัยในการออมเงินสามารถทำได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป็นการหักเงิน 10% ของเงินเดือนมาเก็บไว้ในบัญชีสำหรับออม หรืออาจนำเงินไปซื้อกองทุนรวมหรือฝากในบัญชีฝากประจำก็เป็นอีกทางเลือกที่นอกจากจะออมเงินได้แล้วยังมีโอกาสที่เงินจะงอกเงยขึ้นอีกด้วย
เก็บเงินอย่างไรให้อยู่ เพื่อรับมือกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น 10 วิธีเก็บเงินแบบง่าย ๆ ใครก็ทำตามได้อย่างแน่นอน
3. ปรับพฤติกรรมการใช้เงิน
ใครที่รู้สึกว่าในแต่ละเดือนมีเงินไม่พอใช้ อาจลองนำค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนมาจำแนกดูว่าเราใช้เงินไปกับอะไรบ้าง หากดูแล้วว่าเรามีค่าใช้จ่ายไปกับของที่ไม่จำเป็นมาก และลองวางแผนการใช้จ่ายใหม่ให้ดี อาจช่วยให้เรามีเงินเก็บมากขึ้นก็เป็นได้
ยกตัวอย่างเช่น การรับประทานอาหารนอกบ้านทุกมื้อ อาจลองปรับเป็นทำอาหารรับประทานเองแทน หรือใครที่ติดการดื่มน้ำหวานกาแฟหลังมื้ออาหาร อาจลองปรับเป็นการดื่มน้ำเปล่า นอกจากจะช่วยประหยัดเงินแล้ว ยังช่วยให้คุณสุขภาพดีขึ้นได้แบบไม่รู้ตัว
4. หลีกเลี่ยงการก่อหนี้เสีย
การเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเสมอไป แต่การเป็นหนี้กับสิ่งที่ไม่จำเป็น หรือไม่สามารถชำระเงินคืนตามระยะเวลาที่กำหนดได้ จนก่อเป็นหนี้เสีย จะทำให้คุณเสียโอกาสไปมากมาย ไม่ว่าจะในเรื่องความน่าเชื่อถือ ทำให้คุณกู้ยืมเงินยากขึ้น หรือจะในเรื่องค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการเสียดอกเบี้ยและค่าปรับ ทำให้โอกาสในการปลดหนี้และเก็บออมเงินยากขึ้น
ดังนั้นหากจะต้องก่อหนี้ ให้วางแผนชำระเงินคืนไว้เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดประวัติค้างชำระจนเกิดหนี้เสีย ส่งผลกระทบต่อตนเองในอนาคต
5. มีแหล่งเงินสำรองยามฉุกเฉิน
ในยุคที่ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การวางแผนทางการเงินให้ดีและรอบคอบนั้นจะช่วยให้คุณสามารถอยู่รอดในวิกฤติทางการเงินได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการเก็บออมเงิน การหารายได้เสริม ลดค่าใช้จ่ายและเลี่ยงการสร้างหนี้ที่ไม่จำเป็น
นอกจากสิ่งเหล่านี้แล้ว การมีแหล่งเงินสำรองยามฉุกเฉินยังเป็นตัวช่วยให้คุณผ่านพ้นจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้ อย่างบัตรกดเงินสด KTC PROUD แหล่งเงินสำรองยามฉุกเฉินที่ช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน ให้คุณได้มีเงินสดไว้ใช้ในยามจำเป็น เบิกถอนได้ทันที 24 ชั่วโมงไม่เสียค่าธรรมเนียมกดเงินสด ขั้นตอนสมัครง่าย อนุมัติไว มีพกติดกระเป๋าเงินไว้อุ่นใจกว่าเดิม
ค่าครองชีพสูงก็ไม่หวั่นใจ หากวางแผนการเงินดี
ปัญหาค่าครองชีพสูงนั้นส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน หากไม่มีแผนการรับมือที่ดี อาจทำให้การเผชิญวิกฤติการเงินนี้มีความลำบาก ขาดสภาพคล่องทางการเงิน จนเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาไม่จบสิ้น ดังนั้นการวางแผนทางการเงินจึงสำคัญอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการออมเงิน หารายได้เสริม ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น หลีกเลี่ยงการสร้างหนี้เสีย และการมีแหล่งเงินสำรองฉุกเฉิน สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับค่าครองชีพสูงและมีความมั่นคงทางการเงินอย่างแน่นอน
บัตรกดเงินสด KTC PROUD ตัวช่วยด้านการเงินยามฉุกเฉิน สำหรับคนที่ต้องการวางแผนการเงินให้รอบคอบ ขั้นตอนการสมัครง่าย อนุมัติไวภายในหนึ่งสัปดาห์ วงเงินสูงสุดถึง 1 ล้านบาท แค่มีเงินเดือน 12,000 บาท ขึ้นไป สามารถใช้ผ่อนโปรโมชั่น 0% นานสูงสุด 24 เดือน ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการได้
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 25% ต่อปี
พร้อมรับมือกับปัญหาทางการเงินด้วยบัตรกดเงินสด KTC PROUD