• บัตรเครดิต
    • ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต
    • คะแนน
    • ผ่อนชำระ
    • บริจาค
    • บริการหักค่าใช้จ่ายอัตโนมัติ
    • อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
    • KTC Device Pay
  • สินเชื่อบุคคล
    • ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ
    • บัตรกดเงินสด KTC PROUD
    • สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH
    • สินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน
    • ผ่อนชำระ
    • อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
  • โปรโมชั่น
  • ธุรกิจร้านค้า
    • บริการธุรกิจร้านค้า
    • บริการเครื่องรูดบัตร EDC 
    • บริการ QR Code Payment
    • บริการรับชำระเงินออนไลน์
    • บริการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ
    • บริการรับชำระเงินผ่านลิงก์
    • บริการรับชำระด้วย ALIPAY & ALIPAY+
  • บริการท่องเที่ยว
  • ช้อปสินค้าออนไลน์
  • บริการลูกค้า
    • ติดต่อ KTC
    • แอป KTC Mobile
    • ช่องทางการชำระเงิน
    • บริการ KTC E-Book
    • ดาวน์โหลดแบบฟอร์มและคู่มือ
    • คำถามที่พบบ่อย
บัตรเครดิต
บัตรเครดิต
  • ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต
  • คะแนน
  • ผ่อนชำระ
  • บริจาค
  • บริการหักค่าใช้จ่ายอัตโนมัติ
  • อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
  • KTC Device Pay
สินเชื่อบุคคล
สินเชื่อบุคคล
  • ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ
  • บัตรกดเงินสด KTC PROUD
  • สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH
  • สินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน
  • ผ่อนชำระ
  • อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
โปรโมชั่น โปรโมชั่น
ธุรกิจร้านค้า
ธุรกิจร้านค้า
  • บริการธุรกิจร้านค้า
  • บริการเครื่องรูดบัตร EDC
  • บริการ QR Code Payment
  • บริการรับชำระเงินออนไลน์
  • บริการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ
  • บริการรับชำระเงินผ่านลิงก์
  • บริการรับชำระด้วย ALIPAY & ALIPAY+
บริการท่องเที่ยวบริการท่องเที่ยว ช้อปสินค้าออนไลน์ช้อปสินค้าออนไลน์
บริการลูกค้า
บริการลูกค้า
  • ติดต่อ KTC
  • แอป KTC Mobile
  • ช่องทางการชำระเงิน
  • บริการ KTC E-Book
  • ดาวน์โหลดแบบฟอร์มและคู่มือ
  • คำถามที่พบบ่อย
เปลี่ยนภาษา

EN

TH

KTC Search Icon KTC Search Icon
สมัครบัตร
KTC Login Icon KTC Login Icon เข้าสู่ระบบ KTC Mobile Login
KTC Profile

บัญชีของฉัน

  • KTC Online

    บัตร KTC ของฉัน

  • KTC Promotions

    โปรโมชั่นของฉัน

  • KTC Logout

    ออกจากระบบ

KTC Online Profile
  1. หน้าหลัก
  2. /
  3. บทความ
  4. /
  5. Knowledge
  6. /
  7. Retention คืออะไร? รู้แล้วคุ้มค่า ปิดหนี้บ้านไวประหยัดเงินหลักแสน!
  1. หน้าหลัก
  2. /
  3. บทความ
  4. /
  5. Knowledge
  6. /
  7. Retention คืออะไร? รู้แล้วคุ้มค่า ปิดหนี้บ้านไวประหยัดเงินหลักแสน!
Retention คือ

Retention คืออะไร? รู้แล้วคุ้มค่า ปิดหนี้บ้านไวประหยัดเงินหลักแสน!

หมวดหมู่ : Knowledge

Retention คืออะไร เทคนิคปิดหนี้บ้านไว ประหยัดเงินได้หลักแสน

ผ่อนบ้านมาสักระยะใหญ่แล้วดอกเบี้ยลอยตัว ค่าใช่จ่ายมากขึ้น ต้องแบ่งเงินจ่ายหนี้บ้านไปอีกหลายปีพอจะมีวิธีไหนที่จะช่วยให้ปิดหนี้บ้านได้ไวขึ้นบ้าง? คำถามยอดฮิตของคนผ่อนบ้านที่ต้องการปรับโครงสร้างหนี้ให้ดอกเบี้ยลดน้อยลง

ในบทความนี้ จะพาทุกคนมาทำความรู้จักว่า Retention คืออะไร หนึ่งในเทคนิคลดหนี้บ้านที่ใครหลาย ๆ คนมักสับสนกับการ Refinance สรุปแล้วรีเทนชั่นคืออะไร ลดดอกเบี้ยบ้านได้จริงไหม ต่างจากรีไฟแนนซ์ยังไงมาดูกัน!

เลือกอ่านตามหัวข้อ

  • Retention คืออะไร
  • Retention กับ Refinance ต่างกันอย่างไร
  • Retention กับ Refinance ทำแบบไหนคุ้มกว่ากัน
  • ยื่น Retention ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง
  • การยื่น Retention มีขั้นตอนอย่างไร
  • ข้อดีและข้อจำกัดในการยื่น Retention และ Refinance
  • Retention สามารถทำซ้ำได้กี่ครั้ง
  • Retention ทริกง่ายๆ ที่ช่วยให้ปิดหนี้บ้านได้ไวกว่าที่คิด

Retention คืออะไร

Retention คือ

Retention คือการปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินเดิมเพื่อลดดอกเบี้ยบ้านให้ต่ำลง โดยทั่วไปผู้ผ่อนบ้านนิยมขอยื่นเรื่องหลังจากผ่อนบ้านมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี เพื่อให้ผ่อนดอกเบี้ยได้ในเรตที่ต่ำลงกับธนาคารเดิม

นอกจากนี้การ Retention นอกจากจะให้ผู้ผ่อนบ้านที่ใช้ชื่อตนเองในการซื้อบ้านทำเรื่องได้แล้ว ผู้ผ่อนบ้านที่กู้ร่วม หรือใช้ชื่อคนอื่นในการค้ำประกันก็สามารถยื่นเรื่องขอ Retention ได้เช่นกัน เนื่องจากการ Retention ไม่ได้กำหนดจำนวนผู้กู้และลักษณะของที่อยู่อาศัย ขอเพียงแค่สถาบันการเงินแห่งนั้นรับพิจารณาคำขอ Retention ได้หรือไม่

Retention กับ Refinance ต่างกันอย่างไร

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าการขอ Retention คือการปรับโครงสร้างหนี้บ้านกับสถาบันการเงินเดิม แต่ Refinance เป็นการปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินแห่งใหม่ที่เสนออัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า และนอกจากจะให้ดอกเบี้ยเรตดีกว่าแล้ว สินเชื่อ Refinance ยังให้ผู้กู้ที่มีหนี้หลายก้อน เช่น หนี้บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลสามารถรวมหนี้เป็นก้อนเดียว ผ่านสินเชื่อรีไฟแนนซ์เพื่อลดภาระผ่อนต่อเดือนได้อีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดอื่นๆ ที่ทำให้การรีไฟแนนซ์กับรีเทนชั่นแตกต่างกัน อาทิ ระยะเวลาพิจารณาสินเชื่อ เอกสารใช้ประกอบการยื่นปรับโครงสร้างหนี้ รวมไปถึงวงเงินที่จะให้เพิ่มหลังจากทำเรื่องขอปรับโครงสร้างหนี้ผ่าน

สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านเป็นเงินกู้ระยะยาวโดยมีการจำนอง โดยสถาบันการเงินจะให้เงินกู้แก่ผู้ผ่อนบ้านเพิ่มเติม ในขณะที่การ Retention สถาบันการเงินจะไม่ได้ให้วงเงินเพิ่ม ทำให้ผู้ผ่อนบ้านที่เงินหมด ต้องการเงินด่วนแก้ไขสภาพคล่อง ก็ควรขอ Refinance เพราะจะได้ทั้งลดดอกเบี้ยบ้าน และได้เงินก้อนไปบริหารสภาพคล่อง ช่วยให้คุณปลดหนี้ได้อีกทาง

Retention กับ Refinance ทำแบบไหนคุ้มกว่ากัน

Retention กับ Refinance

แม้ว่า Retention กับ Refinance จะเป็นการปรับโครงสร้างหนี้เหมือนกันก็จริง แต่ทั้งสองวิธีก็ลดดอกเบี้ยได้ไม่เท่ากัน หากเลือก Retention แล้ว ผู้ผ่อนบ้านจะเลือกเงื่อนไขดอกเบี้ยที่ดีที่สุดไม่ได้ เพราะอัตราดอกเบี้ยถูกกำหนดโดยธนาคารที่กำลังผ่อนบ้านอยู่

ส่วนการ Refinance ผู้ผ่อนบ้านสามารถเลือกสินเชื่อที่เสนอดอกเบี้ยบ้านที่ต่ำสุดแก่ตนเองได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการขอ Refinance จะคุ้มค่ากว่าเสมอไป เพราะผู้ผ่อนบ้านต้องจ่ายค่าธรรมเนียม และมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินเรื่องด้วยเช่นกัน

นาย A กู้ซื้อบ้าน 2,000,000 บาท ระยะเวลาผ่อนชำระ 30 ปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 6.75% หมายความว่านาย A ต้องผ่อนชำระ 14,400 บาท ต่อเดือน ถึงจะผ่อนชำระได้ทั้งหมด

ต่อมานาย A ผ่อนบ้านมาครบกำหนดเวลา 3 ปี วงเงินจาก 2 ล้าน คงเหลือ1,875,907.67 บาท จึงตัดสินใจขอ Retention เพื่อลดดอกเบี้ยบ้าน ซึ่งธนาคารเสนอลดดอกเบี้ยให้ 1% จากอัตราดอกเบี้ยเดิม ทำให้คาดว่าเมื่อผ่อนบ้านด้วยยอด 14,400 บาทต่อไปเรื่อยๆ จะใช้เวลาทั้งหมด 241 งวด หรือประมาณ 21 ปี ถึงจะผ่อนบ้านได้ทั้งหมด

อย่างไรก็ตามนาย A พบกับข้อเสนอสินเชื่อ Refinance ของธนาคาร B ที่ให้ดอกเบี้ยตลอดสัญญาเฉลี่ย 4% ซึ่งหากนาย A เลือกขอสินเชื่อ Refinance และผ่อนด้วยยอด 14,400 บาทเท่ากันทุกงวด หมายความว่าแทนที่จะใช้เวลาถึง 241 งวด กลับใช้เวลาเพียง 207 งวด หรือประมาณ 17 ปี ก็จะปิดหนี้บ้านได้ทั้งหมด และประหยัดเงินไปได้ถึง 14,400X[(21-17)X12] = 691,200 บาท

ซึ่งหากพิจารณาถึงข้อเสนอของสินเชื่อ Refinance จากธนาคาร B แล้ว ดูเหมือนว่าจะช่วยให้นาย A ปิดหนี้บ้านได้เร็วกว่า และประหยัดเงินไปได้มากกว่าการ Retention แต่ทั้งนี้การ Refinance หนึ่งครั้งจะมีค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามมาได้แก่

1.ค่าอากรแสตมป์ 0.05% ของวงเงินกู้ใหม่ (สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท)

2.ค่าจดจำนองที่ดิน 1% ของวงเงินกู้ใหม่

3.ค่าธรรมเนียมในการปล่อยกู้ใหม่

4.ค่าประกันอัคคีภัย

5.ค่าธรรมเนียมในการทำสัญญา

โดยค่าใช้จ่ายในการ Refinance แต่ละครั้งจะอยู่ที่ 4% ของวงเงินกู้ใหม่ หมายความว่าหากนาย A เลือกสินเชื่อ Refinance ที่ให้วงเงิน 2 ล้านบาทแล้ว หมายความว่านาย A จะเสียค่าใช้จ่ายสูงสุดอยู่ที่ 80,000 บาท ในขณะที่ Retention Rate สูงสุดอยู่ที่ 2% ดังนั้นค่าธรรมเนียม Retention จะไม่เกิน 40,000 บาท

จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่าจากตัวอย่างของนาย A แม้สินเชื่อ Refinance จะช่วยลดดอกเบี้ย และปิดหนี้บ้านได้เร็วกว่า Retention แต่ก็แลกมาด้วยค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า ถ้าหากคุณพิจารณาแล้วว่าไม่มีเงินสดมากเพียงพอต่อการ Refinance เราแนะนำให้ขอ Retention แทน

ยื่น Retention ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง

เอกสารที่ใช้ยื่นขอ Retention เพื่อลดดอกเบี้ยบ้านหรือดอกเบี้ยผ่อนคอนโด มีเพียง 3 อย่างนั่นคือ

1. สัญญาเงินกู้ที่ผู้ผ่อนบ้านทำกับธนาคารแห่งนั้น

2. ทะเบียนบ้านตัวจริงและสำเนาของผู้กู้

3. บัตรประชาชนตัวจริงและสำเนาของผู้กู้

ทั้งนี้การขอ Retention กับบางสถาบันการเงิน อาจใช้เอกสารมากกว่า 3 อย่าง เช่น สลิปเงินเดือนล่าสุด 1 เดือน หรือใบเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล ควรสอบถามรายละเอียดให้เรียบร้อยทุกครั้ง

การยื่น Retention มีขั้นตอนอย่างไร

ขั้นตอนแรกในการยื่นขอ Retention คือให้ตรวจสอบเสียก่อนว่าธนาคารที่กำลังผ่อนบ้านอยู่อนุญาตให้ทำเรื่อง Retention ได้หรือไม่ เพราะไม่ใช่ทุกธนาคารที่จะให้ Retention ลดดอกเบี้ยบ้านได้เสมอไป เนื่องจากเป็นนโยบายของธนาคารแห่งนั้นที่ไม่รับ Retention กับผู้กู้ที่มีประวัติการค้างชำระ และเมื่อสอบถามธนาคารเรียบร้อยแล้วว่าขอ Retention ได้ ให้เตรียมตัวดังต่อไปนี้

1. เตรียมเอกสารตามที่ธนาคารกำหนดให้เรียบร้อย

2. เดินทางไปยังสาขาใกล้บ้านของธนาคารที่คุณกำลังผ่อนบ้านอยู่ เพื่อทำเรื่องเจรจาต่อรองและบางธนาคารก็อาจให้ผู้ผ่อนบ้านกรอกเอกสารคำขอ Retention ผ่านทางเว็บไซต์ก่อนเดินทางมายังสาขาได้คล้ายกับการขอสินเชื่อออนไลน์

3. รอรับทราบผลการพิจารณาอนุมัติ ซึ่งโดยปกติแล้วจะใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์

4. เมื่อธนาคารพิจารณาแล้วว่าคุณสามารถขอ Retention ได้ให้เตรียมเงินสดเพื่อเสียค่าธรรมเนียมประมาณ 1 -2% ของวงเงินกู้คงเหลือ หมายความว่าหากวงเงินกู้คงเหลืออยู่ที่ 1 ล้านบาท คุณต้องเตรียมเงินจ่ายให้ธนาคารอย่างน้อย 1 - 2 หมื่นบาท

ข้อดีและข้อจำกัดในการยื่น Retention และ Refinance

ทราบกันไปแล้วว่าขั้นตอนการขอ Retention ด้วยตนเองมีอะไรบ้าง และถ้าอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า Retention กับ Refinance มีข้อดี-ข้อเสียตรงไหนบ้าง มาตรวจสอบได้จากตารางต่อไปนี้เลย

Retention

ข้อดี

ข้อเสีย

ค่าธรรมเนียมต่ำ ไม่เกิน 1 -2 % ของวงเงินสินเชื่อบ้านคงเหลือ

ลดดอกเบี้ยได้น้อย

ใช้เอกสารน้อย

ธนาคารอาจไม่รับรีเทนชั่นหากประวัติการชำระหนี้ในอดีตไม่ดี

อนุมัติไวใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์

ไม่ตรวจสอบประวัติเครดิตบูโร

ReFinance

ข้อดี

ข้อเสีย

ลดดอกเบี้ยบ้านได้เยอะกว่าการ Retention

ค่าธรรมเนียมสูง

ขอวงเงินสินเชื่อเพิ่มเติม เพื่อบริหารสภาพคล่องได้

เตรียมเอกสารจำนวนมาก

ลดระยะเวลาผ่อนชำระได้

ใช้เวลาพิจารณาสินเชื่อ Refinance นาน

ตรวจสอบประวัติเครดิตบูโรย้อนหลัง

สินเชื่อ Refinance บางธนาคาร ระบุเงื่อนไขให้ผู้ผ่อนต้องทำอาชีพตามที่กำหนดเท่านั้น

Retention สามารถทำซ้ำได้กี่ครั้ง

ผ่อนบ้านครั้งแรกมักเข้าใจว่าการขอ Retention คือการปรับโครงสร้างหนี้ได้เพียงครั้งเดียวหลังจากหมดโปรโมชั่นผ่อนบ้านช่วง 3 ปีแรกมาแล้ว แต่ผู้ผ่อนบ้านสามารถทำเรื่อง Retention ได้เรื่อยๆ จนกว่าจะโปะบ้านหมด หรือผ่อนจนครบสัญญา

ทั้งนี้หากผ่อนบ้านใกล้เสร็จ บางธนาคารอาจไม่ให้ขอ Retention ได้อีกต่อไป ทั้งนี้สามารถแก้ปัญหาด้วยการขอ Retention กับธนาคารแห่งใหม่ที่ไม่ได้จำกัดวงเงินสินเชื่อคงเหลือ แต่วิธีนี้ก็แลกมาด้วยการจ่ายค่าธรรมเนียมสูงกว่าขอ Retention และต้องเดินทางไปทำเรื่องถึงกรมที่ดิน

Retention ทริกง่ายๆ ที่ช่วยให้ปิดหนี้บ้านได้ไวกว่าที่คิด

Retention บ้าน

มือใหม่ซื้อบ้านหลังแรก ซื้อบ้านใหม่ คงได้คำตอบไปแล้วว่า Retention คืออะไร มีข้อดีและข้อจำกัดอะไรบ้าง หลังจากทำเรื่องกู้ซื้อบ้านผ่านแล้ว ก็ควรบริหารเงินให้ดีว่าจะผ่อนบ้านต่อเดือนเท่าไหร่ถึงจะไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากเกินไป ซึ่งเราแนะนำให้คุณไม่ควรผ่อนบ้านเกินกว่า 40% ของรายได้ต่อเดือนหมายว่าเงินเดือน 20,000 บาท ไม่ควรผ่อนบ้านเกิน 8,000 บาทต่อเดือน

แต่หากคุณมีภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือนมากเกินไป ทั้งค่าผ่อนบ้านและค่าเล่าเรียนลูก ทำให้บริหารเงินไม่ทัน เราขอแนะนำตัวช่วยเรื่องการเงินยามฉุกเฉินอย่างบัตรกดเงินสด KTC PROUD เงินเดือนเริ่มต้น 12,000 บาทก็สมัครได้ เพราะการผ่อนบ้านเป็นหนี้ระยะยาว มีตัวช่วยด้านการเงินติดตัวไว้ อุ่นใจกว่า!

*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 25% ต่อปี

บัตรกดเงินสด KTC PROUD ตัวช่วยเรื่องการเงินยามฉุกเฉิน

สมัครบัตรกดเงินสด KTC PROUD คลิกเลย!

สมัครออนไลน์ด้วยตนเอง

ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต
และบัตรกดเงินสด KTC PROUD

QR Code สมัครออนไลน์ด้วยตนเอง
สแกนเพื่อสมัครบัตร
ศึกษาเพิ่มเติม

สมัครออนไลน์
ด้วยตนเอง

ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต
และบัตรกดเงินสด
KTC PROUD

เริ่มสมัครเลย ศึกษาเพิ่มเติม

ลงชื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ

ให้คำปรึกษา และอำนวยความสะดวก
ในการสมัครผลิตภัณฑ์ของ KTC

บัตรเครดิต KTC บัตรเครดิต KTC สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน บิ๊กไบค์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน บิ๊กไบค์
บัตรกดเงินสด KTC PROUD บัตรกดเงินสด KTC PROUD สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน รถยนต์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มอเตอร์ไซค์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มอเตอร์ไซค์
บัตรเครดิต KTC บัตรเครดิต KTC บัตรกดเงินสด KTC PROUD บัตรกดเงินสด KTC PROUD สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน รถยนต์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน บิ๊กไบค์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน บิ๊กไบค์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มอเตอร์ไซค์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มอเตอร์ไซค์

เกี่ยวกับเรา

  • วิสัยทัศน์ / พันธกิจ
  • ข้อมูลทั่วไป
  • โครงสร้างการถือหุ้นกลุ่มบริษัท
  • โครงสร้างองค์กร
  • คณะกรรมการ
  • คณะผู้บริหาร
  • เลขานุการบริษัท
  • หัวหน้างานกำกับดูแล และหัวหน้างานตรวจสอบภายใน
  • ผู้ควบคุมดูแลการทำบัญชี
  • นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • ข่าวประชาสัมพันธ์
  • บทความ
  • สมัครงาน / ฝึกงาน

บริการลูกค้า

  • บริการออนไลน์
  • อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
  • คำนวณดอกเบี้ย / ค่าธรรมเนียม
  • ช่องทางการชำระเงิน
  • บริการหักค่าใช้จ่ายรายเดือนอัตโนมัติ
  • ดาวน์โหลด
  • ประกาศบริษัท
  • คำถามที่พบบ่อย
  • แผนผังเว็บไซต์

การพัฒนาเพื่อความยั่งยืน

  • มิติเศรษฐกิจ
  • มิติสังคม
  • มิติสิ่งแวดล้อม
  • การควบคุมภายในและการบริหารจัดการความเสี่ยง
  • การรับรองมาตรฐานระบบบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยสําหรับสารสนเทศ (ISO/IEC 27001:2013)

นักลงทุนสัมพันธ์

  • ข้อมูลสำคัญทางการเงิน
  • ข้อมูลนำเสนอ
  • ข้อมูลสำหรับผู้ถือหุ้น
  • ข้อมูลและกิจกรรมหุ้นกู้
  • นโยบาย
  • ติดต่อนักลงทุนสัมพันธ์

KTC PHONE

02 123 5000
CAC Certified

ดาวน์โหลดแอป

KTC Mobile
KTC Mobile KTC Mobile KTC Mobile
KTC Facebook KTC Twitter KTC Instagram KTC LINE
© 2563 บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
ติดตามข่าวสารได้ที่
KTC LINE KTC LINE KTC Facebook KTC Facebook KTC instagram KTC instagram KTC Youtube KTC Youtube KTC TikTok KTC TikTok KTC twitter KTC twitter

EN

TH

KTC LIVE CHAT

Live Chat

KTC LIVE CHAT
สมัครบัตรเครดิต KTC
สมัครกดเงินสด KTC PROUD
ทั้งหมด
โปรโมชั่น
ผลิตภัณฑ์
บทความ
ข่าวประชาสัมพันธ์
0 ผลลัพธ์
คุณกำลังหมายถึง?
    ดูเพิ่มเติม

    ไม่พบผลลัพธ์ที่ค้นหา

    ตรวจสอบคำค้นหาของคุณแล้วลองอีกครั้ง
    ลองค้นหาด้วยคำหลักที่น้อยลง
    ประวัตการค้นหา
    ไม่มีประวัตการค้นหา
    ลบทั้งหมด
    KTC
    ตัวกรองโปรโมชั่น
    หมวดหมู่โปรโมชั่น
    • เลือกทั้งหมด
    • ล้างทั้งหมด
    ประเภทบัตรทั้งหมด
    • เลือกทั้งหมด
    • ล้างทั้งหมด
    เลือกผลิตภัณฑ์

    บัตรเครดิต KTC

    บัตรกดเงินสด KTC PROUD

    สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH

    สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ <span>KTC พี่เบิ้ม</span>

    สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม

    Filter

    ตัวกรอง

    Search
    www.ktc.co.th ไม่รองรับเบราว์เซอร์ Internet Explorer
    หากดำเนินการต่อ การใช้งานในบางเมนู/รายการอาจไม่สมบูรณ์

    สงวนสิทธิ์ © 2563 บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

    EN

    TH

    Live Chat