โปรโมชั่น 
บริการท่องเที่ยว
ช้อปสินค้าออนไลน์
เข้าสู่ระบบ
แผ่นดินไหวเป็นภัยธรรมชาติที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ แต่ในปัจจุบัน กรุงเทพมหานครและบริเวณโดยรอบเริ่มพบเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่มีผลกระทบต่อโครงสร้างอาคารและที่อยู่อาศัยหลายครั้ง ทำให้เราต้องเตรียมตัวในการรับมือและตรวจสอบความเสียหายหลังเหตุการณ์ เพื่อความปลอดภัยและการซ่อมแซมที่เหมาะสม
ทำไมต้องประเมินความเสียหายหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว?
การประเมินความเสียหายหลังแผ่นดินไหวมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากช่วยให้เจ้าของบ้านหรือคอนโดทราบถึงสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโครงสร้างอาคาร ระบบสาธารณูปโภค และระบบต่าง ๆ ภายในบ้าน การตรวจสอบในเบื้องต้นสามารถช่วยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดจากการพังทลายของโครงสร้างในระยะยาวได้ รวมทั้งช่วยให้สามารถตัดสินใจในการซ่อมแซมหรือการขอเคลมประกันภัยได้อย่างถูกต้อง
ขั้นตอนการประเมินความเสียหายจากแผ่นดินไหวในบ้านและคอนโด
การประเมินความเสียหายหลังแผ่นดินไหวเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้เจ้าของบ้านหรือคอนโดทราบถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโครงสร้างอาคารและระบบต่าง ๆ ภายในบ้าน ซึ่งสามารถป้องกันอันตรายจากการพังทลายของโครงสร้างในระยะยาว และช่วยในการตัดสินใจซ่อมแซมหรือขอเคลมประกันภัยได้อย่างถูกต้อง การตรวจสอบเบื้องต้นควรเริ่มจากการสำรวจรอยแตกร้าวภายในอาคารและตรวจสอบความปลอดภัยของโครงสร้างหลัก เช่น เสา คาน และระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ เช่น น้ำประปาและไฟฟ้า หากพบความเสียหายควรจัดทำรายงานการประเมินความเสียหายกับผู้เชี่ยวชาญ เช่น วิศวกร เพื่อให้สามารถซ่อมแซมได้อย่างปลอดภัยและตรงตามมาตรฐาน
กรมธรรม์ประกันภัยบ้านแบบไหนสามารถเคลมแผ่นดินไหวได้?
การเคลมประกันภัยแผ่นดินไหวจะขึ้นอยู่กับประเภทของกรมธรรม์ที่คุณทำประกันไว้ โดยทั่วไปแล้ว ประกันภัยบ้านจะมีการคุ้มครองความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับบ้าน เช่น ไฟไหม้, น้ำท่วม, การโจรกรรม, รวมไปถึงแผ่นดินไหว แต่ไม่ทุกรูปแบบของประกันภัยบ้านสามารถเคลมแผ่นดินไหวได้ ดังนั้น การเลือกกรมธรรม์ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ
1. ประกันภัยที่ครอบคลุมความเสียหายจากภัยธรรมชาติ
ประกันภัยประเภทนี้จะครอบคลุมความเสียหายจากแผ่นดินไหว รวมถึงภัยธรรมชาติอื่น ๆ เช่น น้ำท่วม, พายุ, หรือดินถล่ม โดยปกติแล้ว ประกันภัยที่มีความคุ้มครองภัยธรรมชาติจะถูกเรียกว่า “ประกันภัยบ้านแบบรวมภัย” (Comprehensive Home Insurance) ซึ่งให้ความคุ้มครองในกรณีที่เกิดความเสียหายจากภัยธรรมชาติที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้
2. ประกันภัยที่มีการระบุความคุ้มครองแผ่นดินไหวโดยเฉพาะ
บางบริษัทประกันภัยจะมีแผนการประกันภัยที่ระบุความคุ้มครองแผ่นดินไหวโดยเฉพาะ ซึ่งอาจเป็นการเพิ่มความคุ้มครองพิเศษจากการซื้อประกันภัยที่ครอบคลุมภัยธรรมชาติทั่วไป หากคุณมีกรมธรรม์ประเภทนี้ จะสามารถเคลมแผ่นดินไหวได้ หากเกิดความเสียหายที่บ้านหรือคอนโดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว
3. ประกันภัยบ้านแบบพื้นฐานหรือประกันภัยประเภทที่ไม่ครอบคลุมภัยธรรมชาติ
หากคุณทำประกันภัยบ้านแบบพื้นฐาน เช่น ประกันภัยบ้านที่คุ้มครองเฉพาะความเสียหายจากไฟไหม้, การโจรกรรม หรือความเสียหายจากน้ำท่วมโดยไม่มีความคุ้มครองภัยธรรมชาติ หรือแผ่นดินไหวโดยเฉพาะ คุณอาจไม่สามารถเคลมแผ่นดินไหวได้จากกรมธรรม์ดังกล่าว
4. การซื้อประกันภัยเสริม (Add-on) สำหรับแผ่นดินไหว
หากคุณมีประกันภัยบ้านที่ไม่ได้ครอบคลุมแผ่นดินไหวโดยตรง แต่ต้องการความคุ้มครองเพิ่มเติมในเรื่องนี้ บางบริษัทประกันภัยสามารถให้บริการเสริมการคุ้มครองแผ่นดินไหวให้กับเจ้าของบ้าน โดยจะมีค่าเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นตามความคุ้มครองที่เลือก
คำแนะนำในการเลือกประกันภัย
- ตรวจสอบเงื่อนไขกรมธรรม์: ก่อนซื้อประกันภัย ควรอ่านรายละเอียดในกรมธรรม์ให้ชัดเจนว่ามีการคุ้มครองแผ่นดินไหวหรือไม่ รวมถึงเงื่อนไขในการเคลมประกัน
- สอบถามกับตัวแทนประกันภัย: หากคุณไม่มั่นใจในรายละเอียดของกรมธรรม์ ควรสอบถามตัวแทนประกันภัย หรือเจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันภัยเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับการคุ้มครองแผ่นดินไหว
- พิจารณาความคุ้มครองที่ครอบคลุม: หากต้องการความคุ้มครองที่ครบถ้วนในกรณีภัยธรรมชาติ ควรเลือกกรมธรรม์ที่ครอบคลุมภัยธรรมชาติทุกประเภท รวมถึงแผ่นดินไหว
ขั้นตอนการติดต่อบริษัทประกันภัยเพื่อขอเคลมประกัน
หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวและตรวจสอบความเสียหายแล้ว เจ้าของบ้านควรติดต่อบริษัทประกันภัยที่มีกรมธรรม์คุ้มครองแผ่นดินไหวทันที โดยการติดต่อผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์หรือเว็บไซต์ของบริษัทประกันภัย เพื่อแจ้งเหตุการณ์และขอคำแนะนำในการดำเนินการเคลมประกัน เจ้าของบ้านอาจต้องเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น รายงานการประเมินความเสียหายจากวิศวกร รวมถึงข้อมูลส่วนตัวและหมายเลขกรมธรรม์ จากนั้น บริษัทประกันภัยจะดำเนินการตรวจสอบและแจ้งผลการเคลม
หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อบริษัทประกันภัย
- กรุงเทพประกันภัย (Bangkok Insurance): โทร. 1620 หรือ 0 2285 8888
- ทิพยประกันภัย (Tip Insure): โทร. 1736 กด 1
- ชับบ์ ประกันภัย (Chubb): โทร. 0 2640 4500 หรือ 0 2611 4455
- อลิอันซ์ อยุธยา (Allianz Ayudhya): โทร. 1292
- แอกซ่า ประกันภัย (AXA): โทร. 0 2118 8111
- ไทยวิวัฒน์ประกันภัย (ThaiVivat): โทร. 0 2715 4000
- รู้ใจ (Roojai): โทร. 02 080 9194
- โตเกียวมารีนประกันภัย (Tokio Marine): โทร. 0 2257 8080
- ฟอลคอนประกันภัย (Falcon Insurance): โทร. 02 037 9955
ความคุ้มครองจากประกันภัยรถยนต์ในกรณีภัยธรรมชาติ
เมื่อเกิดเหตุการณ์ภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหวหรือพายุฝนกระหน่ำที่อาจส่งผลกระทบต่อบ้านและรถยนต์ของคุณ การมีประกันภัยรถยนต์ที่ครอบคลุมเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะประกันภัยประเภทที่ครอบคลุมความเสียหายจากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นแบบไม่คาดคิด เช่น การชนจากสิ่งของที่ตกจากที่สูง, การกระแทกจากสิ่งปลูกสร้างที่เสียหาย, หรือ การเสียหายจากการยุบตัวของพื้นถนน ที่อาจเกิดจากแผ่นดินไหวหรือเหตุการณ์อื่นๆ
การเลือกแผนประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสม
เมื่อเลือกแผนประกันภัยรถยนต์, ควรพิจารณาความคุ้มครองจากภัยธรรมชาติซึ่งสามารถเพิ่มความมั่นใจในกรณีที่รถยนต์ของคุณได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เช่น:
- ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ (Comprehensive) ที่ครอบคลุมทุกความเสี่ยงจากทั้งภัยธรรมชาติและอุบัติเหตุ
- ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (Third-Party) ซึ่งอาจจะครอบคลุมความเสียหายจากภัยธรรมชาติได้ในบางกรณี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกันภัย
ขั้นตอนการเคลมประกันภัยรถยนต์
หากรถยนต์ของคุณได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวหรือภัยธรรมชาติอื่นๆ คุณควรทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อแจ้งเคลมประกันภัย:
- ตรวจสอบความเสียหาย - ตรวจสอบให้แน่ใจว่าความเสียหายเกิดจากภัยธรรมชาติ เช่น รถถูกทับจากสิ่งของที่ตกลงมา หรือรถได้รับความเสียหายจากการลื่นไถลบนถนนที่ยุบตัว
- ถ่ายภาพความเสียหาย - เช่นเดียวกับการเคลมประกันภัยบ้าน การบันทึกภาพถ่ายเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเคลมเป็นขั้นตอนที่สำคัญ
- แจ้งเคลมกับบริษัทประกันภัย - ติดต่อบริษัทประกันภัยของคุณทันที ผ่านช่องทางที่กำหนด เช่น โทรศัพท์, เว็บไซต์, หรือแอปพลิเคชัน
ป้องกันความเสี่ยงด้วยการทำประกันภัยรถยนต์
หากคุณยังไม่มีประกันภัยรถยนต์ ควรพิจารณาทำประกันภัยที่มีความคุ้มครองจากภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อป้องกันความเสี่ยงและลดภาระทางการเงินจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน การเลือกแผนประกันภัยที่มีความคุ้มครองที่เหมาะสมกับสภาพรถและสถานการณ์ของคุณเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด เพื่อปกป้องทั้งบ้านและรถยนต์ของคุณจากความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
การประเมินความเสียหายหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวเป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อความปลอดภัยและการฟื้นฟูบ้านหรือคอนโดของคุณให้กลับมาอยู่ในสภาพที่ดีและปลอดภัย การตรวจสอบความเสียหายอย่างละเอียดและการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญช่วยให้คุณสามารถจัดการกับความเสียหายได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจในความปลอดภัย นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณสามารถดำเนินการเคลมประกันภัยได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว เพื่อให้คุณกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างไม่กังวลใจ
.
