15 อุปกรณ์สำนักงานที่ต้องมีติดออฟฟิศในยุค IT มีอะไรบ้าง ?

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกด้าน การเลือกใช้อุปกรณ์สำนักงานที่เหมาะสมก็ช่วยให้การทำงานในออฟฟิศมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มความสะดวกสบายให้กับคนทำงาน ช่วยประหยัดเวลาในการทำงาน Work-life balance ดีขึ้น ในขณะเดียวกันเจ้าของธุรกิจก็ลดจำนวนคนทำงานให้น้อยลงได้ การเลือกอุปกรณ์สำนักงานที่ดีจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้งานดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิผล วันนี้ KTC จะมาแนะนำ 15 อุปกรณ์สำนักงานที่ต้องมีติดออฟฟิศในยุค IT จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน

เครื่องใช้สํานักงาน มีกี่ประเภท

เครื่องใช้สำนักงาน แบ่งออกได้ 8 ประเภทตามลักษณะการใช้งาน ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีเครื่องมือที่ใช้ในการทำงานที่แตกต่างกันไป ได้แก่

1. เครื่องใช้สำนักงานเพื่อการพิมพ์และจัดการเอกสาร เช่น เครื่องพิมพ์, เครื่องถ่ายเอกสาร, เครื่องสแกนเนอร์, เครื่องแฟกซ์, เครื่องตัดกระดาษ, เครื่องเจาะกระดาษ, เครื่องทำลายเอกสาร
2. เครื่องมือสำนักงานเพื่อการคำนวณและประมวลผลข้อมูล เช่น เครื่องคิดเลข, คอมพิวเตอร์, แล็ปท็อป, อุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์, เครื่องสำรองไฟ
3. เครื่องมือสำนักงานเพื่อการสื่อสาร เช่น โทรศัพท์สำนักงาน, เครื่องโทรสาร, ระบบโทรศัพท์ VoIP, หูฟังและไมโครโฟน
4. เครื่องมือสำนักงานเพื่อการจัดการข้อมูลและการเก็บข้อมูล เช่น ฮาร์ดดิสก์ภายนอก, คลาวด์, แฟลชไดรฟ์, เครื่องบันทึกข้อมูล
5. เครื่องมือสำนักงานเพื่อความสะดวกในการทำงาน เช่น เก้าอี้สำนักงาน, โต๊ะทำงาน, ขาตั้งคอมพิวเตอร์, ที่วางเท้า
6. เครื่องมือสำนักงานเพื่อการจัดเก็บและจัดระเบียบ เช่น ชั้นวางเอกสาร, กล่องเก็บเอกสาร, ชั้นวางของ
7. เครื่องมือสำนักงานเพื่อความปลอดภัย เช่น เครื่องตรวจจับควัน, ถังดับเพลิง, ป้ายและสัญลักษณ์ความปลอดภัย
8. เครื่องมือสำนักงานสำหรับการทำความสะอาด เช่น เครื่องดูดฝุ่น, เครื่องฟอกอากาศ, กระดาษทิชชู, น้ำยาทำความสะอาด และอุปกรณ์เช็ดทำความสะอาด

1. ชุดโต๊ะ-เก้าอี้ทำงาน

ชุดโต๊ะทำงานและเก้าอี้ที่มีดีไซน์ทันสมัย โดยสามารถเลือกได้ตามประเภทการใช้งาน เช่น โต๊ะทำงานเดี่ยว โต๊ะทำงานแบบเข้ามุม หรือโต๊ะประชุม ทั้งนี้ ยังสามารถเลือกเก้าอี้ที่มีคุณสมบัติรองรับการนั่งที่ยาวนาน เช่น เก้าอี้สุขภาพที่ปรับระดับได้หรือเก้าอี้ที่มีล้อสำหรับการเคลื่อนย้ายที่สะดวก

ข้อดี

1. เก้าอี้ที่รองรับสรีระช่วยลดปัญหาปวดหลังจากการนั่งทำงานนานๆ
2. ช่วยให้การทำงานสะดวกสบายและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
3. โต๊ะทำงานมีหลากหลายดีไซน์ให้เลือกตามความเหมาะสม

2. ตู้เก็บเอกสาร (Filing Cabinet)

ตู้เก็บเอกสารที่ออกแบบมาเพื่อจัดระเบียบเอกสารสำคัญ เอกสารที่ต้องการเก็บรักษาอย่างปลอดภัย และง่ายต่อการค้นหา มีหลากหลายขนาดให้เลือกตามความต้องการของออฟฟิศ เหมาะกับธุรกิจขนาดกลาง และขนาดใหญ่

ข้อดี

1. ช่วยในการจัดระเบียบเอกสารให้ง่ายต่อการค้นหา
2. ตู้ที่มีระบบล็อกสามารถป้องกันการเข้าถึงเอกสารสำคัญได้
3. สามารถเก็บเอกสารในรูปแบบที่ปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย

3. ตู้ล็อกเกอร์ (Locker)

ตู้ล็อกเกอร์เป็นอุปกรณ์สำนักงานที่ต้องมีติดออฟฟิศ ช่วยเก็บสิ่งของส่วนตัวของพนักงาน เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า หรืออุปกรณ์ส่วนตัว ที่มีระบบล็อกความปลอดภัย ตู้ล็อกเกอร์มีหลายขนาดและสามารถปรับแต่งได้ตามพื้นที่และความต้องการ

ข้อดี

1. เหมาะสำหรับการจัดระเบียบในพื้นที่ทำงานที่มีหลายคนใช้ร่วมกัน
2. สร้างความสะดวกให้พนักงานในการเก็บสิ่งของส่วนตัว
3. ช่วยป้องกันการสูญหายของทรัพย์สินส่วนตัว

4. คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ/โน้ตบุ๊ก

ขึ้นชื่อว่าออฟฟิศต้องมีคอมพิวเตอร์ทั้งแบบตั้งโต๊ะและโน้ตบุ๊กเป็นอุปกรณ์สามัญประจำสำนักงาน แนะนำให้เลือกคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊กที่มีประสิทธิภาพสูง รองรับการทำงานหนัก เช่น การใช้งานซอฟต์แวร์ต่างๆ การพิมพ์เอกสารหรือการประชุมออนไลน์ คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ๆ มักมาพร้อมกับการเชื่อมต่อ Wi-Fi ความเร็วสูง และจอแสดงผลคุณภาพสูง

ข้อดี

1. ช่วยให้การทำงานกับซอฟต์แวร์และการสื่อสารออนไลน์เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. รองรับการทำงานหลายๆ โปรแกรมพร้อมกัน
3. คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องการความสะดวกในการเคลื่อนย้าย

5. iPad / Tablet ส่วนกลาง

อุปกรณ์สำนักงานที่ต้องมีติดออฟฟิศในยุค IT ต้องมี iPad หรือ Tablet ส่วนกลางที่มีขนาดหน้าจอใหญ่ ช่วยในการประชุมออนไลน์ พรีเซนต์งาน หรือบันทึกข้อมูลระหว่างการประชุม สามารถใช้ร่วมกับปากกาและคีย์บอร์ดเสริมได้ ทำให้ใช้งานสะดวกและงานเสร็จไวมากขึ้น

ข้อดี

1. เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องการความสะดวกและพกพา
2. สามารถใช้งานได้ทั้งในการประชุมและการพรีเซนต์ข้อมูล
3. รองรับการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันต่างๆ อย่างรวดเร็ว

6. อุปกรณ์จอภาพ (Monitor)

จอภาพที่มีความละเอียดสูง เป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำนักงานที่ต้องมีติดออฟฟิศในยุค IT เช่น จอภาพ 4K หรือ Full HD ที่รองรับการทำงานหลายหน้าจอและการแสดงผลที่คมชัด เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องใช้ความละเอียดและความชัดเจนในการดูข้อมูลหรือเอกสาร

ข้อดี

1. ช่วยให้การทำงานเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยพื้นที่หน้าจอที่กว้าง
2. รองรับการทำงานหลายงานพร้อมกัน เช่น การเปิดหลายหน้าต่างหรือโปรแกรมในเวลาเดียวกัน
3. ช่วยลดความเมื่อยล้าจากการใช้จอภาพที่มีความละเอียดต่ำ

7. เครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier)

เพราะสุขภาพของคนในออฟฟิศเป็นเรื่องสำคัญ ยิ่งในช่วงที่มีฝุ่น PM2.5 เครื่องฟอกอากาศอากาศในออฟฟิศที่มีประสิทธิภาพจะช่วยรักษาคุณภาพอากาศให้อยู่ในสภาพดี ทำให้คนทำงานไม่เจ็บป่วยง่าย และส่งผลดีต่อสุขภาพ ช่วยให้มีสมาธิในการทำงาน นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว

ข้อดี

1. ช่วยลดการสะสมของฝุ่นละอองและสารพิษในอากาศที่อาจทำให้เกิดอาการภูมิแพ้หรือปัญหาทางเดินหายใจ
2. ช่วยให้สภาพอากาศในสำนักงานสดชื่นและสะอาด ส่งผลให้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและสมาธิของพนักงาน

8. เครื่องพิมพ์ (Printer)

เครื่องพิมพ์ เป็นอุปกรณ์สำนักงานที่ทุกออฟฟิศต้องมี ตัวเลือกของเครื่องพิมพ์ในปัจจุบันมีมากมาย ทั้งที่รองรับการพิมพ์ทั้งสีและขาวดำ และมีหลายประเภท เช่น เครื่องพิมพ์เลเซอร์ที่เหมาะกับการพิมพ์เอกสารจำนวนมาก หรือเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทที่มีคุณภาพสีสูง เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความละเอียดในการพิมพ์สูง ซึ่งเราสามารถเลือกให้เหมาะกับการใช้งานและงบประมาณ

ข้อดี

1. เพิ่มความสะดวกในการพิมพ์เอกสารจากคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊ก
2. ประหยัดเวลาในการทำงานที่ต้องใช้เอกสารจำนวนมาก
3. เครื่องปริ้นท์เลเซอร์เหมาะสำหรับการพิมพ์ที่เร็วและประหยัดต้นทุน

9. เครื่องสแกน (Scanner)

อีกอุปกรณ์สำนักงานที่ต้องมีติดออฟฟิศในยุค IT คือเครื่องสแกนที่สามารถแปลงเอกสารและรูปภาพจากกระดาษเป็นไฟล์ดิจิทัลได้ง่ายและรวดเร็ว โดยมีทั้งแบบ flatbed ที่ใช้สแกนเอกสารแบบแผ่นเดียว และแบบ sheet-feed ที่สามารถสแกนเอกสารจำนวนมากได้ในเวลาเดียว

ข้อดี

1. ช่วยให้การจัดเก็บเอกสารเป็นดิจิทัลสะดวกและปลอดภัย
2. ลดการใช้พื้นที่ในการเก็บเอกสารกระดาษ
3. สามารถส่งเอกสารได้ง่ายผ่านอีเมลหรือระบบออนไลน์

10. เครื่องถ่ายเอกสาร (Photocopier)

ออฟฟิศในยุค IT ต้องมีเครื่องถ่ายเอกสารที่มีฟังก์ชันการใช้งานครบครันในเครื่องเดียว ทั้งการถ่ายเอกสารสี การพิมพ์ และการสแกน ซึ่งเครื่องบางรุ่นยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์และการส่งเอกสารไปยังอีเมลหรือเครื่องปริ้นท์อื่นๆ ได้ ตอบโจทย์การทำงานในยุคดิจิทัล เหมาะมากกับออฟฟิศขนาดเล็ก หรือคนที่เพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจ เพราะมีครบจบในเครื่องเดียว

ข้อดี

1. ช่วยประหยัดเวลาในการคัดลอกเอกสารจำนวนมาก
2. เหมาะสำหรับสำนักงานที่ต้องการผลิตเอกสารจำนวนมาก
3. การมีฟังก์ชันหลายๆ อย่างในเครื่องเดียว ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์แยกต่างหาก

11. เราท์เตอร์ (Router)

ต้องยอมรับว่าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตคือหัวใจในการทำธุรกิจยุคดิจิทัล ดังนั้นออฟฟิศในยุค IT จึงต้องมีเราท์เตอร์ที่มีความสามารถในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและจัดการการกระจายสัญญาณ Wi-Fi ให้กับอุปกรณ์ต่างๆ ภายในออฟฟิศ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ

ข้อดี

1. ให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เสถียรและรวดเร็ว
2. สามารถรองรับการใช้งานหลายอุปกรณ์พร้อมกันในออฟฟิศ
3. ปลอดภัยจากการเข้าถึงของผู้ไม่ประสงค์ดีเมื่อมีการตั้งค่าความปลอดภัยที่ดี

12. ฮาร์ดดิสก์ภายนอก (External Hard Drive)

ออฟฟิศในยุค IT ต้องมีพื้นที่จัดเก็บและสำรองข้อมูลที่มีความปลอดภัยและใช้งานได้สะดวก ฮาร์ดดิสก์ภายนอกที่ใช้สำหรับการสำรองข้อมูลในกรณีที่ข้อมูลสำคัญภายในคอมพิวเตอร์ต้องการความปลอดภัย และใช้ในการเก็บข้อมูลเพิ่มเติมที่มีขนาดใหญ่

ข้อดี

1. เพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลโดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องคอมพิวเตอร์หลัก
2. การสำรองข้อมูลช่วยป้องกันการสูญหายของข้อมูลสำคัญ
3. สามารถใช้สำหรับการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างรวดเร็ว

13. ยูเอสบีฮับ (USB Hub)

USB Hub จัดเป็นอุปกรณ์สำนักงานที่ต้องมีติดออฟฟิศในยุค IT เพราะช่วยขยายจำนวนพอร์ต USB ให้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ได้มากขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่คอมพิวเตอร์มีพอร์ต USB จำกัด เช่น อ่านข้อมูลจากเมมโมรีกล้อง SD แฟลชไดรฟ์ ช่วยให้สะดวกในการอ่านข้อมูลโดยไม่ผ่านระบบออนไลน์

ข้อดี

1. เชื่อมต่ออุปกรณ์ USB หลายๆ ชิ้นพร้อมกัน เช่น เมาส์ คีย์บอร์ด แฟลชไดรฟ์
2. ช่วยเพิ่มความสะดวกในกรณีที่คอมพิวเตอร์มีพอร์ต USB ไม่เพียงพอ
3. สามารถใช้ได้ทั้งในคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและโน้ตบุ๊ก

14. ถังดับเพลิง (Fire Extinguisher)

ถังดับเพลิง เป็นเครื่องมือสำนักงานเพื่อความปลอดภัย ตามมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงานเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากไฟไหม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง ช่วยป้องกันไม่ให้ไฟลุกลาม ช่วยลดความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินของบริษัท

ข้อดี

1. ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงาน
2. เพื่อความปลอดภัยของพนักงานเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
3. ลดความเสียหายทั้งในด้านทรัพย์สินและป้องกันการสูญเสียทางธุรกิจ

15. เครื่องทำลายเอกสาร (Shredder)

ปิดท้ายด้วยเครื่องทำลายเอกสาร อุปกรณ์สำนักงานที่ต้องมีติดออฟฟิศในยุค IT ที่ช่วยให้การทำลายเอกสารสำคัญ ความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล หรือข้อมูลที่ไม่ต้องการใช้งานต่อไปอย่างปลอดภัย โดยมีหลายขนาดและความสามารถในการทำลายกระดาษหลายแผ่นในครั้งเดียว

ข้อดี

1. ช่วยป้องกันข้อมูลสำคัญรั่วไหลหรือถูกนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
2. ทำลายเอกสารได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
3. การทำลายเอกสารช่วยลดปริมาณขยะและรักษาความลับขององค์กร

พิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC ซื้ออุปกรณ์สำนัก หรือของแต่งออฟฟิศ พร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้ม ทั้งส่วนลด และเครดิตเงินคืน ผ่อนชำระก็ได้ Easy e-Receipt ที่ใช้ลดหย่อนภาษีได้ก็มี

โปรโมชั่นช้อปคุ้มเรื่องบ้าน และลดหย่อน Easy E-Receipt ที่โฮมโปร และเมกาโฮม กับบัตรเครดิต KTC

แลกคะแนน KTC FOREVER รับส่วนลด 15%

ช้อปที่สาขา : เมื่อช้อปครบ 1,000 บาทขึ้นไปต่อเซลส์สลิป ใช้คะแนน KTC FOREVER แลกรับส่วนลดทันที 15% ใช้คะแนนตั้งแต่ 1,000 คะแนน สูงสุดไม่เกินยอดใช้จ่ายต่อเซลส์สลิป ทำรายการแลกคะแนนผ่านเครื่อง EDC ที่สาขา

สิทธิพิเศษ รับคูปองส่วนลดทันที 500 บาท

เมื่อช้อปครบ 10,000 บาทขึ้นไปและชำระผ่านบัตรเครดิต KTC กดรับ E-Coupon 500 บาท ที่ HomeCard Application (ใช้เป็นส่วนลดทันทีเมื่อชำระค่าสินค้าภายในวันเดียวกัน)

สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกใหม่โฮมการ์ด รับคูปองส่วนลด 100 บาท

เมื่อช้อปครบ 1,000 บาทขึ้นไปและชำระผ่านบัตรเครดิต KTC

• ระยะเวลาโปรโมชั่น: 16 ม.ค. 68 - 28 ก.พ. 68

โปรโมชั่นที่ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ กับบัตรเครดิต KTC

1. โปรโมชั่น ชำระเต็มจำนวน

บัตรเครดิต KTC รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 25,000 บาท ไม่ต้องใช้คะแนนแลก! แค่มียอดชำระเต็มจำนวนผ่านบัตรฯ และลงทะเบียนตามเงื่อนไข

• รับเครดิตเงินคืน 60 บาท เมื่อมียอดใช้จ่าย 8,000 - 17,999 บาท/เซลล์สลิป
• รับเครดิตเงินคืน 150 บาท เมื่อมียอดใช้จ่าย 18,000 - 39,999 บาท/เซลล์สลิป
• รับเครดิตเงินคืน 550 บาท เมื่อมียอดใช้จ่าย 40,000 - 84,999 บาท/เซลล์สลิป
• รับเครดิตเงินคืน 1,250 บาท เมื่อมี ยอดใช้จ่าย 85,000 - 149,999 บาท/เซลล์สลิป
• รับเครดิตเงินคืน 2,500 บาท เมื่อมียอดใช้จ่าย 150,000 บาทขึ้นไป/เซลล์สลิป
• ระยะเวลาโปรโมชั่น: 1 ม.ค. 68 - 31 พ.ค. 68

2. โปรโมชั่น ผ่อนชำระ

บัตรเครดิต KTC และบัตรกดเงินสด KTC PROUD

ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน เฉพาะรุ่นที่ร่วมรายการตรวจสอบโปรโมชั่น และรุ่นที่ร่วมรายการ ณ จุดขาย (อัตราดอกเบี้ย 0% เมื่อชำระยอดผ่อนตามที่เรียกเก็บรายเดือน ภายในวันครบกำหนดชำระ)

บัตรเครดิต KTC

ผ่อนชำระรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 37,000 บาท ไม่ต้องใช้คะแนนแลก! แค่มียอดผ่อนชำระผ่านบัตรฯ และลงทะเบียนตามเงื่อนไข

• ระยะเวลาโปรโมชั่น: 1 ม.ค. 68 - 31 พ.ค. 68

3. แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืน 13% (สำหรับยอดชำระเต็มจำนวน และผ่อนชำระ)

บัตรเครดิต KTC แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืน 13% (จากคะแนนที่แลก) รายการผ่อนชำระตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป ใช้คะแนน KTC FOREVER ตั้งแต่ 1,000 คะแนนขึ้นไป แลกคะแนนไม่เกินยอดใช้จ่ายต่อเซลส์สลิป แลกรับเครดิตเงินคืน 13%

• ระยะเวลาโปรโมชั่น: 1 ม.ค. 68 - 31 พ.ค. 68

โปรโมชั่นพิเศษในเครือ SCG Home กับบัตรเครดิต KTC

แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15%

รับเครดิตเงินคืน 15% สำหรับรายการใช้จ่ายตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป

และใช้คะแนน KTC FOREVER ตั้งแต่ 1,000 คะแนนขึ้นไป, แลกคะแนนไม่เกินยอดใช้จ่ายต่อเซลล์สลิป

รับเครดิตเงินคืน 13% สำหรับรายการใช้จ่ายตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป

และใช้คะแนน KTC FOREVER ตั้งแต่ 1,000 คะแนนขึ้นไป, แลกคะแนนไม่เกินยอดใช้จ่ายต่อเซลล์สลิป

• ระยะเวลาโปรโมชั่น: 15 ธ.ค.67 - 31 พ.ค. 68

ดูรายละเอียดโปรโมชั่นอุปกรณ์สำนักงานเพิ่มเติมที่นี่

โปรโมชั่นช้อปสินค้า IT สุดคุ้ม กับบัตรเครดิต KTC และบัตรกดเงินสด KTC PROUD

ช้อปสินค้าไอทีในราคาสุดคุ้ม ด้วยโปรโมชั่นกับบัตรเครดิต KTC และบัตรกดเงินสด KTC PROUD ที่ร้านไอทีชั้นนำ อาทิ Advice, JIB, IT City, BaNANA ทั้งหน้าร้านและช่องทาง Online

คุ้มที่ 1 รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 18,000 บาท (เมื่อผ่อนชำระตามกำหนด)

คุ้มที่ 2 แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืน สูงสุด 20%

• ระยะเวลาโปรโมชั่น: 1 ม.ค. 68 - 31 มี.ค. 68

คัดมาให้ครบกับ 15 อุปกรณ์สำนักงานที่ต้องมีติดออฟฟิศในยุค IT ตัวช่วยดีๆ ที่ทำให้การทำงานราบรื่น แนะนำก่อนเลือกซื้อลองเข้าไปดูโปรโมชั่นดีๆ และสิทธิ์ลดหย่อน Easy E-Receipt พร้อมแลกคะแนน KTC FOERVER รับส่วนลดกับบัตรเครดิต KTC หากยังไม่มี ก็สามารถกดสมัครบัตรเครดิต KTC ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ ติดตามผลง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก

ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC