แวนคูเวอร์ เมืองที่ขึ้นชื่อว่างดงามและน่าอยู่ที่สุดแห่งหนึ่งในแคว้น British Columbia ของแคนาดา เป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความทันสมัยและกลิ่นอายความคลาสสิก และใฤดูหนาวมาเยือน แวนคูเวอร์ก็ยิ่งสวยงามไปด้วยอากาศที่หนาวจับใจและทิวทัศน์ที่ถูกหิมะปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ เต็มไปด้วยความงามและความสุขแห่งการค้นพบ สามารถบินตรงเส้นทางกรุงเทพฯ - แวนคูเวอร์ โดยสายการบิน Air Canada ใช้เวลาเดินทางประมาณ 13 ชม. 20 นาที จากนั้นนั่งรถไฟตรงจาก YVR-Airport Station Platform 1 มุ่งหน้าสู่ Vancouver City Centre Station เพียง 25 นาที
เวลาที่แคนาดา แวนคูเวอร์
เวลาในเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา จะช้ากว่าเวลาในประเทศไทยประมาณ 14 ชั่วโมง (ในช่วงที่ยังไม่มีการปรับเวลา Daylight Saving Time) และจะช้ากว่า 15 ชั่วโมง เมื่อเข้าสู่ช่วง Daylight Saving Time (DST) ซึ่งมักจะเริ่มต้นตั้งแต่ กลางเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ของทุกปี ตัวอย่างเช่น หากประเทศไทยเป็นเวลา 21.00 น. ช่วงที่แวนคูเวอร์ใช้เวลา DST จะเป็นเวลา 06.00 น. ของวันเดียวกัน (เช้า) ดังนั้นหากวางแผนเดินทางหรือสื่อสาร ควรเช็กเวลาให้แน่ชัดล่วงหน้าเพื่อความสะดวกและไม่พลาดช่วงเวลาสำคัญในการเดินทางหรือทำธุรกรรมต่าง ๆ
การเดินทางในแวนคูเวอร์
การเดินทางภายในแวนคูเวอร์สามารถใช้บริการขนส่งสาธารณะได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น รถบัสประจำทางที่วิ่งรับส่งภายในตัวเมือง และ Seabus ที่เน้นวิ่งรับส่งตามแนวเส้นทาง Seawall นอกจากนี้ยังมีรถไฟฟ้า West Coast Express อีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถชำระค่าบริการง่าย ๆ ผ่าน Compass Card เพียงบัตรเดียว โดยสามารถหาซื้อได้ที่ตู้เติมเงินหน้าสถานีหรือร้านสะดวกซื้อทั่วไป
ที่เที่ยวแวนคูเวอร์
1. Gastown
ย่านเมืองเก่าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดในแวนคูเวอร์ ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1867 โดยนักสำรวจรุ่นบุกเบิก Gassy Jack Deighton เต็มไปด้วยอาคารคลาสสิกและพื้นถนนที่ปูด้วยหินคอบเบิล สะท้อนให้เห็นถึงความงามแบบดั้งเดิม แต่ในขณะเดียวกันก็ยังอุดมไปด้วยร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านค้าทันสมัย และบาร์ที่มีเอกลักษณ์ มีสถาปัตยกรรมที่น่าไปเยือนหลายแห่ง เช่น Gastown Steam Clock นาฬิกาไอน้ำโบราณที่เป่าควันและส่งเสียงเพลงทุก ๆ 15 นาที Maple Tree Square ลานจัตุรัสสาธารณะ และ The Old Spaghetti Factory ร้านพาสต้าเจ้าดังขวัญใจนักชิม เป็นต้น
2. Nemesis Coffee Gastown
คาเฟ่และร้านอาหารเช้าสุดชิคในย่านเมืองเก่า Gastown แต่บรรยากาศการตกแต่งทันสมัย นั่งจิบกาแฟ คู่กับเมนูมื้อเช้าและขนมหวานแสนอร่อย
Tel: +1 604 773 3823
Opening Hours: ทุกวัน 8.00 น. - 16.00 น.
3. Yaletown
ย่านเมืองใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงภูมิทัศน์จากแหล่งอุตสาหกรรมโบราณที่เต็มไปด้วยโกดังสินค้าเก่า ให้กลายเป็นย่านทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในแวนคูเวอร์ แนวอาคารเก่าที่ตั้งเรียงรายถูกแปลงโฉมเป็นร้านค้า ร้านอาหาร บาร์ คาเฟ่ รวมถึงโรงแรมบูทีคสุดเก๋มากมาย แม้ในยามฤดูหนาวย่านแห่งนี้ก็ยังคงครึกครื้นไปด้วยนักท่องเที่ยวและผู้คนที่ออกมาเดินชมบรรยากาศโรแมนติกในสวน David Lam Park จากที่นี่สามารถเดินต่อไปชมวิวริมทะเลที่ Seawall เส้นทางเลียบทะเลที่ยาวที่สุดในโลกได้อีกด้วย
4. Robson Street & Square Ice Rink
Description automatically generated with medium confidence" />
ถนนสายการค้าและแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ในย่าน Yaletown ที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของแวนคูเวอร์ ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านบูทีคท้องถิ่นไปจนถึงแบรนด์เนมระดับโลก และร้านอาหารที่ตอบโจทย์นักชิมทุกสไตล์ มีตั้งแต่ Food Truck ริมทางไปจนถึงร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ และในเมื่อฤดูหนาวมาถึง ถนนสายนี้จะคึกคักยิ่งกว่าช่วงไหน ๆ ของปี เนื่องจากบริเวณลานจัตุรัส Robson Square จะกลายเป็นลานสเก็ตน้ำแข็งกลางแจ้งขนาดใหญ่ที่มีผู้คนหลั่งไหลมาร่วมสนุกกันไม่ขาดสาย สร้างสีสันและบรรยากาศอันคึกคักท่ามกลางแสงไฟระยิบระยับที่ส่องประกายอยู่ทั่วถนนทั้งสาย
Opening Hours: (1 ธ.ค. – 29 ก.พ.) ทุกวัน 9.00 น. – 21.00 น.
5. Science World
อีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่สำคัญของแวนคูเวอร์ ศูนย์วิทยาศาสตร์ภายใต้อาคารรูปทรงกลมขนาดใหญ่ แหล่งรวมความรู้และความสนุกที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย มีโซนจัดแสดงนิทรรศการ โซนกิจกรรม Interactive และโรงภาพยนตร์ OMNIMAX ที่ฉายสารคดีให้ชมตลอดทั้งวัน สามารถออกไปเดินยืดเส้นยืดสาย ชมวิวเลียบคลอง False Creek ได้อีกด้วย
Address: 1455, Quebec Steet, Vancouver, Canada
Opening Hours: ทุกวัน 10.00 น. - 17.00 น.
Admission Fee: 34.85 CAD/ท่าน (เด็ก 28.10 CAD)
6. Granville Island
เกาะบริวารขนาดเล็ก ตั้งอยู่ใต้สะพาน Granville อีกหนึ่งย่านท่องเที่ยวที่สำคัญของแวนคูเวอร์ เดินทางสะดวกทั้งทางรถหรือเรือข้ามฟาก เป็นที่ตั้งของ Granville Public Market ตลาดท้องถิ่นที่ใหญ่ที่สุดในเมือง ภายในละลานตาไปด้วยสินค้ามากมาย ทั้งอาหารทะเลสดใหม่ ผลไม้ ขนมท้องถิ่น ร้านดอกไม้ และสินค้า Handmade มีร้านอาหารริมน้ำตั้งอยู่เรียงราย เหมาะสำหรับมาดินเนอร์สุดโรแมนติก ชมวิวสะพาน Granville และ Burrard ในยามค่ำคืนที่ถูกประดับด้วยแสงไฟตัดสลับกับละอองหิมะที่ปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ
6. English Bay Beach
ชายหาดที่ยาวที่สุดในแวนคูเวอร์ ตั้งอยู่บริเวณริมอ่าว English Bay ที่ยังคงสวยงามแม้ในยามฤดูหนาว ชื่นชมภาพของคลื่นทะเลที่ซัดเข้ามาใส่หาดทรายสีขาวที่ถูกทับซ้อนด้วยหิมะ ถือเป็นความงามในอีกรูปแบบที่หาชมได้ยาก
7. The KEG Steakhouse Yaletown
ร้านสเต็กอันดับหนึ่งของแวนคูเวอร์ เสิร์ฟเมนูสไตล์ Grill & Chill พร้อมสลัดและซุปสูตรเด็ดประจำร้าน เมนูแนะนำได้แก่ Wild Mushroom Soup, Caesar Salad, Prime Rib, New York Steak และ Coffee Crusted Sirloin
8. Canada Place
อีกหนึ่งสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงของแวนคูเวอร์ ด้วยรูปทรงของอาคารที่มีหลังคาทรงเรือใบดูคล้ายกับ Sydney Opera House เป็นท่าเทียบเรือสำราญชั้นนำสำหรับการเดินทางไปยัง Alaska เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจและการประชุมระดับนานาชาติ ตั้งโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์อยู่ริมปากอ่าว Vancouver Harbour ที่เชื่อมต่อระหว่างตัวเมืองและมหาสมุทรแปซิฟิก ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวท้องทะเลกว้างใหญ่และวิวภูเขาสลับซับซ้อนที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในแวนคูเวอร์
Opening Hours: ทุกวัน 7.00 น. - 23.00 น.
10. Stanley Park
Description automatically generated with medium confidence" />
พื้นที่สีเขียวใจกลางเมืองที่ได้รับการขนานนามให้เป็น “ปอดแห่งแวนคูเวอร์” ครอบคลุมพื้นที่กว่า 4 ตร.กม. มีพื้นที่มากกว่า Central Park ในนิวยอร์ก ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ Beaver Lake เป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมของชาวเมืองแวนคูเวอร์ มีเส้นทางสำหรับเดินเล่น วิ่ง ปั่นจักรยาน และชมธรรมชาติสบาย ๆ ภายในเก็บรักษาพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานาชนิด รอบข้างมีร้านอาหาร คาเฟ่ริมทะเลสาบ และสถานที่น่าสนใจมากมาย เช่น Vancouver Aquarium และเส้นทางเดินเทรลสั้น ๆ ไปยัง Prospect Point จุดชมวิวธรรมชาติและสะพาน Lions Gate Bridge จากมุมสูง นอกจากนี้ในตอนกลางคืนยังมีเทศกาล Bright Nights ที่จะตกแต่งแสงไฟภายในสวนอย่างมีสีสันสวยสะดุดตา ราวกับกำลังท่องอยู่ในดินแดนแห่งจินตนาการ ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. ไปจนถึง 6 ม.ค.
Opening Hours: ทุกวัน 6.00 น. - 22.00 น.
11. Jam Café
คาเฟ่ดังในย่าน Gastown ที่ให้บริการ Breakfast & Lunch การันตีความอร่อยจากผู้คนที่มาต่อคิวใช้บริการกันอย่างยาวเหยียด เมนูขึ้นชื่อของร้านคือ Canadian Sandwich, Smoked Salmon Benedict และเมนูของหวานอย่าง Red Velvet Pancake
12. Capilano Suspension Bridge
สวนป่าขนาดใหญ่ทางตอนเหนือของแวนคูเวอร์ สวรรค์ของคนรักธรรมชาติที่เต็มไปด้วยป่าต้นสนสูงเสียดฟ้า มีสะพานแขวนบนต้นไม้หลากเส้นทาง โดยเฉพาะ Capilano Suspension Bridge สะพานที่ยาวที่สุด สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1889 ด้วยความยาวถึง 140 ม. สูง 70 ม. ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำคาปิลาโน่ บริเวณหัวสะพานประดับด้วยประติมากรรมเสา Totem โบราณ ให้ความรู้สึกราวกับกำลังผจญภัยอยู่ในป่าเทพนิยาย ภายในมีหลายโซน เช่น โซน Treetops Adventure โซน The Living Forest และ Cliff Walk เส้นทางลัดเลาะหน้าผาที่สามารถไต่ความสูงท้าความเสียว พร้อมชมวิวสวยข้างทาง ยิ่งถ้าได้มาเยือนในช่วงคริสมาสต์สวนป่าแห่งนี้จะถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนและตกแต่งด้วยแสงไฟระยิบระยับทุกแห่งหน
Opening Hours: ทุกวัน 9.00 น. - 20.00 น.
Admission Fee: 71.95 CAD/ท่าน (เด็ก 42.95 CAD)
13. Rodney’s Oyster House
เอาใจคนรักอาหารทะเลด้วยร้านหอยนางรมระดับตำนาน ขึ้นชื่อเรื่องความใหญ่และความสดใหม่ มีให้เลือกหลายสายพันธุ์ทั้งจาก West Coast และ East Coast ทานคู่ซอสสูตรเด็ดเลือกลองได้ถึง 5 รสชาติ อีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาดคือ Shrimp Cocktail ค็อกเทลกุ้งชิ้นโต เสิร์ฟพร้อมซอสมะเขือเทศเข้มข้น
Tel: +1 604 609 0080
Opening Hours: ทุกวัน 16.00 น. - 23.00 น.
14. Grouse Mountain
นั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปพิชิตยอดเขา Grouse Mountain ชมทิวทัศน์ของเมืองแวนคูเวอร์และผืนป่าที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะกว้างขวางสุดลูกหูลูกตาบนความสูง 1,200 ม. เหนือระดับน้ำทะเล พร้อมสัมผัสบรรยากาศการเฉลิมฉลองท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามเลื่องชื่อ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลคริสต์มาสไปจนถึงปีใหม่ Grouse Mountain จะถูกแต่งเติมไปด้วยแสงไฟ พลิกโฉมภูเขาแห่งนี้ให้กลายเป็นดินแดนเวทย์มนต์สุดมหัศจรรย์ที่คับคั่งไปด้วยกิจกรรมมากมาย ทั้งกีฬาผาดโผนในลานสกี ตื่นตาตื่นใจกับโชว์ Lumberjack Show การแข่งขันตัดไม้แบบดั้งเดิม เดินเที่ยวชมอุโมงค์แสงไฟ Light Walk ทานอาหารและช้อปปิ้งในโซน Shopping Mall ปิดท้ายด้วยการชมภาพยนตร์ใน Theatre in the Sky เป็นต้น
Opening Hours: ทุกวัน 9.00 น. - 21.30 น.
Admission Fee: เริ่มต้น 85 CAD/ท่าน
Website: www.grousemountain.com
15. Vancouver Christmas Market
ตลาดคริสต์มาสริมทะเลที่จัดขึ้นทุกปีบริเวณ Jack Poole Plaza ใกล้กับ Canada Place เป็นหนึ่งในตลาดคริสต์มาสที่ยิ่งใหญ่และได้รับความนิยมมากที่สุดในแวนคูเวอร์ ด้วยกลิ่นอายของตลาดคริสต์มาสแบบแคนาดากับสไตล์ฝรั่งเศสดั้งเดิม แน่นไปด้วยร้านค้าในบรรยากาศคริสต์มาส ให้มาเดินช้อปสินค้าแฮนด์เมด เครื่องประดับ ของที่ระลึก รวมถึงขนมหวานและอาหารนานาชาติ พร้อมเพลิดเพลินไปกับโชว์และการแสดงดนตรีสดตลอดทั้งวัน
Opening Hours: (16 - 24 ธ.ค.) จันทร์ - ศุกร์ 16.00 น. - 21.30 น. / เสาร์ - อาทิตย์ 11.00 น. - 22.00 น.
16. VanDusen Festival of Lights
เทศกาลแสงสีที่จะฉายแสงให้แวนคูเวอร์กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายที่ได้รับความนิยมในช่วงฤดูหนาว (29 พ.ย. – 5 ม.ค.) ด้วยความอลังการของการจัดแสดงไฟกว่าล้านดวงทั่วทั้งสวน VanDusen Botanical Garden เส้นทางในสวนจะถูกปกคลุมด้วยดวงไฟหลากสีสัน ท่ามกลางผืนหิมะที่ปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ มีการแสดง Interactive Light Show ที่ผู้ชมสามารถร่วมสนุกได้ นอกจากนี้ยังมีบ้านขนมปังขิงและกิจกรรมสำหรับเด็ก ๆ เช่น การพบปะซานตาคลอสและฝูงกวางเรนเดียร์ ที่สร้างความประทับใจให้ผู้มาเยือน
Opening Hours: (29 พ.ย. – 5 ม.ค.) ทุกวัน 16.00 น. - 22.00 น.
Admission Fee: 24 CAD/ท่าน (เด็ก 16.50 CAD)
17. PNE Winter Fair
Winter Fair ที่จัดขึ้นในช่วงเดือนธ.ค. บริเวณ Pacific National Exhibition (PNE) เป็นเทศกาลที่รวบรวมกิจกรรมและความบันเทิงหลากหลายไว้ในที่เดียว เช่น ลานสเก็ตน้ำแข็งในร่ม การแสดงดนตรี การแสดงกายกรรมไฟ บูทเกมคริสต์มาส และร้านอาหารท้องถิ่นมากมาย
Opening Hours: (6 - 8 ธ.ค. และ 12 – 23 ธ.ค.) 16.00 – 22.00 น.
Admission Fee: เริ่มต้น 25 - 35 CAD/ท่าน (เด็ก 17 - 27 CAD)
เที่ยวแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ในฤดูหนาวคือการเปิดประสบการณ์สู่เมืองที่ทั้งสวยงามและมีชีวิตชีวาท่ามกลางหิมะขาวโพลน ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นใน Stanley Park ที่ปกคลุมด้วยหิมะ ชมวิวภูเขาและทะเลสาบสุดอลังการที่ Grouse Mountain หรือแวะจิบโกโก้ร้อนในคาเฟ่บรรยากาศอบอุ่นกลางเมือง แวนคูเวอร์ยังมีกิจกรรมมากมายให้เลือก ทั้งสำหรับสายแอดเวนเจอร์และคนที่ชอบความสงบ เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว และไม่ว่าจะเที่ยวแบบไหนก็ยิ่งคุ้มค่ากว่าเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC ที่มาพร้อมสิทธิพิเศษมากมาย พกใบเดียว เที่ยวได้ทุกทริปทั่วโลกแบบไม่มีสะดุด
ทุกทริปเที่ยวคุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC