เพราะใต้ทะเลนั้นสวยงามและซ่อนปริศนาไว้มากมาย นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้หลายคนผันตัวเป็นนักท่องโลกใต้ทะเล ใครที่กำลังมองหาพิกัดดำน้ำแสนสวย KTC ขอแนะนำ อินโดนีเซีย ดินแดนหมู่เกาะใกล้เมืองไทย ที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ประกอบไปด้วยเกาะแก่งต่าง ๆ มากถึง 17,508 เกาะ และหนึ่งในหมู่เกาะที่โดดเด่นมากที่สุดก็คือ “หมู่เกาะราชาอัมพัต” จุดหมายในฝันที่นักดำน้ำทั่วโลกต่างยกย่องให้เป็น “สวรรค์แห่งโลกใต้ทะเล”
หมู่เกาะราชาอัมพัต อินโดนีเซีย
ราชาอัมพัต (Raja ampat) มาจากภาษาอินโดนีเซีย มีความหมายว่า “ราชาทั้ง 4 พระองค์” ประกอบด้วยเกาะใหญ่จำนวน 4 เกาะคือ เกาะไวเกียว (Waigeo) เกาะมิซูล (Misool) เกาะซาลาวาติ (Salawati) เกาะบาตันตา (Batanta) และเกาะบริวารน้อยใหญ่อีกกว่า 1,500 เกาะ ตั้งอยู่ในบริเวณฝั่งตะวันตกของเกาะปาปัว (West Papua) เป็นจุดดำน้ำตื้น (Snorkeling) ที่ดีที่สุดในโลก และติดอันดับ 1 ใน 5 จุดหมายดำน้ำลึก (Diving) ได้รับฉายาว่า House Coral Reef เนื่องจากมีดินแดนสามเหลี่ยมปะการังที่อุดมสมบูรณ์กว่า 500 ชนิด มีขนาดรวมกันใหญ่เกินกว่า 70% ของแนวปะการังทั่วโลก เป็นที่อยู่อาศัยของปลาทะเลกว่า 1,300 สายพันธุ์ หอยกว่า 700 ชนิด และเต่าทะเล 6 ใน 7 สายพันธุ์ทั้งหมดที่มีอยู่บนโลก จนถูกขนานนามว่า “Amazon World Ocean” ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำของอินโดนีเซีย และถูกบันทึกในกินเนสส์บุ๊คว่าเป็นจุดหมายเดียวในโลกที่สามารถพบเห็นปลาได้มากกว่า 82 ชนิด ด้วยการดำน้ำเพียงครั้งเดียว
วิธีการเดินทางไปหมู่เกาะราชาอัมพัต อินโดนีเซีย
จากกรุงเทพฯ บินสู่ Soekarno–Hatta International Airport จาการ์ตา แล้วต่อเครื่องไปยัง Sultan Hasanuddin International Airport เพื่อเดินทางไปเมือง Sorong จากนั้นใช้บริการเรือเฟอร์รี่ หรือใช้เรือโดยสารประจำทางที่ท่าเรือ Sorong's Pelabuhan Rakyat ไปยังเกาะต่าง ๆ ในหมู่เกาะราชาอัมพัต ใช้เวลาเดินทางราว 2 - 3 ชม.
ช่วงเวลาที่ควรไปเที่ยวหมู่เกาะราชาอัมพัต อินโดนีเซีย
ต.ค. – เม.ย. คือช่วงเวลาดีที่สุดสำหรับการไปเที่ยวหมู่เกาะราชาอัมพัต ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีพายุฝน น้ำทะเลใสสะอาด สามารถพักผ่อนบนหาดทรายหรือสนุกกับการดำน้ำชมปะการังได้ตลอดทั้งวัน
หมู่เกาะราชาอัมพัต มีเกาะอะไรบ้าง?
1. เกาะซาลาวาติ (Salawati Island)
เช็กอินจุดหมายแรกกันที่เกาะซาลาวาติ เกาะขนาดกลางในหมู่เกาะราชาอัมพัตที่ตั้งอยู่ห่างจากเมือง Sorong ในเขตเกาะปาปัวตะวันตก ไปเพียง 20 นาที มีพื้นที่ประมาณ 1,623 ตร.กม. ถึงแม้จะไม่ได้รับความนิยมเท่าเกาะหลักอื่น ๆ แต่ก็ถือเป็นเกาะน้องใหม่ที่กำลังมาแรง มีจุดเด่นอยู่ที่ทัศนียภาพอุดมสมบูรณ์ และมีหาดทรายสวยหลายแห่ง ปัจจุบันเป็นเกาะที่เหล่านักธุรกิจกำลังจับตามองอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะเข้าไปพัฒนาการท่องเที่ยวภายในเกาะ และอาจเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกด้วยรีสอร์ตหรู โรงแรมสวย รวมถึงร้านอาหารและร้านค้ามากมายในอนาคต
2. เกาะบาตันตา (Batanta Island)
เกาะหลักที่มีขนาดเล็กที่สุดในหมู่เกาะราชาอัมพัต ตั้งอยู่ติดกับเกาะซาลาวาติ มีทัศนียภาพของภูเขาหินสูงใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยป่าฝนหนาแน่นทั่วทั้งเกาะ มีฉายาว่า “อัญมณีสีเขียวแห่งหมู่เกาะราชาอัมพัต” นักท่องเที่ยวนิยมแพลนทริปเดินป่าส่องนก เพราะบนเกาะนี้ถือเป็นที่อยู่อาศัยของนกท้องถิ่นอย่างนกแก้วและนกเงือกหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งหาดูไม่ได้จากที่อื่น กิจกรรมยอดนิยมบนเกาะบาตันตาคือ การเดินป่าขึ้นเขาไปชมการจับคู่กันของนกปักษาสวรรค์แดง หรือ Red Bird of Paradise นกประจำถิ่นที่พบได้เฉพาะบนเกาะบาตันตาและเกาะไวเกียวเท่านั้น ด้วยภูมิประเทศแบบป่าฝนขนาดใหญ่ ทำให้บนเกาะบาตันตาเต็มไปด้วยแหล่งน้ำธรรมชาติ มีเส้นทางปีนเขาที่พาลัดเลาะไปตามแนวลำธาร จนไปพบกับน้ำตกแสนชุ่มฉ่ำมากกว่า 10 แห่ง มีตั้งแต่น้ำตกขนาดเล็ก 5 ม. ไปจนถึงน้ำตกสูงใหญ่กว่า 80 ม. ระหว่างทางสามารถพบเห็นดอกไม้ป่าสีสันนานาพรรณ รวมถึงสัตว์น้ำตัวเล็ก ๆ เช่น ปูหิน จิงโจ้น้ำ ปลาและกุ้งเครย์ฟิชที่อาศัยอยู่ในลำธารน้ำใสแจ๋ว มองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเส้นทาง ใช้เวลาเดินสำรวจประมาณ 1 ชม.
3. เกาะไวเกียว (Waigeo Island)
เกาะหลักขนาดใหญ่ที่ได้ชื่อว่าเป็น “จักรพรรดิแห่งหมู่เกาะราชาอัมพัต” มีทัศนียภาพล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติและกำแพงหน้าผาสูงชัน เป็นที่ตั้งของเมืองหลวงประจำภูมิภาคอย่าง เมืองไวซาย (Waisai) ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของหมู่บ้านชาวประมงดั้งเดิม มีโฮมสเตย์ ร้านอาหาร ร้านค้า ตลาดนัดพื้นบ้าน รวมถึงมัสยิดสวยให้มาชมและสักการะกัน พร้อมทั้งยังเดินทางสะดวกสบาย มีรถโดยสารประจำทางและรถแท็กซี่ให้บริการรับ - ส่งถึงท่าเรือ จุดหมายหลักในการมาเยือนเกาะไวเกียวคือ มัสยิด Masjid Agung Waisai หรืออีกชื่อคือ Great Mosque Nurul Yaqin ศูนย์รวมจิตวิญญาณของชุมชน ก่อตั้งขึ้นโดยอิหม่าม Halimun Manam มีจุดเด่นคือ สถาปัตยกรรมแบบมุสลิมดั้งเดิม ถูกบรูณะด้วยสีสันสวยงามสดใส พร้อมด้วยซุ้มประตูขนาดใหญ่และเสาไม้ประกอบรูปร่างสวยงามแปลกตาตั้งเรียงรายอยู่ตลอดสองข้างทาง ปัจจุบันเปิดเป็นอาคารเอนกประสงค์และศูนย์การเรียนรู้ด้านวัฒนธรรมสำหรับเด็กหรือนักท่องเที่ยวที่สนใจอยากเข้ามาชมความงดงามภายใน มาเยือนเกาะไวเกียวต้องไปตามรอยพิกัดความอร่อยกันที่ร้านอาหารท้องถิ่นเจ้าดังในเมืองไวซาย โดดเด่นด้วยบรรยากาศบ้านไม้ริมทะเล เสิร์ฟอาหารทะเลสดใหม่ที่นำมาปรุงรสด้วยกรรมวิธีและเครื่องปรุงท้องถิ่น รสชาติอร่อยจัดจ้าน เมนูแนะนำ ได้แก่ Crispy Calamari หนวดปลาหมึกทอด Udang Asam Manis กุ้งผัดซอสมะเขือเทศ Fish Satay ปลาสะเต๊ะ และ Sago Martabak แพนเค้กสไตล์อินโด เป็นต้น
4. เกาะมิซูล (Misool Island)
เกาะสวยทางใต้สุดของหมู่เกาะราชาอัมพัต เกาะขนาดกลางที่อุดมไปด้วยป่าไม้ ล้อมรอบด้วยหาดทรายขาวละเอียด มีจุดเด่นคือ ลากูนที่เมื่อมองจากมุมสูงจะเห็นเป็นรูปหัวใจสวยงาม เป็นจุดหมายตากอากาศที่ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากเป็นเกาะหลักแห่งเดียวที่เป็นเกาะส่วนตัวภายใต้การดูแลของ “Misool Eco Resort” สามารถจองที่พักเพื่อมาพักผ่อนได้อย่างสบายใจ นอกจากนี้ยังมีบริการล่องเรือยอชท์ส่วนตัวทัวร์รอบเกาะ และกิจกรรมดำน้ำชมปะการังหลากสีสันอันเป็นแหล่งอาศัยของฝูงปลาทะเลกว่า 1,200 ชนิดอีกด้วย ตอบโจทย์ด้านการพักผ่อนที่แท้จริง สายดำน้ำต้องไม่พลาด กิจกรรมดำน้ำรอบเกาะมิซูล หนึ่งในจุดดำน้ำที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในหมู่เกาะราชาอัมพัต มีแนวปะการังเรียงตัวสวยงาม คลื่นสงบ น้ำใส หากโชคดีจะสามารถพบเห็นปลาหลากหลายชนิด เช่น ปลากระเบนราหู ปลาพะยูน ปลาทูน่ายักษ์ ปลากะพง และปลาน้ำดอกไม้ ได้อีกด้วย
หมู่เกาะราชาอัมพัต (Raja Ampat) ดินแดนสวรรค์แห่งโลกใต้ทะเลของอินโดนีเซีย คือจุดหมายในฝันของนักดำน้ำและผู้หลงใหลธรรมชาติ ด้วยความงดงามของแนวปะการังหลากสีสัน น้ำทะเลใสบริสุทธิ์ และความอุดมสมบูรณ์ของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่หาชมได้ยาก ที่นี่จึงถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในจุดดำน้ำที่สวยที่สุดในโลก ไม่ว่าคุณจะเป็นสายดำน้ำลึกหรือชื่นชอบการดำน้ำตื้น หมู่เกาะราชาอัมพัตก็พร้อมมอบประสบการณ์สุดประทับใจให้กับทุกคน และเพื่อให้ทุกทริปเที่ยวคุ้มค่ายิ่งขึ้น อย่าลืมจองตั๋วเครื่องบินและที่พักผ่านบัตรเครดิต KTC ที่มาพร้อมโปรโมชั่นพิเศษจากพาร์ทเนอร์ชั้นนำ ให้คุณเดินทางสบาย ใจเต็มอิ่มกับทุกการผจญภัยใต้ท้องทะเล
ทุกทริปเที่ยวคุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC