ปี 2025 นี้ โอซาก้ากำลังถูกจับตามองในฐานะจุดหมายระดับโลก กับการเป็นเจ้าภาพงาน World Expo 2025 Osaka Kansai งานมหกรรมที่รวบรวมนวัตกรรมแห่งอนาคตไว้มากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ นอกจากบทบาทระดับโลกแล้ว เมืองนี้ยังเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิต เสน่ห์เฉพาะตัว และการหลอมรวมทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นและความล้ำสมัย ไปสำรวจโอซาก้ากับเช็กลิสต์สำคัญที่นักเดินทางไม่ควรพลาดในปีนี้ บินตรงสู่โอซาก้ากับสายการบินมากมายทั้ง Full Service และ Budget Airlines หรือจะเดินทางจากโตเกียวก็บินเพียง 1.30 ชม. จากสนามบิน Narita หรือ Haneda ไปสนามบินคันไซ หรือนั่งรถไฟ Shinkansen ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม. เมื่อถึงโอซาก้าคุณสามารถใช้รถไฟใต้ดินเพื่อเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ รวมถึงสถานีเกาะยูเมะชิมะที่จัดงาน Osaka World Expo 2025 ได้เลย
World Expo 2025 จัดที่ไหน ?
งาน World Expo 2025 จัดขึ้นที่เกาะยูเมะชิมะ (Yumeshima) ระหว่างวันที่ 13 เม.ย. – 13 ต.ค. 2568 ในเขตโคโนฮานะ เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น
World Expo 2025 Osaka Kansai
ไฮไลท์ประจำปีที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งคือ งานมหกรรมโลกโอซาก้า 2025 (World Expo 2025 Osaka Kansai) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 เม.ย. – 13 ต.ค. 2568 ที่เกาะยูเมะชิมะ (Yumeshimanaka) เกาะเทียมกลางน้ำบริเวณปากแม่น้ำโยโดะ ภายใต้แนวคิด “ออกแบบสังคมแห่งอนาคตเพื่อชีวิตของเรา” ตำนานบทใหม่ที่จะเป็นโอกาสสำคัญในการไปสำรวจแนวคิดและนวัตกรรมจากประเทศต่าง ๆ ที่มุ่งสร้างสังคมที่ยั่งยืนและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ผ่านการจัดแสดง Pavilion ที่จะนำเสนอความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ และการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมของประเทศต่าง ๆ จากทั่วโลก
ภายในงาน World Expo 2025 Osaka Kansai คุณจะได้สัมผัสกับเทคโนโลยีและการออกแบบในอนาคตที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้จริง ภายใต้โซนที่นำเสนอแนวคิดการออกแบบชีวิตในอนาคต ทั้งหมด 8 โซน ประกอบด้วย Future Life Zone โซนชีวิตแห่งอนาคต / West Gate Zone โซนประตูตะวันตก / Forest of Tranquility Zone โซนป่าแห่งความสงบสุข / Signature Zone โซนลายเซ็น / East Gate Zone โซนประตูตะวันออก / Connecting Lives Zone โซนเชื่อมต่อชีวิต / Empowering Lives Zone โซนเสริมพลังชีวิต และ Save Lives Zone โซนช่วยชีวิต ซึ่งแต่ละโซนจะมี Pavilion จากประเทศต่าง ๆ ที่นำเสนอแนวคิดอันล้ำสมัยในการพัฒนาโลกยุคใหม่ให้ดียิ่งขึ้นในทุกมิติ
จุดเช็กอินใน World Expo 2025 Osaka Kansai
1. Japan Pavilion
Pavillion เจ้าภาพในโซน East Gate Zone เน้นการนำเสนอการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืน โดดเด่นด้วยอาคารรูปทรงกลมประกอบด้วยแผ่นไม้จำนวนมากที่จัดเรียงอย่างมีระเบียบและพุ่งทะยานขึ้นไปบนฟากฟ้า สะท้อนถึงการเชื่อมโยงระหว่างธรรมชาติและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การออกแบบนี้สื่อถึงวัฏจักรชีวิตและพลังงานธรรมชาติที่สำคัญในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ อีกทั้งยังใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการบริหารจัดการพลังงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ภายในให้ผู้เข้าชมสัมผัสประสบการณ์การใช้ชีวิตในเมืองแห่งอนาคต
2. Nordic Pavilion
Nordic Pavilionหรือ Kingdom of Sweden Pavilion ซึ่งประกอบด้วยเดนมาร์ก นอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์ และไอซ์แลนด์ ร่วมถ่ายทอดวิสัยทัศน์แห่งการพัฒนาเมืองยั่งยืน ผ่านเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม พลังงานแสงอาทิตย์และลม การใช้วัสดุธรรมชาติ และการจัดการน้ำฝนอย่างชาญฉลาด Pavilion นี้ยังสะท้อนแนวคิดเมืองอัจฉริยะที่ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Nordic Circle” ซึ่งรวมพลังสะอาดและความคิดสร้างสรรค์เพื่อเชื่อมโยงโลกใบใหม่ พร้อมเชิญชวนชุมชนโลกมาร่วมเฉลิมฉลอง แบ่งปัน และแลกเปลี่ยน เพื่อสร้างความไว้วางใจและขับเคลื่อนอนาคตที่ยั่งยืนไปด้วยกัน
3. Germany Pavilion
อีกหนึ่ง Pavilion ที่นำเสนอแนวคิดการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนผ่านการออกแบบที่ใช้งานได้จริง ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมโครงสร้างพื้นฐานและระบบขนส่งที่รองรับอนาคต ภายใต้ธีม “Circular Economy” หรือ “Wa! Germany” ซึ่งพ้องเสียงกับคำว่า “Wa” ในภาษาญี่ปุ่นที่สื่อถึงความหมุนเวียน ความสามัคคี และความตื่นตาตื่นใจ ตัว Pavilion จึงเป็นนิทรรศการมีชีวิตที่รวมสถาปัตยกรรม ภูมิทัศน์ และองค์ประกอบจัดแสดงเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อถ่ายทอดแนวทางสู่โลกที่หมุนเวียนและยั่งยืนอย่างแท้จริง
4. China Pavilion
Pavilion ที่เน้นการสร้างอาคารจากวัสดุจากธรรมชาติ ภายใต้ธีม “Building a Community of Life For Man And Nature - Future Society of Green Development” ได้รับแรงบันดาลใจจากไม้ไผ่และม้วนพับของการเขียนพู่กันที่มีความสำคัญต่อวัฒนธรรมจีนมายาวนาน สะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ ด้วยรูปทรงที่สื่อถึงความยืดหยุ่นและการเจริญเติบโต ดั่งไม้ไผ่ที่เป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งและการเจริญเติบโต นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงนวัตกรรมด้านพลังงานหมุนเวียนและการเกษตรแบบยั่งยืนอีกด้วย
5. Thailand Pavilion
การเข้าร่วมของประเทศไทยในครั้งนี้มาพร้อมการนำเสนอแนวคิด “Thailand Connecting Lives for Greatest Happiness” สะท้อนการเชื่อมโยงชีวิตและความสุขในสังคมไทย ภายใต้สถาปัตยกรรมไทยดั้งเดิมที่สอดแทรกไปด้วยความทันสมัย โดยใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้และหิน พร้อมนำเสนอภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น การแพทย์แผนไทย การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และนวัตกรรมทางอาหาร เพื่อยกระดับไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ ภายใต้แนวคิด 3 ด้าน ได้แก่ Saving Live, Empowering Live และ Connecting Live รวมถึงการแสดงอัตลักษณ์ไทยผ่านนิทรรศการ “วิมานไทย (VIMANA THAI)” ที่จะเผยให้เห็นความงามของชาวไทยผ่านรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์
แนะนำร้านอาหารโอซาก้า
1. Takoyaki Dotonbori Kukuru Konamon Museum
มาถึงโอซาก้าแล้วไม่ลองทาโกะยากิที่ Dotonbori Konamon Museum ถือว่าพลาด! เพราะที่นี่ไม่เพียงแค่เสิร์ฟทาโกะยากิอร่อย ๆ แต่ยังสามารถทำทาโกะยากิด้วยตัวเองได้อีกด้วย
Address: 1-6-12 Dotonbori, Chūō-ku, Osaka, Japan
Tel: +81 6 6211 8080
Opening Hours: ทุกวัน 11.00 น. - 21.00 น.
2. Okonomiyaki Mizuno
อิ่มอร่อยกับโอโคโนมิยากิหรือพิซซ่าญี่ปุ่นรสเด็ดเจ้าดัง ขวัญใจนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น ขึ้นชื่อด้วยเทคนิคการทำพิซซ่าญี่ปุ่นที่รสชาติอร่อยลงตัว และเนื้อสัมผัสนุ่มละมุนลิ้น
Address: 1-4-15 Dotonbori, Chūō-ku, Osaka, Japan
Tel: +81 6 6211 6268
Opening Hours: 11.00 น. - 22.00 น. หยุดวันพฤหัส
3. Kushikatsu Daruma – Dotonbori
ลิ้มรสอาหารทอดเสียบไม้ “คุชิคัตสึ” หนึ่งในเมนูยอดฮิตในโอซาก้า รสสัมผัสที่กรอบอร่อยเต็มคำ ในบรรยากาศคึกคักและเป็นกันเอง สำหรับนักชิมที่ต้องการสัมผัสกับประสบการณ์การทานอาหารแบบชาวโอซาก้าท้องถิ่น
Address: 1-6-8 Chuo Ward, Dotonbori, Chūō-ku, Osaka, Japan
Tel: +81 6 6211 0705
Opening Hours: ทุกวัน 11.00 น. - 22.30 น.
4. Daidokoro Kamiya
ร้านอิซากายะชื่อดังที่ได้รับการแนะนำใน Michelin Guide ด้วยวัตถุดิบทะเลสดใหม่ตามฤดูกาล เสิร์ฟพิถีพิถันทุกจาน บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง ให้คุณได้ลิ้มรสรสชาติแท้ ๆ ของโอซาก้า
Address: 1-10-12 Kyomachibori, Nishi-ku, Osaka, Japan
Tel: +81 70 2831 4275
Opening Hours: ทุกวัน 18.00 น. - 22.00 น.
5. Tsurutontan Soemoncho
สายอูด้ง ต้องไม่พลาดร้านเด็ดที่เสิร์ฟน้ำซุปเข้มข้น พร้อมเส้นอูด้งเหนียวนุ่มลงตัว อร่อยเพลินอย่างเรียบง่ายและทันสมัย จัดเต็มเครื่องเคียงที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร พิเศษที่ร้านเปิดให้บริการหลังเที่ยงคืนจนถึงเช้าตรู่
Address: 3-17 Souemoncho, Chuo Ward, Osaka, Japan
Tel: +81 6 6211 0021
Opening Hours: ทุกวัน 24.00 น. - 6.00 น. / 11.00 น. - 24.00 น.
แนะนำโรงแรมโอซาก้า
1. The St. Regis Osaka
ที่สุดของความสง่างามใจกลางมหานครโอซาก้าบนถนนมิโดซูจิ ถนนสายแฟชั่นและศิลปะแห่งโอซาก้า ที่ความหรูหราระดับโลกผสานเข้ากับเสน่ห์แบบญี่ปุ่นได้อย่างไร้ที่ติ ทุกห้องพักตกแต่งด้วยสไตล์ร่วมสมัยแฝงกลิ่นอายตะวันออก พร้อมบริการ Butler Service อันเลื่องชื่อของ St. Regis ที่พร้อมดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็น การจัดเตรียมชาในยามบ่ายหรือการจัดกระเป๋าเดินทาง ที่ใส่ใจทุกรายละเอียด บนชั้นสูงสุดของโรงแรม จะได้ดื่มด่ำกับทัศนียภาพของเมืองโอซาก้าแบบพาโนรามา ขณะลิ้มลองอาหารรสเลิศจากห้องอาหารฝรั่งเศส La Veduta หรือจิบค็อกเทลซิกเนเจอร์ที่ The St. Regis Bar
Address: 3-6-12 Hommachi, Chuo-ku, Osaka, Japan
Tel: +81 6 6258 3333
Website: www.stregisosaka.com
2. Swissotel Nankai Osaka
ตั้งอยู่ใจกลางย่านนัมบะของโอซาก้า ห้องพักกว้างขวาง ตกแต่งอย่างทันสมัย อาหารเช้ามีให้เลือกหลากหลาย พร้อมห้องอาหาร สปา ห้องออกกำลังกาย และสระว่ายน้ำในร่ม อีกทั้งยังใกล้สถานีรถไฟ Namba เดินทางสะดวกสบาย สามารถเดินทางไปแหล่งช้อปปิ้งและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ย่านโดทงโบริและชินไซบาชิ ได้รวดเร็ว
Address: 5-1-60 Namba, Chuo-ku, Osaka, Japan
Tel: +81 6 6646 1111
Website: www.swissotel.com
3. The Park Front Hotel Osaka
หากคุณกำลังมองหาที่พักที่สะดวกสบายและหรูหราที่ตั้งอยู่ใกล้กับสวนสนุก Universal Studios Japan โรงแรม The Park Front Hotel at Universal Studios Japan คือทางเลือกที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยระดับความหรูหราของโรงแรม 4 ดาวที่ตั้งอยู่เพียงไม่กี่ก้าวจากทางเข้าสวนสนุก คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนที่เต็มไปด้วยความสะดวกสบาย พร้อมวิวที่สามารถมองเห็นสวนสนุกได้จากห้องพัก นอกจากนี้ยังมีสถานีรถไฟ Universal City ที่อยู่ใกล้เคียง ทำให้การเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในโอซาก้าเป็นเรื่องง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น
Address: 1-1-111 Sakurajima, Konohana-ku, Osaka, Japan
Tel: +81 6 6463 5000
Website: www.parkfront-hotel.jp
World Expo 2025 Osaka Kansai มหกรรมระดับโลกที่จัดขึ้นบนเกาะยูเมะชิมะ เมืองโอซาก้า ระหว่างวันที่ 13 เมษายน – 13 ตุลาคม 2025 ภายใต้ธีม “Designing Future Society for Our Lives” ไฮไลต์ของงานมีทั้งพาวิลเลียนจากกว่า 150 ประเทศ และ “Grand Ring” โครงสร้างไม้ยักษ์สุดอลังการ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางสะดวกด้วยรถไฟใต้ดินสาย Chūō ถึงสถานี Yumeshima ที่เพิ่งเปิดใหม่ พร้อมแนะนำร้านอาหารโอซาก้าที่ต้องห้ามพลาด เดินเที่ยวงาน World Expo 2025 Osaka Kansai แล้วก็หาของกินอร่อยๆต่อได้เลย แถมแนะนำที่พักสุดหรูที่รับรองว่าประทับใจเมื่อเข้าพักแน่นอน และถ้าอยากให้ทริปคุ้มค่ายิ่งขึ้น อย่าลืมสมัครบัตรเครดิต KTC เพื่อรับสิทธิพิเศษและสิทธิประโยชน์กับพาร์ทเนอร์ชั้นนำมากมาย ใช้จ่ายสะดวกทุกการเดินทาง
เที่ยวโอซาก้าคุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC