ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเมืองรองที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักมองข้าม เพราะคิดว่าไม่ค่อยมีที่เที่ยว แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าจังหวัดบุรีรัมย์มีที่เที่ยวหลากหลายและน่าสนใจมาก ทั้งยังเป็นจังหวัดที่เดินทางได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นรถโดยสารประจำทาง รถไฟ เครื่องบิน หรือจะขับรถเที่ยวแบบส่วนตัวก็สะดวก และนี่คือ 20 ที่เที่ยวบุรีรัมย์ในเมือง ธรรมชาติ ภูเขา น้ำตก อ่างเก็บน้ำในปี 2568
1. ศาลพระหลักเมืองบุรีรัมย์ (Buriram City Pillar Shrine)
มาต่างเมืองทั้งทีต้องเสริมความเป็นสิริมงคลให้เที่ยวอย่างแคล้วคลาดปลอดภัยด้วยการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ ศาลพระหลักเมืองบุรีรัมย์ โดยที่เที่ยวบุรีรัมย์ในเมืองแห่งนี้ เป็นสถาปัตยกรรมแบบขอม มียอด 5 ชั้น ภายในมีเสาหลักเมือง 2 ต้น มีเทพประจำทิศเพื่อปกป้องรักษาทิศต่างๆ ตามคติความเชื่อโบราณ นอกจากนี้ด้านข้างศาลหลักเมืองยังมี ศาลปึงเถ่ากงม่า ซึ่งเป็นศาลเจ้าจีน ประดิษฐานรูปเหมือนเจ้าพ่อหลักเมือง ด้านซ้ายมีเทพเจ้าไฉ่ซิงเอียะ ด้านขวามีเทพเจ้ากวนอู เพื่อให้ชาวไทยเชื้อสายจีนได้มากราบไหว้ในบริเวณเดียวกัน
- ช่วงเวลาที่ควรไป : เที่ยวได้ทั้งปี
- เวลาทำการ : เปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 8.00-20.00 น.
- ที่อยู่ : ตำบลในเมือง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/6Rn1twgJWsnhi7fD7
- ค่าเข้าสถานที่ : ไม่มีค่าเข้า
- วิธีเดินทาง : ขับรถจากบุรีรัมย์ไปตามทางหลวงหมายเลข 218 จากนั้นเลี้ยวขวา เข้าสู่ ถนนหมายเลข 2074 ศาลพระหลักเมืองบุรีรัมย์ จะอยู่ทางขวามือ
2. วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง (Khao Kradong Forest Park)
สถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ และศึกษาประวัติศาสตร์ ธรณีวิทยา และชีววิทยา โดยเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟที่ยังคงปรากฏร่องรอยปากปล่องให้เห็นได้ชัดเจน นอกจากนี้ภายในวนอุทยานภูเขาไฟกระโดง ยังมีมณฑป ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานรองพระพุทธบาทจำลอง และมีพระสุภัทรบพิตร พระพุทธรูปองค์ใหญ่คู่เมืองบุรีรัมย์ อยู่บนยอดเขา ซึ่งสามารถชมวิวของเมืองบุรีรัมย์ได้ที่นี่ สำหรับการขึ้นไปยังเขากระโดงสามารถทำได้ 2 วิธี คือ เดินขึ้นบันได หรือขับรถขึ้นเขา ซึ่งระหว่างทางจะพบพระพุทธรูปปางต่างๆ เรียงรายอยู่เป็นระยะ
- ช่วงเวลาที่ควรไป : เที่ยวได้ทั้งปี
- เวลาทำการ : เปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 8.00-18.00 น.
- ที่อยู่ : ตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/SqYeR8sPULkQmc1y8
- ค่าเข้าสถานที่ : ไม่มีค่าเข้า
- วิธีเดินทาง : ขับรถจากบุรีรัมย์ไปตามทางหลวงหมายเลข 219 (บุรีรัมย์-ประโคนชัย) ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าวนอุทยานภูเขาไฟกระโดง
3. เขาอังคาร (Khao Angkhan)
เขาอังคารเกิดจากการปะทุของภูเขาไฟยุคควอเทอร์นารี อายุกว่า 700,000 ปี จุดที่เป็นปากปล่องใหญ่อยู่ที่เขากระดูกซึ่งเป็นจุดสูงสุด ส่วนรอบเขากระดูกเป็นแอ่งยุบปากปล่อง ซึ่งวัดเขาอังคารตั้งอยู่บนขอบของแอ่งนี้ โดยวัดดังกล่าวเป็นหนึ่งในที่เที่ยวบุรีรัมย์สุดฮิต มีพระพุทธรูปจำนวน 109 องค์ ล้อมรอบโบสถ์สามยอด ภายในโบสถ์มีภาพจิตรกรรมฝาผนังพุทธชาดก ทั้งยังมีใบเสมาหินบะซอล์ท สมัยทวาราวดี ซึ่งพบเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย นอกจากนี้ บริเวณรอบเขายังมีป่าเต็งรังที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งในฤดูฝนจะมีเห็ดหลากหลายชนิดขึ้นอยู่จำนวนมาก
- ช่วงเวลาที่ควรไป : เที่ยวได้ทั้งปี
- เวลาทำการ : เปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 8.00-18.00 น.
- ที่อยู่ : ตำบลเจริญสุข อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/hbZVzDe295RZJDy16
- ค่าเข้าสถานที่ : ไม่มีค่าเข้า
- วิธีเดินทาง : ขับรถจากบุรีรัมย์โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 218 (บุรีรัมย์-นางรอง) เป็นระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 24 (สีคิ้ว-อุบลราชธานี) ไปจนถึงหมู่บ้านตะโก ประมาณ 14 กิโลเมตร แล้วจึงเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2117 เมื่อเดินทางถึงบ้านตาเป็ก เลี้ยวขวาตามทางไปอำเภอละหานทรายประมาณ 13 กิโลเมตรจะพบทางแยกขวาไปวัดเขาอังคาร โดยขับไปอีกประมาณ 7 กิโลเมตร
4. อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง (Phanom Rung Historical Park)
หากไม่มาเยือนปราสาทพนมรุ้ง ก็เหมือนมาไม่ถึงบุรีรัมย์ โดยศาสนสถานแห่งนี้ตั้งอยู่บนยอดเขาพนมรุ้ง สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่องค์พระศิวะ โดดเด่นด้วยความงดงามอลังการของงานสถาปัตยกรรม ประติมากรรม ภาพสลัก ได้รับการยกย่องว่าเป็นปราสาทหินที่สวยที่สุดในเมืองไทย ไฮไลต์น่าสนใจของปราสาทพนมรุ้ง คือปรากฏการณ์พระอาทิตย์ขึ้นและตก สาดแสงส่องผ่านช่องประตูทั้ง 15 ช่อง เป็นแนวเดียวกัน ซึ่ง 1 ปี จะเกิดขึ้นแค่ 4 ครั้งเท่านั้น เชื่อว่าใครที่ได้มาชมปรากฏการณ์นี้ จะเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว เสมือนได้รับพรจากพระตรีมูรติ
- ช่วงเวลาที่ควรไป : เดือนมีนาคม เมษายน กันยายน และตุลาคม (ในทุกๆ ปี จะมีปรากฏการณ์พระอาทิตย์ขึ้นและตก สาดแสงส่องผ่านช่องประตูทั้ง 15 ช่อง เป็นแนวเดียวกัน 4 ครั้งเท่านั้น คือ พระอาทิตย์ขึ้นสาดแสงส่องลอดช่องประตู 2 ครั้ง ในช่วงวันที่ 3-5 เมษายน และวันที่ 8 -10 กันยายน พระอาทิตย์ตก สาดแสงส่องลอดช่องประตู 2 ครั้ง ในช่วงวันที่ 5-7 มีนาคม และวันที่ 5-7 ตุลาคม ของทุกปี)
- เวลาทำการ : เปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 6.00-18.00 น.
- ที่อยู่ : 114 ตำบลตาเป๊ก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/CXty9Z8WtUuFmGCQ7
- ค่าเข้าสถานที่ : 20 บาท
- วิธีเดินทาง : ขับรถจากบุรีรัมย์โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 218 (บุรีรัมย์-นางรอง) เป็นระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 24 (สีคิ้ว-อุบลราชธานี) ไปจนถึงหมู่บ้านตะโก ประมาณ 14 กิโลเมตร แล้วจึงเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2117 ผ่านบ้านตาเป๊ก อำเภอเฉลิมพระเกียรติอีกประมาณ 12 กิโลเมตร ก็จะถึงอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง
5. น้ำตกพนมรุ้ง (Phanom Rung Waterfall)
น้ำตกพนมรุ้ง มีต้นกำเนิดมาจากแหล่งกักเก็บน้ำบนยอดเขาพนมรุ้ง แล้วไหลผ่านไปตามร่องน้ำ เมื่อผ่านหน้าผาที่สูงชันก็จะกลายเป็นน้ำตกที่จุดนี้ จากนั้นก็จะไหลลงไปสู่อ่างเก็บน้ำเมือนเฮอร์ ที่อยู่เชิงเขาพนมรุ้งด้านทิศตะวันตก สำหรับจุดลงไปชมน้ำตก ตั้งอยู่บริเวณป้ายคำขวัญอำเภอเฉลิมพระเกียรติ เดินลัดเลาะป่าเล็กๆ ประมาณ30เมตร จะถึงธารน้ำตก จากนั้นเดินลงไปตามลำธารประมาณ100เมตร ก็จะถึงผาน้ำตก ซึ่งสูงประมาณ7-8เมตร ท่ามกลางธรรมชาติอันเขียวขจีของต้นไม้นานาชนิด บรรยากาศร่มรื่น และมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่งดงาม
- ช่วงเวลาที่ควรไป : น้ำตกพนมรุ้งจะมีน้ำไหลเฉพาะในช่วงฤดูฝนเท่านั้น (ประมาณเดือนกันยายน) โดยเฉพาะช่วงที่มีฝนตกหนักติดต่อกัน 2-3 วัน
- เวลาทำการ : เปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 6.00-18.00 น.
- ที่อยู่ : 114 ตำบลตาเป๊ก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/CXty9Z8WtUuFmGCQ7
- ค่าเข้าสถานที่ : 20 บาท
- วิธีเดินทาง : ขับรถจากบุรีรัมย์โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 218 (บุรีรัมย์-นางรอง) เป็นระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 24 (สีคิ้ว-อุบลราชธานี) ไปจนถึงหมู่บ้านตะโก ประมาณ 14 กิโลเมตร แล้วจึงเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2117 ผ่านบ้านตาเป๊ก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อีกประมาณ 12 กิโลเมตร ก็จะถึงอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ที่ภายในเป็นที่ตั้งของน้ำตกพนมรุ้ง
6. ปราสาทเมืองต่ำ (Prasat Muang Tam)
สร้างขึ้นจากคติความเชื่อของศาสนาฮินดู เพื่อใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา มีลักษณะของศิลปะแบบบาปวนและศิลปะขอมแบบคลังปะปนอยู่ด้วย ตัวปราสาทประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างหลักคือ ปราสาทอิฐ 5 องค์ ที่สร้างอยู่บนฐานเดียวกัน ก่อด้วยศิลาแลง ด้านหน้าของปราสาทมีบรรณาลัย 2 หลัง มีทับหลัง และซุ้มแกะสลักด้วยหินทรายอย่างงดงาม ล้อมรอบด้วยกำแพง 2 ชั้น คือระเบียงคด ที่ก่อด้วยหินทราย และกำแพงเมืองชั้นนอก ที่เป็นกำแพงศิลาแลง มีสระน้ำกรุด้วยศิลาแลงทั้ง 4 ทิศ มุมสระมีพญานาคหินทราย 5 เศียร ทอดตัวยาวรอบขอบสระน้ำ
- ช่วงเวลาที่ควรไป : เที่ยวได้ทั้งปี
- เวลาทำการ : เปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 7.00-18.00 น.
- ที่อยู่ : บ้านโคกเมือง ตำบลจรเข้มาก อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/rTB9pLzGgpQ8u8Jr8
- ค่าเข้าสถานที่ : 20 บาท
- วิธีเดินทาง : ขับรถจากบุรีรัมย์โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 218 (บุรีรัมย์-นางรอง) เป็นระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 24 (สีคิ้ว-อุบลราชธานี) ไปจนถึงหมู่บ้านตะโก ประมาณ 14 กิโลเมตร แล้วจึงเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2117 ผ่านบ้านตาเป๊ก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อีกประมาณ 20 กิโลเมตร ก็จะถึงปราสาทเมืองต่ำ
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.finearts.go.th/fad10/view/50122-แหล่งตัดหินบ้านกรวด-ตำบลปราสาท-อำเภอบ้านกรวด-จังหวัดบุรีรัมย์
7. แหล่งหินตัดบ้านกรวด (Ban Kruat Stone Quarry Site)
หนึ่งในที่เที่ยวบุรีรัมย์ยอดนิยมของอำเภอบ้านกรวด เป็นแหล่งหินทรายที่คนสมัยขอมโบราณตัดหินไปสร้างปราสาทในเขตอีสานใต้ แหล่งหินตัด หรือลานหินตัด อยู่ในบริเวณเขากลอยและเขากระเจียว ลักษณะเป็นเนินเขาและลานกว้างครอบคลุมพื้นที่กว่า 4,600 ไร่ ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยบริเวณนี้มีทั้งหินขนาดเล็กและใหญ่สลับกันเต็มพื้นที่ หินบางก้อนปรากฏรอยตอกเนื้อหินให้เป็นรูเรียงกันเป็นแนวยาว บางก้อนถูกเซาะสกัดเป็นร่องขาดจากกัน และยังมีหินที่ถูกตัดและงัดขึ้นมาเป็นแท่งสี่เหลี่ยมอยู่ทั่วไป
- ช่วงเวลาที่ควรไป : เที่ยวได้ทั้งปี
- เวลาทำการ : เปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 8.00-17.00 น.
- ที่อยู่ : ตำบลปราสาท อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/9qteEnrWXUCd7BiaA
- ค่าเข้าสถานที่ : ไม่มีค่าเข้า
- วิธีเดินทาง : ขับรถจากบุรีรัมย์โดยใช้เส้นทางสายบุรีรัมย์-ประโคนชัย ทางหลวงหมายเลข 219 ต่อด้วยทางสายประโคนชัย-บ้านกรวด ทางหลวงหมายเลข 2075 เดินทางตั้งอยู่ในเขตอำเภอบ้านกรวด บริเวณเขากลอยและเขากระเจียว การเดินทางใช้ เส้นทางสายบุรีรัมย์ - ประโคนชัย ทางหลวงหมายเลข 219 ต่อด้วยทางสายประโคนชัย-บ้านกรวด ทางหลวงหมายเลข 2075 เดินทางเลยบ้านกรวดไปทางละหานทราย 6 กม.
8. ปรางค์กู่สวนแตง (Prang Ku Suan Taeng)
จัดเป็นโบราณสถานสำคัญของอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ โดย ปรางค์กู่สวนแตง เป็นศิลปะสมัยบาปวนคล้ายนครวัด โดยกู่ แปลว่า ปรางค์หรือปราสาท ลักษณะของกู่ประกอบด้วย ปรางค์อิฐ 3 องค์ ตั้งเรียงกันในแนวเหนือ-ใต้ บนฐานศิลาแลงเดียวกัน อาคารทั้งหมดหันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีประตูหน้าเพียงประตูเดียว อีก 3 ด้าน เป็นประตูหลอก ปรางค์องค์กลางมีขนาดใหญ่เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ด้านหน้าทั้ง 3 ด้าน มีลักษณะยื่นออกมาและมีแผ่นศิลาทรายรองรับ ส่วนปรางค์อีก 2 องค์มีขนาดเล็กกว่า มีประตูเดียวทางด้านหน้า ส่วนผนังอีก 3 ด้าน ก่อเรียบทึบ
- ช่วงเวลาที่ควรไป : เที่ยวได้ทั้งปี
- เวลาทำการ : เปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย์ ตลอด 24 ชั่วโมง
- ที่อยู่ : ตำบลกู่สวนแตง อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ จังหวัดบุรีรัมย์
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/YS4pBVxyLA1bGZLx8
- ค่าเข้าสถานที่ : ไม่มีค่าเข้า
- วิธีเดินทาง : ขับรถจากบุรีรัมย์โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 2074 ผ่านอำเภอคูเมืองไปอำเภอพุทไธสง แยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 202 ระยะทาง 20 กิโลเมตร บริเวณกิโลเมตรที่ 10-11 เลี้ยวซ้ายเข้ากู่สวนแตงอีก 1.3 กิโลเมตร
9. อ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มาก (Huai Chorakhe Mak Reservoir)
แหล่งเยี่ยมชมนกกระเรียนพ่อแม่พันธุ์คู่แรกที่ปล่อยเข้าสู่ป่าในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มาก ซึ่งองค์กรสวนสัตว์ร่วมกับเขตห้ามล่าสัตว์ป่าฯ ได้นำนกกระเรียนพันธุ์ไทยมาปล่อยให้ดำเนินชีวิตตามธรรมชาติในอ่างเก็บน้ำแห่งนี้เพราะเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์ ร่มรื่นด้วยไม้ยืนต้น มีภูมิทัศน์ที่งดงาม เหมาะแก่การชมนกชมไม้และชมวิว ปัจจุบันนอกจากนกกระเรียนพันธุ์ไทยแล้วยังเต็มไปด้วยนกนานาชนิด ในน้ำพบปลาอย่างน้อย 18 ชนิด กลางน้ำมีพืชใต้น้ำ ได้แก่ สาหร่ายหางกระรอก ส่วนพืชลอยน้ำ ได้แก่ จอกหูหนู ผักบุ้ง ผักตบชวา
- ช่วงเวลาที่ควรไป : เที่ยวได้ทั้งปี
- เวลาทำการ : เปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 8.00-17.00 น.
- ที่อยู่ : ตำบลบ้านบัว อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/CXhhFtWAG7CJPihN7
- ค่าเข้าสถานที่ : ไม่มีค่าเข้า
- วิธีเดินทาง : ขับรถจากบุรีรัมย์ไปตามถนนหมายเลข 219 ประมาณ 27 กิโลเมตรเพื่อไปยังถนนหมายเลข 288 จากนั้นขับต่อไปอีกประมาณ 5.4 กิโลเมตร เบี่ยงซ้ายเล็กน้อย ไปยังถนนหมายเลข 2445 เมื่อเข้าสู่ถนนหมายเลข 2445 ขับต่อไปประมาณ 9.3 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวา อ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก จะอยู่ห่างออกไปประมาณ 2.1 กิโลเมตร ทางขวา
10. เสาหินบะซอลต์ภูเขาไฟ บุรีรัมย์ (Buriram Columnar Basalt)
ถูกขนานนามว่า แกรนด์แคนยอน บุรีรัมย์ โดย เสาหินบะซอลต์ภูเขาไฟ บุรีรัมย์ ตั้งอยู่บ้านโคกมะค่าโหรน เกิดจากการขุดพบโดยบังเอิญในการทำบ่อกักเก็บน้ำของหมู่บ้าน เป็นเสาหินบะซอลต์ขนาดใหญ่ที่มีความสมบูรณ์ ตั้งตระหง่าน บนเนื้อที่กว่า 7 ไร่ ความลึกกว่า 20 เมตร มีลายริ้วหินเป็นชั้นๆ ลักษณะเป็นแท่งยาวคล้ายกับเสาตั้งเรียงต่อขนานกัน ในแต่ละเสามีหน้าตัดเป็นรูปเหลี่ยมๆ (สี่เหลี่ยมถึงหกเหลี่ยม) เกิดจากการเย็นตัวและแข็งตัวของหินหนืดหรือลาวา โดยขณะที่เย็นตัวจะมีการหดตัวเกิดขึ้น ทำให้เกิดเป็นรอยแยกรูปเสา เป็นประติมากรรมธรรมชาติ
- ช่วงเวลาที่ควรไป : เที่ยวได้ทั้งปี
- เวลาทำการ : เปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย์ ตลอด 24 ชั่วโมง
- ที่อยู่ : บ้านโคกมะค่าโหรน ตำบลสะเดา อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/HuaYRBdhBfcV3ktH7
- ค่าเข้าสถานที่ : ไม่มีค่าเข้า
- วิธีเดินทาง : ขับรถจากบุรีรัมย์ไปตามถนนหมายเลข 219 เพื่อมุ่งสู่ถนนหมายเลข 218 เมื่อเข้าสู่ถนนหมายเลข 218 ขับต่อไปเรื่อยๆ ประมาณ 49 กิโลเมตร แล้วขับตรงผ่านทางแยกถนนหักเข้าสู่ถนนหมายเลข 24 ขับต่อไปประมาณ 900 เมตร เลี้ยวซ้าย เข้าสู่ ถนน รพช.1005 ขับต่อไปประมาณ 6 กิโลเมตรแล้วเลี้ยวซ้าย เข้าสู่ นางรอง – ละหานทราย โดย เสาหินบะซอลต์ภูเขาไฟ บุรีรัมย์ จะอยู่ห่างออกไปประมาณ 1.9 กิโลเมตร
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.facebook.com/prpya021063
11. เขื่อนลำนางรอง (Lam Nang Rong Dam)
เป็นเขื่อนดินฐานคอนกรีตขนาดใหญ่สำหรับเก็บกักน้ำไว้ใช้ด้านการเกษตร มีถนนลาดยางบนสันเขื่อนเชื่อมต่อไปยังหมู่บ้านตัวอย่าง หมู่บ้านพัฒนาหนองตาเยาว์ และหนองหว้า ที่สันเขื่อนมีหินลอยเป็นก้อนและแผ่น สีสันแบ่งกันเป็นชั้นสวยงามแปลกตา เขื่อนลำนางรองเป็นที่เที่ยวบุรีรัมย์ที่มีชื่อเสียง มีที่พัก ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวก ด้วยทะเลสาบเหนือเขื่อนอันกว้างใหญ่ หาดทรายสวยงามบรรยากาศดี อากาศเย็นสบาย ชาวบุรีรัมย์และนักท่องเที่ยวจึงนิยมไปพักผ่อน ชมวิว เล่นน้ำ และรับประทานปลาสดๆ จากเขื่อน
- ช่วงเวลาที่ควรไป : เที่ยวได้ทั้งปี
- เวลาทำการ : เปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย์ ตลอด 24 ชั่วโมง
- ที่อยู่ : ตำบลโนนดินแดง อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/s7XBVaHAtsvrQixZ6
- ค่าเข้าสถานที่ : ไม่มีค่าเข้า
- วิธีเดินทาง : ขับรถจากบุรีรัมย์โดยใช้ถนนหมายเลข 218 ไปทางถนนหมายเลข 24 มุ่งไป ตำบลถนนหัก เป็นระยะทางประมาณ 40.3 กิโลเมตร ขับตรงผ่านทางแยกถนนหักเข้าสู่ถนนหมายเลข 24 ขับไปเรื่อยๆ ประมาณ 4 กิโลเมตรแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหมายเลข 348 ขับต่อไปอีก 41.3 กิโลเมตรแล้วเลี้ยวซ้าย เขื่อนลำนางรอง จะอยู่ห่างออกไปประมาณ 1.6 กิโลเมตร
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.facebook.com/p/เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่-จบุรีรัมย์-100064388361381/
12. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ (Dong Yai Wildlife Sanctuary)
ที่เที่ยวบุรีรัมย์แห่งนี้เป็นป่าธรรมชาติผืนใหญ่ที่ยังคงสภาพอุดมสมบูรณ์ ภายในมีหน่วยพิทักษ์ป่าละเลิงร้อยรู ซึ่งมีพื้นที่เป็นเวิ้งแอ่งขนาดใหญ่ มีรูของตาน้ำผุดขึ้นจากดินเป็นร้อยๆ รู ก่อให้เกิดสภาพความหลากหลายทั้งทางพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์มากมาย อีกหนึ่งพิกัดภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ที่ไม่ควรพลาดคือ จุดชมวิวผาแดง ซึ่งโดดเด่นด้วยทัศนียภาพผืนป่าธรรมชาติอันกว้างใหญ่สวยงามของเทือกเขาบรรทัด และป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ นักท่องเที่ยวจึงนิยมเดินทางมาสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ ชมพระอาทิตย์ตก และชมทะเลหมอกในฤดูหนาว
- ช่วงเวลาที่ควรไป : เที่ยวได้ทั้งปี
- เวลาทำการ : เปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย์ ตลอด 24 ชั่วโมง
- ที่อยู่ : ตำบลโนนดินแดง อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/DHMtY4ojF7Cvew7h8
- ค่าเข้าสถานที่ : ติดต่อสอบถามสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ โทร. 044 666 209
- วิธีเดินทาง : ขับรถจากบุรีรัมย์โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 218 สายบุรีรัมย์–นางรอง ผ่านอำเภอปะคำ อำเภอโนนดินแดง
ขอบคุณรูปภาพจาก https://thai.tourismthailand.org/Attraction/อ่างเก็บน้ำห้วยตลาด-และสวนนกบุรีรัมย์
13. อ่างเก็บน้ำห้วยตลาด (Huai Talat Reservoir)
ใครชอบดูนกพร้อมชมวิวเขื่อน แนะนำให้มาที่นี่ โดยอ่างเก็บน้ำห้วยตลาดเป็นที่อยู่อาศัยของนกนานาชนิดจำนวนมาก กรมป่าไม้ได้กำหนดให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า เมื่อปี พ.ศ. 2523 ในแต่ละปีมีนกมาอาศัยอยู่กว่า 100 ชนิด โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน จะมีนกมาอาศัยอยู่จำนวนมากเป็นพิเศษ บางชนิดหาดูได้ยาก เช่น นกเป็ดหงส์ นกเป็ดก่า นกกาบบัว นอกจากนี้ในช่วงหน้าร้อนชาวบุรีรัมย์นิยมพาครอบครัวมาเล่นน้ำคลายร้อนกันด้วย อ่างเก็บน้ำจึงคึกคักเป็นพิเศษจากผู้คนและพ่อค้าแม่ค้าที่นำสินค้า อาหาร เครื่องดื่ม มาจำหน่าย
- ช่วงเวลาที่ควรไป : เที่ยวได้ทั้งปี
- เวลาทำการ : เปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 8.00-18.00 น.
- ที่อยู่ : ตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Rvqe9JLpTdpXNBvX9
- ค่าเข้าสถานที่ : ไม่มีค่าเข้า
- วิธีเดินทาง : ขับรถจากบุรีรัมย์โดยใช้เส้นทางหมายเลข 2445 (บุรีรัมย์-ประโคนชัย) ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.facebook.com/BanSanuanNokVillage/
14. หมู่บ้านท่องเที่ยวไหม บ้านสนวนนอก (Ban Sanuan Nok Village)
หมู่บ้านเล็กๆ ในอำเภอห้วยราช ที่ยังมีการใช้ภาษาเขมรเป็นภาษาท้องถิ่น ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพผลิตผ้าไหม ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมายาวนาน ปัจจุบันมีการเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการผลิตผ้าไหมให้นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถเข้ามาเรียนรู้วิธีการผลิตผ้าใหม่ทุกขั้นตอน ตั้งแต่การปลูกหม่อน เลี้ยงไหม การฟอกไหม การทอผ้าไหม และการแปรรูป นอกจากนี้ในหมู่บ้านก็ยังมีที่เที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น ตลาดโบราณ และบ้านโบราณ ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี หรือหากอยากค้างคืนชมวิถีชาวบ้าน ก็มีโฮมสเตย์ ไว้คอยต้อนรับหลายหลัง
- ช่วงเวลาที่ควรไป : เที่ยวได้ทั้งปี
- เวลาทำการ : เปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 8.00-17.00 น.
- ที่อยู่ : บ้านสนวนนอก ตำบลสนวน อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/VdASiD5V9RHgwenBA
- ค่าเข้าสถานที่ : หากต้องการวิทยากรพาเที่ยวชมในหมู่บ้านต้องนัดหมายล่วงหน้า สอบถามข้อมูล โทร. 080 472 4435, 085 411 4435
- วิธีเดินทาง : ขับรถจากบุรีรัมย์ไปตามถนนหมายเลข 219 เพื่อมุ่งสู่ตำบลสนวน โดยมีระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวขวา ขับต่อไปอีกประมาณ 600 เมตร จะถึงชุมชนบ้านสวนนอก
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.facebook.com/ChangArenaBuriram/?locale=th_TH
15. ช้างอารีนา (Chang Arena)
สร้างขึ้นเพื่อเป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยช้างอารีนา เป็นสนามฟุตบอลที่ได้มาตรฐานแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่ไม่มีลู่วิ่งคั่นสนาม ผ่านมาตรฐานการรับรองจากฟีฟ่าและเอเอฟซี โดยแลนด์มาร์คบุรีรัมย์แห่งนี้ เปิดให้เข้าชมฟรี โดยบริเวณทางออกของสนามมีร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึกของทีม รวมถึงมีเคาน์เตอร์จำหน่ายกาแฟและเครื่องดื่มด้วย ในวันที่ไม่มีแมตช์การแข่งขัน บริเวณพื้นที่ของช้างอารีนาก็เต็มไปด้วยพื้นที่กิจกรรมเล่นกีฬา อาทิ สนามบาสเกตบอล ฟุตซอล ตะกร้อ วอลเลย์บอล กีฬาเอ็กซ์ตรีม
- ช่วงเวลาที่ควรไป : เที่ยวได้ทั้งปี
- เวลาทำการ : เปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 9.30-17.00 น.
- ที่อยู่ : ตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/ZzcbsHoX1qXumZWD7
- ค่าเข้าสถานที่ : ไม่มีค่าเข้า (ยกเว้นวันที่มีแข่ง) โดยจะเข้าถึงสนามได้แค่บางส่วน แต่ถ้าใช้บริการสเตเดียมทัวร์ ราคา 200 บาท จะมีเจ้าหน้าที่นำชมสนามตั้งแต่ชั้น 1-4 ทุกซอกทุกมุม
- วิธีเดินทาง : ขับรถจากบุรีรัมย์โดยใช้เส้นทางถนนหมายเลข 2445 เพื่อเข้าสู่สนามฟุตบอลช้างอารีนา หรือนั่งรถสองแถวสาย 1 (สีชมพู) โดยเส้นทางเริ่มจากสถานีรถไฟบุรีรัมย์-ชลประทานบุรีรัมย์ ขับผ่านหน้าสนามฟุตบอลช้างอารีนา
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.facebook.com/buriramcastle2015/
16. บุรีรัมย์ คาสเซิล (Buriram Castle)
ครบจบในที่เดียวทั้งกิน ช้อป ชิล ต้องยกให้ บุรีรัมย์ คาสเซิล โดยที่เที่ยวบุรีรัมย์แห่งนี้เป็น Lifestyle Shopping Avenue แหล่งรวมร้านอร่อยของเมืองบุรีรัมย์ ร้านขายเสื้อผ้า สินค้าที่ระลึก บริการด้านสุขภาพและความงาม สปา แหล่งของแฟนคลับฟุตบอลชาว GU12 มีลานกิจกรรม สนามเด็กเล่น นอกจากนี้ ยังเป็นที่ตั้งของสวนศิวะ 12 ประกอบไปด้วยสวนกระบองเพชรขนาดใหญ่ กล้วยไม้ และพันธุ์ไม้หายาก มีมหาศิวลึงค์ทำจากหินทราย สูง 9 เมตร ซึ่งใหญ่ที่สุดในโลก รายรอบด้วยแผ่นศิลาหินทรายกามาสูตร 12 ท่า พร้อมเส้นทางวิ่งออกกำลังกายโดยรอบ
- ช่วงเวลาที่ควรไป : เที่ยวได้ทั้งปี
- เวลาทำการ : เปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-21.00 น.
- ที่อยู่ : อำภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/pzR79HEDjhpr89jU7
- ค่าเข้าสถานที่ : ไม่มีค่าเข้า
- วิธีเดินทาง : ขับรถจากบุรีรัมย์โดยใช้เส้นทางถนนหมายเลข 2445 เพื่อเข้าสู่สนามฟุตบอลช้างอารีนา หรือนั่งรถสองแถวสาย 1 (สีชมพู) โดยเส้นทางเริ่มจากสถานีรถไฟบุรีรัมย์-ชลประทานบุรีรัมย์ ขับผ่านหน้าสนามฟุตบอลช้างอารีนา หรือนั่งรถสองแถวสาย 1 (สีชมพู)
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.facebook.com/sroewgroundwalkingstreet
17. ถนนคนเดินเซราะกราว (Sroew Ground Walking Street)
ถ้าชอบกินชอบช้อป พร้อมชมแสงสียามค่ำคืน ไม่ควรพรากที่เที่ยวบุรีรัมย์กลางคืนแห่งนี้ สำหรับคำว่า เซราะกราว มาจากชื่อกองเชียร์ของทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นภาษาถิ่นหมายถึง คนบ้านนอก โดยถนนคนเดินเซราะกราว เป็นจุดรวมของดีประจำท้องถิ่น มีคนในพื้นที่มาออกร้านรวมกว่า 300 ร้านค้า มีของหลากหลาย ทั้งของกิน ของใช้ งานศิลปหัตถกรรม สินค้าพื้นเมือง ผลิตภัณฑ์ชุมชนจากภูมิปัญญาชาวบ้าน มีโซนริมน้ำสำหรับนั่งกินอาหาร พร้อมชมน้ำพุสวยๆ นอกจากนี้ยังมีการแสดงดนตรีและศิลปะพื้นบ้านให้ได้ชมกันด้วย
- ช่วงเวลาที่ควรไป : เที่ยวได้ทั้งปี
- เวลาทำการ : วันเสาร์ เปิดเวลา 17.00-22.00 น. อาทิตย์ เปิดเวลา 18.30-22.00 น.
- ที่อยู่ : ถนนรมย์บุรี ตำบลในเมือง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/65QYb1FV9mjy8mXf9
- ค่าเข้าสถานที่ : ไม่มีค่าเข้า
- วิธีเดินทาง : ขับรถจากบุรีรัมย์ไปตามถนนรมย์บุรี จนถึงบริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัด ถนนคนเดินเซราะกราวจะมีความยาวจากถนนจิระไปยังสี่แยกตลาดไนท์บาซาร์ บริเวณคลองละลม (คูเมืองโบราณลูกที่ 1) จุดสังเกตอยู่ใกล้กันกับสถานีรถไฟจังหวัดบุรีรัมย์ในระยะห่างจากสถานีรถไฟราวๆ 500 เมตร หรือนั่งรถสองแถวสาย 1 (สีชมพู)
18. เพ ลา เพลิน (Play La Ploen)
สะดวกสบายเพราะเป็นทั้งที่พักและที่เที่ยว ซึ่งมีทั้งสถานที่สวยๆ วิวดีๆ และสารพัดกิจกรรมให้ทำแบบจุใจ โดย เพ ลา เพลิน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ บนพื้นที่กว่า 400 ไร่ ภายใต้แนวคิด “เที่ยวอย่างมีความสุข สนุกกับการเรียนรู้” ประกอบด้วยโซนหลักๆ ได้แก่ โซนที่พัก ห้องประชุมสัมมนา และกิจกรรมแอดเวนเจอร์, อาคารด้วยรักและภักดี และอุทยานไม้ดอก เพ ลา เพลิน (มีสารพัดพรรณไม้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปตลอดปี), ศูนย์การเรียนรู้แบบบูรณาการ, พระเขี้ยวแก้ว (จําลอง) และเพ ลา เพลิน วอเตอร์ พาร์ค ซึ่งมีเครื่องเล่นกิจกรรมทางน้ำมากมาย
- ช่วงเวลาที่ควรไป : เที่ยวได้ทั้งปี
- เวลาทำการ : เปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 9.00-17.00 น.
- ที่อยู่ : 252 ตำบลคูเมือง อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/fXroHZE5TqAFNtct8
- ค่าเข้าสถานที่ : สอบถามค่าเข้าและค่าบริการต่างๆ โทร. 087 798 1039
- วิธีเดินทาง : ขับรถจากบุรีรัมย์ไปตามถนนหมายเลข 219 เพื่อมุ่งสู่ถนนหมายเลข 2074 ผ่านไปประมาณ 34.5 กิโลเมตร ให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ ถนนหมายเลข 2074 ขับต่อไปอีกประมาณ 900 เมตร ให้เลี้ยวขวา จะมองเห็น เพ ลา เพลิน อยู่ทางด้านขวา
พิเศษ โปรโมชั่นที่ Play La Ploen Boutique Resort เฉพาะบัตรเครดิต KTC เท่านั้น
เที่ยวชม Lavender's Magic at Play La Ploen กิจกรรมแน่น พร้อมโปรโมชั่นเฉพาะบัตรเครดิต KTC
แพ็กเกจ ห้อง Deluxe Room 1 คืน พร้อมอาหารเช้า สำหรับ 2 ท่าน ราคา 2,500 บาท (ปกติ 3,500 บาท)
- ฟรี เซตอาหารเย็น สำหรับ 2 ท่าน พร้อมเครื่องดื่มพิเศษจากลาเวนเดอร์ 2 แก้ว
- ฟรี ค่าเข้าชมอุทยาน ช่วงเทศกาล Lavender (มูลค่า 150 บาท)
- ฟรี Workshop Lavender ผ่อนคลาย จำนวน 1 workshop ต่อท่าน (มูลค่า 60 บาท)
(เลือกจากกิจกรรม สครับเกลือ, น้ำยาอเนกประสงค์, พิมเสนน้ำ หรือบาธบอม)
แพ็กเกจ ห้อง Thai Wellness - Grand Room 2 คืน พร้อมอาหารเช้า สำหรับ 2 ท่าน ราคา 5,500 บาท (ปกติ 7,999 บาท)
- ฟรี Traval Set มูลค่า 450 บาท
- ฟรี เซตอาหารเย็น สำหรับ 2 ท่าน พร้อมเครื่องดื่มพิเศษจากลาเวนเดอร์ 2 แก้ว
- ฟรี หัตถการ ชิโรดารา (ศาสตร์การแพทย์อายุรเวทอินเดีย) มูลค่า 2,400 บาท เวลา 60 นาที สำหรับ 2 ท่าน
- ฟรี ค่าเข้าชมอุทยาน ช่วงเทศกาล Lavender (มูลค่า 150 บาท)
- ฟรี Workshop Lavender ผ่อนคลาย จำนวน 1 workshop ต่อท่าน (มูลค่า 60 บาท)
(เลือกจากกิจกรรม สครับเกลือ, น้ำยาอเนกประสงค์, พิมเสนน้ำ หรือบาธบอม)
สิทธิพิเศษอื่นๆ
- ฟรี Wi-Fi
- ลด 10% อาหารและเครื่องดื่มที่ ห้องอาหารเพลาภิรมย์
- ลด 10% สปาและทรีตเมนต์ที่ Arokaya Wellness Sala
- ลด 10% สินค้า ที่ Joy Shopping Place, Arokaya Wellness Sala
กรุณาสำรองห้องพักล่วงหน้าก่อนเข้าพัก 7 วัน
- ระยะเวลาโปรโมชั่น 1 ต.ค. 67 – 30 ธ.ค. 67
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.facebook.com/accbru/
19. ศูนย์วัฒนธรรมอีสานใต้ (Lower Northeastern Cultural Centre)
สายประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม มาที่นี่คงฟินไม่น้อย โดย ศูนย์วัฒนธรรมอีสานใต้ เป็นแหล่งเก็บรวบรวม และจัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ อันมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ วัตถุโบราณเหล่านี้ประกอบด้วยเครื่องมือหิน ภาชนะดินเผา ผ้าทอพื้นบ้าน รูปเคารพทางศาสนาที่สลักจากหินหรือโลหะ ซึ่งมีอายุหลายร้อยปี แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมขอมและพุทธศาสนาที่มีอิทธิพลต่อภูมิภาคอีสานใต้ นอกจากนี้ยังมีห้องจัดแสดงต่างๆ อาทิ ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายใต้ยอดปรางค์ นิทรรศการศาสนาและความเชื่อ ห้องเตาเผาและเครื่องเคลือบดินเผาบุรีรัมย์
- ช่วงเวลาที่ควรไป : เที่ยวได้ทั้งปีราชภัฏ
- เวลาทำการ : เปิดทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00-16.20 น.
- ที่อยู่ : ตั้งอยู่ในบริเวณสถาบันราชภัฏบุรีรัมย์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Xoh27jSzajHgNrxm7
- ค่าเข้าสถานที่ : ไม่มีค่าเข้า
- วิธีเดินทาง : ขับรถจากบุรีรัมย์ไปตามถนนหมายเลข 219 ประมาณ 27 กิโลเมตรเพื่อไปยังถนนหมายเลข 288 จากนั้นขับต่อไปอีกประมาณ 5.5 กิโลเมตร เมื่อถึงวงเวียน ใช้ทางออกที่ 3 ไปยังถนนหมายเลข 2445 ขับต่ออีกประมาณ 600 เมตรแล้วเลี้ยวซ้าย แล้วขับต่อไปอีกประมาณ 63 เมตรแล้วเลี้ยวขวา จะเห็นสถาบันราชภัฏบุรีรัมย์อยู่ทางขวา
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.facebook.com/p/ป้าณีลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์-100063633938387/
20. สถานีรถไฟบุรีรัมย์ (Buriram Railway Station)
สถานีรถไฟบุรีรัมย์ นอกจากจะเป็นสถานีรถไฟหลักในจังหวัดบุรีรัมย์แล้ว ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2564 เป็นต้นมา ที่แห่งนี้ยังได้กลายเป็นที่เที่ยวบุรีรัมย์สุดฮิตที่เหล่านักท่องเที่ยวนิยมมาเช็กอินในโซนร้านลูกชิ้นยืนกิน ที่เรียงรายอยู่หลายร้าน แม้ลูกชิ้นยืนกินมีมานานกว่า 50 ปีแล้ว แต่เหตุที่เพิ่งเป็นกระแสเนื่องมาจากบทสัมภาษณ์ของซุปตาร์ระดับโลกชาวบุรีรัมย์ “ลิซ่า”ที่กล่าวถึงอาหารโปรดอย่าง ลูกชิ้นยืนกิน หลังสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ที่มีน้ำจิ้มรสเด็ด เป็นน้ำจิ้มพริกเผา ด้วยเหตุนี้เองจึงเกิดปรากฏการณ์ลูกชิ้นยืนกินฟีเวอร์ ทำให้คนทั่วประเทศอยากลิ้มลองลูกชิ้นยืนกินบ้าง
- ช่วงเวลาที่ควรไป : เที่ยวได้ทั้งปี
- เวลาทำการ : เปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 8.00-17.00 น.
- ที่อยู่ : ตำบลในเมือง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/q48cdmkLiiXsnEXg8
- ค่าเข้าสถานที่ : ไม่มีค่าเข้า
- วิธีเดินทาง : ขับรถจากบุรีรัมย์ไปตามถนนหมายเลข 219 ประมาณ 27 กิโลเมตร เพื่อไปยังถนนหมายเลข 288 จากนั้นขับต่อไปอีกประมาณ 1.7 กิโลเมตร ใช้ 2 ช่องทางขวา เพื่อเลี้ยวขวาที่ ทางแยกเกษตร ขับต่อไปประมาณ 2.1 กิโลเมตร เพื่อไปยังถนนหมายเลข 2151 ประมาณ 500 เมตร จะเห็นสถานีรถไฟบุรีรัมย์จะอยู่ทางซ้าย
จะเห็นได้ว่าจังหวัดบุรีรัมย์มีที่เที่ยวหลากหลายมากๆ ทั้งภูเขา น้ำตก อ่างน้ำ โบราณสถาน สนามกีฬา แหล่งช้อปปิ้ง รวมถึงที่เที่ยวสไตล์อื่นๆ อีกมากมาย เรียกว่าน่าอยู่น่าเที่ยวสมกับความหมายของบุรีรัมย์ที่แปลว่า เมืองแห่งความรื่นรมย์
นอกจากเก็บเกี่ยวความประทับใจจากหลากหลายที่เที่ยวบุรีรัมย์แล้ว คนฉลาดเลือกเช่นคุณต้องใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า ด้วยตัวช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินอย่าง บัตรเครดิต KTC ที่มาพร้อมโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์มากมายเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ สนใจสมัครบัตรเครดิต KTC คลิกที่นี่เลย
ทุกทริปเที่ยว คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC