ฟินกับธรรมชาติดี ๆ ได้ทั้งปีที่เขาใหญ่
วันหยุดนี้เที่ยวไหนดี ? คำถามชวนคิดหนักของเหล่ามนุษย์เงินเดือนที่ต้องการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติหลังทำงานติดต่อกันเป็นเวลานาน แต่ไม่อยากเดินทางไกลจากกรุงเทพฯ เพราะกลัวเหนื่อยกว่าเดิม หากวันหยุดที่ใกล้มาถึงนี้ยังไม่รู้จะปักหมุดไปเที่ยวที่ไหน ขอแนะนำอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่หรือที่เรียกกันจนติดปากว่าเขาใหญ่ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยงามอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย นอกจากขับรถไม่กี่ชั่วโมงถึงยังเป็นที่เที่ยวที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย เพื่อให้ทริปเที่ยวเขาใหญ่ 1 วัน แบบไปเช้าเย็นกลับฟินกว่าเดิม ตามมาดูกันว่ามีที่ไหนน่าไปเช็กอินบ้าง และถ้าไปเที่ยวเขาใหญ่ 1 วัน แบบไม่มีรถส่วนตัว ต้องทำอย่างไร
มัดรวมวิธีเดินทางไปเที่ยวเขาใหญ่
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่หรือเขาใหญ่ เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย ที่ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2505 และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติในปี 2548 โดยเขาใหญ่เป็นแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่มีพื้นที่ครอบคลุม 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ปราจีนบุรี นครนายก และสระบุรี ด้วยความที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่อุดมสมบูรณ์ อากาศสดชื่น แถมไปได้ทุกช่วงเวลาของปี จึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก สำหรับการเดินทางไปเที่ยวเขาใหญ่นอกจากขับรถยนต์ส่วนตัวก็มีหลากหลายวิธี
เที่ยวเขาใหญ่ด้วยรถไฟ
สำหรับใครที่เป็นนักท่องเที่ยวสายชิลล์และอยากเที่ยวเขาใหญ่แบบประหยัด แนะนำให้เลือกเดินทางด้วยรถไฟหากอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ สามารถไปขึ้นรถไฟได้ที่สถานีกลางบางซื่อ แต่ถ้าอยู่โซนรังสิตก็สามารถขึ้นรถไฟที่สถานีรังสิต แต่ก่อนเดินทางแนะนำให้เช็กเที่ยวรถไฟก่อน โดยใช้เวลาเดินทางไปถึงสถานีปากช่องประมาณ 3-5 ชั่วโมง ซึ่งอาจไม่เหมาะนักสำหรับคนที่อยากไปเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับ
เที่ยวเขาใหญ่ด้วยรถทัวร์
นี่เป็นการเดินทางไปยังเขาใหญ่แบบไม่มีรถส่วนตัวอีกวิธีที่น่าสนใจ เพราะใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง สามารถซื้อตั๋วโดยสารรถทัวร์ได้ที่ช่องจำหน่ายตั๋ว ชั้น 3 สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 มีให้เลือกทั้งแบบรถปรับอากาศชั้น 1 และชั้น 2 รวมไปถึงรถโดยสารแบบธรรมดา ซึ่งจะมีให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง โดยรถจะออกเดินทางทุก ๆ 20-30 นาที แนะนำให้ลงรถที่ตลาดอำเภอปากช่อง จากนั้นค่อยหารถต่อไปยังเขาใหญ่
เที่ยวเขาใหญ่ด้วยรถตู้
สำหรับรถตู้กรุงเทพฯ-เขาใหญ่ สามารถขึ้นได้ทั้งที่หมอชิตหรือรังสิต ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง โดยรถตู้จะวิ่งเข้าไปจอดส่งที่ตลาดในเมืองปากช่อง เมื่อมาถึงก็เลือกว่าจะนั่งรถสองแถวปากช่อง-เขาใหญ่ เช่ารถมอเตอร์ไซค์ หรือเช่ารถยนต์เพื่อไปยังจุดหมายปลายทาง
เที่ยวเขาใหญ่ด้วยการเช่ารถ
สำหรับใครที่วางแผนมาเที่ยวเขาใหญ่แบบยกครอบครัว วิธีเดินทางที่แนะนำในข้างต้นอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนักโดยเฉพาะบ้านที่มีสมาชิกเป็นผู้สูงอายุและเด็กเล็ก กรณีที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวสามารถเช่ารถขับจากกรุงเทพฯ ไปเที่ยวเขาใหญ่ได้เช่นกัน โดยปัจจุบันมีบริษัทเช่ารถในประเทศให้เลือกบริการหลากหลาย เช่น AVIS Thailand, True Leasing, Budget, asap, Drivehub, Bizcar หรือ Hertz Thailand สำหรับประเภทรถเช่ามีทั้งอีโคคาร์ รถยนต์ขนาดเล็ก รถยนต์ขนาดกลาง รถกระบะ เอสยูวี หรือรถพร้อมคนขับ ส่วนจะเลือกบริการรถเช่าแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอของผู้ใช้บริการ ต้องบอกว่าการเช่ารถขับเองเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ช่วยอำนวยความสะดวก เพิ่มความคล่องตัว และให้อิสระในการท่องเที่ยวไม่น้อยทีเดียว ที่สำคัญสามารถเลือกได้ว่าจะชำระค่าบริการรถเช่าด้วยเงินสดหรือบัตรเครดิต KTC ที่อัดแน่นไปด้วยสิทธิพิเศษมากมาย เช่น รับลด 50 บาท/วัน หรือรับส่วนลด 30% สำหรับรถเช่าทุกรุ่น เป็นต้น
Update ที่เที่ยวเขาใหญ่สุดชิลล์ บรรยากาศดี เที่ยวได้ทั้งครอบครัว
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
สูดอากาศสดชื่นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
หากคุณเป็นสายธรรมชาติที่มีจุดหมายปลายทางเป็นบ้านพักบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แนะนำให้เริ่มต้นทริปด้วยการไหว้ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ซึ่งตั้งอยู่หน้าด่านทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จากนั้นค่อยมาจอดรถชมวิวที่จุดชมวิว กม. 30 เขาใหญ่ สถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวทิวทัศน์ด้านทิศเหนือของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้เป็นมุมกว้าง และถ้าอยากเดินสำรวจเส้นทางธรรมชาติให้แวะไปที่ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เพื่อติดต่อให้เจ้าหน้าที่นำทางไปยังหอดูสัตว์หนองผักชี แต่ส่วนใครที่ไม่อยากเดินป่าก็เลือกเดินชมห้องจัดแสดงนิทรรศการที่มีความรู้เกี่ยวกับเขาใหญ่หรือสัตว์ป่าชนิดต่าง ๆ บนผืนป่าแห่งนี้
Bonanza Exotic Zoo
ไปให้อาหารยีราฟกันที่โบนันซ่า เอ็กโซติก พาร์ค ภาพจาก เฟซบุ๊ก Bonanza Exotic Park
หากคุณกำลังมองหาที่เที่ยวเขาใหญ่แบบครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ต้องบอกว่า Bonanza Exotic Zoo สวนสัตว์ขนาดกะทัดรัด มีเนื้อที่โดยรวมประมาณ 100 กว่าไร่ ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากทีเดียว เพราะนักท่องเที่ยวสามารถดินชมสัตว์น้อยใหญ่ และให้อาหารน้อง ๆ ได้อย่างใกล้ชิด แต่บางจุดก็มีป้ายเตือนว่าห้ามให้อาหาร เพราะน้อง ๆ บางตัวต้องกินอาหารที่ทางสวนสัตว์เตรียมไว้ให้เท่านั้น เพื่อความแข็งแรงและปลอดภัย ส่วนใครที่อยากถ่ายรูปกับน้องยีราฟอย่าลืมพกแครอทติดไม้ติดมือไปด้วยนะ แต่ถ้าอาหารหมดก็มีจุดขายอาหารสัตว์ให้บริการอยู่แทบทุกจุดของสวนสัตว์ บอกเลยว่าที่นี่เป็นพิกัดเที่ยวที่เด็ก ๆ ได้เรียนรู้และสนุกไปพร้อมกัน
เสริมความคล่องตัวตลอดทริปเที่ยวเขาใหญ่กับบัตรเครดิต KTC
น้ำผุดปากช่อง
ขอชวนมาแวะพักชื่นชมธรรมชาติและสูดอากาศบริสุทธิ์กับน้ำผุดปากช่องหรืออีกชื่อหนึ่งคือ น้ำพุธรรมชาติบ้านท่าช้าง เป็นสระน้ำพุธรรมชาติที่มีน้ำผุดออกมาตลอดทั้งปี นอกจากน้ำที่ผุดออกมาจะมีสีฟ้าเขียวคล้ายสีของสระมรกต ยังเหมาะลงแช่น้ำให้เย็นฉ่ำชื่นใจ ใครที่ไม่อยากแช่น้ำก็อาจเดินหามุมเพื่อถ่ายรูปสวย ๆ เก็บไว้ หรือจะปูเสื่อทานอาหารก็ได้บรรยากาศดีทีเดียว เพราะบริเวณโดยรอบสระน้ำผุดปากช่องเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่แผ่ปกคลุม บวกกับลมพัดเย็น ๆ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายไปกับธรรมชาติมาก
Rancho Charnvee Resort Khaoyai
ใครเวลาน้อยก็ยังได้เที่ยว มีกิจกรรมให้เลือกทำครบเหมาะกับทุกวัย ภาพจาก เฟซบุ๊ก Rancho Charnvee Resort Khaoyai & CountryClub ที่พักเขาใหญ่ ที่เที่ยวเขาใหญ่
สำหรับใครที่มองหาที่เที่ยวเขาใหญ่แบบครอบครัวสไตล์วันเดย์ทริป ต้องบอกว่า Rancho Charnvee Resort Khaoyai หรือแรนโช ชาญวีร์ เขาใหญ่ ถือเป็นพิกัดเที่ยวที่ตอบโจทย์ครบทุกเพศทุกวัย ไม่จำเป็นต้องเข้าพักก็สามารถเข้ามาเล่นสนุกกับกิจกรรมของที่นี่ได้ ด้วยมีคาเฟ่ให้นั่งจิบกาแฟพร้อมทานขนมอร่อย ๆ ส่วนใครที่อยากออกไปทำกิจกรรมก็มีทั้งไปหัดขี่ม้าที่คอกม้า Rancho Club ซึ่งมีครูฝึกคอยดูแลตลอด หรือไปสนุกสุดมันส์กับการขี่ ATV ขับรถวินเทจมินิ และปั่นจักรยานชมธรรมชาติรอบ ๆ รีสอร์ต แต่ถ้าอยากถ่ายรูปสวย ๆ ทั่วทั้งรีสอร์ตก็มีมุมถ่ายรูปให้เลือกเยอะไม่แพ้กัน รับรองว่ามาแรนโช ชาญวีร์ เขาใหญ่ มีกิจกรรมให้ทำเพลินตลอดทั้งวัน
Khao Yai Speedkart
สนุกแบบยกครอบครัวกันได้ที่เขาใหญ่สปีดคาร์ท ภาพจาก เฟซบุ๊ก Khaoyaispeedkart เขาใหญ่สปีดคาร์ท
ปิดท้ายด้วย Khao Yai Speedkart ศูนย์รวมความสนุกอีกแห่งของเขาใหญ่ ทั้งยังเป็นพิกัดที่สามารถไปสนุกกันได้ทั้งครอบครัว นอกจากขับรถโกคาร์ทประลองความเร็วบนสนามที่มีระยะทางมากถึง 700 เมตร ก็ยังมีสนามรถ ATV ให้เลือกขับทั้งแบบพื้นราบเรียบระยะสั้นสำหรับเด็ก หรือสนามสำหรับผู้ใหญ่ นอกจากนี้ใครที่อยากขับรถโกคาร์ท รถ ATV จะนั่งชิลล์ในร้านกาแฟ หรือแวะไปทักทายสัตว์เล็ก ๆ ที่ฟาร์มก็ได้เช่นเดียวกัน
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแหล่งเช็กอินน่าเที่ยวในเขาใหญ่เท่านั้น ยังมีที่เที่ยวเขาใหญ่สวย ๆ ให้ได้มาสัมผัสกับธรรมชาติและอากาศที่สะอาดสดชื่นซ่อนตัวอยู่อีกมากมาย และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มต้นทริปเที่ยวเขาใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นแบบไปเช้าเย็นกลับ หรือแบบ 2 วัน 1 คืน ขอแนะนำให้สมัครบัตรเครดิต KTC ติดกระเป๋าไว้ เพื่อรับความสะดวกสบายยามใช้จ่าย ทั้งเวลาเติมน้ำมัน เช่ารถ จองที่พัก หรือชำระค่าอาหาร ส่วนจะมีผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต KTC ใบไหนน่าสนใจบ้าง มาดูกัน
บัตรเครดิต KTC BANGCHAK PLATINUM
บัตรเครดิต KTC BANGCHAK PLATINUM
บัตรเครดิตจาก KTC - BANGCHAK VISA PLATINUM และบัตรเครดิต KTC - BANGCHAK PLATINUM MASTERCARD ถูกออกแบบมาเพื่อลูกค้าปั๊มบางจากโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปีตลอดชีพ สำหรับใครที่สนใจบัตรเครดิตเติมน้ำมันบางจาก เพียงมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีรายได้ 15,000 บาทขึ้นไป/เดือน ส่วนชาวต่างชาติต้องมีรายได้ 50,000 บาทขึ้นไป/เดือน ก็สามารถสมัครบัตรฯ ใบนี้ได้ โดยสิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจ มีดังนี้
- รับส่วนลดน้ำมันใส น้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิด 1% ที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก จากยอดชำระไม่เกิน 3,000 บาท/เซลส์สลิป โดยจะคืนเข้าบัญชีบัตรเครดิตในเดือนถัดไป
- ทุก 25 บาท ที่ใช้จ่ายผ่านบัตร รับ 1 คะแนน KTC FOREVER เพื่อแลกสินค้า/บริการ ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ และคะแนนไม่มีวันหมดอายุ
- ชำระสินค้าหรือบริการผ่อนชำระด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% สูงสุด 10 เดือน
- สำหรับสมาชิกใหม่บัตรเครดิต KTC รับความคุ้มครองอุบัติเหตุวงเงิน สูงสุด 300,000 บาท นาน 90 วันนับจากวันที่เปิดใช้บริการบัตรฯ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ
บัตรเครดิต KTC - AGODA PLATINUM MASTERCARD
บัตรเครดิต KTC - AGODA PLATINUM MASTERCARD
สำหรับสายเที่ยวที่กำลังมองหาบัตรเครดิตที่ตอบโจทย์ครบทั้งจองโรงแรม ห้องพัก บัตรโดยสารสายการบิน รวมถึงบริการอื่น ๆ เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ขอบอกว่าสมัครบัตรเครดิต KTC - AGODA PLATINUM MASTERCARD เพียงใบเดียวตอบโจทย์ได้ครบทุกความต้องการ เพราะบัตรฯ ใบนี้เป็นพาร์ทเนอร์กับเว็บไซต์ Agoda ที่เปิดให้คุณจองทุกอย่างได้แบบ All-in-one จองที่พัก เที่ยวบิน รถไฟ รถบัส เรือเฟอร์รี่ และบริการเช่ารถ มีทุกรูปแบบของการเดินทาง ไม่แปลกที่บัตรเครดิต KTC - AGODA PLATINUM MASTERCARD อัดแน่นไปด้วยสิทธิประโยชน์มากมาย ดังนี้
- รับสิทธิพิเศษ สเปเชียลอัพเกรดเป็นสมาชิก Agoda VIP Platinum เพื่อรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 25% ในการใช้งาน และขยายเวลา AgodaCash เพิ่มอีก 1 ปี
- แลกคะแนน KTC FOREVER 800 คะแนน : 100 บาท Agoda Cash
- บริการข้อมูลเพื่อการเดินทางและท่องเที่ยว พร้อมรับส่วนลดประกันท่องเที่ยว 10%
- ช้อปออนไลน์ คุ้มสุด ตลอดปี และประกันภัยความคุ้มครองการซื้อสินค้าออนไลน์ด้วยวงเงินประกันสูงสุด 200 ดอลลาร์สหรัฐ
- ชำระสินค้าหรือบริการผ่อนชำระด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% สูงสุด 10 เดือน
- ทุก 25 บาท เท่ากับ 1 คะแนน KTC FOREVER สามารถสะสมเพื่อนำไปแลกส่วนลด และสิทธิประโยชน์มากมาย
- ประกันอุบัติเหตุการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ ด้วยวงเงินประกันคุ้มครองสูงสุด 8,000,000 บาท และประกันกระเป๋าเดินทางสูญเสียหรือเสียหาย จากการเดินทางวงเงินสูงสุด 40,000 บาทต่อครั้ง กรณีใช้บัตรเครดิตชำระค่าบัตรโดยสารยานพาหนะสาธารณะ
จะเห็นได้ว่าการมีบัตรเครดิตเติมน้ำมันบางจากและบัตรเครดิต AGODA ของ KTC ติดตัวไว้ นอกจากเพิ่มความสะดวกสบายเวลาใช้จ่าย เพราะไม่ต้องเงินสดติดตัวเยอะ ทุกครั้งที่รูดจ่ายผ่านบัตรฯ ยังตามมาด้วยสิทธิพิเศษที่มีเฉพาะผู้ถือบัตรเครดิตเท่านั้น สำหรับใครที่สนใจสมัครบัตรเครดิต KTC ไว้รับความคุ้มค่าเวลารูดซื้อสินค้า ชำระค่าอาหาร จองที่พัก จองตั๋วเครื่องบิน จ่ายค่าน้ำมัน หรือเพิ่มสภาพคล่องในชีวิตประจำวัน เพียงกรอกข้อมูลที่แพลตฟอร์มด้านล่างแล้วรอเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ เพื่อนัดหมายเมสเซนเจอร์เข้าไปรับเอกสาร จากนั้นก็รอรับบัตรฯ ไว้ใช้จ่ายตามความต้องการ
เที่ยวเขาใหญ่ฟินตลอดทริป กับสิทธิพิเศษสมาชิกบัตรเครดิต KTC
ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี