ในโลกของเกมมิ่งยุคปัจจุบัน “หูฟังเกมมิ่ง” ไม่ได้เป็นเพียงแค่อุปกรณ์เสริมอีกต่อไป แต่กลับเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมของคุณให้เหนือระดับยิ่งขึ้น หลายคนอาจคิดว่าหูฟังเกมมิ่งมีจุดเด่นเพียงเรื่องของเสียงที่ดีขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว หูฟังเกมมิ่งที่ดีจะช่วยให้คุณได้รับ ความแม่นยำ และ ประสบการณ์ ที่เหนือกว่าในขณะเล่นเกม ไม่ว่าจะเป็นเสียงฝีเท้าของศัตรูที่ย่องเข้ามา หรือแม้แต่เสียงรีโหลดกระสุนของฝั่งคู่ต่อสู้ก็ตาม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเกมแนว FPS (First-Person Shooter), MOBA (Multiplayer Online Battle Arena), และ Battle Royale ที่เน้นการแข่งขันสูง ที่ผู้เล่นต้องการฟังเสียงรอบทิศทางที่ชัดเจนและแม่นยำ เพื่อระบุตำแหน่งของศัตรูได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง เกมเมอร์มืออาชีพทุกคนต่างรู้ดีว่าการเลือกหูฟังที่เหมาะสมกับประเภทของเกม และสไตล์การเล่นของตนเองคือหัวใจสำคัญในการคว้าชัยชนะ
เทคนิคการเลือกหูฟังเกมมิ่งให้เหมาะกับตัวคุณ
การเลือกหูฟังเกมมิ่งที่ใช่ ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเลือกหูฟังที่ราคาแพงที่สุดเสมอไป แต่ควรพิจารณาจากคุณสมบัติของหูฟังแต่ละแบรนด์ แต่ละรุ่น ว่าตอบโจทย์การใช้งานและสไตล์การเล่นของคุณมาก-น้อยแค่ไหน หรืออาจลองพิจารณาจากปัจจัยเบื้องต้นเหล่านี้
1. เลือกประเภทหูฟัง
- Over-ear
Over-ear หรือหูฟังแบบครอบหู เป็นหูฟังที่นิยมที่สุดในหมู่เกมเมอร์ ด้วยดีไซน์ที่ครอบใบหูทั้งหมด ทำให้ได้เสียงอย่างชัดเจน รอบทิศทาง และสามารถสวมใส่ได้นานโดยไม่ทำให้รู้สึกเมื่อยล้า เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการดื่มด่ำอรรถรสในการเล่นเกมและต้องการตัดเสียงรบกวนภายนอก
- On-ear
หูฟัง On-ear หรือ หูฟังครอบหูแบบแนบหู เป็นหูฟังประเภทหนึ่งที่ออกแบบมาให้ วางอยู่บนใบหูโดยตรง ไม่ได้ครอบหูทั้งหมดเหมือนหูฟัง Over-ear และไม่ได้สอดเข้าไปในช่องหูเหมือนหูฟัง In-ear หรือ Earbuds เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคล่องตัวสูง หรือเน้นพกพาสะดวก
- In-ear
หูฟัง In-ear หรือ หูฟังแบบเสียบหู เป็นหูฟังประเภทที่ออกแบบมาให้สอดเข้าไปในช่องหู โดยมีจุกยางหรือจุกโฟม (eartips) ที่ช่วยให้หูฟังกระชับ และสามารถลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ใน ระดับหนึ่ง
2. ระบบเสียง
- Stereo
ระบบเสียงพื้นฐานที่เรียกได้ว่าเป็นระบบมาตรฐานของหูฟังทุกชนิด ให้เสียงแยกซ้าย-ขวา เหมาะสำหรับเกมที่ไม่ได้เน้นฟังทิศทางของเสียงมากนัก หรือผู้ที่ชอบเสียงที่เป็นธรรมชาติ
- Surround 7.1 / Spatial Audio
Surround 7.1 ระบบเสียงรอบทิศทางเสมือนจริง (Virtual Surround Sound) ที่จำลองเสียงมาจากทิศทางต่าง ๆ ทำให้คุณสามารถระบุตำแหน่งของเสียงได้อย่างแม่นยำ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเกมแนว FPS หรือ Battle Royale ที่ต้องการเสียงทิศทางที่ชัดเจนและรวดเร็ว
ในขณะที่ Spatial Audio จะให้มิติของเสียงที่กว้างขวางและสมจริงยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับเกมแนว RPG หรือ Adventure ที่เน้นอรรถรสในการสำรวจโลก
3. ไมโครโฟน และการตัดเสียงรบกวน
- ไมโครโฟน
หากคุณเป็นเกมเมอร์ที่ชื่นชอบการสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีม ไมโครโฟนที่มีระบบ Noise Cancelling Mic จะช่วยตัดเสียงรบกวนรอบข้าง ทำให้เสียงพูดของคุณคมชัดและฟังชัดเจนเข้าใจง่าย แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังรบกวนก็ตาม
- สตรีมเมอร์
หากคุณเป็นสตรีมเมอร์ที่ต้องการคุณภาพเสียงพูดระดับสตูดิโอ อาจต้องพิจารณาหูฟังที่มีไมโครโฟนคุณภาพสูง หรือลงทุนซื้อไมโครโฟนคุณภาพแยกอีกอุปกรณ์หนึ่ง
4. การเชื่อมต่อ
- Wired (3.5mm / USB)
การเชื่อมต่อหูฟังแบบมีสายจะมีความเสถียรสูงสุด ไม่มีอาการหน่วง (Latency) ของเสียง เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการความแม่นยำสูง และไม่อยากกังวลเรื่องแบตเตอรี่
- Wireless (2.4GHz / Bluetooth)
การเชื่อมต่อแบบไร้สายให้ความคล่องตัวและอิสระในการเคลื่อนไหว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายและไม่ชอบความยุ่งเหยิงของสายหูฟังที่มักจะพันติดกัน โดยเฉพาะการเชื่อมต่อแบบ 2.4GHz ที่มีความหน่วงต่ำ เหมาะสำหรับการเชื่อมต่อเพื่อเล่นเกมมากกว่า
5. ความสบายในการสวมใส่
- น้ำหนักเบา
หูฟังที่น้ำหนักเบาจะช่วยลดแรงกดทับบนศีรษะและใบหู ทำให้สามารถสวมใส่ได้นานยิ่งขึ้น
- ที่ครอบหูนุ่ม ระบายอากาศ
ฟองน้ำครอบหูที่โดดเด่นเรื่องความนุ่มและระบายอากาศได้ดี จะช่วยลดความร้อนสะสมและความอับชื้น ทำให้ยังคงสวมใส่สบายแม้เล่นเกมต่อเนื่องเป็นเวลานาน
- ใช้งานได้หลายชั่วโมงโดยไม่เจ็บหู
ควรทดลองสวมใส่ก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าหูฟังไม่บีบรัดศีรษะหรือใบหูจนเกินไป หูฟังแต่ละแบรนด์ แต่ละรุ่น แม้จะมีคุณสมบัติโดดเด่นตอบโจทย์การใช้งาน แต่ก็อาจจะไม่เข้ากับสรีระของผู้สวมใส่แต่ละบุคคล การพิจารณาจากความสบายในการสวมใส่จึงถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม
แนะนำ 10 หูฟังเกมมิ่งที่น่าสนใจปี 2025
KTC จะพาไปดูกันว่า 10 หูฟังเกมมิ่งที่โดดเด่นและน่าสนใจในปี 2025 มีรุ่นไหนบ้าง พร้อมเปิดสเปค และจุดเด่น ซึ่งคัดสรรมาแล้วว่าเหมาะสำหรับเกมเมอร์มืออาชีพและผู้ที่ต้องการประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุด
1. SteelSeries Arctis Nova Pro Wireless
SteelSeries Arctis Nova Pro Wireless มีระบบเสียง Hi-Res Audio รอบทิศทาง 360° Spatial Audio และมีระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Active Noise Cancellation (ANC) แบตเตอรี่แบบสลับใช้งานได้ 2 ก้อน เหมาะสำหรับสาย e-sport สตรีมเมอร์ ผู้ที่ต้องการหูฟังระดับพรีเมียมที่สุดสำหรับการเล่นเกมและฟังเพลง
ขอบคุณรูปภาพจาก : jib
จุดเด่น
- คุณภาพเสียงระดับสตูดิโอ
- แบตเตอรี่แบบสลับใช้งานได้ไม่จำกัด
- GameDAC ควบคุมทุกอย่างได้ง่าย
- สวมใส่สบาย
2. Razer BlackShark V2 Pro Wireless
Razer BlackShark V2 Pro Wireless โดดเด่นด้วยการออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การเล่นเกมระดับมืออาชีพ หูฟังรุ่นนี้มาพร้อมกับไดรเวอร์เสียงขนาด 50 มม. ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อให้เสียงที่ทรงพลัง คมชัด และแม่นยำ เพื่อความสบายสูงสุดในการสวมใส่ตลอดการเล่นเกมที่ยาวนาน ที่ครอบหูของ Razer BlackShark V2 Pro Wireless ผลิตจากเมมโมรี่โฟมเนื้อนุ่มที่สามารถปรับเข้ารูปกับใบหูของคุณได้อย่างพอดี ช่วยลดแรงกดทับและเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันเสียงรบกวนภายนอก
หูฟังรุ่นนี้มีไมโครโฟนคุณภาพสูงที่สามารถถอดออกได้ ทำให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามความต้องการ อีกทั้งคุณยังสามารถปรับแต่งการตั้งค่าหูฟังได้อย่างละเอียดผ่านซอฟต์แวร์ Razer Synapse ไม่ว่าจะเป็นการปรับ Equalizer (EQ), การตั้งค่าระบบเสียงรอบทิศทาง หรือการปรับแต่งไมโครโฟน เหมาะสำหรับเกมเมอร์ FPS ที่ต้องการความแม่นยำของเสียงทิศทางและไมโครโฟนที่ดีที่สุด
ขอบคุณรูปภาพจาก : jib
จุดเด่น
- ไมค์คุณภาพเสียงยอดเยี่ยม
- เสียงคมชัดแม่นยำสำหรับการระบุทิศทาง
- น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน
3. HyperX Cloud III Wireless
HyperX Cloud III Wireless เป็นหูฟังเกมมิ่งไร้สายแบบครอบหูที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่เหนือระดับ ด้วยการผสานประสิทธิภาพเสียงระดับพรีเมียมเข้ากับการเชื่อมต่อไร้สายที่รวดเร็วและแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์เกมเมอร์ที่ต้องการอิสระและความแม่นยำในการเล่นเกม หูฟังรุ่นนี้ใช้ไดรเวอร์เสียงขนาดใหญ่ถึงข้างละ 53 มิลลิเมตร เช่นเดียวกับในรุ่น Cloud III มอบเสียงที่ดังกระหึ่ม สะใจ และให้รายละเอียดที่ครบถ้วนสมจริงเกินราคา
ระบบเสียง 3 มิติ DTS® Headphone:X® Spatial Audio: ดื่มด่ำไปกับระบบเสียง Surround รอบทิศทาง DTS® Headphone:X® Spatial Audio ที่ช่วยให้คุณระบุทิศทางของเสียงในเกมได้อย่างแม่นยำ เพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ให้ความสำคัญกับความสบายในการสวมใส่ แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน และผู้ที่ต้องการเสียงเบสที่ทรงพลัง
ขอบคุณรูปภาพจาก : jib
จุดเด่น
- สวมใส่สบายเป็นเลิศ
- เสียงแน่น เบสลึก
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานมากที่สุดในตลาด
- ไมโครโฟนคุณภาพดี
4.Logitech G Pro X 2 Lightspeed
หูฟัง Logitech G Pro X 2 Lightspeed ไดรเวอร์ Graphene Pro-G 50 มม. มีเทคโนโลยีไร้สาย Lightspeed และมีไมโครโฟน Blue VO!CE ที่ปรับแต่งได้ สามารถรองรับ Dolby Atmos / Windows Sonic เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการหูฟังน้ำหนักเบาเพื่อการแข่งขันหรือใช้งานจริงจัง และสตรีมเมอร์ที่ต้องการไมค์คุณภาพดี
ขอบคุณรูปภาพจาก : jib
จุดเด่น
- น้ำหนักเบาเป็นพิเศษ
- ไมโครโฟน Blue VO!CE ให้เสียงพูดที่คมชัดและปรับแต่งได้หลากหลาย
- คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมสำหรับเกมและการสื่อสาร
5. Corsair HS80 RGB Wireless
Corsair HS80 RGB Wireless รองรับการเชื่อมต่อกับ PC, Mac และ PlayStation 4/5 มีไดรเวอร์ 50 มม. ที่ปรับแต่งพิเศษ และรองรับ Dolby Atmos บน PC รวมถึงการเชื่อมต่อไร้สาย Slipstream Wireless ที่มาพร้อมกับดีไซน์ล้ำสมัย มีไฟ RGB เหมาะสำหรับเกมเมอร์ PC/PS5 ที่ต้องการคุณภาพเสียงระดับพรีเมียมและดีไซน์ที่โดดเด่น
ขอบคุณรูปภาพจาก : jib
จุดเด่น
- คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมพร้อมรองรับ Dolby Atmos เพื่อมิติเสียงที่สมจริง
- ดีไซน์ที่สวยงามและไฟ RGB ที่ปรับแต่งได้
- สวมใส่สบาย
6. Asus ROG Delta S Wireless
Asus ROG Delta S Wireless หูฟังไร้สายน้ำหนักเบา สเปคโดดเด่น Hi-Fi ESS 9281 Quad DAC มี Dual Mode Wireless (2.4 GHz และ Bluetooth) และในส่วนของไมโครโฟนเป็น AI Noise-Canceling แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 25 ชั่วโมง เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการคุณภาพเสียงระดับ Audiophile และความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อ
ขอบคุณรูปภาพจาก : jib
จุดเด่น
- เสียงคมชัดระดับ lossless ด้วย Hi-Fi DAC
- เชื่อมต่อได้หลากหลาย (ทั้ง 2.4GHz และ Bluetooth)
- ไมค์ AI ตัดเสียงรบกวนได้ดีเยี่ยม
7. Bose QuietComfort 35 II Gaming Headphone
Bose QuietComfort 35 II Gaming Headset สุดยอดหูฟังที่นำเอาประสบการณ์ความเงียบสงบและคุณภาพเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ QuietComfort มาผสมผสานกับฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์เกมเมอร์อย่างลงตัว ด้วยราคาที่อยู่ในระดับพรีเมียมตามมาตรฐานของแบรนด์ Bose แต่ก็แลกมาด้วยประสิทธิภาพและฟีเจอร์ที่จัดเต็มคุ้มค่า เชื่อมต่อได้ทั้ง Bluetooth, AUX/3.5 mm. และ USB ทั้งยังได้รับการรับรอง Discord และ TeamSpeak-certified รวมถึงรองรับผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะ Siri, Alexa, Google Assistant เหมาะสำหรับผู้ที่เล่นเกมและฟังเพลงอย่างจริงจัง ผู้ที่ต้องการหูฟังที่สามารถใช้งานได้หลากหลายและตัดเสียงรบกวนได้ดีเยี่ยม
ขอบคุณรูปภาพจาก : bose
จุดเด่น
- ผสมผสานการตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุดเข้ากับคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมของ Bose
- สวมใส่สบายเป็นพิเศษ
- สามารถใช้งานเป็นหูฟังฟังเพลงปกติได้
8. Sony INZONE H9
Sony INZONE H9 หูฟังคุณภาพเสียงยอดเยี่ยมที่รองรับ 360 Spatial Sound สำหรับการเล่นเกม และมี Active Noise Cancellation (ANC) รวมถึงโหมด Ambient Sound ออกแบบมาเพื่อ PS5 และ PC ในส่วนของไมโครโฟนบูมสามารถพับขึ้นได้ และยังมีฟังก์ชันปิดเสียง เหมาะสำหรับเกมเมอร์ PS5 ที่ต้องการประสบการณ์เสียงรอบทิศทางที่ดื่มด่ำ และผู้ที่ต้องการหูฟังที่มี ANC สำหรับการเล่นเกมและใช้งานทั่วไป
ขอบคุณรูปภาพจาก : jib
จุดเด่น
- ระบบเสียง 360 Spatial Sound ที่ให้มิติเสียงรอบทิศทางที่เหนือกว่า
- มี ANC และโหมด Ambient Sound สำหรับการใช้งานที่หลากหลาย
- ดีไซน์เข้าชุดกับ PS5
9. EPOS H6Pro Open Acoustic
EPOS H6Pro Open Acoustic เป็นหูฟังเกมมิ่งที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์เสียงที่สมจริงอย่างเหนือชั้น โดดเด่นด้วยดีไซน์อะคูสติกแบบเปิดที่ช่วยให้หูเย็นสบาย พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์เกมเมอร์ทุกแพลตฟอร์ม ไดรเวอร์เสียงที่ออกแบบมาเพื่อความแม่นยำ ในส่วนของไมโครโฟนสามารถยกขึ้นได้เพื่อปิดเสียง เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ไม่ต้องการการตัดเสียงรบกวนโดยสมบูรณ์ ผู้ที่ต้องการหูฟังที่ให้เสียงเป็นธรรมชาติและระบายอากาศได้ดี
ขอบคุณรูปภาพจาก : jib
จุดเด่น
- เสียงที่เป็นธรรมชาติและกว้างขวาง
- ช่วยให้รับรู้เสียงรอบข้างได้เล็กน้อย ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว
- สวมใส่สบาย
10. Redragon Zeus X H510 Wireless
Redragon Zeus X H510 Wireless เป็นหูฟังเกมมิ่งที่มีระบบเสียง 7.1 Surround Sound มีไดรเวอร์ 53 มม. และมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน รองรับการเชื่อมต่อแบบมีสาย เหมาะสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นเล่นเกม และเกมเมอร์ทั่วไปที่ต้องการหูฟังไร้สายคุณภาพดีในงบประมาณที่จำกัด
ขอบคุณรูปภาพจาก : jib
จุดเด่น
- คุ้มค่าคุ้มราคา
- คุณภาพเสียง 7.1 Surround Sound
- ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนได้ดี
เปรียบเทียบความต่างหูฟังเกมมิ่ง 10 รุ่นน่าซื้อ ปี 2025
รุ่นหูฟัง |
เหมาะสำหรับ |
คุณภาพเสียง |
คุณสมบัติพิเศษ |
การเชื่อมต่อ |
1. SteelSeries Arctis Nova Pro Wireless |
สาย e-sport, สตรีมเมอร์ และ ผู้ที่ต้องการหูฟังระดับพรีเมียมที่สุดสำหรับการเล่นเกมและฟังเพลง | Hi-Res Audio, 360° Spatial Audio | Active Noise Cancellation (ANC), แบตเตอรี่สลับใช้งานได้ 2 ก้อน และ GameDAC | Wireless |
2. Razer BlackShark V2 Pro Wireless |
เกมเมอร์ FPS ที่ต้องการความแม่นยำของเสียงทิศทางและไมโครโฟนที่ดีที่สุด | ไดรเวอร์ 50 มม. ให้เสียงทรงพลัง คมชัด แม่นยำ | ไมโครโฟนถอดออกได้ และ ปรับแต่งผ่าน Razer Synapse (EQ, ระบบเสียงรอบทิศทาง, ไมโครโฟน) | Wireless |
3. HyperX Cloud III Wireless |
เกมเมอร์ที่ให้ความสำคัญกับความสบายในการสวมใส่, แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน และผู้ที่ต้องการเสียงเบสที่ทรงพลัง |
ไดรเวอร์ 53 มม. เสียงดังกระหึ่ม รายละเอียดครบถ้วนสมจริง |
DTS® Headphone:X® Spatial Audio |
Wireless |
4. Logitech G Pro X 2 Lightspeed |
เกมเมอร์ที่ต้องการหูฟังน้ำหนักเบาเพื่อการแข่งขันหรือใช้งานจริงจัง และสตรีมเมอร์ที่ต้องการไมค์คุณภาพดี |
ไดรเวอร์ Graphene Pro-G 50 มม., รองรับ Dolby Atmos / Windows Sonic |
ไมโครโฟน Blue VO!CE |
Wireless (Lightspeed) |
5. Corsair HS80 RGB Wireless |
เกมเมอร์ PC/PS5 ที่ต้องการคุณภาพเสียงระดับพรีเมียมและดีไซน์ที่โดดเด่น |
ไดรเวอร์ 50 มม. ปรับแต่งพิเศษ และรองรับ Dolby Atmos (PC) |
ไฟ RGB, Slipstream Wireless |
Wireless |
6. Asus ROG Delta S Wireless |
เกมเมอร์ที่ต้องการคุณภาพเสียงระดับ Audiophile และความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อ |
Hi-Fi ESS 9281 Quad DAC |
AI Noise-Canceling (ไมโครโฟน) |
Dual Mode Wireless (2.4 GHz, Bluetooth) |
7. Bose QuietComfort 35 II Gaming Headphone |
ผู้ที่เล่นเกมและฟังเพลงอย่างจริงจัง และผู้ที่ต้องการหูฟังที่สามารถใช้งานได้หลากหลายและตัดเสียงรบกวนได้ดีเยี่ยม |
คุณภาพเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของ Bose |
ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC), Discord และ TeamSpeak-certified, รองรับ Siri, Alexa และ Google Assistant |
Bluetooth, AUX/3.5 mm., USB |
8. Sony INZONE H9 |
เกมเมอร์ PS5 ที่ต้องการประสบการณ์เสียงรอบทิศทางที่ดื่มด่ำ, ผู้ที่ต้องการหูฟังที่มี ANC สำหรับการเล่นเกมและใช้งานทั่วไป |
360 Spatial Sound |
Active Noise Cancellation (ANC), Ambient Sound Mode และ ไมโครโฟนบูมพับขึ้นเพื่อปิดเสียง |
Wireless (ออกแบบมาเพื่อ PS5 และ PC) |
9. EPOS H6Pro Open Acoustic |
เกมเมอร์ที่ไม่ต้องการการตัดเสียงรบกวนโดยสมบูรณ์ และผู้ที่ต้องการหูฟังที่ให้เสียงเป็นธรรมชาติและระบายอากาศได้ดี |
ไดรเวอร์เสียงออกแบบมาเพื่อความแม่นยำ และดีไซน์อะคูสติกแบบเปิด |
ไมโครโฟนยกขึ้นเพื่อปิดเสียง |
เชื่อมต่อแบบมีสาย เน้นการใช้งานที่หลากหลายแพลตฟอร์ม |
10. Redragon Zeus X H510 Wireless |
มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นเล่นเกม และ เกมเมอร์ทั่วไปที่ต้องการหูฟังไร้สายคุณภาพดีในงบประมาณที่จำกัด |
7.1 Surround Sound และไดรเวอร์ 53 มม. |
ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน |
Wireless และมีสาย |
แนะนำโปรโมชั่นบัตรเครดิต KTC รูดซื้อสินค้า IT กับร้านค้าชั้นนำ
สมาชิกบัตรเครดิต KTC ช้อปคุ้มซื้อสินค้าไอที (IT) กับร้านค้าที่ร่วมรายการ ไม่ว่าจะเป็น Advice หรือ Advice Online, JIB หรือ JIB Online, IT City หรือ CSC หรือ IT City Online และ BaNANA หรือ BaNANA E-quip หรือ Bnn.in.th รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 28,000 บาท ต่อสมาชิกบัตรเครดิต KTC 1 ท่าน (เมื่อผ่อนตามเงื่อนไขที่กำหนด) และได้รับสิทธิประโยชน์ แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 20 % (เมื่อแลกคะแนนตามเงื่อนไขที่กำหนด)
โปรโมชั่น Advice กับบัตรเครดิต KTC
โปรโมชั่นผ่อน 0% สำหรับสินค้าที่ร่วมรายการ อัตราดอกเบี้ย 0% เมื่อชำระยอดผ่อนตามที่เรียกเก็บรายเดือนภายในวันครบกำหนดชำระ ระยะเวลาโปรโมชั่นตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 68 - 30 มิ.ย. 68
คุ้มที่ 1 รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 28,000 บาท
คุ้มที่ 2 แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืน 17% เมื่อมียอดผ่อนชำระหรือชำระเต็มจำนวนตั้งแต่ 1,000 บาท โดยใช้คะแนน KTC FOREVER ตั้งแต่ 1,000 คะแนน แลกคะแนนสูงสุดไม่เกินยอดใช้จ่ายต่อเซลส์สลิป และเครดิตเงินคืนจะคำนวณจากจำนวนคะแนนที่แลก
ทั้งนี้ สามารถติดตามรายละเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่ KTC
โปรโมชั่น JIB และ JIB Online กับบัตรเครดิต KTC
โปรโมชั่นผ่อน 0% สำหรับสินค้าที่ร่วมรายการ อัตราดอกเบี้ย 0% เมื่อชำระยอดผ่อนตามที่เรียกเก็บรายเดือนภายในวันครบกำหนดชำระ ระยะเวลาโปรโมชั่นตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 68 - 30 มิ.ย. 68
คุ้มที่ 1 รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 28,000 บาท
คุ้มที่ 2 แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืน 20% เมื่อมียอดผ่อนชำระหรือชำระเต็มจำนวนตั้งแต่ 1,000 บาท ใช้คะแนน KTC FOREVER ตั้งแต่ 1,000 คะแนน แลกคะแนนสูงสุดไม่เกินยอดใช้จ่ายต่อเซลส์สลิป โดยเครดิตเงินคืนจะคำนวณจากจำนวนคะแนนที่แลก
ทั้งนี้ สามารถติดตามรายละเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่ KTC
โปรโมชั่น IT CITY, CSC กับบัตรเครดิต KTC
โปรโมชั่นผ่อน 0% สำหรับสินค้าที่ร่วมรายการ อัตราดอกเบี้ย 0% เมื่อชำระยอดผ่อนตามที่เรียกเก็บรายเดือนภายในวันครบกำหนดชำระ ระยะเวลาโปรโมชั่นตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 68 - 30 มิ.ย. 68
คุ้มที่ 1 รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 28,000 บาท
คุ้มที่ 2 แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืน 13% เมื่อมียอดผ่อนชำระหรือชำระเต็มจำนวนตั้งแต่ 1,000 บาท ใช้คะแนน KTC FOREVER ตั้งแต่ 1,000 คะแนน แลกคะแนนสูงสุดไม่เกินยอดใช้จ่ายต่อเซลส์สลิป โดยเครดิตเงินคืนจะคำนวณจากจำนวนคะแนนที่แลก
ทั้งนี้ สามารถติดตามรายละเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่ KTC
โปรโมชั่น BANANA, Bnn.in.th กับบัตรเครดิต KTC
โปรโมชั่นผ่อน 0% สำหรับสินค้าที่ร่วมรายการ อัตราดอกเบี้ย 0% เมื่อชำระยอดผ่อนตามที่เรียกเก็บรายเดือนภายในวันครบกำหนดชำระ ระยะเวลาโปรโมชั่นตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 68 - 30 มิ.ย. 68
คุ้มที่ 1 รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 28,000 บาท
คุ้มที่ 2 แลกคะแนน KTC FOREVER รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% เมื่อมียอดใช้จ่ายรายการ “ผ่อนชำระ” หรือ “ชำระเต็มจำนวน” เมื่อใช้จ่ายตามยอดที่กำหนดและแลกคะแนนตั้งแต่ 1,000 คะแนน สูงสุดไม่เกินยอดใช้จ่ายต่อเซลล์สลิป, แลกคะแนน KTC FOREVER รับเครดิตเงินคืน 13% (สำหรับยอดใช้จ่ายตั้งแต่ 1,000 – 9,999 บาท) และแลกคะแนน KTC FOREVER รับเครดิตเงินคืน 15% (สำหรับยอดใช้จ่ายตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป) โดยเครดิตเงินคืนจะคำนวณจากจำนวนคะแนนที่แลก
ทั้งนี้ สามารถติดตามรายละเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่ KTC
สนใจรับสิทธิพิเศษสุดคุ้มค่าในทุกการรูดซื้อสมัครบัตรเครดิต KTC ออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้า ครอบคลุมทุกความคุ้มค่าการใช้จ่าย ด้วยการรับคะแนน KTC FOREVER สะสมได้ไม่จำกัดและไม่มีวันหมดอายุ
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC