ราคาประกันชั้น 1 วิธีเช็คเบี้ยด้วยตัวเองเบื้องต้นสำหรับคนมีรถ

อยากเปลี่ยนรถเป็นเงิน ไม่ทำประกันภัยรถยนต์ได้ไหม

ปัจจุบันรถยนต์ส่วนใหญ่มีประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) คุ้มครองอยู่แล้ว หากอยากรับความคุ้มครองเพิ่มเติมเวลาเกิดเหตุไม่คาดฝันกับตัวคุณเองและคนรอบข้างก็สามารถทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจได้ ซึ่งทุกวันนี้การทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก ผู้ใช้รถสามารถเช็คข้อมูลความคุ้มครองตามกรมธรรม์และเบี้ยประกันเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง และเพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจ วันนี้พี่เบิ้มขอพาทุกคนไปดูวิธีเช็คราคาประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ก่อนเลือกต่อประกัน

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ดีอย่างไร ทำไมถึงควรมีติดไว้

สำหรับประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือที่เรียกกันว่า พ.ร.บ. รถยนต์ เป็นกรมธรรม์ที่รถทุกคันต้องทำเพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับการรักษาพยาบาลทันทีที่เกิดเหตุ และให้ความคุ้มครองเพียงเฉพาะตัวบุคคลที่ได้รับอุบัติเหตุ ซึ่งต่างจากประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มครองในกรณีที่เกิดความเสียหายทั้งต่อร่างกายและทรัพย์สิน โดยเป็นการจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ทำประกัน นอกจากนี้ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ยังมีข้อดีที่น่าสนใจ ดังนี้

คุ้มครองครอบคลุมทุกเหตุการณ์

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 มีความพิเศษตรงที่ให้ความคุ้มครองสูงสุดหรือครอบคลุมเหนือกว่าประกันภัยทุกประเภท เช่น คุ้มครองทั้งรถคู่กรณีและรถเรา คุ้มครองกรณีรถหาย ประสบเหตุไฟไหม้รถ ภัยธรรมชาติต่าง ๆ การก่อการร้ายที่ส่งผลต่อตัวรถและบุคคลในรถ เป็นต้น มั่นใจได้ว่าหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมาในอนาคต ผู้ใช้รถไม่ต้องแบกภาระค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ หรือค่าชดเชยต่าง ๆ เพียงลำพัง

คุ้มครองกรณีชนแล้วหนี

เหตุชนแล้วหนีหรือกรณีเฉี่ยวชนแบบไม่มีคู่กรณีสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งตามปกติประกันชั้นอื่น ๆ จะรับเคลมเมื่อมีคู่กรณี แต่สำหรับประกันรถยนต์ชั้น 1 แม้ไม่มีคู่กรณีก็สามารถเคลมประกันได้ ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าหลังเกิดเหตุต้องรับผิดชอบค่าซ่อมแซมรถเอง

แม้เกิดเหตุชนแล้วหนี ยังคงได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์

วงเงินคุ้มครองประกันสูง

แน่นอนว่าเมื่อมีความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากกว่าประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับและประกันภัยแผนอื่น ส่งผลให้ค่าเบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1 สูงตามไปด้วย แต่ถ้าเทียบความคุ้มค่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุต้องบอกว่า การทำประกันชั้น 1 เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก แม้ว่าคุณจะมีแนวโน้มเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนน้อยก็ตาม

มีคนคอยดูแล

เมื่อผู้ใช้รถในฐานะผู้ทำประกันแจ้งให้บริษัทประกันรถยนต์ทราบว่า คุณประสบอุบัติเหตุตรงจุดไหนของประเทศไทย ทางบริษัทประกันจะประสานงานเพื่อส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแล พร้อมให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ กับผู้ทำประกันอย่างทันท่วงที

อยากเช็คเบี้ยประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ต้องทำอย่างไร

ทุกวันนี้บริษัทประกันภัยหลายแห่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้รถที่สนใจทำประกันรถยนต์ชั้น 1 สามารถเช็คเบี้ยประกันที่สนใจได้ผ่านเว็บไซต์หรือบนแอปพลิเคชันของตน โดยข้อมูลที่ผู้ใช้รถต้องกรอกเพื่อเปรียบเทียบความคุ้มครองและเบี้ยประกันภัยรถยนต์ มีดังนี้

• รายละเอียดรถยนต์ เช่น ยี่ห้อ รุ่นรถ ปีที่จดทะเบียน รุ่นย่อย มีกล้องติดรถยนต์หรือไม่ เลขไมล์ปัจจุบันของรถ และวัตถุประสงค์ในการใช้รถ
• ประวัติการแจ้งเคลมตลอด 12 เดือนที่ผ่านมา (ถ้ามี)
• วันที่ต้องการเริ่มความคุ้มครอง
• ผู้ขับขี่หลัก
• อายุใบขับขี่
• ส่วนลดประวัติดี (ถ้ามี)
• ซ่อมศูนย์หรือซ่อมอู่

โดยข้อมูลที่ผู้ใช้รถต้องกรอกเพื่อเปรียบเทียบเบี้ยประกันก็มีความแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่แต่ละเว็บไซต์เป็นผู้กำหนด ทั้งนี้ถ้ากรอกข้อมูลครบถ้วนตามเงื่อนไข ผู้ใช้รถสามารถเลือกเปรียบเทียบวงเงินกับแผนความคุ้มครองของกรมธรรม์ที่สนใจว่าคุ้มค่ากับเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายหรือไม่

ก่อนเปลี่ยนรถเป็นเงิน ต้องต่อประกันภัยรถยนต์ไหม

มาถึงตรงนี้ผู้ใช้รถหลายคนอาจสงสัยว่า การทำประกันภัยรถยนต์กับการเปลี่ยนรถเป็นเงินมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร ? คำตอบคือ หนึ่งในเงื่อนไขสำคัญที่ธนาคารหรือผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงินเจ้าของสินเชื่อรถแลกเงิน ไม่ต้องโอนเล่ม กำหนดว่าผู้ขอสินเชื่อต้องนำสำเนากรมธรรม์ประกันภัยมายื่นเพื่อประกอบการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ นอกเหนือไปจากเอกสารยืนยันตัวตน เอกสารแสดงรายได้ อาชีพค้าขายหรือพนักงานบริษัท เล่มทะเบียนรถตัวจริง นั่นเท่ากับว่าคนมีรถปลอดภาระที่วางแผนยื่นขอสินเชื่อรถแลกเงิน จำต้องเช็คคุณสมบัติและเอกสารประกอบการสมัครอย่างละเอียด หากพบว่าต้องใช้สำเนากรมธรรม์ประกันภัยก็ควรรีบดำเนินการต่อให้เรียบร้อย เพื่อให้การเปลี่ยนรถเป็นเงินเป็นไปอย่างราบรื่น

เปลี่ยนรถเป็นเงิน วิธีหาเงินด่วนของคนมีรถปลอดภาระ

ขอสินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง

สำหรับคนมีรถปลอดภาระที่อยากได้เงินก้อนใหญ่มาเสริมสภาพคล่องในชีวิตประจำวัน สำรองไว้เป็นค่ารักษาพยาบาล ต่อเติมบ้าน หรือต่อยอดธุรกิจ แล้วสนใจนำรถมาแลกเงินกับ KTC พี่เบิ้ม ผลิตภัณฑ์จำนำทะเบียนที่มีจุดเด่นเรื่องให้วงเงินก้อนใหญ่ถึง 1 ล้านบาท รู้ผลอนุมัติไวภายใน 1 ชั่วโมง พร้อมรับเงินโอนเข้าบัญชีทันที ไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน ไม่ต้องโอนเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองกรรมสิทธิ์ คิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกเริ่มต้นเพียง 0.98% ต่อเดือน เพียงผู้ขอสินเชื่อกับพี่เบิ้มต้องมีคุณสมบัติและเตรียมเอกสาร ดังนี้

คุณสมบัติผู้สมัคร

• สัญชาติไทย อายุ 20 – 65 ปี
• รายได้ขั้นต่ำ 8,000 บาทต่อเดือน (กรณีเจ้าของกิจการ มียอดขายต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท)
• ประสบการณ์ทำงานไม่ต่ำกว่า 4 เดือน (กรณีเจ้าของกิจการต้องดำเนินธุรกิจไม่ต่ำกว่า 6 เดือน)
• มีรถยนต์ รถกระบะ รถตู้เป็นชื่อของตนเอง โดยถือครองเล่มทะเบียนไม่ต่ำกว่า 6 เดือน

เอกสารที่ต้องเตรียม

• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
• สำเนาทะเบียนบ้าน
• เอกสารแสดงรายได้ เช่น หนังสือรับรองเงินเดือน หรือสลิปเงินเดือนล่าสุด (ฉบับจริง) หรือหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ทวิ 50 หรือเอกสารแสดงการประกอบอาชีพ
• สำเนาเอกสารแสดงรายการเดินบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน
• สำเนาหน้าแรกของสมุดบัญชีธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย หรือธนาคารกรุงเทพ
• ทะเบียนรถเล่มจริง และมีชื่อผู้กู้เป็นเจ้าของ
• สำเนากรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ตามเงื่อนไข

เห็นได้ว่า สินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน เป็นบริการสินเชื่อแบบไม่โอนเล่มที่ต้องนำสำเนากรมธรรม์ประกันภัยมายื่นด้วยเวลาสมัครขอสินเชื่อ นอกจากนี้หลังรู้ผลอนุมัติผู้ขอสินเชื่อยังสามารถใช้งานรถที่นำมาเป็นประกันได้ตามปกติ ที่สำคัญพี่เบิ้มยังมอบบัตรกดเงินสด KTC พี่เบิ้ม ไว้ใช้ยามเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยสามารถกดเงินจากตู้ ATM ได้ตลอด 24 ชั่วโมงแบบไม่มีค่าธรรมเนียม รวมถึงรูดซื้อสินค้าที่ร้านค้าที่ร่วมรายการและโอนเงินสดเข้าบัญชี หากคุณมีเหตุให้ต้องใช้เงินด่วนและกำลังมองหาแหล่งเงินกู้ของคนมีรถ อย่าลืมนึกถึง พี่เบิ้ม เพื่อนแท้ที่พร้อมอยู่เคียงข้างคุณในทุกเวลา

มีรถมีเงินใช้ กับสินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน