เช็คระยะรถยนต์ตามกำหนด มีข้อดีมากกว่าที่คิด
รถยนต์เป็นยานพาหนะที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้ขับขี่ และเพื่อป้องกันไม่ให้รถยนต์เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ การบำรุงรักษาตามระยะวิ่งช่วยให้รถยนต์สามารถใช้งานได้ดีและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทั้งยังส่งผลถึงเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่ด้วย เพราะรู้ถึงปัญหาก่อนที่จะลุกลาม แต่ถึงอย่างนั้นการเช็คระยะรถยนต์อาจเป็นเรื่องจุกจิกของใครหลายคน ด้วยไม่รู้ว่าควรตรวจเช็คระบบอะไรที่ระยะเท่าไร เพื่อไม่ให้เป็นการหลงลืม วันนี้พี่เบิ้มได้รวบรวมรายการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ของแต่ละระยะทางให้ผู้ใช้รถได้เซฟเก็บไว้กันครับ
การเช็คระยะรถยนต์ คืออะไร เช็คอะไรบ้าง
เป็นการตรวจสภาพรถยนต์หลังใช้งานมาระยะหนึ่ง เพื่อให้รถอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และเหมาะกับการใช้งานมากที่สุด ทั้งนี้หากตรวจพบความผิดปกติจะได้ทำเปลี่ยนอะไหล่หรือทำการซ่อมบำรุงทันที โดยช่วงที่ต้องนำรถยนต์เข้าไปเช็คระยะมี 2 แบบ คือ
(1) นับจากระยะเวลา เป็นการนับตั้งแต่วันออกรถ หากคุณใช้งานรถน้อยขอให้เลือกวิธีนี้ในการคำนวณเวลาเพื่อนำรถเข้ารับการเช็คระยะ
(2) ดูจากระยะทาง คือการพิจารณาตามเลขไมล์ที่วิ่งใช้งานไป เหมาะกับผู้ที่ใช้รถเป็นประจำ
สิ่งที่ต้องตรวจสอบเมื่อนำรถยนต์เข้ารับการเช็คระยะที่ศูนย์บริการหรือร้านซ่อมรถใกล้บ้าน มีรายละเอียดคร่าว ๆ ดังนี้
ตรวจวัดระดับน้ำมันเครื่องให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อปกป้องเครื่องยนต์
- เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เป็นสิ่งแรกที่ควรทำเมื่อนำรถเข้ารับการเช็คระยะในแต่ละครั้ง นอกจากช่วยให้เครื่องยนต์สะอาด ยังช่วยลดการสึกหรอ และเครื่องยนต์ทำงานได้อย่างลื่นไหล
- ตรวจสอบสภาพไส้กรองต่าง ๆ ในรถยนต์ หลายคนอาจไม่รู้ว่าไส้กรองอากาศ ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง ไส้กรองแอร์ หรือไส้กรองน้ำมันเครื่องมีระยะเวลาในการเปลี่ยนไม่เท่ากัน ฉะนั้นควรเช็คอย่างละเอียดว่ารอบที่นำรถเข้าเช็คระยะถึงเวลาเปลี่ยนไส้กรองระบบใดบ้าง
- ตรวจสอบระดับของเหลวต่าง ๆ ในระบบของเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อให้การทำงานของเครื่องยนต์เป็นไปอย่างราบรื่น
- ยางปัดน้ำฝน ไม่ได้มีแค่หน้าฝนที่ผู้ขับขี่ต้องใช้งานที่ปัดน้ำมัน ฉะนั้นควรเช็คให้ดีว่าใบยางที่ก้านรีดน้ำบนกระจกสะอาดหรือไม่ ถ้าไม่อาจส่งผลเสียต่อทัศนวิสัยในการมองเห็นของคนขับ
- ระบบไฟส่องสว่าง เพื่อให้การขับขี่ไปอย่างราบรื่น ควรหมั่นเช็คว่าระบบไฟส่องสว่างยังใช้งานได้ดีไหม หากตรวจพบความผิดปกติให้รีบซ่อมทันทีเพื่อความปลอดภัย
- แบตเตอรี่ ถ้าสตาร์ตรถไม่ติดหรือติดยากให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า แบตเตอรี่เก็บไฟไม่อยู่หรือเริ่มเสื่อมสภาพ ควรเปลี่ยนทันที
สายพานทำหน้าที่ถ่ายทอดกำลังจากเครื่องยนต์
- สายพานของเครื่องยนต์ มีการเสื่อมสภาพไปตามระยะทางที่ใช้งาน ทำให้ต้องได้รับการตรวจสอบสภาพอย่างสม่ำเสมอ หากสายพานหย่อนหรือตึงเกินไปต้องปรับให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
- ระบบเบรก ทางช่างจะตรวจสภาพและความหนาของผ้าเบรก ถ้าความหนาของผ้าเบรกอยู่ที่ 3 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่านั้น ควรเปลี่ยนผ้าเบรกใหม่ทันที
- ยางรถยนต์ เป็นอุปกรณ์ของรถที่มีการใช้งานอยู่ตลอดเวลา และมีส่วนเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการเดินทาง หากความลึกของร่องดอกยางต่ำกว่า 1.6 มิลลิเมตร ให้รีบเปลี่ยนยางใหม่ทันที
ตารางเช็คระยะรถยนต์ แต่ละกิโลเมตรต้องดูอะไรบ้าง
นำรถเช็คระยะตามรอบที่กำหนด ช่วยให้รู้ว่ามีระบบไหนที่เริ่มเสื่อมสภาพ
อายุรถประมาณ 1-6 เดือน หรือทุก 5,000 กิโลเมตร
มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและเปลี่ยนไส้กรองอากาศ เช็คระดับน้ำหล่อเย็น พร้อมกับตรวจเช็คยางรถยนต์ ระบบจานเบรกและผ้าเบรก
อายุรถประมาณ 6-12 เดือน หรือทุก 10,000 กิโลเมตร
นอกจากช่างเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เช็คระดับน้ำหล่อเย็น เปลี่ยนไส้กรองต่าง ๆ ตรวจสภาพใบปัดน้ำฝน เช็คระบบเบรก ระบบคลัตช์ ระบบช่วงล่าง รวมถึงตรวจดูรอยรั่วซึมของท่อและสายต่าง ๆ ภายในรถยนต์
อายุรถประมาณ 12-24 เดือน หรือทุก 20,000 กิโลเมตร
เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ไส้กรองและน้ำมันเกียร์ เช็คสายพานของเครื่องยนต์ว่าตึงหรือหย่อนเกินไปหรือไม่ เช็คสภาพยางรถยนต์ และไล่เช็คระบบช่วงล่างทั้งหมด
อายุรถประมาณ 12-24 เดือน หรือทุก 40,000 กิโลเมตร
ทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรอง เช็คแบตเตอรี่ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรก น้ำมันคลัตช์ น้ำมันพวงมาลัย น้ำมันเกียร์ออโต้ และน้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์ รวมทั้งจะมีการเปลี่ยนสายพานขับปั๊ม สายพานแอร์ และใบปัดน้ำฝน
อายุรถประมาณ 30 เดือน หรือทุก 50,000 กิโลเมตร
มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนไส้กรองต่าง ๆ เช็คระดับน้ำหล่อเย็น เช็คสภาพยางรถยนต์ เช็คระบบเบรก ระบบคลัตช์ นอกจากนี้ในการเช็คระยะ 50,000 กิโลเมตร จำต้องเปลี่ยนอุปกรณ์บางอย่าง เพราะผ่านการใช้งานมาหลายปี ส่วนเปลี่ยนอะไรบ้างนั้น มีทั้งแบตเตอรี่ สายหัวเทียน หรือเปลี่ยนกรองน้ำมันเชื้อเพลิง
มาถึงตรงถึงเห็นได้ว่า การตรวจเช็คระยะรถยนต์ตามกำหนดมีความสำคัญอย่างมาก นอกจากช่วยชะลอความเสื่อมของรถและลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ การดูแลรถยนต์ให้อยู่ในสภาพที่ดียังมีผลเวลานำรถยนต์ไปยื่นขอสินเชื่อทะเบียนรถ เพราะถ้ารถสภาพดีก็จะมีโอกาสได้เงินก้อนจากการกู้สินเชื่อที่มากขึ้นด้วย ส่วนใครที่กำลังมองหาเงินก้อนที่อนุมัติไว บริการด่วนทันใจ เพื่อนำเงินมาซื้อยางใหม่ เปลี่ยนอะไหล่ หรือซ่อมเครื่องยนต์ พี่เบิ้มขอนำเสนอตัวช่วยดี ๆ นั่นคือ “KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” ที่พร้อมให้วงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท รู้ผลอนุมัติรวดเร็วทันใจใน 2 ชั่วโมง พร้อมรับเงินก้อนเข้าบัญชีทันที หากสนใจสามารถกรอกข้อมูลที่นี่เพื่อปรึกษาทีมงานของพี่เบิ้มก่อนได้เลย
ดูแลรถยนต์ให้เหมือนใหม่อยู่เสมอ ยื่นขอสินเชื่อกับ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ราคาไม่ตก