การเปลี่ยนกรองอากาศรถยนต์สำคัญแค่ไหน ควรเปลี่ยนเมื่อไรดี

รถเร่งไม่ขึ้น กำลังเครื่องตก หรือกินน้ำมันเชื้อเพลิงผิดปกติ ล้วนเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้จากไส้กรองอากาศสกปรก แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าสามารถเปลี่ยนเองได้ และมักจะรอให้ถึงระยะการตรวจเช็กกับศูนย์บริการ หรือรอให้เกิดอาการแล้วไปที่อู่ซ่อมรถเท่านั้น KTC เราเลยจะมาอธิบายถึงความสำคัญของไส้กรองอากาศรถยนต์ ควรเปลี่ยนเมื่อไรดี และมีวิธีสังเกตอาการที่เกิดขึ้นกับรถอย่างไรบ้าง เราไปดูกันดีกว่า

เลือกอ่านตามหัวข้อ

• ความสำคัญของกรองอากาศรถยนต์
• อาการผิดปกติที่อาจเกี่ยวข้องกับกรองอากาศรถยนต์
• เปลี่ยนกรองอากาศรถยนต์ ดียังไง
• กรองอากาศรถยนต์ ควรเปลี่ยนเมื่อไร
• เปลี่ยนกรองอากาศรถยนต์ ราคาแพงไหม
• นำกรองอากาศรถยนต์ ไปล้างน้ำได้ไหม
• สรุปบทความ การเปลี่ยนกรองอากาศรถยนต์สำคัญแค่ไหน ควรเปลี่ยนเมื่อไรดี

ความสำคัญของกรองอากาศรถยนต์

ไส้กรองอากาศรถยนต์ ทำหน้าที่ดักจับฝุ่น และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ไม่ให้เข้าไปในห้องเผาไหม้ อย่างที่หลายคนน่าจะทราบกันดีว่า การที่รถจะเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ จะเกิดจากการจุดระเบิดภายในห้องเครื่องระหว่างน้ำมัน และอากาศขึ้นภายใน ซึ่งหากไม่มีไส้กรองอากาศรถยนต์คอยดักจับสิ่งสกปรกเหล่านี้ เครื่องยนต์ก็จะสึกหรอเร็วขึ้น และพังในท้ายที่สุด

อาการผิดปกติที่อาจเกี่ยวข้องกับกรองอากาศรถยนต์

เชื่อว่าผู้ใช้รถหลายคนอาจยังสงสัยว่า จะรู้ได้อย่างไรว่าไส้กรองอากาศรถยนต์ ควรเปลี่ยนเมื่อไรดี หากไม่ได้เปิดฝากระโปรงหน้าเพื่อตรวจเช็ก ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การหมั่นตรวจเช็ก และจดจำระยะในการเปลี่ยนอะไหล่ คือวิธีที่ดีที่สุดในการดูแลรถยนต์ แต่หากจำไม่ได้ หรือลืมไปแล้ว สัญญาณเตือนที่ผิดปกติจากการขับ ก็เป็นอีกจุดที่ต้องเอะใจเช่นกัน โดยมากจะมีอาการ ดังนี้

รถเร่งไม่ขึ้น

รถเร่งไม่ขึ้น เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุดจากปัญหาไส้กรองอากาศรถยนต์สกปรก เพราะเมื่ออากาศไหลเข้าสู่ห้องเครื่องยนต์ได้ไม่เต็มที่ การจุดระเบิดเพื่อเผาไหม้เชื้อเพลิง จะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำลังเครื่องตกลงนั่นเอง

รถกินน้ำมันมากกว่าปกติ

อาการต่อเนื่องจากเร่งไม่ขึ้น ก็คือ อัตราการบริโภคเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิม จากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ บวกกับการเติมคันเร่งที่มากขึ้นแบบไม่รู้ตัว เพราะรถกำลังเครื่องตก จึงเป็นอีกหนึ่งอาการที่ควรเอะใจเช่นกัน

รถมีอาการสั่นเมื่อสตาร์ท

หากไส้กรองอากาศรถยนต์ เกิดการอุดตันมาก ๆ จนอากาศผ่านเข้าไปยังห้องเผาไหม้ได้น้อย จะทำให้เครื่องยนต์เดินไม่เรียบ และมีอาการสั่น หรือกระตุกในขณะเดินเบาอยู่เหมือนกัน ซึ่งอาการนี้ไม่ควรปล่อยไว้เด็ดขาด

รถมีอาการเหมือนจะวูบ

หากขับรถแล้วมีอาการเหมือนจะวูบ อยู่ ๆ กำลังเครื่องก็ตกแบบดื้อ ๆ ทั้งที่ไม่มีไฟแจ้งเตือนอะไร นี่ก็อาจเป็นอีกสัญญาณเตือน ที่เกิดจากอากาศไหลเวียนเข้าไปห้องเผาไหม้ไม่เพียงพอ จนทำให้กำลังเครื่องตกขณะขับอยู่

เปลี่ยนกรองอากาศรถยนต์ ดียังไง

การเปลี่ยนไส้กรองอากาศรถยนต์ จะช่วยให้เครื่องยนต์เกิดการสึกหรอน้อยลง รวมไปถึงอัตราเร่งที่ดีขึ้น และยังช่วยประหยัดเชื้อเพลิงไปในตัว จึงควรเปลี่ยนตามอายุการใช้งานที่คู่มือรถแนะนำ

กรองอากาศรถยนต์ ควรเปลี่ยนเมื่อไร

ไส้กรองอากาศรถยนต์ควรเปลี่ยนทุก 10,000 กม. เพราะสภาพท้องถนนเมืองไทยนั้นเต็มไปด้วยฝุ่นจากสิ่งก่อสร้าง ไหนจะมลพิษจากท่อไอเสียรถบรรทุก หรือกระบะควันดำที่วิ่งกันเต็มถนนอีก จึงควรเปลี่ยนที่ระยะ 10,000 กม. จะดีกว่า เพราะไส้กรองอากาศนั้นไม่ได้แพง เมื่อเทียบกับค่าซ่อมจากอาการข้างต้นที่เราได้อธิบายไป

กรองอากาศรถยนต์ อยู่ตรงไหน

ไส้กรองอากาศรถยนต์ จะอยู่ด้านข้างของเครื่องยนต์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเหมือนกล่องพลาสติก ที่มีท่อต่อยาวมาที่ด้านหน้าตัวรถบริเวณหม้อน้ำ และมักจะสลักล็อกเอาไว้ที่สามารถถอดออกเพื่อเปลี่ยนเองได้

เปลี่ยนกรองอากาศรถยนต์ ราคาแพงไหม

ไส้กรองอากาศรถยนต์ จะมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 100 - 1,000 บาท โดยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นรถ และประเภทของไส้กรอง แต่หากเป็นไส้กรองสเตนเลส หรือที่เรียกกันว่ากรองเปลือย ก็อาจจะมีราคาที่แพงกว่านี้ แต่ไม่แนะนำให้ใช้งานกับรถยนต์ทั่วไป เพราะจะเกิดการอุดตันได้เร็วกว่า

นำกรองอากาศรถยนต์ ไปล้างน้ำได้ไหม

การทำความสะอาดไส้กรองอากาศรถ ไม่ควรนำไปล้างน้ำโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้ไส้กรองเสื่อมสภาพ แต่ควรทำความสะอาดด้วยการนำไปเป่าฝุ่น ให้สิ่งสกปรกต่าง ๆ หลุดออกจากไส้กรอง เพื่อนำมาใช้งานต่อ หากไม่ได้สกปรกมากนัก แต่หากมีการอุดตัน และไส้กรองดูเสื่อมสภาพจนไม่น่าใช้งานต่อ การเปลี่ยนก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่า

สรุปบทความ การเปลี่ยนกรองอากาศรถยนต์สำคัญแค่ไหน ควรเปลี่ยนเมื่อไรดี

หวังว่าทุกคนจะรู้กันแล้วนะ ว่าไส้กรองอากาศรถยนต์ ควรเปลี่ยนเมื่อไรดี พร้อมกับอาการต่าง ๆ ที่ผู้ใช้รถสามารถสังเกตเองได้ ก่อนที่ปัญหาไส้กรองจะทำให้เครื่องยนต์สึกหรอหนักขึ้น แต่สำหรับคนใช้รถที่ประสบปัญหาเรื่องเงิน แต่ไม่รู้จะไปหาเงินก้อนจากที่ไหน หากคุณมีรถที่ปลอดภาระแล้ว KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน คือคำตอบสำหรับคุณ เพราะเป็นสินเชื่อที่มีวงเงินก้อนใหญ่ สมัครง่าย พร้อมบริการ พี่เบิ้ม Delivery ที่จะเดินทางไปตรวจสภาพรถ และประเมินราคาให้ถึงหน้าบ้าน อนุมัติไว รับเงินก้อนได้ทันที แบบไม่ต้องมีคนค้ำประกันผ่อนโดยได้นานสูงสุด 84 เดือน อีกทั้งยังเลือกรับบัตรกดเงินสด KTC พี่เบิ้มสำหรับใช้ฉุกเฉิน แบบกดได้ฟรีโดยไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มอีกด้วย

สมัคร KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงินออนไลน์ ได้วงเงินก้อนใหญ่

สมัครง่าย รู้ผลไว ตรวจสภาพรถพร้อมประเมินราคาให้ถึงหน้าบ้าน

*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด*

*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21%-24% ต่อปี*