โอกินาวา : สวรรค์แดนใต้ อาณาจักรริวกิว สุดขอบแดนอาทิตย์อุทัย

เรื่องและภาพโดย คุณสุรศักดิ์ สุขใส 
สมาชิกบัตรเครดิต KTC FUTURE PARK TITANIUM

“ญี่ปุ่น” เป็นประเทศที่คนไทยหลาย ๆ คนหมายปองว่าสักครั้งหนึ่งในชีวิตต้องไปสัมผัสให้ได้สักครั้ง ประกอบกับญี่ปุ่นเองนั้นฟรีวีซ่าให้กับคนไทย รวมทั้งตั๋วเครื่องบินที่มีการแข่งขันหลาย ๆ เจ้าทำให้การไปดินแดนอาทิตย์อุทัยไม่ใช่สิ่งที่ยากเกินไปสำหรับคนไทย แต่ใช่ว่าทุกจังหวัดของญี่ปุ่นจะสามารถบินตรงได้ง่าย หรือไม่ใช่ทุกจังหวัดที่คนไทยเราอยากจะไป แต่ช่วงปีที่ผ่านมาจังหวัดแห่งหนึ่งที่ซ่อนตัวอย่างเงียบ ๆ ในแผนที่และอยู่ในมุมมองที่เราไม่เคยสนใจจะมองเห็นเนื่องจากจังหวัดนี้อยู่ไกลจากเกาะหลัก ค่อนไปเกือบถึงไต้หวัน ทำให้ไม่ค่อยมีคนสนใจเกาะดังกล่าว แต่แล้วเมื่อเกาะข้าง ๆ กันเริ่มได้ความนิยมคือ “ไต้หวัน” ทำให้เกาะที่อยู่เหนือขึ้นมาเริ่มได้รับความนิยมขึ้นมา เพียงแต่เป็นคนละประเทศ นั่นคือ “โอกินาวา” จังหวัดสุดชายขอบของญี่ปุ่นนั่นเอง
โอกินาวาเป็นจังหวัดที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 44 จากทั้งหมด 47 จังหวัดทั้งหมดของญี่ปุ่นแต่เดิมจังหวัดนี้เคยเป็นอาณาจักรริวกิวมาก่อน หลังจากยุทธการโอกินาวาอาณาจักรนี้ก็อยู่ภายใต้การดูแลของสหรัฐอเมริกา จนต่อมาจังหวัดนี้ก็ถูกผนวกเป็นจังหวัดหนึ่งของญี่ปุ่นทำให้ลักษณะสถาปัตยกรรมบางส่วนได้รับกลิ่นอายมาจากจีน มีฐานทัพอเมริกามากมายอยู่บนเกาะ จึงอาจกล่าวได้ว่า โอกินาวาคือญี่ปุ่นที่มีกลิ่นอายจีนผสมอยู่ในตัว รวมถึงพื้นที่ตั้งยังอยู่ใกล้กับเกาะไต้หวันมากกว่าเกาะหลักของญี่ปุ่นซะอีก ดังนั้นได้เวลาไปสัมผัสความงดงามของจังหวัดนี้กันดีกว่า
สิ่งมหัศจรรย์ของเกาะแห่งนี้คงต้องบอกว่าแตกต่างจากเกาะหลักของญี่ปุ่น เพราะระหว่างเดินทางไปในเมืองนาฮาและเมืองอื่น ๆ เราจะพบเห็นอ้อย มะพร้าว สับปะรด ที่มีลักษณะสภาพอากาศและภูมิศาสตร์คล้ายคลึงกับประเทศไทยของเรา แต่สำหรับญี่ปุ่นแล้วโอกินาวาจะเป็นจังหวัดที่แตกต่างจากจังหวัดอื่น ๆ เหมือนหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว เพื่อให้รู้จักฮาวายญี่ปุ่นให้มากขึ้น เราจะมารู้จักแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อกันดีกว่า
ปราสาทชูริโจ ปราสาทสีแดงอันเด่นสง่าและเป็นมรดกโลกอีกด้วย เนื่องจากปราสาทในญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะดูสูงตระหง่านคล้ายป้อมปราการ และสไตล์แบบญี่ปุ่นแต่คงใช้ไม่ได้กับปราสาทแห่งนี้เพราะตัวปราสาทมีสีแดง และมีลักษณะรูปทรงคล้ายพระราชวังเสียมากกว่า รวมถึงสถาปัตยกรรมภายนอกและภายในมีกลิ่นอายแบบจีนผสมอยู่ทำให้ปราสาทชูริโจน่าสนใจไม่น้อย
ชูราอุมิอควอเรียม พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่และดีที่สุดในญี่ปุ่นเป็นอันดับ 1 และใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ถ้าใครไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคังที่โอซากาที่ทำให้คุณตื่นตาตื่นใจแล้วหล่ะก็อยากจะบอกว่านั่นแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะถ้าคุณได้มาที่ชูราอุมิแล้วหล่ะก็ไคยูคังเล็กไปเลยทีเดียว ไฮไลท์ของที่นี่คือปลาฉลามวาฬ 3 ตัวอันเป็นจุดเด่น (แต่ตอนไปเหลือ 2 ตัวได้ความว่าอีกตัวเพศเมียถูกแยกเพื่อนำไปผสมพันธุ์) และเนื่องจากชูราอุมิตั้งอยูบนคาบสมุทรโบโทคุ ทำให้คุณได้ตื่นตากับท้องทะเลอันกว้างใหญ่แห่งสวรรค์แดนใต้เลยทีเดียว
เกาะโคอุริ เกาะที่อยู่เหนือเกาะหลักโอกินาวาเป็นเกาะที่รายล้อมด้วยน้ำทะเลสีเขียวมรกตที่เห็นได้ชัดทั้งในยามฟ้าครึ้มและฟ้าสดใส การมาเกาะนี้ต้องข้ามสะพานวารุมิจากเมืองนากิจิน เกาะโอกินาวามายังเกาะยางาจิแล้วข้ามสะพานจากเกาะยางาจิมายังเกาะโคอุริ ที่นี่จะทำให้คุณได้รู้สึกถึงความมหัศจรรย์แห่งทะเลญี่ปุ่นที่หาไม่ได้จากเกาะหลักเลยทีเดียว
ช่องแคบวารุมิ เป็นช่องแคบที่เชื่อมระหว่างหมู่บ้านนากิจินและเกาะยางาจิเมื่อมองไปเบื้องหน้าจะเห็นทะเลมีสีเขียวช่างดูงดงามทั้งในยามฟ้าครึ้ม 
ศาลเจ้านามิโนะอุเอะ หรือศาลเจ้าเหนือคลื่นน้ำ ที่ตั้งอยู่ในเมืองนาฮาเป็นศาลเจ้าหลักและเก่าแก่ที่สุดในโอกินาวา โดยผู้คนจะมาขอคำอธิษฐานกัน โดยศาลเจ้านี้ขึ้นชื่อในเรื่องการขอพรเกี่ยวกับสุขภาพการขอพรให้ภรรยาปลอดภัย การขอพรให้ลูกหลานมีความเจริญรุ่งเรือง การขอพรให้มีอายุยืน และการขอพรให้คลอดลูกได้อย่างปลอดภัย
โอกินาวา เวิล์ด สถานที่แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายปลายทางของผู้มาเยี่ยมเยือนโอกินาวา เนื่องจากเป็นสถานที่ตั้งถ้ำหินงอกหินย้อยที่ถือได้ว่าเป็นถ้ำหินงอกหินย้อยที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยถ้ำแห่งนี้คือ “เกียวคุเซนโด” ภายในก็จะมีหินรูปทรงต่าง ๆ หลากหลายรูปแบบและหมู่บ้านริวกิว ที่จำลองหมู่บ้านตั้งแต่สมัยยังเป็นอาณาจักรริวกิวมาก่อน
ถนนโคคุไซ หรือถนนนานาชาติ ถ้าหากโตเกียวมีย่านชิบูยะ ย่านฮาราจุกุ โอซาก้ามีย่านนัมบะ ชินไชบาชิแล้วหล่ะก็ โอกินาวาก็มีถนนโคคุไซ เป็นย่านแหล่งชอปปิ้งและถือได้ว่าเป็นประตูสู่โอกินาวา เนื่องจากเป็นย่านที่ถือได้ว่าครึกครื้นมากที่สุดในโอกินาวา ถ้าเทียบกับไทยก็คงคล้ายกับย่านสยามสแควร์ประมาณนั้น นอกจากจะมีร้านชอปปิ้ง ร้านดองกิเต้ที่คนไทยไปญี่ปุ่นรู้จักกันดีแล้ว ก็ยังมีโปเกมอนสโตร์ให้สาวกได้เลือกสอยด้วยครับ และที่ขาดไม่ได้ขนมอันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นคิทแคทมันม่วง โคลอนสับปะรด และทาร์ตมันม่วงที่คนไทยที่ไปโอกินาวาต้องเลือกซื้อกลับมาเป็นของฝากกัน

สิ่งที่ควรรู้เพิ่มเติมกับกับโอกินาวา
1. โอกินาวาไม่เหมือนกับญี่ปุ่นที่เป็นเกาะหลัก เพราะที่นี่ไม่มีรถไฟลอยฟ้า รถไฟฟ้าใต้ดิน หรือรถไฟวิ่งระหว่างจังหวัดต่าง ๆ ในเกาะ มีเพียงโมโนเรลที่เรียกว่า Yui rail ที่วิ่งจากสถานีสนามบินนาฮา ถึงสถานีชูริ (รวมเวลา 27 นาที) ซึ่งวิ่งผ่านแค่ในเมืองเท่านั้น
2. บัตรโดยสาร YUI RAIL แบบ 1 วันและ 2 วันแตกต่างจากญี่ปุ่นเกาะหลัก ตรงที่ของโอกินาวาจะเป็นแบบคิวอาร์โค้ด (QR CODE) เอาตัวโค้ดไปสแกนกับประตูทางเข้า แรก ๆ อาจลำบากหน่อยเพราะงง ๆ แต่ใช้ไปจะเชี่ยวชาญเอง
3. การเดินทางระหว่างจังหวัดในเกาะโอกินาวา ส่วนใหญ่มักเช่ารถขับโดยการขับรถในโอกินาวาคล้ายกับไทยครับ ขับด้านขวามือ แต่ก็ต้องศึกษากฎจราจรหน่อยนะครับ และถ้าไม่อยากเช่ารถมีรถบัสวิ่งระหว่างจังหวัด หรือทัวร์ 1 วันให้เลือกตามเหมาะสม แต่ถ้าขึ้นรถบัสควรเช็คเวลารถบัสเพื่อกะเวลาให้ถูกนะครับ เพราะนาน ๆ มาที
4. อาหารโอกินาวาจะเป็นการผสมวัฒนธรรมจีนและญี่ปุ่น
5. ในโอกินาวาร้านสะดวกซื้อจะมีเพียง 2 เจ้าเท่านั้นคือ LAWSON และ FAMILY MART ไม่มี 7-11 นะครับ หาทั่วเกาะไม่เจอเลยซึ่งแปลกมาก ปกติในญี่ปุ่นจะเจอแต่คงไม่ใช่โอกินาวา
6. เรื่องสำคัญมาก >> สายการบิน << มีสายการบินบินตรงจากกรุงเทพฯ – โอกินาวาเพียงเจ้าเดียวคือ พีชแอร์ (PEACH AIR) เป็นสายการบินโลวคอสสัญชาติญี่ปุ่นครับ แต่ถ้าฟลูเซอร์วิสที่คนไทยนิยมและราคาถูกหน่อยก็จะเป็น ฮ่องกงแอร์ไลน์ เส้นทางกรุงเทพฯ – ฮ่องกง- โอกินาวา