GETTING AROUND MAEKLONG

10 เหตุผลชวนเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋ที่แม่กลอง

หากมีเวลาน้อย จังหวัดไหนดีจะทำให้คุณได้เที่ยววิถีไทย สไตล์ลึกซึ้ง หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อ “แม่กลอง” เมืองปลาทูชั้นดี แค่ 10 เหตุผลนี้ก็มากเกินพอที่จะทำให้เลือกล้อหมุนมาที่นี่

1. วันเดียวเที่ยวได้ ไม่ไกล กทม.
ระยะทางประมาณ 92 กิโลเมตรจากกรุงเทพฯ สู่จังหวัดสมุทรสงครามนั้นจะใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเศษ ๆ การเดินทางจะเลือกใช้รถส่วนตัว ขับแวะตามรายทางไปเรื่อย ๆ หรือหากอยาก สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านไปเรื่อย ๆ แนะนำให้ขึ้นรถไฟมาลง ที่สถานีแม่กลอง รับรองได้เลยว่าจะพบกับประสบการณ์ใน การเดินทางฉบับคลาสสิกวันเดียวเที่ยวครบสไตล์วิถีชุมชน

2. เที่ยวได้ทั้งตลาดน้ำและตลาดบก
สมุทรสงครามเป็นเมืองที่มีตลาดน่าสนใจ หลายที่ให้เลือกเดินเที่ยว เริ่มตั้งแต่ตลาด น้ำยามเช้าอย่างตลาดน้ำดอนมะโนรา ตลาดน้ำโบราณ ที่คึกคักตั้งแต่ 6 โมงเช้า มีอาหารไทย ขนมไทย พืชผัก ผลไม้สด ๆ จากสวน ของชาวบ้านมาขาย ต่อด้วย ตลาดร่มหุบ หรือตลาด เสี่ยงตาย ตลาดขึ้นชื่อประจำจังหวัด ใกล้กับสถานี รถไฟแม่กลองที่ยังคงเอกลักษณ์ของการตั้งตลาดขาย สินค้าบริเวณทางรถไฟไว้อย่างไม่เสื่อมคลาย สามารถ สัมผัสของวิถีชีวิตชาวบ้านท้องถิ่น แวะทานอาหารเช้า ซื้อปลาทูสด ๆ นึ่งใหม่ ๆ ได้ที่นี่ หากไปทันเวลารถไฟผ่าน (รถไฟจะวิ่งผ่านตลาดวันละ 8 รอบเข้าสถานีแม่กลอง เวลา 8.30, 11.10, 14.30, 17.40 น. และออกจาก สถานีแม่กลองเวลา 6.20, 9.00, 11.30, 15.30 น.) จะได้ชมภาพเหล่าพ่อค้าแม่ขายพร้อมใจกันดึงของเก็บ หุบร่ม เหลือที่ให้รถไฟผ่าน ก่อนจะกลับมาตั้งแผง ขายของเหมือนเดิมเมื่อรถไฟผ่านไปแล้ว นอกจาก จะไม่ควรพลาดถ่ายรูปช่วงเวลานี้แล้ว อย่าลืมแวะ ไปเช็คอินจุดแขวนปลาทูที่สถานีรถไฟแม่กลองด้วย

3. อาหารทะเลใหม่ สด อร่อย ราคาไม่แพง
มาเที่ยวสมุทรสงครามทั้งที ต้องห้ามพลาด มื้อประทับใจที่เต็มไปด้วยอาหารทะเลสด ใหม่ที่ร้านแดงอาหารทะเล ร้านเก่าเจ้าดัง ของเมืองแม่กลอง อาหารทะเลร้านนี้การันตีเรื่องคุณภาพ สดใหม่ไซส์ใหญ่ทุกเมนู ทั้งหอยหลอดผัดฉ่า กุ้งอบเกลือ ตัวโตเนื้อหวาน ปูทะเลผัดพริกไทยดำก้ามใหญ่ ๆ กัดเต็มคำ และ ปลาทูซาเตี๊ยะ จานขึ้นชื่อเมืองแม่กลอง หรือจะขับรถต่อไปหาร้านอาหารริมคลองบรรยากาศดี ๆ แถวบางตะปูนแนะนำร้านครัวลุงญา ที่อาหารทะเล สดใหม่ประทับใจแน่นอน

4. ของฝากถูกใจทุกเพศทุกวัย
ของฝากยอดฮิตที่มาเที่ยวแม่กลอง แล้วต้องห้ามพลาดซื้อฝากคนที่บ้าน มีหลายอย่างให้เลือก ทั้งพวงกุญแจหรือ หมอนปลาทูหน้างอคอหัก เอกลักษณ์ ของแม่กลองที่ทำออกมาน่ารักจนต้องซื้อติดไม้ติดมือ กลับไปฝากคนที่บ้าน หรือจะเลือกซื้อของสดอย่าง ปลาทูนึ่งในเข่งที่เนื้อฟู รสชาติมันอร่อยจนต้องติดใจ ส่วนที่มาของหน้างอคอหักนั้นมาจากการยัดปลาทู ลงในเข่งก่อนจะนำไปวางขาย ทำให้ต้องหักคอปลาทู ลงมาเพื่อที่จะยัดลงในเข่งได้นั่นเอง

5. ไหว้พระศักดิ์สิทธิ์
วัดดังที่คนนิยมมากราบไหว้ขอพร พร้อม เดินเที่ยวบรรยากาศเก่า ๆ คงหนีไม่พ้น วัดภุมรินทร์กุฎีทอง ที่มีพระพุทธรูปเก่าแก่ ปางมารวิชัยอายุกว่า 300 ปีให้กราบขอพร วัดเก่านี้ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำแม่กลอง สามารถชม ความเก่าแก่ของกุฎีทองที่ทำจากไม่สักทั้งที่สร้างขึ้นใน สมัยรัชกาลที่ 5 หรือจะเลือกชมพิพิธภัณฑ์วัดภุมรินทร์ และอุทยานการศึกษา ที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุล้ำค่า มากมายที่สมควรแก่การศึกษาและอนุรักษ์เอาไว้ ให้คน รุ่นหลังได้เห็น ทั้งพระพุทธรูป หนังสือไทย โถลายคราม และเครื่องทองเหลือง ที่ล้วนมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ อีกหนึ่งที่วัดคือ วัดบางกุ้ง วัดเก่าที่อัดแน่นไปด้วยเสน่ห์ มนต์ขลังของความเป็นไทยโบราณ เก่าแก่ตั้งแต่ในสมัย กรุงศรีอยุธยา ความโดดเด่นของที่นี่อยู่ที่ โบสถ์ปรกโพธิ์ โบสถ์เก่าแก่ที่ดูขลังเพราะถูกปกคลุมไปด้วยรากของ ต้นไม้ใหญ่ทั้งต้นโพธิ์ ต้นกร่าง และต้นไทร ที่ช่วยยึด ให้ตัวโบสถ์ยังคงตั้งอยู่ได้จนถึงปัจจุบันอย่างน่าอัศจรรย์ ที่นี่ถือเป็น unseen ของจังหวัด ในส่วนของตัวโบสถ์ นั้นมีปูนปั้นลวดลายพันธุ์พฤกษาประดับด้วยเครื่องถ้วย ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ด้านในประดิษฐานพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางมาร วิชัยขนาดใหญ่ ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อโบสถ์น้อย หรือหลวงพ่อดำ นอกจากวัดไทยแล้ว แนะนำให้ไปชม ความสวยงามของอาสนวิหารแม่พระบังเกิด อีกหนึ่ง แลนด์มาร์กที่สวยงามของจังหวัดสมุทรสงครามที่ไม่ควร พลาดไปถ่ายรูป สร้างขึ้นโดยบาทหลวงเปาโลซัลมอน มิชชันนารีชาวฝรั่งเศส ที่นี่ใช้เวลาสร้างถึง 6 ปีเต็ม รังสรรค์ความสวยงามอ่อนช้อยในรูปสถาปัตยกรรม แบบโกธิคไว้อย่างน่าชื่นชม ปิดท้ายด้วยการสักการะ หลวงพ่อวัดบ้านแหลม ที่มีตำนานเล่าว่าครั้งหนึ่ง ชาวประมงบ้านแหลมออกไปลากอวนในอ่าวแม่กลอง ได้พระพุทธรูปติดมา 2 องค์ องค์หนึ่งเป็นพระพุทธรูป นั่งที่ปัจจุบันได้อัญเชิญไปประดิษฐานไว้ที่วัดเขาตะเครา จังหวัดเพชรบุรี ส่วนอีกองค์เป็นพระพุทธรูปยืน นำมาประดิษฐานไว้ที่วัดบ้านแหลมกลายเป็น หลวงพ่อ บ้านแหลม เป็นที่เคารพบูชาในหมู่พุทธศาสนิกชน เพราะ แต่ละวันจะมีผู้ศรัทธาจากทั่วทุกสารทิศมากราบนมัสการ อย่างเนืองแน่น จนมีการเปรียบเปรยว่า หากใครไป เมืองสมุทรสงคราม ไม่ได้ไปนมัสการก็เหมือนไปไม่ถึง

6. โรแมนติกล่องเรือ ชมหิ่งห้อย
อีกหนึ่งกิจกรรมที่หาทำได้ยากมากใน ปัจจุบันคือการล่องเรือชมหิ่งห้อย ยามค่ำคืน ปกติหิ่งห้อยจะมีมากโดยเฉพาะในช่วง ฤดูฝน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - ตุลาคม ควรเลือก ช่วงน้ำขึ้น เพราะเรือสามารถเข้าไปใกล้กับต้นลำพูซึ่ง หิ่งห้อยเกาะอยู่ ทำให้สามารถเห็นแสงของหิ่งห้อยได้ ชัดเจนมากยิ่งขึ้น การเดินทางไปชมหิ่งห้อยสามารถ ติดต่อเรือที่ตลาดน้ำอัมพวาหรือสอบถามโรงแรมที่พัก เรือพาชมหิ่งห้อยจะค่อย ๆ ล่องไปในลำน้ำแม่กลอง และคลองย่อยต่าง ๆ ในตอนกลางคืน สองฟากฝั่งมี ต้นลำพูอยู่เป็นทาง ทำให้คุณได้พบกับความงดงามจาก แสงไฟของแมลงตัวน้อยนับพัน ๆ ตัวได้อย่างใกล้ชิด ราวกับได้พบอีกมิติที่สวยงามบนโลกยามค่ำคืน ข้อควรระวังคือไม่ควรส่งเสียงดังระหว่างทาง

7. เที่ยววิถีชุมชนหลากกิจกรรม
ใครที่รักการทำกิจกรรมจะต้องไม่ผิดหวัง ที่เลือกมาเที่ยวชุมชนอัมพวา เพราะที่นี่ มีกิจกรรมมากมายให้เพลิดเพลิน ตั้งแต่ การทำบุญใส่บาตรพระทางเรือยามเช้า ขี่จักรยานชมสวน ชมตลาดน้ำยามเย็น ตลาดทางรถไฟ ไหว้พระเก้าวัด, ดื่มด่ำกับการล่องเรือชมวิถีชีวิตสองฝั่ง คลองพร้อมชมหิ่งห้อยสวยงาม, ชมการแสดงดนตรีไทย, ชมการสาธิตการทำขนมไทย, ชมการสาธิตการทำ น้ำตาลมะพร้าว, การสาธิตการจักสานหมวก, กระเช้า จากใบมะพร้าวและดอกกุหลาบใบเตยและการทำสวน เกษตรอินทรีย์ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง สามารถ สอบถามข้อมูลจากที่พัก หรือติดต่อวิสาหกิจชุมชน บ้านริมคลอง (คุณถิรดา) เลขที่ 43/1 หมู่ 6 ต.บ้านปรก อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม โทร. 089 170 2904 เทศบาลนครสมุทรสาคร โทร. 034 411 028 หรือ ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม โทร. 0 3475 2847 - 8 E-mail : tatsmsk@tat.or.th

8. นอนชมธรรมชาติริมน้ำแม่กลอง
หากพอมีเวลาค้างคืน แถวอัมพวามีที่พัก บรรยากาศดี ๆ ให้เลือกมากมาย ลองพัก แบบโฮมสเตย์ชื่นชมกับธรรมชาติและวิถี ชีวิตของคนในชุมชน ชิมอาหารอร่อย ๆ ฝีมือชาวบ้าน หรือหากต้องการความเป็นส่วนตัวขึ้นมา อีกสักหน่อย สามารถเลือกพักรีสอร์ทชั้นนำ อาทิ อสิตา อีโค รีสอร์ท อัมพวา หรือ อัมพวาน่านอนแอนด์สปา โรงแรมระดับรางวัลโรงแรมบูติกไทย

9. เสพงานศิลป์ เที่ยวพิพิธภัณฑ์
ที่อัมพวามีพิพิธภัณฑ์ขนมไทย (Thai Dessert Museum) ที่น่าสนใจและควร แวะชม เพราะที่นี่มีการจำลองขนม ไทยและวิธีการทำตั้งแต่ครั้งสมัยสุโขทัยเรื่อยมาจน สมัยรัตนโกสินทร์ให้ได้ชมกัน ทั้งขนมต้มแดงต้มขาว ขนมมงคล 9 อย่างขนมหวานในหม้อดินและ ขนมในโหลแก้ว ทำให้คนรุ่นใหม่ได้รู้ถึงความสำคัญ ของขนมไทยโบราณที่บางอย่างในปัจจุบันน้อยคน ที่จะรู้จักและทำเป็น ถัดมาอีกไม่ไกลนัก อุทยาน ร.๒ อัมพวา พระบรมราชานุสรณ์ของพระบาทสมเด็จ พระพุทธเลิศหล้านภาลัยที่ตั้งเด่นสง่าสวยงามบนพื้นที่ ประมาณ 11 ไร่นี้ก็ควรเข้าไปชื่นชม เพราะที่นี่รวบรวม เอาสิ่งที่น่าสนใจและเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวความ สวยงามของประวัติศาสตร์เอาไว้ ทั้งพิพิธภัณฑ์พระบาท สมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยที่เป็นอาคารทรงไทย 4 หลัง ประดิษฐานพระบรมรูปรัชกาลที่ 2 และจัด แสดงศิลปโบราณวัตถุสมัยต้นรัตนโกสินทร์ทั้งเครื่อง เบญจรงค์ เครื่องถ้วย หัวโขน และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ โครงการอัมพวาชัยพัฒนานุรักษ์ ในสมเด็จพระ-เทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่เป็นการอนุรักษ์ วิถีการดำเนินชีวิตของชาวอัมพวา ภายในมีทั้งส่วน ภูมิสังคม และพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ส่วนร้านค้า ชุมชน และส่วนลานวัฒนธรรม นาคะ - วะรังค์ ให้เลือก ชมหรือร่วมทำกิจกรรมกับคนท้องถิ่น และยังสามารถ เดินเที่ยวแกลเลอรี่สวย ๆ ใกล้กับตัวตลาดได้อีกด้วย

10. อนุรักษ์ธรรมชาติ ปลูกป่าชายเลน
อีกหนึ่งกิจกรรมที่ถูกใจเหล่า ค น รัก ธ ร ร ม ช า ตินั่น คือ ก า ร ปลูกป่าชายเลนร่วมกันกับชาวบ้านในชุมชน เพื่อ รักษาความสมดุลและความสมบูรณ์ทางธรรมชาติให้ อยู่คู่กับประเทศไทยไปอีกนาน ๆ กิจกรรมการปลูก ป่าชายเลนจะจัดขึ้นที่ตำบลคลองโคน อำเภอเมือง ใครสนใจสามารถนั่งเรือหางยาวชมพื้นที่ป่าชายเลน โดย อบต.คลองโคนจะจัดเตรียมเรือหางยาว กระดานเลน กล้าไม้และอุปกรณ์การปลูกไว้ให้บริการ ซึ่งใน ปัจจุบันมีการช่วยเพิ่มเติมพื้นที่ป่าชายเลนได้แล้ว มากกว่า 2,000 ไร่ และมีโอกาสได้สัมผัสวิถีชีวิตชาว ประมงอย่างใกล้ชิด สามารถสอบถามรายละเอียด ได้จาก วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์คลองโคน โทร. 086 177 7942

DO YOU KNOW
สมุทรสงครามยังเป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ดินแดนแห่งสวนผลไม้นานาชนิด เช่น มะพร้าว น้ำหอม ส้มโอขาวใหญ่ ส้มแก้ว ส้มเขียวหวาน และลิ้นจี่พันธุ์อีค่อม ที่จะออกผลผลิตให้ชิมช่วงเดือน ม.ค. - เม.ษ.

ที่มา : นิตยสาร My World Vol.110 November-December 2017