แนะ 7 เคล็ดลับเปิดร้าน Food Truck อย่างไรให้มีแต่กำไร
เมื่อพูดถึงวัฒนธรรมอาหารริมทางแบบ Street Food ประเทศไทย คือเมืองสวรรค์ของคนรักการกิน ที่มีอาหารคาวหวานให้ทานได้ตลอด 24 ชั่วโมง นี่จึงเป็นสาเหตุให้ธุรกิจร้านอาหารเกิดการแข่งขันขึ้น การจับจองทำเลทอง หรือเช่าพื้นที่ทำธุรกิจแบบเดิมอาจไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป เทรนด์ธุรกิจร้านอาหารแบบ Food Truck จึงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะตอบโจทย์ในเรื่องของการเปลี่ยนทำเลได้ตลอดเวลา บริหารจัดการได้ง่าย และมีความน่าสนใจมากกว่าร้านอาหารแบบเดิม ๆ ใครที่กำลังสนใจในธุรกิจแบบฟู้ดทรัคอยู่ วันนี้ทาง KTC เรามีข้อมูลดี ๆ มาฝาก ก่อนจะลงทุนในธุรกิจนี้กัน
เลือกอ่านตามหัวข้อ
ทำความรู้จัก Food Truck คืออะไร ทำไมถึงเป็นที่นิยม
ธุรกิจ Food Truck คือ รถขายอาหารเคลื่อนที่ ที่นำรถกระบะ รถบรรทุกขนาดเล็ก หรือรถตู้มาดัดแปลงเป็นครัวประกอบอาหารขนาดย่อม พร้อมเคาน์เตอร์แบบเปิดด้านข้างเพื่อทำเป็นหน้าร้าน โดยมีจุดเริ่มมาจากต่างประเทศ ก่อนจะเริ่มได้รับความนิยมในประเทศไทยในช่วงหลัง ๆ ซึ่งโดยมากจะขายเป็นอาหารจานด่วนที่ทานง่ายอย่าง เบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟรายส์ ไอศกรีม หรืออาหารที่สะดวกในการยืนทาน แต่ภายหลังได้มีการประยุกต์ให้หลากหลายมากขึ้น จนสามารถขายอาหารได้เหมือนกับร้านอาหารทั่วไปตามปกติ ตั้งแต่ เมนูข้าว สเต๊ก พิซซ่า หรือแม้แต่ก๋วยเตี๋ยว ก็มีด้วยเช่นกัน
ก่อนลงทุนเปิดร้านแบบ Food Truck มีอะไรที่ต้องรู้บ้าง
แม้ว่าธุรกิจฟู้ดทรัค (Food Truck) จะได้รับความนิยมในช่วงหลัง ๆ มากขึ้นก็ตาม แต่ก่อนจะกระโจนลงไปทำธุรกิจนี้ เรามาทำความเข้าใจถึงข้อดี และข้อเสียของธุรกิจฟู้ดทรัคกันให้มากขึ้นดีกว่า จะได้รู้จริง ๆ ว่าการลงทุนธุรกิจประเภทนี้เหมาะสำหรับเราหรือไม่
ข้อดีของร้านแบบฟู้ดทรัค
ถ้าจะพูดถึงข้อดีของธุรกิจแบบฟู้ดทรัค ต้องบอกว่ามีเยอะกว่าที่หลายคนคิดกันแน่นอน เรามาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
- สะดวกในการเคลื่อนย้าย : เพราะรถฟู้ดทรัคส่วนใหญ่จะผ่านการดัดแปลง และดีไซน์การจัดวางต่าง ๆ ให้พร้อมใช้งานได้ทันที จึงง่ายต่อการตั้งร้าน และเก็บร้านเมื่อขายเสร็จ สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างคล่องตัว หรือจะย้ายร้านเพื่อเปลี่ยนทำเล ก็สามารถทำได้ง่ายแบบไม่มีปัญหา
- สร้างแบรนด์ได้ดีกว่า : ธุรกิจแบบฟู้ดทรัค มีพื้นที่ในการตกแต่งป้ายชื่อร้าน หรือพ่นสีที่ด้านข้างตัวรถที่มากกว่า จึงสามารถสร้างแบรนด์ได้ติดตลาดง่ายกว่า
- เข้าถึงลูกค้าได้หลายกลุ่ม : อีกหนึ่งข้อดี ที่เป็นผลพวงจากการเคลื่อนย้ายร้านได้ตลอดเวลา ก็คือการเปลี่ยนทำเลเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ด้วยการเปลี่ยนที่จอดตามตลาดกลางคืนได้หลายพื้นที่
- ภาพลักษณ์ดูดีกว่าร้านรถเข็น : ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ภาพลักษณ์ของธุรกิจแบบฟู้ดทรัค จะดูดีมีภาษีที่ดีกว่าร้านอาหารแบบรถเข็น หรือร้านข้างทางทั่วไป เพราะมีการตกแต่งที่ดีกว่า เลยทำให้การตั้งราคาสินค้าที่สูงกว่าร้านทั่วไปสามารถทำได้ และลูกค้ายังให้การตอบรับที่ดี จึงทำให้มีอัตราส่วนกำไรที่ค่อนข้างจะดีเลยทีเดียว
ข้อเสียของร้านแบบฟู้ดทรัค
นอกจากข้อดีต่าง ๆ ที่ดูจะมีเยอะแยะมากมายแล้ว ข้อเสียของธุรกิจประเภทนี้ที่ไม่ควรมองข้าม ก็มีอยู่พอสมควรเลย จะมีอะไรกันบ้าง เราจะมาชี้ให้เห็นกันชัด ๆ
- กักตุนวัตถุดิบไม่ได้เยอะ : เนื่องจากพื้นที่มีจำกัด จึงทำให้ไม่สามารถกักตุนวัตถุดิบได้เยอะ และต้องคำนวณปริมาณในการขายแต่ละวันให้ดี เพราะอาจส่งผลกระทบต่อยอดขายรายวันได้
- สภาพอากาศมีผลต่อยอดขาย : เพราะธุรกิจประเภทนี้ จะต้องพึ่งทำเลในการขายเป็นหลัก หากฟ้าฝนไม่เป็นใจ ก็จะได้รับผลกระทบในด้านยอดขายไม่ต่างจากร้านข้างทางอื่น ๆ เช่นกัน
- สร้างฐานลูกค้าประจำยาก : หากไม่ได้มีทำเลที่ต้องการขายประจำ และเลือกที่จะย้ายร้านไปเรื่อย ๆ ตามจุดจอด หรือตลาดกลางคืนหลายแห่ง อาจทำให้การมีลูกค้าประจำทำได้ยาก เพราะลูกค้าอาจไม่รู้ว่าร้านไปจอดที่ไหนบ้างในแต่ละวัน
- พื้นที่ในการทำครัวมีจำกัด : อีกหนึ่งข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ ก็คือการทำครัวที่ค่อนข้างจำกัด อาจทำให้ส่งอาหารออกไปได้ช้า และทำให้ลูกค้าต้องรอคิวนาน จนกลายเป็นเสียลูกค้าได้เช่นกัน
7 เคล็ดลับในการเปิดร้าน Food Truck ให้ประสบความสำเร็จ
เมื่อทราบถึงข้อดี และข้อเสียของการทำธุรกิจ Food Truck กันไปแล้ว หากรู้สึกว่านี่คือทางที่ใช่ และอยากจะลุยในธุรกิจนี้ ทาง KTC เราก็มีเคล็ดลับดี ๆ ในการทำธุรกิจแบบ Food Truck มาฝากกัน
1. รู้ความต้องการของตลาด
ธุรกิจอาหาร เป็นธุรกิจที่มีความท้าทายอย่างมาก เพราะมีคู่แข่งเกิดขึ้นทุกวัน สิ่งแรกเลยที่ต้องรู้ ก่อนจะลงมาเล่นในสนามนี้ ก็คือความต้องการของตลาด ต้องหมั่นสังเกตว่าเทรนด์ของกินช่วงนี้มีอะไรน่าสนใจ หรืออาหารประเภทไหน ที่ดูขายได้เรื่อย ๆ มีฐานลูกค้ารองรับอยู่ตลอด เพราะนี่คือจุดชี้วัดการอยู่รอดในระยะยาวที่ต้องใส่ใจมาก ๆ
2. สร้างแบรนด์ให้เป็นเอกลักษณ์
เพราะทุกธุรกิจย่อมมีคู่แข่ง ของที่เราขายไม่มีทางเป็นเจ้าเดียวบนโลก การสร้างแบรนด์จึงมีความสำคัญอย่างมาก ที่จะทำธุรกิจเราให้เป็นที่จดจำ และเกิดความแตกต่างจากคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแบรนด์ที่ตัวเราเอง อย่างการแต่งตัวให้เป็นเอกลักษณ์ ที่หลายคนน่าจะเคยเห็นพ่อค้า แม่ขายต่าง ๆ ที่กำลังดังในโลกโซเชียล หรือจะเป็นการสร้างโลโก้ หรือป้ายร้านที่สะดุดตา ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยได้เช่นกัน
3. ใส่ใจเรื่องคุณภาพวัตถุดิบ
การให้ความสำคัญในเรื่องของคุณภาพวัตถุดิบ เป็นจุดชี้เป็นชี้ตายของทุกธุรกิจ หลายร้านอาจจะคิดว่าไม่สำคัญ อยากตัดลดต้นทุนตรงส่วนวัตถุดิบ เพื่อช่วยให้มีกำไรมากขึ้น แต่สุดท้ายต้องมาตกม้าตายเพราะลูกค้าหาย เนื่องจากรสชาติไม่เหมือนเดิมกับช่วงแรกที่ขาย การไม่ลดคุณภาพวัตถุดิบจึงสำคัญเป็นอย่างมาก ต่อให้ช่วงแรกจะขายไม่ดีเท่าที่ควร ก็ควรที่จะฝืนกัดฟันขายแบบเดิมไปก่อน และรอให้ร้านเป็นที่รู้จักมากขึ้น เดี๋ยวก็จะเห็นกำไรได้เอง
4. เลือกทำเลให้เป็น
การเลือกทำเลในช่วงเริ่มต้นทำธุรกิจ ก็มีส่วนสำคัญอย่างมาก ที่จะบอกว่าธุรกิจที่เราทำนั้นจะไปรอดหรือไม่ แต่การทำ Food Truck ก็มีข้อดีตรงที่เคลื่อนย้ายสะดวก เลยทำให้สามารถเปลี่ยนตลาดที่ลงได้ตลอด เมื่อรู้สึกว่าคนเดินไม่เยอะอย่างที่เป็น ทางที่ดี จึงควรตระเวนหาทำเลในช่วงแรกให้เยอะ ๆ ลองหาสถานที่ไปเรื่อยโดยวัดจากปริมาณยอดขาย ก่อนจะลงหลักปักฐานที่ไหนเป็นหลักจะดีที่สุด
5. หมั่นทำการตลาดอยู่เป็นประจำ
ทุกธุรกิจ จำเป็นจะต้องทำการตลาดกระตุ้นยอดขายอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่อยู่มานาน หรือธุรกิจเริ่มต้นใหม่ การทำธุรกิจ Food Truck ก็ด้วยเช่นกัน ในช่วงแรกที่ร้านยังไม่เป็นที่รู้จัก การจัดโปรโมชันดึงดูดลูกค้า อย่างการ ลด แลก แจก แถม หรือโปรโมชันบอกต่อต่าง ๆ ล้วนช่วยสร้างการรับรู้ที่ดีให้กับธุรกิจเราได้ จึงควรหมั่นจัดโปรโมชันเรียกลูกค้าให้เยอะหน่อยช่วงแรก เพื่อให้ธุรกิจเรามีฐานลูกค้าก่อน แล้วจึงค่อยปรับลดความถี่ในการจัดแคมเปญตามความเหมาะสมต่อไปในอนาคต
6. บริการต้องเป็นเลิศ
ในยุคที่ผู้บริโภคเป็นฝ่ายเลือก การจะมานั่งขายแต่คุณภาพอาหาร และบริการตามใจฉันแบบในอดีต เป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้แล้วในปัจจุบัน โดยเฉพาะกระแสบนโลกโซเชียล ที่เกิดการบอกต่อได้อย่างไว การบริการลูกค้าด้วยความเป็นกันเอง และเป็นมิตร จึงเป็นอีกจุดหนึ่งที่ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจได้เหมือนกัน
7. ทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายทุกวัน
อีกหนึ่งจุดที่ทำให้คนทำธุรกิจตกม้าตาย ก็คือการไม่ทำบัญชีรายรับรายจ่าย ทุก ๆ วัน หรืออาจจะไม่แยกบัญชีส่วนตัวกับร้านค้าออกจากกัน และใช้เงินปะปนกันไปมา จนไม่รู้ว่ายอดขายที่แท้จริงในแต่ละวันมีเท่าไหร่ ร้านเรากำไรแล้ว หรือยังขาดทุนอยู่ จุดนี้เอง จะทำให้การบริหารจัดการทำได้ยาก และอาจทำให้เรากำหนดทิศทางในการทำธุรกิจไม่ถูก และกลายเป็นขาดทุนจนเข้าเนื้อ และอาจถึงขั้นปิดกิจการได้เลย จึงต้องหมั่นทำบัญชีทุกวัน และแยกบัญชีร้านกับบัญชีส่วนตัวออกจากกัน
สรุปบทความ 7 เคล็ดลับเปิดร้าน Food Truck อย่างไรให้มีแต่กำไร
และทั้งหมดที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ก็เป็นเกร็ดความรู้ของธุรกิจฟู้ดทรัค (Food Truck) ที่คนอยากเริ่มต้นทำธุรกิจ หรืออยากเปลี่ยนมาทำธุรกิจประเภทนี้ สามารถนำไปปรับใช้กันได้ตามสะดวก เพียงแต่ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ และบริหารจัดการให้ดี โอกาสจะประสบความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลอย่างแน่นอน
และสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจ แต่ยังไม่มีเงินทุน หากคุณมีรถไว้ใช้งาน และอยากจะเปลี่ยนมาเป็นทุนในการทำธุรกิจ Food Truck ให้ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ดูแลคุณดีกว่า เพราะเรามีวงเงินสินเชื่อก้อนใหญ่ไว้รองรับ สมัครได้ง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก และยังมีบริการ พี่เบิ้ม Delivery ที่พร้อมเดินทางไปตรวจสภาพรถถึงหน้าบ้าน อีกทั้งยังอนุมัติไว รับเงินก้อนได้ทันที โดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน และผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน โดยสามารถเลือกรับบัตรกดเงินสด KTC พี่เบิ้มสำหรับใช้ฉุกเฉิน แบบกดได้ฟรีไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่ม
สมัคร KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน พร้อมรับเงินก้อนได้ทันที
สมัครง่าย อนุมัติไว ไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน
*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร*
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด*
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21%-24% ต่อปี*