อยากซื้อคอนโด แต่ไม่มีเงินก้อน ทำอย่างไรดี
เมื่อเริ่มต้นทำงานหลายคนวางแผนเก็บเงินเพื่อสานฝัน ซึ่งคอนโดเป็นหนึ่งในลิสต์ที่มนุษย์เงินเดือนวางแผนทางการเงินไว้ ยิ่งทุกวันนี้คอนโดหลาย ๆ โครงการมีทำเลที่ตั้งตอบโจทย์ทั้งการเดินทางที่สะดวกสบาย อยู่ใกล้ระบบขนส่งสาธารณะที่รวดเร็ว อย่างรถไฟฟ้า BTS รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT หรือแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ รวมถึงใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกเช่นห้างสรรพสินค้าและตลาด ไม่แปลกที่มนุษย์เงินเดือนหลายคนตัดสินใจเลือกซื้อคอนโดไว้เป็นที่อยู่อาศัย
สำหรับใครที่กำลังหาซื้อคอนโดครั้งแรก แต่ไม่รู้ว่าเงินเดือนและเงินในบัญชี พอซื้อคอนโดที่สนใจไหม วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบกันว่า ก่อนซื้อคอนโดต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง ขั้นตอนกู้เงินซื้อคอนโดยุ่งยากไหม รวมถึงซื้อคอนโดต้องมีเงินเท่าไหร่ ?
ข้อดี-ข้อเสียที่ควรรู้ก่อนซื้อคอนโด
ทุกวันนี้ “คอนโด” หรือ “คอนโดมิเนียม” ถือเป็นที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แม้มีพื้นที่ใช้สอยไม่มากนัก เนื่องจากคอนโดส่วนใหญ่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งยังอยู่ใกล้กับบริการขนส่งสาธารณะ แต่ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโดควรศึกษาข้อดีและข้อเสีย ว่าคุ้มค่ากับภาระหนี้ก้อนใหญ่ที่ต้องจ่ายในระยะยาวหรือไม่
ข้อดี
มีช่วงราคาให้เลือกเยอะ
ปัจจุบันคอนโดมีช่วงราคาให้เลือกซื้อเยอะ ตั้งแต่หลักแสนปลาย ๆ ไปจนหลักล้านกว่า ๆ ขึ้นอยู่กับขนาดแปลนห้อง ทำเลที่ตั้ง ถ้าอยู่ติดรถไฟฟ้า BTS รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT หรือห้างสรรพสินค้า ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 2-3 ล้านบาท แต่ถ้าเป็นคอนโดแถวชานเมือง ราคาเริ่มต้นประมาณ 9 แสนกว่าบาท ไปจนถึงหลักล้านนิด ๆ
มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
คอนโดส่วนใหญ่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ทั้งสระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ลานจอดรถ ลิฟท์ สนามเด็กเล่น สวนพักผ่อน หรือพื้นที่ส่วนกลางที่ทางโครงการมีไว้ให้ลูกบ้านทำกิจกรรมต่าง ๆ เป็นต้น
ระบบรักษาความปลอดภัย
มีการดูแลความปลอดภัยครบ อาทิ ระบบกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ระบบกุญแจอัจฉริยะ รวมถึงเครื่องตรวจจับควันไฟและไฟไหม้ ที่ช่วยให้ลูกบ้านอุ่นใจหายห่วงได้เลย
การบำรุงรักษา
สำหรับคอนโดเราไม่จำเป็นต้องดูแลรักษาระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ สระว่ายน้ำ หรืออุปกรณ์ในห้องออกกำลังกาย ด้วยมีแม่บ้านหรือทีมช่างคอยดูแลให้อยู่แล้ว แตกต่างจากบ้านที่เราต้องดูแลเองทุกอย่าง
ข้อเสีย
มีกฎระเบียบเข้มงวด
แน่นอนว่า การมีผู้พักอาศัยอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมากทำให้ต้องมีกฎระเบียบเข้ามาคอยกำกับดูแลลูกบ้าน เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุขและไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น
การผ่อนคอนโด
การกู้เงินซื้อคอนโดส่วนใหญ่จะต้องผ่อนชำระเป็นระยะเวลายาวนาน อย่างต่ำประมาณ 20-30 ปี พอผ่อนไปสักพักหลายคนก็จะรู้สึกว่าเมื่อไหร่จะผ่อนจบสักที ซึ่งวิธีที่จะทำให้ผ่อนหมดเร็วขึ้น
ต้องจ่ายค่าส่วนกลางทุกปี
ค่าส่วนกลาง เป็นเงินที่ถูกนำไปใช้บำรุงรักษาสาธารณูปโภคส่วนกลาง หรือทรัพย์สินส่วนกลางที่ใช้ร่วมกัน อาทิ ค่าทำความสะอาด ค่ายามรักษาความปลอดภัย ค่าบำรุงดูแลรักษาสระว่ายน้ำ หรือค่าเก็บขยะ เป็นต้น
การตากผ้า
เนื่องจากคอนโดมีพื้นที่ใช้สอยจำกัด โดยเฉพาะพื้นที่ระเบียง ทำให้ตากผ้าในปริมาณมากในครั้งเดียวไม่ได้ แถมบางครั้งผ้าที่ตากแห้งช้า มีกลิ่นเหม็นอับ เพราะไม่โดนแดดเท่าที่ควร
ลานจอดรถ
ปัญหาที่จอดรถคอนโด ถือเป็นปัญหายอดฮิตของคนที่พักอาศัยคอนโดที่หลีกเลี่ยงได้ยาก เนื่องจากคอนโดหนึ่งมีที่จอดรถประมาณ 30-40% ทำให้ไม่พอสำหรับทุกคนในคอนโด ฉะนั้นควรเตรียมรับมือกับปัญหานี้ให้ดี
มนุษย์เงินเดือนควรรู้ ต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่ ถึงกู้ซื้อคอนโดได้
ซื้อคอนโดต้องมีเงินเท่าไหร่ ? และมีเรื่องอะไรที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
หนึ่งในคำถามยอดฮิตคือ จะซื้อคอนโดต้องมีเงินเท่าไหร่ ? คำตอบมีฐานเงินเดือนประมาณ 15,000 บาท ก็สามารถกู้ซื้อคอนโดได้ แต่ต้องพิจารณาเรื่องอื่น ๆ ควบคู่กันไปด้วย อาทิ
ต้องมีภาระหนี้ ไม่เกิน 35-40% ของรายได้
ธนาคารเจ้าของสินเชื่อจะประเมินความสามารถทางการเงินของผู้กู้ โดยการนำรายได้และภาระหนี้สินของผู้กู้ไปหักลบกัน เพื่อคำนวณวงเงินกู้และความสามารถในการผ่อนชำระ ทั้งนี้ภาระหนี้สินโดยรวมไม่ควรเกิน 40% ของรายได้
อายุไม่เกิน 70 ปี และมีระยะเวลากู้ไม่เกิน 30 ปี
ตามปกติธนาคารส่วนใหญ่กำหนดระยะเวลาผ่อนชำระและช่วงอายุของผู้กู้เงินซื้อคอนโดไว้ โดยปล่อยกู้คอนโดให้กับบุคคลได้นานไม่เกิน 30 ปี หรือจนกว่าจะครบ 70 ปี อาทิ นายเอก อายุ 38 ปี สามารถกู้ได้นานสูงสุดจนถึงอายุ 70 ปี นั่นคือมีระยะเวลากู้หรือผ่อนชำระนานสูงสุด 32 ปี
มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี
ธนาคารจะตรวจสอบประวัติของธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดของผู้กู้ว่า เคยผิดนัดชำระหนี้หรือจ่ายไม่ตรงตามกำหนดหรือไม่ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาการยื่นกู้ซื้อคอนโด และถ้าผู้กู้มีประวัติดี มีวินัยในการชำระหนี้ดี ก็มีแนวโน้มได้รับการอนุมัติสูง
ก่อนกู้เงินซื้อคอนโด ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
พิจารณารายได้ที่ได้รับในแต่ละเดือน
อันดับแรกควรดูสภาพคล่องทางการเงินของคุณก่อนว่า แต่ละเดือนมีเงินเดือนเข้าบัญชีเท่าไหร่ และถ้าใครรับงานฟรีแลนซ์เป็นประจำควรดูว่า มีเงินก้อนนี้เข้าบัญชีเป็นจำนวนเท่า ๆ กันทุกเดือนหรือไม่ เพราะการกู้เงินกับธนาคารเพื่อซื้อคอนโด ธนาคารจะนำรายได้ต่อเดือนทั้งหมดของคุณมาพิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระ ก่อนอนุมัติวงเงินสินเชื่อ
รีบเคลียร์หนี้
ก่อนยื่นกู้เงินซื้อคอนโด ควรจัดการเคลียร์หนี้สินต่าง ๆ ให้หมดหรือมากที่สุดเท่าที่ทำได้ ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรกดเงินสด หนี้บัตรเครดิต หรือหนี้สินประเภทอื่น ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขอกู้ซื้อคอนโด
สมัครบัตรเครดิต ผ่อนคอนโด...กรอกข้อมูลที่นี่
เตรียมหลักฐานแสดงที่มารายได้ให้พร้อม
การกู้เงินซื้อคอนโดหรือขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยให้ผ่านฉลุย จำต้องมีหลักฐานแสดงที่มาของรายได้ซึ่งมีความน่าเชื่อถือสามารถตรวจสอบได้ อาทิ
- Statement ย้อนหลังประมาณ 6 เดือน
- สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองการทำงาน (ตัวจริง)
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน หรือใบทะเบียนการค้า (ถ้ามี) ฯลฯ
เตรียมเงินก้อนแรกสำหรับซื้อคอนโด
สำหรับการกู้ซื้อคอนโด คุณควรเตรียมเงินก้อนแรกเพื่อทำสัญญาจะซื้อจะขายหรือที่เรียกกันว่า เงินจอง เพื่อแสดงเจตนาว่าคุณต้องการซื้อห้องชุดยูนิตนี้จริง ๆ โดยส่วนใหญ่เงินจองจะเริ่มต้นที่หลักพันบาทไปจนถึงแสนบาทขึ้นอยู่กับราคาห้องที่คุณสนใจ รวมถึงค่าทำสัญญาจะซื้อจะขาย เป็นต้น
8 ขั้นตอนการซื้อคอนโดที่มือใหม่ควรรู้
ก่อนกู้เงินซื้อคอนโด ควรพิจารณาให้รอบด้านทั้งทำเลที่ตั้ง ข้อมูลสินเชื่อ และเอกสารที่ต้องเตรียม
(1) เลือกทำเลที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต
ควรเลือกทำเลที่ช่วยให้คุณใช้ชีวิตประจำวันได้สะดวกสบายจริง ๆ อาทิ ต้องเดินทางด้วยบริการขนส่งสาธารณะเป็นประจำ แนะนำให้เลือกโครงการคอนโดที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน ยิ่งถ้าบริเวณนั้นมีตลาด หรือห้างสรรพสินค้าด้วยก็ยิ่งดี เพราะง่ายต่อการจับจ่ายใช้สอยอาหารหรือสินค้าอุปโภคบริโภค จากนั้นพิจารณาสภาพแวดล้อมรอบ ๆ คอนโดว่ามีความปลอดภัยขนาดไหน
(2) ชื่อเสียงของเจ้าของโครงการ
สำหรับชื่อเสียงบริษัทเจ้าของโครงการมีความสำคัญอย่างมากในการตัดสินใจเลือกซื้อคอนโด โดยสามารถหาข้อมูลได้จากอินเทอร์เน็ต ว่าผลงานที่ผ่านมาของบริษัทมีโครงการอะไรบ้าง มีปัญหาเรื่องการก่อสร้างหรือไม่ หรือบริการหลังการขายเป็นอย่างไร เพื่อประกอบการตัดสินใจ
(3) สำรวจพื้นที่จริงของโครงการ
การเดินทางไปดูสถานที่ตั้งโครงการ ไปจนถึงแบบห้องที่สนใจด้วยตนเอง ช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เพราะคุณได้รู้ว่า โครงการคอนโดที่เล็งไว้เดินทางสะดวกไหม เปลี่ยวหรือไม่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง แต่ถ้ามีโครงการที่สนใจหลายแห่งควรวางแผนการเดินทางดี ๆ เพื่อให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย
(4) เลือกแปลนห้องที่ชอบ
ควรดูแปลนห้องว่าเหมาะกับการอยู่อาศัยไหม พร้อมรองรับสมาชิกในครอบครัวหรือไม่ นอกจากนี้ควรดูว่าจัดวางแปลนห้องตรงใจคุณหรือไม่ เนื่องจากบางคนอาจชอบแปลนห้องที่มีการแบ่งโซนห้องนอน ห้องรับแขก และห้องครัวที่ชัดเจน หรือบางชอบห้องที่มีพื้นที่ระเบียงกว้าง ๆ เพื่อจัดมุมนั่งเล่น เป็นต้น
(5) หาผู้เชี่ยวชาญมาตรวจคอนโดก่อนรับโอน
ปัจจุบันมีบริษัทหลายแห่งที่รับงานตรวจบ้านตรวจคอนโด ซึ่งการตรวจสอบข้อบกพร่องต่าง ๆ ภายในห้องชุด แล้วส่งให้ทางโครงการซ่อมหรือแก้ไขก่อนโอนกรรมสิทธิ์คอนโด ช่วยป้องกันปัญหาแอบแฝงที่อาจทำให้เกิดผลเสียตามมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุดในอนาคต
(6) เตรียมเอกสารขอสินเชื่อให้พร้อม
เมื่อเลือกคอนโดที่ใช้ได้แล้ว คราวนี้มาดูเรื่องเอกสารที่ต้องเตรียมให้พร้อมก่อนกู้ซื้อคอนโด โดยเอกสารที่ต้องเตรียมแบ่งเป็น 3 ส่วน ดังนี้
เอกสารส่วนบุคคล
- บัตรประจำตัวประชาชน บัตรข้าราชการ หรือบัตรรัฐวิสาหกิจ
- สำเนาทะเบียนสมรส ใบหย่า หรือใบมรณะบัตร (ถ้ามี)
- สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ – สกุล (ถ้ามี)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคู่สมรส (ถ้ามี)
เอกสารทางการเงิน
กรณีเป็นพนักงานประจำ
- ใบรับรองเงินเดือน หรือหนังสือผ่านสิทธิสวัสดิการ
- สลิปเงินเดือนหรือหลักฐานการรับเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน
- สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน (กรณีอาชีพประจำ)
กรณีเป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระ
- สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 12 เดือน หรือหลักฐานแสดงฐานะการเงินอื่น ๆ (พร้อมเอกสารฉบับจริง)
- สำเนาทะเบียนการค้า ทะเบียนบริษัท หรือห้างหุ้นส่วน
- หลักฐานการเสียภาษีเงินได้
- รูปถ่ายกิจการ
- สำเนาใบประกอบวิชาชีพ
เอกสารหลักประกัน
- สำเนาหนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย
- สำเนาหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุดทุกหน้า
- หลักฐานการผ่อนดาวน์ (ถ้ามี)
(7) เลือกธนาคารเพื่อกู้ซื้อคอนโด
สำหรับการเลือกธนาคารเพื่อยื่นเรื่องขอสินเชื่อนั้น ควรพิจารณาเรื่องอัตราดอกเบี้ย และวงเงินกู้ โดยมีรายละเอียดดังนี้
อัตราดอกเบี้ย
ควรเช็กว่า สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแต่ละแห่งมีอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดอยู่ที่เท่าไหร่ แล้วลองคำนวณค่าเฉลี่ยดอกเบี้ย 3 ปี เพื่อดูความสามารถในการผ่อนชำระต่อเดือน เพราะเป็นช่วงที่ไม่สามารถรีไฟแนนซ์คอนโดได้
วงเงินกู้
นี่เป็นอีกปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกธนาคารขอสินเชื่อ เพราะยิ่งได้วงเงินกู้สูงนั่นเท่ากับว่าช่วยลดภาระรายจ่ายในการซื้อคอนโดในช่วงแรก และยังสามารถนำเงินที่เหลือมาใช้ตกแต่งห้อง หรือเก็บไว้จ่ายค่าส่วนกลางในปีถัดไปก็ได้
(8) ระยเวลาผ่อนชำระ
หากได้ระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนานจะช่วยให้ยอดผ่อนคอนโดต่อเดือนลดลง ทำให้คุณมีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้น และถ้ามีเงินก้อนก็สามารถนำมาโปะยอดหนี้ เพื่อปรับลดระยะเวลาผ่อนชำระให้สั้นลง แล้วยังลดอัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในระยะยาวอีกด้วย
สรุป
ปัจจุบันการซื้อคอนโดไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คุณต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนกู้ซื้อคอนโด ไล่ตั้งแต่สำรวจความพร้อมด้านการเงินของตนเอง ศึกษาข้อมูลสินเชื่อและอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคาร วางแผนทางการเงินด้วยการเลือกใช้บัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เกี่ยวกับคอนโด ไม่ว่าจะเป็นค่าจอง ค่าโอน หรือเงินดาวน์ เนื่องจากหลาย ๆ โครงการเปิดให้ชำระผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดได้ แต่อาจกำหนดไว้ว่า รับบัตรของธนาคารใดบ้างเท่านั้น
ผ่อนดาวน์คอนโด...ด้วยบัตรเครดิต ที่นี่
ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี
สมัครบัตรกดเงินสด...ผ่อนจ่ายคอนโด ที่นี่
เบิกถอนเงินสด แบ่งผ่อนชำระได้ทุกที่ทุกเวลา