โปรโมชั่น 
บริการท่องเที่ยว
ช้อปสินค้าออนไลน์
เข้าสู่ระบบ
การหมั่นดูแลรักษาสีรถเป็นประจำสม่ำเสมอ จะช่วยให้สีรถดูเงางามเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะผ่านการใช้งานนานหลายปีแล้วก็ตาม การเคลือบสีรถ เป็นวิธีสำคัญที่ช่วยรักษาสภาพสีรถให้ดูเหมือนใหม่ ช่วยเพิ่มความสวยงาม เงางามฉ่ำวาว ช่วยปกป้องผิวสีรถจากคราบสกปรกและรอยขีดข่วนที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานได้อีกด้วย
แต่หลายคนยังมีความสงสัยว่าการเคลือบสีรถเป็นประจำสม่ำเสมอนั้น จะช่วยรักษาสีรถให้เงางามยาวนานได้จริงหรือ และการเคลือบสีรถมีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง เลือกวิธีเคลือบสีรถแบบไหนจึงจะดีและคุ้มค่ามากที่สุด? มาค้นหาคำตอบแบบเสร็จสรรพในบทความนี้กันได้เลย
เคลือบสีรถคืออะไร
เคลือบสีรถ คือ กระบวนการดูแลรักษาสีรถยนต์ให้ดูสวยงามเหมือนใหม่และช่วยปกป้องผิวสีรถจากสิ่งสกปรกและปัจจัยภายนอกต่างๆ การเคลือบสีรถไม่ได้เป็นเพียงแค่การเพิ่มความเงางามฉ่ำวาวเท่านั้น แต่ยังสร้างชั้นฟิล์มบาง ๆ เพื่อเป็นเกราะป้องกันสีรถได้เป็นอย่างดี
ขั้นตอนของการเคลือบสีรถเริ่มต้นจากการทำความสะอาดผิวรถอย่างละเอียด จากนั้นช่างจะทำการขัดผิวหน้าของสีหรือแล็กเกอร์ออกเล็กน้อย เพื่อปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนและพร้อมสำหรับการลงสารเคลือบ
หลังจากขัดสีเสร็จแล้วจะเข้าสู่ขั้นตอนสำคัญคือ การลงแว็กซ์เคลือบสีรถหรือน้ำยาเคลือบสีประเภทอื่น ๆ เพื่อให้ผิวรถมีความเงางามอย่างล้ำลึก และสร้างชั้นปกป้องที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรง ทนทานต่อรอยขีดข่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ จากฝุ่นละออง เศษหิน หรือแม้แต่สิ่งสกปรกจากธรรมชาติ เช่น มูลนก หรือยางไม้
โดยสรุปแล้ว เคลือบสีรถ ช่วยอะไรได้บ้าง? นอกจากความเงางามที่เห็นได้ชัดเจนแล้ว การเคลือบสีรถยังช่วยให้ทำความสะอาดรถได้ง่ายขึ้น เพราะสิ่งสกปรกต่างๆ จะไม่เกาะติดผิวสีโดยตรง และยังช่วยปกป้องสีรถจากแสงแดดจัดๆ ที่อาจทำให้สีซีดจางได้อีกด้วย ถือเป็นการลงทุนเพื่อรักษาสภาพสีรถให้ดูดีและใช้งานได้ยาวนานขึ้น
เคลือบสีรถจำเป็นต้องทำไหม
การเคลือบสีรถย่อมมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นเสมอ เกิดเป็นคำถามว่าการเคลือบสีรถแท้จริงแล้วจำเป็นมากน้อยแค่ไหน? โดยเฉพาะเมื่อนำรถเข้าคาร์แคร์ ร้านก็มักเสนอโปรโมชันต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าเลือกใช้บริการ แต่หากมองถึงประโยชน์ในระยะยาวแล้ว การเคลือบสีรถถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลรักษารถยนต์ให้ดูใหม่และเงางาม ยิ่งถ้าคิดจะเป็นเจ้าของรถคันนั้นมากกว่า 5 - 7 ปีขึ้นไป การเคลือบสีเป็นประจำจะช่วยรักษาสภาพภายนอกให้ดูเหมือนหรือใกล้เคียงกับวันแรกที่รับรถมาจากโชว์รูมเลยก็ว่าได้
เคลือบสีรถมีข้อดีอย่างไร
การเคลือบสีรถนอกจากจะช่วยเพิ่มความสวยงามแก่รถคันโปรด ยังมีข้อดีอีกหลายอย่างที่หลายคนอาจคิดไม่ถึง ดังนี้
รถดูเหมือนใหม่ เงาสวย
การเคลือบสีรถช่วยเพิ่มความเงางามและความฉ่ำวาวให้กับผิวสีรถ ทำให้รถของคุณดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น
ดูแลทำความสะอาดง่าย
ชั้นเคลือบที่สร้างขึ้นจะช่วยลดการยึดเกาะของฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ทำให้การล้างรถและทำความสะอาดเป็นเรื่องง่ายขึ้นกว่าเดิม
ป้องกันสีรถซีดจาง
การเคลือบสีรถทำหน้าที่เป็นเหมือนฟิล์มกรองแสง ช่วยปกป้องผิวสีรถจากรังสี UV ที่เป็นสาเหตุหลักทำให้สีรถซีดจางและหมองคล้ำก่อนเวลาอันควร
ป้องกันคราบสกปรก
คราบสกปรกต่าง ๆ เช่น มูลนก ยางไม้ หรือคราบแมลง จะไม่ฝังแน่นบนผิวสีโดยตรง ทำให้สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น และลดความเสี่ยงที่คราบจะกัดกร่อนสีรถ
ป้องกันรอยคราบน้ำฝน
การเคลือบสีรถย่อมช่วยลดการเกิดคราบหยดน้ำหรือคราบน้ำฝนบนผิวรถ ทำให้รถของคุณดูสะอาดและปราศจากคราบขาวที่อาจเกิดขึ้นหลังฝนตก
เคลือบสีรถมีกี่แบบ เลือกอย่างไรถึงตอบโจทย์
การเคลือบสีรถนั้นมีหลากหลายรูปแบบให้เลือก ขึ้นอยู่กับงบประมาณ ความทนทานที่ต้องการ และความสะดวกในการใช้งาน โดยมากแล้ววิธีการเคลือบสีรถที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน มีดังนี้
เคลือบสีรถด้วยแว็กซ์
การเคลือบสีรถด้วย แว็กซ์ (Wax) เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานและหาซื้อง่ายที่สุด แว็กซ์จะช่วยเพิ่มความเงางามให้กับสีรถและสร้างชั้นฟิล์มบาง ๆ เพื่อปกป้องผิวสีจากฝุ่นละอองและคราบสกปรกต่าง ๆ การเคลือบด้วยแว็กซ์ทำได้ไม่ยาก สามารถทำได้เองที่บ้าน แต่ข้อจำกัดคือชั้นเคลือบจะไม่ทนทานเท่าวิธีอื่น โดยทั่วไปจะมีอายุการใช้งานประมาณ 2-4 สัปดาห์ จึงต้องทำบ่อยครั้ง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเงางามในระยะสั้นและมีเวลาดูแลรถด้วยตัวเอง
เคลือบสีรถด้วยซิลิโคน
เป็นการเคลือบสีรถด้วยผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจาก Silicone Resin ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยปกป้องการทำลายชั้นสีจากคราบฝนกรดและแสงแดด นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันมลภาวะต่าง ๆ เช่น ฝุ่น ขี้นก คราบฝนกรด คราบยางมะตอย ทำให้การเคลือบซิลิโคนนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ความเงางามของผิวรถควบคู่ไปกับการปกป้องรถ โดยมีอายุการใช้งานประมาณ 1 ปี
เคลือบสีรถแบบน้ำ
การเคลือบสีรถแบบน้ำ หรือที่เรียกว่า สเปรย์เคลือบสี (Spray Wax/Sealant) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สะดวกและรวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความเงางามและปกป้องสีรถแบบเร่งด่วน โดยเพียงแค่ฉีดน้ำยาลงบนผิวรถที่สะอาด แล้วเช็ดออก น้ำยาประเภทนี้จะสร้างชั้นฟิล์มบาง ๆ ที่ช่วยขับไล่น้ำและลดการเกาะของสิ่งสกปรกได้ดีกว่าแว็กซ์ทั่วไปเล็กน้อย แต่ความทนทานก็ยังไม่เท่าการเคลือบแก้วหรือเซรามิก โดยมักจะมีอายุการใช้งานประมาณ 1-2 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็วในการดูแลรักษาสีรถระหว่างรอบการเคลือบใหญ่
เคลือบแก้วรถยนต์
เป็นเทคนิคการเคลือบเงารถยนต์ที่ดีที่สุด ซึ่งมีราคาสูงกว่าการเคลือบสีรถประเภทอื่น ๆ เนื่องจากซิลิกา (Silica) ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของสารเคลือบแก้วจะทำหน้าที่สร้างเกราะขึ้นมาเพื่อปกป้องพื้นผิวรถให้ดูเงาสวยงาม ลดการเกิดคราบสกปรกฝังติดรถได้เป็นอย่างดี รวมทั้งป้องกันไม่ให้เกิดรอยขีดข่วน ที่สำคัญเคลือบแก้วครั้งหนึ่งเคลือบคงสภาพความสวยงามไว้ได้นานกว่า 2-5 ปี ขึ้นอยู่กับคุณภาพน้ำยาเคลือบที่ใช้
เคลือบสีรถทำเองได้ไหม
การเคลือบสีรถสามารถทำเองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากรถของคุณไม่มีรอยลึกมากนัก หรือไม่มีคราบฝังแน่นที่ต้องใช้การขัดละเอียด การเคลือบสีด้วยตัวเองที่บ้านเป็นวิธีที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและยังทำให้คุณได้ใช้เวลาดูแลรถคันโปรดอย่างเต็มที่อีกด้วย
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
- น้ำยาเคลือบสีรถ (เช่น แว็กซ์ หรือสเปรย์เคลือบสี)
- น้ำยาล้างรถ
- ผ้าชามัวร์เช็ดรถ
- ฟองน้ำสำหรับเคลือบสีรถ
- ผ้าไมโครไฟเบอร์
ขั้นตอนการเคลือบสีรถด้วยตัวเองมีดังนี้
- ล้างรถให้สะอาด เริ่มต้นด้วยการล้างรถให้สะอาดหมดจดด้วยน้ำยาล้างรถ เพื่อขจัดฝุ่น คราบสกปรก และสิ่งแปลกปลอมบนผิวสีรถ
- เช็ดรถให้แห้งสนิท ใช้ผ้าชามัวร์เช็ดรถให้แห้งสนิททุกส่วน ไม่ให้มีคราบน้ำหลงเหลือ เพราะอาจทำให้เกิดคราบหรือรอยด่างเมื่อลงน้ำยาเคลือบ
- ลงน้ำยาเคลือบสีรถ บีบหรือฉีดน้ำยาเคลือบสีรถลงบนฟองน้ำสำหรับเคลือบสีรถ แล้วค่อยๆ ทาน้ำยาลงบนผิวสีรถทีละส่วน โดยทาเป็นวงกลมหรือทิศทางเดียวกันอย่างเบามือ ไม่ต้องลงหนาเกินไป
- ทิ้งไว้ตามคำแนะนำ อ่านคำแนะนำบนฉลากของน้ำยาเคลือบสีรถ และทิ้งไว้ตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้น้ำยาเซตตัวและยึดเกาะกับผิวสีรถได้ดี
- เช็ดน้ำยาออก ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ที่สะอาดและแห้ง เช็ดน้ำยาเคลือบส่วนเกินออกให้หมด โดยเช็ดวนเป็นวงกลมหรือทิศทางเดียวกันจนผิวสีรถเงางามทั่วทั้งคัน
วิธีดูแลหลังเคลือบสีรถ ควรทำอย่างไรบ้าง?
หลังจากที่เราเคลือบสีรถให้สวยเงางามแล้ว การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีก็สำคัญไม่แพ้กัน เพื่อให้ชั้นเคลือบทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและอยู่กับรถของเราไปนาน ๆ สิ่งที่ควรทำหลังจากเคลือบสีแล้ว มีดังนี้
- หลีกเลี่ยงการล้างรถทันที ควรงดล้างรถประมาณ 7 วัน หลังจากการเคลือบสี เพื่อให้ชั้นเคลือบได้เซตตัวและยึดเกาะกับผิวสีรถได้อย่างสมบูรณ์
- เลือกผลิตภัณฑ์ล้างรถที่เหมาะสม ใช้น้ำยาล้างรถที่มีค่า pH เป็นกลาง (Neutral pH) และไม่มีส่วนผสมของสารเคมีรุนแรง ที่อาจทำลายชั้นเคลือบได้
- เช็ดรถให้แห้งสนิท หลังล้างรถ ควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เนื้อนุ่มสะอาดเช็ดรถให้แห้งสนิททันที เพื่อป้องกันการเกิดคราบน้ำบนชั้นเคลือบ
- หลีกเลี่ยงการจอดตากแดดนาน ๆ แสงแดดจัดและความร้อนสูงอาจส่งผลให้ชั้นเคลือบเสื่อมสภาพเร็วขึ้น หากเป็นไปได้ ควรจอดรถในที่ร่ม
- ไม่ใช้สารเคมีรุนแรงกับผิวรถ หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์เป็นกรดหรือด่างสูง รวมถึงการใช้น้ำยาขัดเงาทั่วไป เพราะอาจทำลายชั้นเคลือบได้
- เติมน้ำยาเคลือบหรือสเปรย์ดูแล เพื่อรักษาความเงางามและยืดอายุชั้นเคลือบ ควรใช้น้ำยาบำรุงรักษาหรือสเปรย์เคลือบสีรถสำหรับรถที่เคลือบสีเป็นประจำ ตามคำแนะนำของผู้ผลิต
เคลือบสีรถ ทางเลือกเพื่อความคุ้มค่าระยะยาว
การเคลือบสีรถช่วยเพิ่มความเงางามและสร้างชั้นฟิล์มปกป้องผิวสีรถจากคราบสกปรก รอยขีดข่วน รวมถึงรังสี UV ที่ทำให้สีซีดจาง การดูแลอย่างสม่ำเสมอหลังเคลือบสี จะช่วยยืดอายุการใช้งานของสีรถให้ดูเหมือนใหม่อยู่เสมอไปอีกนานหลายปี และทำให้การทำความสะอาดง่ายขึ้นอีกด้วย
ส่วนใครมีความกังวลต้องการสินเชื่อเงินด่วนละก็ สินเชื่อรถแลกเงิน KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน พร้อมเป็นตัวช่วยเคียงข้างคุณเพื่อขอสินเชื่อรถยนต์ ไม่ว่ารถยังผ่อนอยู่ หรือรถปลอดภาระแล้วก็กู้ได้ ในวงเงินสูงสุด 100% อาชีพไหนก็สมัครได้ อีกทั้งยังมีบริการ พี่เบิ้ม Delivery เดินทางไปทำรายการให้ถึงหน้าบ้าน อนุมัติไวใน 1 ชั่วโมง รับเงินทันที โดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน และผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน
กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร
เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
*วงเงินอนุมัติเป็นไปตามความสามารถในการชำระหนี้และราคาประเมินมูลค่ารถ
*อนุมัติไวใน 1 ชั่วโมง รับเงินทันที เมื่อเอกสารครบถ้วนถูกต้องและโอนเงินเข้าบัญชีกรุงไทยหรือบัญชีพร้อมเพย์
*กรณีรถยนต์ติดไฟแนนซ์ อนุมัติและโอนเงินหลังจากกรรมสิทธิ์ในรถเป็นชื่อผู้กู้เรียบร้อยแล้ว
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21%-24% ต่อปี
