• บัตรเครดิต
    • ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต
    • คะแนน
    • ผ่อนชำระ
    • บริจาค
    • บริการหักค่าใช้จ่ายอัตโนมัติ
    • อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
    • KTC Device Pay
  • สินเชื่อบุคคล
    • ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ
    • บัตรกดเงินสด KTC PROUD
    • สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH
    • สินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน
    • ผ่อนชำระ
    • อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
  • โปรโมชั่น
  • ธุรกิจร้านค้า
    • บริการธุรกิจร้านค้า
    • บริการเครื่องรูดบัตร EDC 
    • บริการ QR Code Payment
    • บริการรับชำระเงินออนไลน์
    • บริการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ
    • บริการรับชำระเงินผ่านลิงก์
    • บริการรับชำระด้วย ALIPAY & ALIPAY+
  • บริการท่องเที่ยว
  • ช้อปสินค้าออนไลน์
  • บริการลูกค้า
    • ติดต่อ KTC
    • แอป KTC Mobile
    • ช่องทางการชำระเงิน
    • บริการ KTC E-Book
    • ดาวน์โหลดแบบฟอร์มและคู่มือ
    • คำถามที่พบบ่อย
บัตรเครดิต
บัตรเครดิต
  • ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต
  • คะแนน
  • ผ่อนชำระ
  • บริจาค
  • บริการหักค่าใช้จ่ายอัตโนมัติ
  • อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
  • KTC Device Pay
สินเชื่อบุคคล
สินเชื่อบุคคล
  • ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ
  • บัตรกดเงินสด KTC PROUD
  • สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH
  • สินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน
  • ผ่อนชำระ
  • อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
โปรโมชั่น โปรโมชั่น
ธุรกิจร้านค้า
ธุรกิจร้านค้า
  • บริการธุรกิจร้านค้า
  • บริการเครื่องรูดบัตร EDC
  • บริการ QR Code Payment
  • บริการรับชำระเงินออนไลน์
  • บริการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ
  • บริการรับชำระเงินผ่านลิงก์
  • บริการรับชำระด้วย ALIPAY & ALIPAY+
บริการท่องเที่ยวบริการท่องเที่ยว ช้อปสินค้าออนไลน์ช้อปสินค้าออนไลน์
บริการลูกค้า
บริการลูกค้า
  • ติดต่อ KTC
  • แอป KTC Mobile
  • ช่องทางการชำระเงิน
  • บริการ KTC E-Book
  • ดาวน์โหลดแบบฟอร์มและคู่มือ
  • คำถามที่พบบ่อย
เปลี่ยนภาษา

EN

TH

KTC Search Icon KTC Search Icon
สมัครบัตร
KTC Login Icon KTC Login Icon เข้าสู่ระบบ KTC Mobile Login
KTC Profile

บัญชีของฉัน

  • KTC Online

    บัตร KTC ของฉัน

  • KTC Promotions

    โปรโมชั่นของฉัน

  • KTC Logout

    ออกจากระบบ

KTC Online Profile
  1. หน้าหลัก
  2. /
  3. บทความ
  4. /
  5. Knowledge
  6. /
  7. ตราสารหนี้ คืออะไร ทางเลือกการลงทุนที่มือใหม่ต้องรู้!
  1. หน้าหลัก
  2. /
  3. บทความ
  4. /
  5. Knowledge
  6. /
  7. ตราสารหนี้ คืออะไร ทางเลือกการลงทุนที่มือใหม่ต้องรู้!
ตราสารหนี้ คืออะไร ทางเลือกการลงทุนที่มือใหม่ต้องรู้!

ตราสารหนี้ (Bond) คืออะไร ทำความเข้าใจความเสี่ยงและผลตอบแทนก่อนลงทุน

หมวดหมู่ : Knowledge

การลงทุนในตราสารหนี้ คืออีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาความมั่นคงและผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือมืออาชีพ ไม่เพียงแต่เป็นการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอในระยะยาวอีกด้วย มาเรียนรู้วิธีการลงทุนให้ได้ผลตอบแทนสูงสุดไปพร้อมกัน

เลือกอ่านตามหัวข้อ

  • ตราสารหนี้สินคืออะไร
  • ประเภทของตราสารหนี้สิน
  • ตราสารหนี้สินระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาวต่างกันอย่างไร
  • วิธีการลงทุนในตราสารหนี้สิน มีอะไรบ้าง
  • ข้อดีของการลงทุนกับตราสารหนี้สิน
  • ลิสต์อันดับความน่าเชื่อถือ 3 กลุ่มใหญ่ในการลงทุนตราสารหนี้สิน
  • ข้อควรรู้ก่อนลงทุนตราสารหนี้สิน
  • ตราสารหนี้ พาสปอร์ตสู่โลกการเงินเปิดประตูสู่ความมั่นคงในระยะยาว

ตราสารหนี้สินคืออะไร

ตราสารหนี้ มีอะไรบ้าง

ตราสารหนี้ (Bond) คือ การลงทุนประเภทหนึ่งที่ผู้ออกตราสารทางการเงินจะถูกเรียกว่าลูกหนี้ และผู้ลงทุนหรือผู้ถือตราสารหนี้สินมีสถานะเป็นเจ้าหนี้ โดยผู้ถือตราสารหนี้ จะได้รับผลตอบแทนเป็นเงินต้นคืนพร้อมดอกเบี้ยตามที่ระบุไว้ในสัญญา อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ นั้น การซื้อตราสารหนี้ ก็เหมือนกับการให้บริษัทหรือรัฐบาลยืมเงินนั่นเอง โดยมีเป้าหมายเป็นผลตอบแทนคือดอกเบี้ย และเมื่อครบกำหนดสัญญา ก็จะได้รับเงินต้นคืน

ประเภทของตราสารหนี้สิน

ปัจจุบันตราสารหนี้สินสามารถแบ่งแบบเข้าใจง่าย ๆ ได้ 2 ประเภท ดังนี้

ตราสารหนี้สินจากรัฐบาล

ตราสารหนี้สินจากรัฐบาลเป็นตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาล เพื่อระดมทุนสำหรับใช้ในการดำเนินงานของภาครัฐ เช่น การสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การจ่ายเงินเดือนข้าราชการ ดังนั้น ลงทุนตราสารหนี้ คือการที่เราสนับสนุนเงินทุนให้รัฐบาลและได้รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยนั่นเอง ตัวอย่างของตราสารหนี้จากรัฐบาล เช่น

  • ตั๋วเงินคลัง : เป็นการลงทุนระยะสั้น มักมีอายุไม่เกิน 1 ปี ใช้สำหรับระดมทุนเพื่อชำระหนี้ระยะสั้นของรัฐบาล
  • พันธบัตรรัฐบาล : เป็นการลงทุนระยะยาว มีอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป ใช้สำหรับระดมทุนเพื่อโครงการขนาดใหญ่ เช่น การสร้างรถไฟความเร็วสูง สนามบิน เป็นต้น

ตราสารหนี้สินจากเอกชน

ตราสารหนี้สินจากเอกชนเป็นตราสารหนี้สินที่ออกโดยบริษัทเอกชน เพื่อระดมทุนสำหรับใช้ในการขยายธุรกิจ ลงทุนในโครงการใหม่ หรือชำระหนี้ ตัวอย่างของตราสารหนี้จากเอกชน ได้แก่

  • หุ้นกู้ : เป็นการลงทุนที่บริษัทเอกชนออกเพื่อระดมทุนในการขยายธุรกิจ โดยบริษัทจะสัญญาว่าจะจ่ายดอกเบี้ยให้แก่นักลงทุนเป็นระยะ และเมื่อครบกำหนดจะคืนเงินต้น
  • ตั๋วแลกเงิน : เป็นการลงทุนระยะสั้น มักมีอายุไม่เกิน 270 วัน ใช้สำหรับระดมทุนเพื่อชำระหนี้ระยะสั้นของบริษัท

*ตราสารหนี้จากรัฐบาลมีความเสี่ยงในการผิดนัดจ่ายหนี้ต่ำ เนื่องจากดูแลโดยหน่วยงานรัฐบาลโดยตรง

ตราสารหนี้สินระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาวต่างกันอย่างไร

ตราสารหนี้ ผลตอบแทน

ตราสารหนี้สินคือการลงทุนที่มีรายละเอียดเรื่องระยะเวลาแตกต่างกันไป เพราะฉะนั้นการเลือกตราสารหนี้ที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้ลงทุนนั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะแต่ละระยะเวลาจะมีความเสี่ยงและผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • ตราสารหนี้สินระยะสั้น
      • ระยะเวลามักมีอายุไม่เกิน 1 ปี เช่น ตั๋วเงินคลัง ตั๋วแลกเงิน
      • ความเสี่ยงต่ำ เนื่องจาก ระยะเวลาสั้น ทำให้มีความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยและความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ต่ำ
      • ผลตอบแทนต่ำ เนื่องจาก ความเสี่ยงต่ำ
      • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเงินสดในระยะสั้น หรือต้องการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตลงทุน
  • ตราสารหนี้สินระยะกลาง
      • ระยะเวลา มีอายุระหว่าง 1-10 ปี เช่น พันธบัตรรัฐบาลบางประเภท หุ้นกู้บางประเภท
      • ความเสี่ยงปานกลาง ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยและความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้สูงกว่าระยะสั้น
      • ผลตอบแทนปานกลาง สูงกว่าระยะสั้น
      • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างสมดุลระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทน หรือผู้ที่ต้องการเงินทุนในระยะกลาง
  • ตราสารหนี้สินระยะยาว
      • ระยะเวลา มีอายุมากกว่า 10 ปี เช่น พันธบัตรรัฐบาลระยะยาว หุ้นกู้ระยะยาว สำหรับเจ้าของตราสารหนี้จะต่างจากเงินกู้ระยะยาวโดยมีการจำนอง ซึ่งเป็นการที่ผู้กู้ยอมให้ทรัพย์สินตัวเองเป็นหลักประกันกับเจ้าหนี้เพื่อรับเงินกู้
      • ความเสี่ยงสูง ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยและความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้สูง
      • ผลตอบแทนสูง
      • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนในระยะยาว และสามารถรับความเสี่ยงได้สูง

วิธีการลงทุนในตราสารหนี้สิน มีอะไรบ้าง

ลงทุนตราสารหนี้ คือ

การลงทุนในตราสารหนี้ คืออีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างความมั่นคงให้กับพอร์ตลงทุน แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าจะเริ่มต้นลงทุนในตราสารหนี้ได้อย่างไร เราจะมาไขข้อข้องใจและแนะนำวิธีการลงทุนอย่างละเอียดกัน

การลงทุนทางตรงในตลาดแรก (Primary Market)

การลงทุนทางตรงในตลาดแรก คือการซื้อตราสารหนี้ใหม่ที่เพิ่งออกสู่ตลาด หรือหุ้นตราสารหนี้ คือตราสารหนี้ที่ออกโดยตรงจากผู้ออกตราสารหนี้ เช่น รัฐบาล หรือบริษัทเอกชน การลงทุนในตลาดแรกมักจะมีข้อดีคือได้รับอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอน และมีโอกาสได้รับส่วนลดพิเศษจากผู้ออกตราสารหนี้

ขั้นตอนการลงทุน

  • ติดตามข่าวสาร ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการเสนอขายตราสารหนี้ใหม่จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เช่น หนังสือพิมพ์ เว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์ หรือเว็บไซต์ของบริษัทหลักทรัพย์
  • ศึกษาข้อมูล ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับตราสารหนี้ที่จะลงทุน เช่น ผู้ออกตราสารหนี้ อายุของตราสารหนี้ อัตราดอกเบี้ย และอันดับความน่าเชื่อถือ
  • ติดต่อสถาบันการเงิน ติดต่อสถาบันการเงินที่เป็นผู้จัดจำหน่ายเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมและทำการจองซื้อ
  • ชำระเงิน ชำระเงินค่าซื้อตราสารหนี้ตามที่กำหนด

ข้อดีของการลงทุนในตลาดแรก

  • ได้รับอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอน
  • มีโอกาสได้รับส่วนลดพิเศษ
  • สนับสนุนการระดมทุนของผู้ออกตราสารหนี้

การซื้อขายในตลาดรอง (Secondary Market)

การซื้อขายในตลาดรอง คือการซื้อขายตราสารหนี้ที่เคยออกสู่ตลาดแล้ว โดยซื้อขายกันระหว่างนักลงทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ หรือผ่านโบรกเกอร์ การลงทุนในตลาดรองมีความยืดหยุ่นมากกว่าการลงทุนในตลาดแรก เนื่องจาก สามารถซื้อขายได้ตลอดเวลา เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้เน้นผลตอบแทนระยะยาวหรือมีเหตุผลต้องใช้เงินด่วน อย่างเช่น คนที่ต้องการกู้เงินรีโนเวทบ้าน แต่ไม่อยากเป็นหนี้ มีตราสารหนี้อยู่ในมือก็สามารถนำเอามาขายได้

ขั้นตอนการซื้อขายในตลาดรอง

  • เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับบริษัทหลักทรัพย์
  • ศึกษาข้อมูล ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับตราสารหนี้ที่ต้องการซื้อ เช่น ราคาตลาด อัตราผลตอบแทน และปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา
  • สั่งซื้อ สั่งซื้อตราสารหนี้ผ่านระบบซื้อขายออนไลน์ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทหลักทรัพย์
  • ชำระเงิน ชำระเงินค่าซื้อตราสารหนี้

ข้อดีของการซื้อขายในตลาดรอง

  • สามารถซื้อขายตราสารหนี้ได้ตลอดเวลา
  • มีสภาพคล่องสูง
  • สามารถเลือกซื้อได้หลากหลายประเภท

ข้อดีของการลงทุนกับตราสารหนี้สิน

ตราสารหนี้ คือการลงทุนที่มาพร้อมข้อดีมากมาย ทำให้กองทุนตราสารหนี้กลายเป็นหนึ่งในการลงทุนยอดนิยมของนักลงทุนทั่วโลก มาดูกันว่าข้อดีเหล่านั้นมีอะไรบ้าง

  • ผลตอบแทนที่ค่อนข้างแน่นอน ต่างจากหุ้นที่ราคาอาจผันผวนสูง มีอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดไว้ชัดเจน ทำให้นักลงทุนสามารถคาดการณ์ผลตอบแทนได้อย่างแม่นยำ
  • ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด โดยทั่วไปการลงทุนประเภทนี้มีความผันผวนน้อยกว่าหุ้น ทำให้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลดความเสี่ยงในการลงทุน
  • สร้างรายได้สม่ำเสมอ นักลงทุนจะได้รับดอกเบี้ยเป็นระยะ ซึ่งเป็นรายได้ที่สม่ำเสมอและสามารถนำไปใช้จ่ายหรือลงทุนต่อได้
  • กระจายความเสี่ยง การลงทุนในตราสารหนี้หลายประเภท หรือหลายผู้ออกตราสารหนี้ จะช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้
  • เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการพอร์ตลงทุน สามารถนำมาใช้ในการปรับสมดุลพอร์ตลงทุน โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนสูง
  • เหมาะสำหรับนักลงทุนทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือมืออาชีพ การลงทุนประเภทนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจาก มีหลากหลายประเภทให้เลือกสรรตามความเสี่ยงที่นักลงทุนสามารถรับได้
  • สามารถนำไปใช้เป็นหลักประกัน ตราสารหนี้บางประเภทสามารถนำไปใช้เป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อได้

ลิสต์อันดับความน่าเชื่อถือ 3 กลุ่มใหญ่ในการลงทุนตราสารหนี้สิน

ตราสารหนี้สินหรือการลงทุนทุกรูปแบบ ผู้ลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจก่อนลงทุนอย่างละเอียด โดยอีกหนึ่งปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนลงทุนตราสารหนี้คืออันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารหนี้ เพราะอันดับความน่าเชื่อถือนั้นจะบ่งบอกถึงความสามารถในการชำระหนี้คืนให้แก่นักลงทุน ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อความเสี่ยงในการลงทุนและผลตอบแทนที่คาดหวัง

กลุ่ม Investment Grade (กลุ่มระดับลงทุน)

ตราสารหนี้ในกลุ่มนี้มีความน่าเชื่อถือสูง ผู้ออกตราสารหนี้มีศักยภาพทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี และมีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ต่ำ มักได้รับอันดับเครดิตจากสถาบันจัดอันดับเครดิต เช่น Moody's, Standard & Poor's และ Fitch Ratings อยู่ในระดับสูง เช่น AAA, AA, A, หรือ BBB ผลตอบแทนจากตราสารหนี้กลุ่มนี้อาจจะไม่สูงมากนัก เนื่องจาก ความเสี่ยงต่ำ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่เน้นความมั่นคงและต้องการผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ ค่อนข้างได้รับความนิยมในกลุ่มกองทุนรวมตราสารหนี้ ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้โดยเฉพาะ

กลุ่ม Non-Investment Grade (กลุ่มต่ำกว่าระดับลงทุน)

ตราสารหนี้ในกลุ่มนี้มีความเสี่ยงสูงกว่ากลุ่ม Investment Grade ผู้ออกตราสารหนี้อาจมีปัญหาทางการเงินบ้าง หรืออยู่ในอุตสาหกรรมที่มีความผันผวนสูง มักได้รับอันดับเครดิตต่ำกว่า BBB หรือไม่มีอันดับเครดิต ผลตอบแทนจากการลงทุนตราสารหนี้กลุ่มนี้อาจจะสูงกว่ากลุ่ม Investment Grade เนื่องจาก มีความเสี่ยงสูงกว่า เหมาะสำหรับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้สูง และต้องการผลตอบแทนที่สูง

กลุ่ม Unrated Bond (ไม่มีการจัดอันดับเครดิต)

ตราสารหนี้ที่ยังไม่ได้รับการจัดอันดับเครดิตจากสถาบันจัดอันดับเครดิต อาจเป็นเพราะบริษัทเพิ่งก่อตั้ง หรือมีขนาดเล็ก อาจเป็นการออกตราสารหนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการกู้เงินปิดหนี้ของบริษัทได้ ความเสี่ยงในการลงทุนในตราสารหนี้สูง เนื่องจาก ไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสารหนี้ ผลตอบแทนอาจจะสูงมาก หรืออาจจะไม่มีเลย เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับตราสารหนี้เป็นอย่างดี และมีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินได้

ข้อควรรู้ก่อนลงทุนตราสารหนี้สิน

ตราสารหนี้ คือการลงทุนที่ยังคงมีความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน เราควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อการลงทุน เพื่อให้การตัดสินใจของคุณเป็นไปอย่างรอบคอบและมีผลตอบแทนที่คุ้มค่ามากที่สุด

  • กำหนดเป้าหมายของการลงทุน : กำหนดเป้าหมายการลงทุนของคุณให้ชัดเจนก่อนว่าต้องการผลตอบแทนตราสารหนี้ในระยะสั้นหรือระยะยาว ต้องการความเสี่ยงมากหรือน้อย เป้าหมายเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกประเภทที่เหมาะสมได้
  • กระจายความเสี่ยง : ไม่ควรลงทุนในตราสารหนี้ประเภทเดียว ควรกระจายความเสี่ยงไปยังตราสารหนี้ที่แตกต่างกัน เช่น ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว หรือของภาครัฐ และภาคเอกชน
  • พิจารณาค่าธรรมเนียม : ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายแต่ละประเภทจะแตกต่างกันไป คุณควรเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมของแต่ละบริษัทหลักทรัพย์ก่อนตัดสินใจ
  • สภาพคล่อง : ความง่ายในการซื้อขาย หากคุณต้องการขายในอนาคต ควรเลือกแบบที่มีสภาพคล่องสูง
  • อัตราดอกเบี้ย : อัตราดอกเบี้ยเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลตอบแทนจากการลงทุน เมื่ออัตราดอกเบี้ยในตลาดสูงขึ้น ราคาของตราสารหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ก็จะลดลง

ตราสารหนี้ พาสปอร์ตสู่โลกการเงินเปิดประตูสู่ความมั่นคงในระยะยาว

ตราสารหนี้ คือการลงทุนที่เป็นเหมือนสัญญาที่แสดงว่าเราให้ผู้ออกตราสารหนี้ยืมเงิน โดยที่เราจะได้รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย และเมื่อครบกำหนดสัญญา เราก็จะได้เงินต้นคืน การลงทุนในตราสารหนี้จึงเป็นช่องทางการลงทุนที่ช่วยให้เรามีรายได้ที่สม่ำเสมอ ลดความเสี่ยงในการลงทุน และยังช่วยให้เราบริหารเงินของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

แต่การลงทุนในตราสารหนี้ก็มีความเสี่ยงอยู่บ้าง ดังนั้น ก่อนตัดสินใจลงทุน เราควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ แต่สำหรับคนที่สงสัยว่ามือใหม่ควรลงทุนอะไรดี ตราสารหนี้ก็เป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่น่าสนใจไม่แพ้กัน และหากคุณต้องการวางแผนรองรับความเสี่ยงทางการเงินที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เราขอแนะนำบัตรกดเงินสด KTC PROUD ตัวช่วยด้านการเงินยามฉุกเฉิน สำหรับคนที่ต้องการวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ พร้อมมอบวงเงินสูงสุดกว่า 1 ล้านบาท อนุมัติรวดเร็วทันใจ ไม่มีค่าธรรมเนียมกดเงินสด โอนผ่านแอป KTC Mobile ได้ตลอดเวลา หรือจะกดที่ตู้ ATM ทั่วไทยก็ได้เช่นกัน

*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 25% ต่อปี

บัตรกดเงินสด KTC PROUD เพื่อนคู่คิดทางการเงินของคุณในทุกสถานการณ์

สมัครบัตรกดเงินสด KTC PROUD คลิกเลย!

สมัครออนไลน์ด้วยตนเอง

ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต
และบัตรกดเงินสด KTC PROUD

QR Code สมัครออนไลน์ด้วยตนเอง
สแกนเพื่อสมัครบัตร
ศึกษาเพิ่มเติม

สมัครออนไลน์
ด้วยตนเอง

ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต
และบัตรกดเงินสด
KTC PROUD

เริ่มสมัครเลย ศึกษาเพิ่มเติม

ลงชื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ

ให้คำปรึกษา และอำนวยความสะดวก
ในการสมัครผลิตภัณฑ์ของ KTC

บัตรเครดิต KTC บัตรเครดิต KTC สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน บิ๊กไบค์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน บิ๊กไบค์
บัตรกดเงินสด KTC PROUD บัตรกดเงินสด KTC PROUD สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน รถยนต์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มอเตอร์ไซค์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มอเตอร์ไซค์
บัตรเครดิต KTC บัตรเครดิต KTC บัตรกดเงินสด KTC PROUD บัตรกดเงินสด KTC PROUD สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน รถยนต์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน บิ๊กไบค์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน บิ๊กไบค์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มอเตอร์ไซค์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มอเตอร์ไซค์

เกี่ยวกับเรา

  • วิสัยทัศน์ / พันธกิจ
  • ข้อมูลทั่วไป
  • โครงสร้างการถือหุ้นกลุ่มบริษัท
  • โครงสร้างองค์กร
  • คณะกรรมการ
  • คณะผู้บริหาร
  • เลขานุการบริษัท
  • หัวหน้างานกำกับดูแล และหัวหน้างานตรวจสอบภายใน
  • ผู้ควบคุมดูแลการทำบัญชี
  • นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • ข่าวประชาสัมพันธ์
  • บทความ
  • สมัครงาน / ฝึกงาน

บริการลูกค้า

  • บริการออนไลน์
  • อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
  • คำนวณดอกเบี้ย / ค่าธรรมเนียม
  • ช่องทางการชำระเงิน
  • บริการหักค่าใช้จ่ายรายเดือนอัตโนมัติ
  • ดาวน์โหลด
  • ประกาศบริษัท
  • คำถามที่พบบ่อย
  • แผนผังเว็บไซต์

การพัฒนาเพื่อความยั่งยืน

  • มิติเศรษฐกิจ
  • มิติสังคม
  • มิติสิ่งแวดล้อม
  • การควบคุมภายในและการบริหารจัดการความเสี่ยง
  • การรับรองมาตรฐานระบบบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยสําหรับสารสนเทศ (ISO/IEC 27001:2013)

นักลงทุนสัมพันธ์

  • ข้อมูลสำคัญทางการเงิน
  • ข้อมูลนำเสนอ
  • ข้อมูลสำหรับผู้ถือหุ้น
  • ข้อมูลและกิจกรรมหุ้นกู้
  • นโยบาย
  • ติดต่อนักลงทุนสัมพันธ์

KTC PHONE

02 123 5000
CAC Certified

ดาวน์โหลดแอป

KTC Mobile
KTC Mobile KTC Mobile KTC Mobile
KTC Facebook KTC Twitter KTC Instagram KTC LINE
© 2563 บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
ติดตามข่าวสารได้ที่
KTC LINE KTC LINE KTC Facebook KTC Facebook KTC instagram KTC instagram KTC Youtube KTC Youtube KTC TikTok KTC TikTok KTC twitter KTC twitter

EN

TH

KTC LIVE CHAT

Live Chat

KTC LIVE CHAT
สมัครบัตรเครดิต KTC
สมัครกดเงินสด KTC PROUD
ทั้งหมด
โปรโมชั่น
ผลิตภัณฑ์
บทความ
ข่าวประชาสัมพันธ์
0 ผลลัพธ์
คุณกำลังหมายถึง?
    ดูเพิ่มเติม

    ไม่พบผลลัพธ์ที่ค้นหา

    ตรวจสอบคำค้นหาของคุณแล้วลองอีกครั้ง
    ลองค้นหาด้วยคำหลักที่น้อยลง
    ประวัตการค้นหา
    ไม่มีประวัตการค้นหา
    ลบทั้งหมด
    KTC
    ตัวกรองโปรโมชั่น
    หมวดหมู่โปรโมชั่น
    • เลือกทั้งหมด
    • ล้างทั้งหมด
    ประเภทบัตรทั้งหมด
    • เลือกทั้งหมด
    • ล้างทั้งหมด
    เลือกผลิตภัณฑ์

    บัตรเครดิต KTC

    บัตรกดเงินสด KTC PROUD

    สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH

    สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ <span>KTC พี่เบิ้ม</span>

    สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม

    Filter

    ตัวกรอง

    Search
    www.ktc.co.th ไม่รองรับเบราว์เซอร์ Internet Explorer
    หากดำเนินการต่อ การใช้งานในบางเมนู/รายการอาจไม่สมบูรณ์

    สงวนสิทธิ์ © 2563 บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

    EN

    TH

    Live Chat