การผ่อนรถยนต์เป็นภาระที่หลายคนต้องจัดการทุกเดือน แต่เมื่อผ่อนรถมาได้สักระยะ บางคนอาจเจอปัญหาทางการเงินและมองหาทางออกด้วยการรีไฟแนนซ์รถยนต์เพื่อให้ค่างวดเบาลงหรือได้เงื่อนไขที่ดีกว่า การรีไฟแนนซ์จำเป็นต้องมีการคํานวณไฟแนนซ์รถยนต์เพื่อให้ทราบวงเงินสูงสุดที่จะได้รับ โปรแกรมคํานวณไฟแนนซ์รถยนต์จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ตัดสินใจได้แม่นยำและวางแผนได้ล่วงหน้าได้ชัดเจนยิ่งขึ้น บทความนี้จะพาทุกท่านมารู้จักโปรแกรมคํานวณไฟแนนซ์รถยนต์ให้มากขึ้น ดูว่ามีประโยชน์อย่างไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง และข้อควรรู้หากต้องการรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนอยู่
เลือกอ่านตามหัวข้อ
การคํานวณไฟแนนซ์รถยนต์ คืออะไร?
การคำนวณยอดจัดไฟแนนซ์รถยนต์ จะช่วยให้ทราบถึงวงเงินสูงสุดที่ได้รับจากการรีไฟแนนซ์รถยนต์กับสถาบันทางการเงิน ซึ่งสถาบันทางการเงินจะพิจารณาวงเงินของสินเชื่อจากการดูรายได้และรถที่เป็นหลักประกัน เพื่อนำมาพิจารณาวงเงินที่จะได้รับ โดยในแต่ละสถาบันทางการเงินมักจะมีโปรแกรมคำนวณยอดจัดไฟแนนซ์รถยนต์ให้ใช้งาน
โปรแกรมคำนวณไฟแนนซ์รถยนต์ ต้องกรอกรายละเอียดอะไรบ้าง?
สิ่งที่ต้องกรอกในโปรแกรมคำนวณไฟแนนซ์รถยนต์ของแต่ละสถาบันการเงินจะมีความแตกต่างกันออกไป แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีรายละเอียด ดังนี้
- ประเภทรถที่ใช้ขอสินเชื่อ
- ยี่ห้อรถ
- รุ่นของรถ
- ปีที่ผลิต
- ระบบเกียร์
- เครื่องยนต์
- รุ่นย่อย
โดยยิ่งกรอกข้อมูลครบถ้วน วงเงินสูงสุดที่คำนวณได้ก็จะยิ่งแม่นยำยิ่งขึ้น
รถยนต์มือสอง ขอรีไฟแนนซ์ได้ไหม
รถยนต์มือสองสามารถใช้โปรแกรมคํานวณไฟแนนซ์รถยนต์เพื่อขอรีไฟแนนซ์ได้ เงื่อนไขการรีไฟแนนซ์จะขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละสถาบันการเงินโดยพิจารณาจากหลายปัจจัย ดังนี้
- อายุของรถ :โดยทั่วไปแล้วบริษัทสินเชื่อหรือสถาบันการเงินส่วนใหญ่จะรับรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่มีอายุไม่เกิน 7-10 ปี นับจากปีที่จดทะเบียน หากรถมือสองยังอายุไม่มากก็สามารถขอรีไฟแนนซ์ได้
- สภาพรถ :รถมือสองที่จะขอรีไฟแนนซ์ต้องพร้อมใช้งานและอยู่ในสภาพดี ไม่มีการดัดแปลงตัวรถใด ๆ ที่ผิดกฎหมาย
- ประวัติการชำระเงิน :ผู้ขอรีไฟแนนซ์รถยนต์มือสองควรมีประวัติการชำระเงินที่ดี ไม่มีประวัติค้างชำระหรือผิดนัดชำระ เพราะจะส่งผลต่อการพิจารณาอนุมัติ รวมถึงวงเงินและอัตราดอกเบี้ยที่จะได้รับ
- ระยะเวลาผ่อนชำระที่ผ่านมา :รถมือสองคันที่จะขอรีไฟแนนซ์ต้องผ่านการผ่อนชำระมาแล้วอย่างน้อย 6 งวดก่อนจะขอรีไฟแนนซ์ใหม่ เพื่อให้สถาบันการเงินเห็นถึงประวัติและความสามารถในการผ่อนชำระของเจ้าของรถ
- เอกสารรถยนต์ : บริษัทสินเชื่อหรือสถาบันการเงินอาจขอเอกสารที่เกี่ยวข้องกับตัวรถ เช่น สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถ, สัญญาเช่าซื้อ, ใบเสร็จการผ่อนชำระ เพื่อใช้ยืนยันความเป็นเจ้าของและประวัติการผ่อนประกอบการพิจารณารีไฟแนนซ์
ก่อนคำนวณยอดจัดไฟแนนซ์รถยนต์ ควรรู้อะไรบ้าง?
รีไฟแนนซ์รถยนต์ มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
โดยทั่วไปแล้วค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์รถยนต์จะมีด้วยกัน 5 ส่วน ดังนี้
- ค่าจัดสินเชื่อ :เป็นค่าใช้จ่ายส่วนแรกที่ต้องเจอตอนขอรีไฟแนนซ์รถยนต์ ซึ่งต้องจ่ายให้กับธนาคารหรือไฟแนนซ์เจ้าใหม่ที่เลือกใช้บริการ โดยปกติแล้วหากมีการเรียกเก็บ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 1% ของวงเงินกู้ทั้งหมด
- ค่าปรับปิดบัญชีก่อนกำหนด :เป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้กับสถาบันการเงินเดิม เนื่องจากสถาบันการเงินแห่งเดิมต้องแบกรับความเสียเปรียบจากการคิดคำนวณดอกเบี้ยระยะยาวให้หากปิดยอดหนี้ทั้งหมดก่อนครบกำหนด โดยทั่วไปจะคิดในอัตราไม่เกิน 2% ของวงเงิน
- ค่าประเมินราคาหลักประกัน :เป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้สถาบันการเงินแห่งใหม่ โดยยอดเงินที่ต้องเตรียมส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 0.25% ของราคาประเมิน
- ค่าอากรแสตมป์ :เป็นค่าใช้ที่ผู้ขอรีไฟแนนซ์ต้องเตรียมไว้ล่วงหน้า ซึ่งกฎหมายกำหนดไว้ให้ต้องจ่ายประมาณ 0.5% ของวงเงินกู้ที่ได้จากการรีไฟแนนซ์
- ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ : เป็นค่าใช้จ่ายแฝงในขั้นตอนการขอรีไฟแนนซ์รถยนต์ เช่น ค่าเดินทาง ค่าน้ำมัน ค่าเสียเวลา ค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ เป็นต้น
รีไฟแนนซ์รถยนต์ต้องใช้คนค้ำไหม
การรีไฟแนนซ์รถยนต์คือการขอสินเชื่อประเภทหนึ่ง มีความคล้ายกับการขอสินเชื่อรถแลกเงินคือไม่จำเป็นต้องมีคนค้ำประกันก็สามารถทำเรื่องได้ โดยทางบริษัทสินเชื่อหรือสถาบันการเงินจะใช้คุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อเป็นเงื่อนไขในการพิจารณา เช่น ฐานเงินเดือน ประวัติการผ่อนชำระ สลิปเงินเดือน อายุงาน เป็นต้น ทั้งนี้ หากผู้ขอมีประวัติการชำระล่าช้าหรือมีรายได้ที่ไม่แน่นอน ก็อาจต้องหาคนมาช่วยค้ำประกันเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับทางสถาบันการเงินก่อนอนุมัติ
รีไฟแนนซ์รถยนต์ มีขั้นตอนอะไรบ้าง
การรีไฟแนนซ์รถยนต์โดยทั่วไปแล้วมีขั้นตอนดังนี้
1. เช็กราคารีไฟแนนซ์รถยนต์ สอบถามเงื่อนไข อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อน และวงเงินที่ได้รับ จากหลาย ๆ สถาบันการเงิน จากนั้นเลือกสถาบันการเงินที่ให้ข้อเสนอดีที่สุด
2. เตรียมเอกสารให้ครบ จากนั้นกรอกแบบฟอร์มขอรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินที่เลือกไว้ แล้วยื่นเอกสารประกอบการสมัครให้ครบถ้วน
3. ทำสัญญาและรอการอนุมัติ
4. สถาบันการเงินใหม่จะชำระยอดคงเหลือให้กับสถาบันการเงินเดิม
5. โอนทะเบียนรถมาอยู่ภายใต้สัญญาใหม่
6. หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนทั้งหมด ผู้ขอรีไฟแนนซ์จะเริ่มผ่อนชำระค่างวดกับสถาบันการเงินใหม่ตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้
ขั้นตอนการขอรีไฟแนนซ์รถยนต์จะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของเอกสารและกระบวนการทำงานของแต่ละสถาบันการเงิน
โปรแกรมคำนวณไฟแนนซ์รถยนต์ ช่วยให้ชีวิตสบายยิ่งขึ้น
โปรแกรมคำนวณไฟแนนซ์รถยนต์เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ทราบถึงวงเงินที่จะได้รับหากต้องการรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนอยู่ หรือนำมาใช้คำนวณร่วมกับตารางยอดจัดไฟแนนซ์รถยนต์เพื่อช่วยประเมินค่าใช้จ่ายล่วงหน้าและวางแผนการเงินได้อย่างแม่นยำ ทำให้ตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง ลดความเสี่ยงเรื่องภาระหนี้สูงเกินตัว และช่วยให้จัดการปัญหาเรื่องเงินได้ง่ายขึ้น
สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องค่างวดรถ หรือเครียดเรื่องเงินไม่พอใช้ อยากได้เงินก้อนมาหมุน ขอแนะนำสินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน เป็นสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์แบบไม่ต้องโอนเล่ม ไม่ว่ารถยังผ่อนอยู่ หรือรถปลอดภาระแล้วก็กู้ได้ โดยให้วงเงินสูงสุด 100% สมัครได้ทุกอาชีพ ประเมินราคารถให้ถึงหน้าบ้าน อนุมัติไวใน 1 ชั่วโมง รับเงินทันที โดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน และผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน เลือกรับบัตรกดเงินสด KTC พี่เบิ้ม ไว้ใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉินได้อย่างอุ่นใจ แม้ไม่มีการกดใช้ก็ไม่เสียดอกเบี้ยเพิ่มเติม
กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร
เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
*วงเงินอนุมัติเป็นไปตามความสามารถในการชำระหนี้และราคาประเมินมูลค่ารถ v*อนุมัติไวใน 1 ชั่วโมง รับเงินทันที เมื่อเอกสารครบถ้วนถูกต้องและโอนเงินเข้าบัญชีกรุงไทยหรือพร้อมเพย์
*เมื่อวงเงินกู้ 200,000 บาทขึ้นไป สามารถเลือกผ่อนชำระได้นานสูงสุด 84 เดือน
*กรณีรถยนต์ติดไฟแนนซ์ อนุมัติและโอนเงินหลังจากกรรมสิทธิ์ในรถเป็นชื่อผู้กู้เรียบร้อยแล้ว
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21%-24% ต่อปี
กรณีที่รถยังผ่อนไม่หมด สามารถนำมาประเมินวงเงินเบื้องต้นก่อนได้