การทำประกันชีวิตถือเป็นการวางแผนการเงิน เพื่อป้องกันความเสี่ยง เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันกับชีวิต โดยเฉพาะผู้ที่เป็นหัวหน้าครอบครัว หรือเป็นเสาหลักในการหารายได้ นอกจากจะเพื่อคนข้างหลังแล้ว ประกันชีวิตในรูปแบบออมทรัพย์ ยังช่วยให้มีเงินทุนสำรองในยามบั้นปลายชีวิต ค่าเบี้ยประกันชีวิตยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ สำหรับผู้ที่แต่งงานแล้ว หรือมีคู่รัก อาจมีข้อสงสัยในการนำค่าเบี้ยของแฟนหรือคู่สมรสไปลดหย่อนภาษี ว่าจะทำได้หรือไม่ อย่างไร วันนี้ KTC มีคำตอบเพื่อช่วยคลายข้อสงสัยมาฝากกัน
ประกันชีวิต คู่สมรส ลดหย่อนภาษี คืออะไร
ทุกวันนี้การทำประกันชีวิตได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น ทั้งการเลือกทำประกันชีวิต โดยใส่ชื่อผู้รับผลประโยชน์เป็นคนที่คุณรัก หรือการทำประกันชีวิตให้กับคู่ครอง โดยที่คุณเป็นผู้จ่ายเบี้ย จึงทำให้รูปแบบการทำประกันในปัจจุบันมีให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย และหลายคนอาจยังไม่ทราบว่าการที่สามี-ภรรยา ทำประกันชีวิตให้แก่กัน สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ดังนี้
- คู่สมรสที่มีเงินได้ สามารถนำเบี้ยประกันชีวิตของคู่สมรสที่ไม่มีเงินได้ มาลดหย่อนภาษีได้
- โดยความเป็นสามีภรรยา ต้องมีอยู่ตลอดปีภาษี อย่างเช่น ถ้านาย A กับนางสาว B แต่งงานกันเดือนมิถุนายน 2567 จะไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีของปี 2567 ได้ แต่จะนำไปลดหย่อนภาษีในปีถัดไป โดยที่ทั้งคู่จะต้องมีฐานะสามีภรรยาครบทั้งปี
- ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10,000 บาท แม้ว่าเบี้ยประกันชีวิตที่ทำไว้นั้นจะจ่ายเกิน 10,000 บาทก็ตาม
สามีและภรรยาที่ทำประกันชีวิตให้แก่กัน สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ประกันชีวิต คู่สมรส ลดหย่อนภาษี จะมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาอย่างไร
โดยปกติแล้วการทำประกันชีวิตให้บุคคลอื่นนั้น บริษัทประกันชีวิตส่วนใหญ่จะมีเงื่อนไขหลักๆ ที่ระบุไว้คือ ในวันที่ทำประกันชีวิต คนที่เราต้องการทำประกันให้ ต้องเป็น ‘ผู้มีส่วนได้เสียกับชีวิตเรา’ เท่านั้น ซึ่งหมายถึงบุคคลที่เราต้องการจะทำประกันให้ต้องอยู่ใน 3 หมวดหมู่ดังต่อไปนี้
- ต้องมีสิทธิและหน้าที่ต่อกันตามกฎหมาย เช่น สามี ภรรยา บิดา มารดา บุตร คู่หมั้น โดยถ้าหากมีสถานะเป็นสามี หรือภรรยากัน จะต้องจดทะเบียนสมรสแล้วเท่านั้น
- ต้องมีหน้าที่ทางศีลธรรมในการอุปการะเลี้ยงดูตามความเป็นจริง เช่น ลุง ป้า น้า อา พี่ น้อง
- ต้องมีสิทธิและหน้าที่ตามสัญญา เช่น นายจ้าง-ลูกจ้าง เจ้าหนี้-ลูกหนี้
ที่สำคัญที่สุดคือ ทั้ง 3 หมวดนี้ จะต้องมีเอกสารหลักฐานที่ยืนยันสถานภาพระหว่างกันอย่างชัดเจนและถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น
ถ้ายังมีสถานะแค่ ‘แฟน’ จะสามารถทำประกันชีวิตให้ได้หรือไม่
การทำประกันชีวิตให้คู่สมรสโดยใส่ชื่อสามีหรือภรรยาของเราเป็นผู้เอาประกัน จะมีผลบังคับใช้ตามกฎหมายก็ต่อเมื่อมีการ ‘จดทะเบียนสมรส’ กันเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าเป็นในกรณีที่เราต้องการทำประกันโดยใส่ชื่อ ‘แฟน’ ซึ่งไม่มีพันธะผูกพันกันตามกฎหมาย เป็นผู้เอาประกัน จะทำได้หรือไม่
คำตอบ : อาจจะทำได้ แต่จะถือเป็นกรมธรรม์ที่ค่อนข้างเสี่ยง เนื่องจากบริษัทประกันจะถือว่ากรมธรรม์นั้นไม่สมบูรณ์ตั้งแต่ต้น และบริษัทประกันสามารถบอกปฏิเสธการจ่ายเงินตามกรมธรรม์ในภายหลังได้ จึงมักไม่ค่อยมีผู้นิยมทำ
หากเราต้องการใส่ชื่อแฟนเป็นผู้รับผลประโยชน์ จะทำได้หรือไม่
คำตอบ : ตามที่กฎหมายบัญญัติเอาไว้ สามารถทำได้ เพราะกฎหมายเปิดกว้างให้เราใส่ชื่อใครเป็นผู้รับผลประโยชน์ก็ได้ แต่ในทางปฏิบัติแล้วอาจไม่ง่ายนัก เนื่องจากบริษัทประกันส่วนใหญ่มักไม่ค่อยอยากเสี่ยงกับปัญหาการทำร้ายกันเพื่อหวังผลประโยชน์จากกรมธรรม์ในภายหลัง ทำให้บริษัทมักจะยินยอมให้ใส่ชื่อคนใกล้ชิดทางสายเลือดหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้ทำประกันเป็นผู้รับผลประโยชน์เท่านั้น
แต่หากเราต้องการระบุชื่อแฟนหรือบุคคลอื่นเป็นผู้รับผลประโยชน์จริงๆ อาจจะต้องทำใจกับความยุ่งยากในด้านเอกสาร เพราะบริษัทประกันมักจะขอเอกสารที่แสดงถึงความสัมพันธ์ของคุณและแฟนเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณา ไม่ว่าจะเป็น บัญชีธนาคารหรือบัญชีเงินกู้ที่เปิดร่วมกัน เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินหรืออสังหาริมทรัพย์ร่วมกัน เอกสารประกอบธุรกิจร่วมกัน หรือเอกสารการทำประกันชีวิตที่ทั้งคุณและแฟนต่างก็ทำโดยมีการระบุชื่อของอีกฝ่ายเป็นผู้รับผลประโยชน์ และแม้ว่าจะมีเอกสารเหล่านี้ประกอบ ในท้ายที่สุดแล้ว การตัดสินใจอนุมัติกรมธรรม์ก็ยังขึ้นอยู่กับบริษัทประกันชีวิตจะเป็นผู้พิจารณา
การทำประกันชีวิตให้คู่สมรสที่ถูกต้องตามกฎหมายสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้
ทำประกันชีวิตให้คู่สมรส นำไปลดหย่อนภาษีได้อย่างไร
เมื่อรู้ถึงหลักเกณฑ์คร่าวๆ ในการทำประกันชีวิตให้คนรอบตัวแล้ว คำถามต่อมาที่คนมีคู่อาจจะอยากรู้ก็คือ การทำประกันชีวิตให้คู่สมรส สามารถลดหย่อนภาษีได้หรือไม่ โดยมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาดังต่อไปนี้
1.ต้องเป็นคู่สามีและภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกันตามกฎหมายอย่างถูกต้องเท่านั้น
2.หากสามีหรือภรรยาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีเงินได้แค่เพียงฝ่ายเดียว ฝ่ายที่มีรายได้จะสามารถนำเบี้ยประกันชีวิตไปยื่นหักลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่สูงสุดที่ไม่เกิน 10,000 บาท โดยแบ่งเป็น 2 กรณี คือ
- หากสามีมีเงินได้ และมีการจ่ายเบี้ยประกันของตนเองไป 10,000 บาท สามีก็สามารถนำเบี้ยประกันไปหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดที่ 10,000 บาท
- หากสามีมีเงินได้ และมีการจ่ายเบี้ยประกันของตนเองไป 10,000 บาท และมีการจ่ายเบี้ยประกันทางฝั่งภรรยาไป 10,000 บาท ในกรณีนี้ สามีจะสามารถนำเบี้ยประกันทั้งของตนเองและภรรยาไปหักลดหย่อนภาษีได้ 20,000 บาท
ทั้งสองกรณีสามารถนำเบี้ยประกันไปหักลดหย่อนได้ในปีที่ 2 ของการแต่งงานเป็นต้นไป เนื่องจากโดยปกติแล้วจะถือว่าในปีแรกที่มีการจดทะเบียนสมรสกันนั้น ความเป็นสามีภรรยาของทั้งคู่จะไม่ได้มีอยู่ตลอดปีภาษีที่จัดเก็บนั่นเอง
3. หากทั้งสามีและภรรยาต่างก็มีเงินได้ทั้งคู่ และต่างฝ่ายต่างมีการจ่ายเบี้ยประกันชีวิตของตนเอง ทั้งคู่จะสามารถนำเบี้ยประกันไปหักลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินคนละ 10,000 บาท
หากแต่งงานแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสจะไม่สามารถนำเบี้ยประกันของอีกฝ่ายมาใช้ลดหย่อนภาษีได้
กรณีที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ประกันชีวิตภรรยาลดหย่อนภาษีได้หรือไม่
หากคุณและคนรักแต่งงานกันเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน จะสามารถนำเบี้ยประกันของอีกฝ่ายมาใช้ลดหย่อนภาษีได้หรือไม่
คำตอบ : ‘ไม่ได้’ เพราะตามกฎหมายระบุเอาไว้ชัดเจนว่าประกันชีวิต คู่สมรส ลดหย่อนภาษี จะทำได้ก็ต่อเมื่อคุณทั้งคู่มีการจดทะเบียนสมรสกันอย่างถูกต้องเท่านั้น สำหรับการมีพิธีแต่งงานแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน คุณทั้งคู่จะต้องทำการยื่นภาษีในสถานะ ‘คนโสด’ จึงทำให้ไม่สามารถนำเบี้ยประกันของอีกฝ่ายมาใช้ในการลดหย่อนภาษีได้นั่นเอง
สิทธิพิเศษสำหรับบัตรเครดิต KTC ผ่อนชำระเบี้ยประกันดอกเบี้ยผ่อนชำระพิเศษ นานสูงสุด 10 เดือน
เมื่อชำระค่าเบี้ยประกันผลิตภัณฑ์ที่กำหนดของกรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ทั้งเบี้ยประกันปีแรกและปีต่ออายุ รับสิทธิ์ผ่อนชำระเบี้ยประกันนานสูงสุด 10 เดือน ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ลูกค้ารับผิดชอบดอกเบี้ย) ตามรายละเอียดดังนี้
- ผ่อนชำระเบี้ยประกันนาน 3 เดือน ด้วยอัตราดอกเบี้ย 0.74% ต่อเดือน
- ผ่อนชำระเบี้ยประกันนาน 6 เดือน ด้วยอัตราดอกเบี้ย 0.70% ต่อเดือน
- ผ่อนชำระเบี้ยประกันนาน 10 เดือน ด้วยอัตราดอกเบี้ย 0.60% ต่อเดือน
ตรวจสอบโปรโมชั่นประกันชีวิตกรุงไทย-แอกซ่า กับบัตรเครดิต KTC ได้ที่นี่
- ระยะเวลาโปรโมชั่น : 1 ม.ค. 67 - 31 ธ.ค. 67
หรือดูประกันชีวิตจากบริษัทประกันชั้นนำอื่นๆ อาทิ AIA, PRUDENTIAL, MSIG ฯลฯ พร้อมโปรโมชั่นจากบัตรเครดิต KTC ได้ที่นี่
สำหรับใครที่ยังไม่มีบัตรเครดิต KTC สามารถสมัครบัตรฯ KTC ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ เลือกบัตรฯ ที่ตรงใจ กับโปรโมชั่นที่ใช่ พร้อมสิทธิประโยชน์ที่ต้องการ
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC