• บัตรเครดิต
    • ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต
    • คะแนน
    • ผ่อนชำระ
    • บริจาค
    • บริการหักค่าใช้จ่ายอัตโนมัติ
    • อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
    • KTC Device Pay
  • สินเชื่อบุคคล
    • ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ
    • บัตรกดเงินสด KTC PROUD
    • สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH
    • สินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน
    • ผ่อนชำระ
    • อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
  • โปรโมชั่น
  • ธุรกิจร้านค้า
    • บริการธุรกิจร้านค้า
    • บริการเครื่องรูดบัตร EDC 
    • บริการ QR Code Payment
    • บริการรับชำระเงินออนไลน์
    • บริการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ
    • บริการรับชำระเงินผ่านลิงก์
    • บริการรับชำระด้วย ALIPAY & ALIPAY+
  • บริการท่องเที่ยว
  • ช้อปสินค้าออนไลน์
  • บริการลูกค้า
    • ติดต่อ KTC
    • แอป KTC Mobile
    • ช่องทางการชำระเงิน
    • บริการ KTC E-Book
    • ดาวน์โหลดแบบฟอร์มและคู่มือ
    • คำถามที่พบบ่อย
บัตรเครดิต
บัตรเครดิต
  • ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต
  • คะแนน
  • ผ่อนชำระ
  • บริจาค
  • บริการหักค่าใช้จ่ายอัตโนมัติ
  • อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
  • KTC Device Pay
สินเชื่อบุคคล
สินเชื่อบุคคล
  • ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ
  • บัตรกดเงินสด KTC PROUD
  • สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH
  • สินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน
  • ผ่อนชำระ
  • อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
โปรโมชั่น โปรโมชั่น
ธุรกิจร้านค้า
ธุรกิจร้านค้า
  • บริการธุรกิจร้านค้า
  • บริการเครื่องรูดบัตร EDC
  • บริการ QR Code Payment
  • บริการรับชำระเงินออนไลน์
  • บริการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ
  • บริการรับชำระเงินผ่านลิงก์
  • บริการรับชำระด้วย ALIPAY & ALIPAY+
บริการท่องเที่ยวบริการท่องเที่ยว ช้อปสินค้าออนไลน์ช้อปสินค้าออนไลน์
บริการลูกค้า
บริการลูกค้า
  • ติดต่อ KTC
  • แอป KTC Mobile
  • ช่องทางการชำระเงิน
  • บริการ KTC E-Book
  • ดาวน์โหลดแบบฟอร์มและคู่มือ
  • คำถามที่พบบ่อย
เปลี่ยนภาษา

EN

TH

KTC Search Icon KTC Search Icon
สมัครบัตร
KTC Login Icon KTC Login Icon เข้าสู่ระบบ KTC Mobile Login
KTC Profile

บัญชีของฉัน

  • KTC Online

    บัตร KTC ของฉัน

  • KTC Promotions

    โปรโมชั่นของฉัน

  • KTC Logout

    ออกจากระบบ

KTC Online Profile
  1. หน้าหลัก
  2. /
  3. บทความ
  4. /
  5. Knowledge
  6. /
  7. รายได้เท่าไหร่ต้องเสียภาษี พร้อมเทคนิควางแผนลดหย่อนภาษีปี 2568
  1. หน้าหลัก
  2. /
  3. บทความ
  4. /
  5. Knowledge
  6. /
  7. รายได้เท่าไหร่ต้องเสียภาษี พร้อมเทคนิควางแผนลดหย่อนภาษีปี 2568
รายได้เท่าไหร่ต้องเสียภาษี

รายได้เท่าไหร่ต้องเสียภาษี พร้อมเทคนิควางแผนลดหย่อนภาษีปี 2568

หมวดหมู่ : Knowledge

การเสียภาษีเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนด แต่คำถามที่มักเกิดขึ้นคือ "รายได้เท่าไหร่ต้องเสียภาษี" และ "จะวางแผนการลดหย่อนภาษีอย่างไรดี"

ยิ่งในช่วงปลายปีแบบนี้ คำถามเหล่านี้เรียกได้ว่าเป็นคำถามยอดฮิตสำหรับใครหลายคนเลยทีเดียว เพราะทั้งหมดนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนในวัยทำงานควรทำความเข้าใจ แม้จะดูเป็นเรื่องยุ่งยากและซับซ้อน แต่หากทำความเข้าใจในรายละเอียดเกี่ยวกับภาษีเงินได้ และรู้จักใช้ประโยชน์จากสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้คุ้มค่า ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับกฎหมายภาษีที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงทุกปี คุณก็สามารถปรับแผนการเงินให้สอดคล้องได้อย่างเหมาะสม ยื่นภาษีได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน และจัดการภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ

KTC จะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับรายได้ที่ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษี พร้อมทั้งเทคนิคและเคล็ดลับในการวางแผนลดหย่อนภาษีปี 2568 ที่จะช่วยให้สามารถจัดการภาษีของตนเองได้ ก่อนจะยื่นกันในต้นปีหน้านี้

รายได้เท่าไหร่ถึงต้องเสียภาษี ?

เป็นคำถามยอดฮิตของมนุษย์เงินเดือน โดยเฉพาะ First Jober หรือคนจบใหม่ทำงานที่แรก ยังไม่เคยยื่นภาษีมาก่อน ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับรายได้ หรือ “เงินได้” กับ “เงินได้สุทธิ” นั้น ต่างกัน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • เงินได้ คือ ส่วนของรายได้ทั้งหมดที่ได้รับตลอดปีที่ผ่านมา เช่น เงินเดือน เงินโบนัส เงินปันผลต่างๆ เงินได้จากการรับจ้าง ค่านายหน้า และอื่นๆ เป็นต้น
  • เงินได้สุทธิ คือ ฐานภาษีเพื่อการคำนวณภาษีสำหรับบุคคลธรรมดา ซึ่งมาจากเงินได้ ที่หักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนภาษีต่างๆ เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ ตามระเบียบของสรรพากรได้ระบุว่า ผู้ที่มีรายได้ตามมาตรา 40(1) แห่งประมวลรัษฎากร ได้แก่ เงินได้เนื่องจากการจ้างแรงงาน ได้แก่ เงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง โบนัส เบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ เงินค่าเช่าบ้าน รวมถึงทรัพย์สิน หรือประโยชน์ใดๆ ที่ได้เนื่องจากการจ้างแรงงาน หากรวมทั้งหมดไม่เกิน 120,000 บาทต่อปี ไม่จำเป็นต้องยื่นภาษีเงินได้

แต่หากมีรายได้มากกว่า 120,000 บาทต่อปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 150,000 บาท จะต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี แม้ว่ารายได้จะยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องจ่ายภาษี ส่วนผู้ที่มีรายได้สุทธิต่อปีรวมตั้งแต่ 150,001 บาทขึ้นไป จะต้องจ่ายภาษี ซึ่งรายละเอียดสำหรับบุคคลที่ต้องจ่ายภาษี มีดังนี้

เกณฑ์เงินได้พึงประเมินขั้นต่ำที่ผู้มีเงินได้ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี โดยแบ่งเป็นสำหรับคนโสดและผู้ที่สมรสแล้ว

คนโสด

ประเภทเงินได้

รายได้ต่อเดือน

รายได้ทั้งปี

เงินเดือน

10,000 บาท

120,000 บาท

เงินได้ประเภทอื่นๆ

5,000 บาท

60,000 บาท



ผู้ที่สมรสแล้ว

ประเภทเงินได้

รายได้ต่อเดือน

รายได้ทั้งปี

เงินเดือน

18,333 บาท

222,000 บาท

เงินได้ประเภทอื่นๆ

10,000 บาท

120,000 บาท

รายได้เท่าไหร่ต้องเสียภาษี

แม้ว่ารายได้จะยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องจ่ายภาษี ก็ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี

วิธีคำนวณเงินได้สุทธิ เพื่อดูอัตราภาษี

หากเข้าเกณฑ์ต้องยื่นและเสียภาษี ต้องมาดูวิธีคำนวณต่อ ซึ่งอันดับแรกต้องคำนวณรายได้สุทธิของปี โดยเงินได้สุทธิสามารถหาได้จากการนำรายได้ทั้งหมดมารวมกัน พร้อมหาค่าลดหย่อนต่างๆ เช่น ค่าใช้จ่าย ประกันสังคม และค่าลดหย่อน และนำมาหักออกจากรายได้ทั้งหมด เหลือเท่าไรคือเงินได้สุทธิที่จะนำไปคำนวณภาษีแบบขั้นบันได โดยใช้สูตรการคำนวณ

  • เงินได้สุทธิ = เงินได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน

ตัวอย่างการคำนวณเงินได้สุทธิ

กรณีนาย A เป็นพนักงานเงินเดือน มีรายได้ทั้งปี 300,000 บาท หักค่าใช้จ่ายแบบเหมา 100,000 บาท และมีรายการลดหย่อนภาษีส่วนตัว 60,000 บาท ประกันสังคม 9,000 บาท ไม่มีกองทุนหรือประกันอื่นๆ

ตัวอย่าง

300,000-100,000-(60,000+9,000)

เงินได้สุทธิของนาย A = 131,000 บาท

หลังจากได้เงินสุทธิแล้ว ให้นำมาเทียบกับการคิดภาษีบุคคลธรรมดา ซึ่งมีอัตรากำหนดไว้แบบขั้นบันได ตามตารางด้านล่างนี้

เงินได้สุทธิ (บาท/ปี)

อัตราภาษี

ต่ำกว่า 150,000

ได้รับการยกเว้น

150,001 – 300,000

5%

300,001 – 500,000

10%

500,001 – 750,000

15%

750,001 – 1,000,000

20%

1,000,001 – 2,000,000

25%

2,000,001 – 5,000,000

30%

5,000,001 ขึ้นไป

35%

เงินได้สุทธิเท่านี้เสียภาษีเท่าไหร่ คำนวณอย่างไร

ยิ่งมีเงินได้มากขึ้น ภาษีก็ยิ่งสูงขึ้นตามลำดับขั้นบันได ทั้งนี้ สามารถคำนวณหาจำนวนภาษีตาม วิธีคิดอัตราภาษีเงินได้แบบขั้นบันไดได้ ดังนี้

ยอดรายได้รวม (บาท/ปี)

อัตราภาษี

ภาษีที่ต้องจ่าย (บาท)

ต่ำกว่า 150,000

ได้รับการยกเว้น

0

150,001 – 300,000

5%

(เงินได้สุทธิ – 150,000) x5%

300,001 – 500,000

10%

[ (เงินได้สุทธิ – 300,000) x10% ] + 7,500

500,001 – 750,000

15%

[ (เงินได้สุทธิ – 500,000) x15% ] + 27,500

750,001 – 1,000,000

20%

[ (เงินได้สุทธิ – 750,000) x20% ] + 65,000

1,000,001 – 2,000,000

25%

[ (เงินได้สุทธิ – 1,000,000) x25% ] + 115,000

2,000,001 – 5,000,000

30%

[ (เงินได้สุทธิ – 2,000,000) x30% ] + 365,000

5,000,001 ขึ้นไป

35%

[ (เงินได้สุทธิ – 5,000,000) x35% ] + 1,265,000


ข้อมูลจาก : https://www.finnomena.com/z-admin/tax-computation/

ตัวอย่างการคำนวณกรณีมีรายได้รวม 530,000 บาท/ปี

สูตรการคำนวณ

ภาษีที่ต้องจ่าย = [(เงินได้สุทธิ - เงินได้สุทธิสูงสุดขั้นก่อนหน้า) x อัตราภาษี] + ภาษีขั้นก่อนหน้า


ตัวอย่าง

[(530,000 - 500,000) x 15%] + 27,500

ภาษีที่ต้องจ่าย = 32,000 บาท

สิทธิลดหย่อนภาษีปี 2568

ยิ่งมีรายได้มาก ยิ่งทำให้ต้องเสียภาษีมาก การวางแผนลดหย่อนภาษีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่มนุษย์เงินเดือนทุกคนควรให้ความสำคัญ เพราะนอกจากจะทำให้สามารถวางแผนการเงินได้อย่างเป็นระบบมากขึ้นแล้ว ยังทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากยิ่งขึ้นด้วย

ทั้งนี้ รายการลดหย่อนภาษีในแต่ละปีอาจมีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับนโยบายต่างๆ ที่เข้ามาสนับสนุนในปีนั้นๆ โดยรายการลดหย่อนภาษี 2568มีอะไรบ้าง ดูได้ตามตารางด้านล่างนี้

ประเภทส่วนตัวและครอบครัว

ส่วนตัว

60,000 บาท

คู่สมรส

60,000 บาท

บุตร (คนละ)

30,000 บาท

บุตรที่เกิดตั้งแต่ปี 2561 ได้เพิ่ม (คนละ)

30,000 บาท

บุตรบุญธรรม (สูงสุด 3 คน คนละ)

30,000 บาท

ฝากครรภ์ คลอดบุตร

60,000 บาท

บิดา มารดา (คนละ)

30,000 บาท

อุปการะเลี้ยงดูคนพิการหรือคนทุพพลภาพ

60,000 บาท



ประเภทประกัน

เงินสมทบกองทุนประกันสังคม

9,000 บาท

ประกันสุขภาพบิดา มารดา

15,000 บาท

เบี้ยประกันชีวิตและเบี้ยประกันสะสมทรัพย์

ไม่เกิน 100,000 บาท

ค่าเบี้ยประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุ

ไม่เกิน 25,000 บาท

(เมื่อนำเบี้ยประกันสุขภาพ ประกันชีวิต

และประกันสะสมทรัพย์มารวมกันแล้ว

จะลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท)

ค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ

15% ของเงินได้ตามที่จ่ายจริง

แต่ไม่เกิน 200,000 บาท



ประเภทการออมและการลงทุน

เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)

กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)

หรือกองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน

15% ของรายได้

ไม่เกิน 500,000 บาท

เงินสะสมกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)

ไม่เกิน 30,000 บาท

การลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)

ไม่เกิน 30% ของเงินได้

สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท

การลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF)

ไม่เกิน 30% ของเงินได้

สูงสุดที่ไม่เกิน 200,000 บาท

การลงทุนในกลุ่มวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise)

สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท

กองทุนไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG)

ไม่เกิน 30% ของเงินได้

และสูงสุดต้องไม่เกิน 300,000 บาท



มาตรการรัฐ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อซื้อ เช่าซื้อ หรือสร้างอาคารที่อยู่อาศัย

ไม่เกิน 100,000 บาท

โครงการ Easy e-Receipt

ไม่เกิน 50,000 บาท

** รอประกาศจากรัฐบาลหากมีเพิ่มเติม



ประเภทเงินบริจาค

เงินบริจาคทั่วไป

ไม่เกิน 10% ของเงินได้

เงินบริจาคแก่พรรคการเมือง

10,000 บาท

เงินบริจาคลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า

ให้สถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน กีฬา

สถานพยาบาลของรัฐ และเงินบริจาคพิเศษผ่าน e-Donation

ไม่เกิน 10% ของเงินได้

รายได้เท่าไหร่ต้องเสียภาษี

การลงทุนบางประเภทสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้

เทคนิคการวางแผนประหยัดภาษี 2568

เทคนิคการวางแผนภาษีเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้ประหยัดเงินและใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้อย่างเต็มที่ สำหรับปี 2568 นี้ จะเห็นได้ว่ามีรายการลดหย่อนมากมาย แต่ในปลายปีแบบนี้ ที่เรียกได้ว่าเป็นโค้งสุดท้ายก่อนทำการยื่นภาษีในต้นปี 2569 KTC ขอแนะนำให้ตระหนักถึงความสำคัญของการลงทุน ดังต่อไปนี้

  • ลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี

การลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เป็นทางเลือกที่ดีในการประหยัดภาษี นอกจากจะช่วยสะสมเงินออมเพื่ออนาคตแล้ว ยังสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด โดยเฉพาะการลงทุนใน RMF ที่เหมาะสำหรับการเกษียณ ทั้งนี้ หากซื้อกองทุนด้วยบัตรเครดิต KTC ยังจะได้รับสิทธิประโยชน์อื่นๆ อาทิ

โปรโมชั่น KTC

ลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษี กองทุน KTAM RMF/SSF กับบัตรเครดิต KTC

ลงทุน KTAM RMF หรือ SSF รับเงินคืน 100 บาท เข้ากองทุน KTSTPLUS เมื่อมียอดลงทุน สุทธิทุกๆ 50,000 บาท (สำหรับการชำระทุกช่องทาง) และสามารถชำระผ่านบัตรเครดิต KTC หรือใช้คะแนน KTC FOREVER ทุก 1,000 คะแนน แทนเงินลงทุน 100 บาท

ระยะเวลาโปรโมชั่น: 2 ม.ค. 68 – 30 ธ.ค. 68

  • ซื้อประกันชีวิตและประกันสุขภาพ

จากตารางข้างต้น จะเห็นได้ว่าการซื้อประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ประกันชีวิตสามารถลดหย่อนได้สูงสุด 100,000 บาท ส่วนประกันสุขภาพบิดามารดา สามารถลดหย่อนได้อีก 15,000 บาท นอกจากนี้ยังมีประกันสุขภาพของตัวเองและคู่สมรสที่สามารถนำมาลดหย่อนได้เช่นกัน และแน่นอนว่าสมาชิกบัตรเครดิต KTC สามารถเช็กโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษจากบริษัทประกันภัยชั้นนำ เพื่อเลือกประกันที่ถูกใจมาลดหย่อนภาษีได้ อาทิ

โปรโมชั่น KTC

สิทธิพิเศษผ่อนชำระค่าเบี้ยประกันทุกประเภททั้งปีแรกและปีต่ออายุ นานสูงสุด 10 เดือน

วิธีที่ 1: รับสิทธิ์ใช้คะแนนแลกรับสิทธิเปลี่ยนแปลงรายการชำระค่าเบี้ยประกัน แบบชำระเต็มจำนวน มาเป็นการใช้บริการผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน

พิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC เมื่อชำระค่าเบี้ยประกันภัยและ/หรือค่าเบี้ยประกันชีวิตผ่านบริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันภัย นายหน้าประกันภัย และนายหน้าประกันชีวิต ภายใต้ MCC Code 6300 และ 5960 ด้วยบัตรเครดิต KTC แบบชำระเต็มจำนวน ตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไปต่อเซลส์สลิป รับสิทธิ์ใช้คะแนนแลกรับสิทธิ์เปลี่ยนแปลงรายการชำระค่าเบี้ยประกันฯ ผ่านบัตรฯ แบบชำระเต็มจำนวนดังกล่าว มาเป็นการใช้บริการผ่อนชำระกับบัตร KTC ในอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน 0% รายละเอียดดังนี้

  • ใช้คะแนน KTC FOREVER จำนวน 20% ของยอดชำระค่าเบี้ยประกัน แลกรับสิทธิการผ่อนชำระกับบัตร KTC 0% นาน 3 เดือน
  • ใช้คะแนน KTC FOREVER จำนวน 40% ของยอดชำระค่าเบี้ยประกัน แลกรับสิทธิการผ่อนชำระกับบัตร KTC 0% นาน 6 เดือน
  • ใช้คะแนน KTC FOREVER จำนวน 60% ของยอดชำระค่าเบี้ยประกัน แลกรับสิทธิการผ่อนชำระกับบัตร KTC 0% นาน 10 เดือน

วิธีการเข้าร่วมรายการ เมื่อสมาชิกชำระค่าเบี้ยประกันด้วยบัตรเครดิต KTC เรียบร้อยแล้ว สามารถโทรศัพท์ติดต่อมาที่ 02 123 5650 เพื่อแสดงความประสงค์ขอรับสิทธิ์ผ่อนชำระตามเงื่อนไขรายการนี้ ภายในก่อนวันสรุปรอบบัญชีของสมาชิกในแต่ละรอบบัญชีเท่านั้น

  • ระยะเวลาโปรโมชั่น: 1 ม.ค. 68 – 31 ธ.ค. 68

วิธีที่ 2: เปลี่ยนยอดรูดเต็มให้เป็นผ่อนชำระด้วยตัวเอง ผ่านแอป KTC Mobile อัตราดอกเบี้ย 0.74% ต่อเดือน

โปรโมชั่น KTC

และนี่คือข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับรายได้ที่ต้องเสียภาษี และจะวางแผนลดหย่อนภาษีอย่างไรดีให้คุ้มค่า การวางแผนภาษีนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงต้องเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของการใช้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีต่างๆ เริ่มวางแผนตั้งแต่ตอนนี้ พร้อมใช้บัตรเครดิต KTC เป็นตัวช่วยทางการเงินในการซื้อประกันและกองทุนต่างๆ เพื่อการวางแผนทางการเงินที่คุ้มค่า ทั้งยังได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากการใช้บัตรฯ กดสมัครง่ายๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องไปธนาคาร ติดตามผลการสมัครออนไลน์ได้ ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี

ขอบคุณข้อมูลและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก

  • https://www.ktc.co.th/article/knowledge/check-list-of-tax-deductions
  • https://www.rd.go.th/fileadmin/user_upload/lorkhor/newsbanner/2024/6/PR12062567.pdf
  • https://www.rd.go.th/fileadmin/download/tax_deductions_update30072567.pdf

ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC

สมัครออนไลน์ด้วยตนเอง

ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต
และบัตรกดเงินสด KTC PROUD

QR Code สมัครออนไลน์ด้วยตนเอง
สแกนเพื่อสมัครบัตร
ศึกษาเพิ่มเติม

สมัครออนไลน์
ด้วยตนเอง

ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต
และบัตรกดเงินสด
KTC PROUD

เริ่มสมัครเลย ศึกษาเพิ่มเติม

ลงชื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ

ให้คำปรึกษา และอำนวยความสะดวก
ในการสมัครผลิตภัณฑ์ของ KTC

บัตรเครดิต KTC บัตรเครดิต KTC สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน บิ๊กไบค์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน บิ๊กไบค์
บัตรกดเงินสด KTC PROUD บัตรกดเงินสด KTC PROUD สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน รถยนต์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มอเตอร์ไซค์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มอเตอร์ไซค์
บัตรเครดิต KTC บัตรเครดิต KTC บัตรกดเงินสด KTC PROUD บัตรกดเงินสด KTC PROUD สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน รถยนต์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน บิ๊กไบค์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน บิ๊กไบค์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มอเตอร์ไซค์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มอเตอร์ไซค์

เกี่ยวกับเรา

  • วิสัยทัศน์ / พันธกิจ
  • ข้อมูลทั่วไป
  • โครงสร้างการถือหุ้นกลุ่มบริษัท
  • โครงสร้างองค์กร
  • คณะกรรมการ
  • คณะผู้บริหาร
  • เลขานุการบริษัท
  • หัวหน้างานกำกับดูแล และหัวหน้างานตรวจสอบภายใน
  • ผู้ควบคุมดูแลการทำบัญชี
  • นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • ข่าวประชาสัมพันธ์
  • บทความ
  • สมัครงาน / ฝึกงาน

บริการลูกค้า

  • บริการออนไลน์
  • อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
  • คำนวณดอกเบี้ย / ค่าธรรมเนียม
  • ช่องทางการชำระเงิน
  • บริการหักค่าใช้จ่ายรายเดือนอัตโนมัติ
  • ดาวน์โหลด
  • ประกาศบริษัท
  • คำถามที่พบบ่อย
  • แผนผังเว็บไซต์

การพัฒนาเพื่อความยั่งยืน

  • มิติเศรษฐกิจ
  • มิติสังคม
  • มิติสิ่งแวดล้อม
  • การควบคุมภายในและการบริหารจัดการความเสี่ยง
  • การรับรองมาตรฐานระบบบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยสําหรับสารสนเทศ (ISO/IEC 27001:2013)

นักลงทุนสัมพันธ์

  • ข้อมูลสำคัญทางการเงิน
  • ข้อมูลนำเสนอ
  • ข้อมูลสำหรับผู้ถือหุ้น
  • ข้อมูลและกิจกรรมหุ้นกู้
  • นโยบาย
  • ติดต่อนักลงทุนสัมพันธ์

KTC PHONE

02 123 5000
CAC Certified

ดาวน์โหลดแอป

KTC Mobile
KTC Mobile KTC Mobile KTC Mobile
KTC Facebook KTC Twitter KTC Instagram KTC LINE
© 2563 บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
ติดตามข่าวสารได้ที่
KTC LINE KTC LINE KTC Facebook KTC Facebook KTC instagram KTC instagram KTC Youtube KTC Youtube KTC TikTok KTC TikTok KTC twitter KTC twitter

EN

TH

KTC LIVE CHAT

Live Chat

KTC LIVE CHAT
สมัครบัตรเครดิต KTC
สมัครกดเงินสด KTC PROUD
ทั้งหมด
โปรโมชั่น
ผลิตภัณฑ์
บทความ
ข่าวประชาสัมพันธ์
0 ผลลัพธ์
คุณกำลังหมายถึง?
    ดูเพิ่มเติม

    ไม่พบผลลัพธ์ที่ค้นหา

    ตรวจสอบคำค้นหาของคุณแล้วลองอีกครั้ง
    ลองค้นหาด้วยคำหลักที่น้อยลง
    ประวัตการค้นหา
    ไม่มีประวัตการค้นหา
    ลบทั้งหมด
    KTC
    ตัวกรองโปรโมชั่น
    หมวดหมู่โปรโมชั่น
    • เลือกทั้งหมด
    • ล้างทั้งหมด
    ประเภทบัตรทั้งหมด
    • เลือกทั้งหมด
    • ล้างทั้งหมด
    เลือกผลิตภัณฑ์

    บัตรเครดิต KTC

    บัตรกดเงินสด KTC PROUD

    สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH

    สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ <span>KTC พี่เบิ้ม</span>

    สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม

    Filter

    ตัวกรอง

    Search
    www.ktc.co.th ไม่รองรับเบราว์เซอร์ Internet Explorer
    หากดำเนินการต่อ การใช้งานในบางเมนู/รายการอาจไม่สมบูรณ์

    สงวนสิทธิ์ © 2563 บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

    EN

    TH

    Live Chat