ทุกวันนี้บัตรเครดิตถือเป็นปัจจัยหลักในการดำเนินชีวิตของผู้คนในยุคสังคมไร้เงินสด ด้วยความสะดวกในการนำบัตรเครดิตไปรูดซื้อสินค้าและบริการได้ตามวงเงินที่ได้รับอนุมัติจากธนาคารหรือสถาบันการเงินแล้วค่อยชำระคืนภายหลัง หากผู้ถือบัตรชำระเงินคืนเต็มตามจำนวนที่ใช้และภายในระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินกำหนด ย่อมไม่ก่อให้เกิดหนี้บัตรเครดิตตามมา แต่ถ้าเผลอใช้เงินเกินตัวและมีแนวโน้มว่าไม่สามารถชำระคืนได้ในอนาคต ควรมองหาทางแก้หนี้บัตรเครดิตเพื่อไม่ให้หนี้บานปลาย โดยบทความนี้ขอพาทุกคนไปดูผลเสียของการเป็นหนี้บัตรเครดิต รวมถึงขั้นตอนการประนอมหนี้บัตรเครดิต ต้องทำอย่างไรบ้าง
เป็นหนี้บัตรเครดิต ส่งผลเสียเรื่องอะไรบ้าง?
1. ประวัติการเงินไม่ดี
หลายคนอาจไม่รู้ว่าประวัติทางการเงินหรือเครดิตทางการเงิน มีความสำคัญอย่างมากเวลาสมัครบัตรเครดิต หรือขอสินเชื่อประเภทอื่นๆ ในอนาคตกับธนาคารหรือสถาบันการเงินต่างๆ เนื่องจากก่อนอนุมัติบัตรเครดิต หรืออนุมัติสินเชื่อ เช่น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ ธนาคารหรือสถาบันการเงินผู้ออกบัตร หรือผู้ให้บริการสินเชื่อจะต้องทำการตรวจสอบประวัติการชำระหนี้ของผู้สมัครหรือผู้ขอสินเชื่อกับ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) ซึ่งทำหน้าที่จัดเก็บข้อมูลการชำระหนี้ตามพฤติกรรมที่เกิดขึ้นจริง เพื่อให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกเครดิตบูโรสามารถนำข้อมูลการชำระหนี้ดังกล่าวมาวิเคราะห์ถึงความสามารถในการชำระหนี้ของผู้สมัครหรือผู้ขอสินเชื่อก่อนอนุมัติบัตรเครดิตหรือสินเชื่อนั้นๆ ดังนั้น หากพบว่าผู้สมัครหรือผู้ขอสินเชื่อมีหนี้บัตรเครดิตอยู่ โอกาสที่จะได้รับการอนุมัติบัตรเครดิตหรือสินเชื่อก็จะยิ่งน้อยลง เพราะธนาคารหรือสถาบันการเงินจะมองว่าผู้สมัครหรือผู้ขอสินเชื่อขาดความน่าเชื่อถือในการชำระหนี้คืน
2. ดอกเบี้ยเพิ่มพูน
หากผู้ถือบัตรเครดิตชำระเงินคืนค่าบัตรเครดิตด้วยยอดขั้นต่ำติดต่อกัน จะทำให้ผู้ถือบัตรเครดิตถูกเรียกเก็บดอกเบี้ยมากขึ้น และส่งผลให้ระยะเวลาในการชำระหนี้ยาวนานขึ้น ดังนั้นผู้ถือบัตรควรชำระเงินคืนค่าบัตรเครดิตแบบเต็มจำนวนและให้ตรงเวลา เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเรียกเก็บดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต
3. ธนาคารหรือสถาบันการเงินผู้ออกบัตรอาจใช้สิทธิทางศาลเพื่อเรียกหนี้คืน
นี่ถือเป็นผลเสียที่ร้ายแรงที่สุด ในกรณีที่ผู้ถือบัตรผิดนัดชำระเงินค่าบัตรเครดิตจนกลายเป็นหนี้เสีย (NPL) และยังเพิกเฉยไม่ดำเนินการชำระหนี้ตามที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินผู้ออกบัตรได้ติดตามทวงถามให้ชำระหนี้ ธนาคารหรือสถาบันการเงินผู้ออกบัตรอาจใช้สิทธิทางศาลเพื่อดำเนินคดีและบังคับชำระหนี้ เพราะฉะนั้นหากเป็นหนี้บัตรเครดิตให้พยายามหาเงินมาทยอยชำระคืนให้เร็วที่สุด แต่หากเห็นว่าตนเองจะไม่สามารถหาเงินมาชำระคืนได้ แนะนำให้ติดต่อกับธนาคารหรือสถาบันการเงินซึ่งเป็นเจ้าหนี้โดยเร็วที่สุด เพื่อหาทางประนอมหนี้ว่าจะจ่ายหนี้อย่างไร จ่ายวิธีไหนดีที่สุด
สำหรับสมาชิกบัตร KTC ที่สนใจเข้าร่วมโครงการประนอมหนี้สามารถติดต่อได้ที่คู่สายกลาง งานประนอมหนี้ 02-631-3399, 02-631-3600, 02-631-3666, 02-631-3700, 02-631-3555 เวลา 08.00 น.-17.00 น. หรือติดต่อผ่าน KTC PHONE 02 123 5000 ได้ 24 ชั่วโมง
ประนอมหนี้บัตรเครดิตคืออะไร?
การประนอมหนี้บัตรเครดิต หรือการขอผ่อนปรนการชำระหนี้ เป็นวิธีการที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินผู้ออกบัตร และลูกหนี้บัตรเครดิตจะทำข้อตกลงร่วมกันใหม่ โดยเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระหนี้ เพื่อช่วยให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้ง่ายขึ้น ตามความสามารถในการชำระหนี้ เช่น
• ขอลดค่าธรรมเนียม ดอกเบี้ย และค่าปรับบางส่วนลง โดยอัตราส่วนลดจะขึ้นอยู่กับธนาคารหรือสถาบันการเงินผู้ออกบัตรเป็นผู้กำหนด
• ขอขยายระยะเวลาในการชำระหนี้ให้นานขึ้น โดยกำหนดจำนวนเงินที่ต้องชำระในแต่ละเดือนให้น้อยลง
โดยเงื่อนไขเหล่านี้ขึ้นอยู่กับการเจรจาตกลงกันระหว่างธนาคารหรือสถาบันการเงินผู้ออกบัตรกับลูกหนี้ ดังนั้น หากผู้ถือบัตรเป็นหนี้บัตรเครดิตและไม่สามารถชำระได้ตามกำหนดเวลา ผู้ถือบัตรควรติดต่อธนาคารหรือสถาบันการเงินผู้ออกบัตรเพื่อเจรจาเงื่อนไขการประนอมหนี้
ประโยชน์ของการประนอมหนี้
การประนอมหนี้บัตรเครดิต ช่วยให้ผู้ที่ประสบปัญหาเรื่องการชำระหนี้คืน สามารถจัดการกับภาระหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจช่วยให้ผู้ประสบปัญหามีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีขึ้นในอนาคต และอาจช่วยชะลอขั้นตอนการฟ้องร้องต่อศาล ลดความยุ่งยากในการไกล่เกลี่ย รวมถึงมีข้อเสนอที่ช่วยให้หมดหนี้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นทางออกของผู้ที่ต้องการชำระหนี้ แต่มีรายได้ไม่เพียงพอในการปิดยอดหนี้
ดังนั้นเมื่อมีปัญหาหนี้บัตรเครดิต ควรเข้ามาปรึกษาการประนอมหนี้กับธนาคารหรือสถาบันการเงิน อย่าปล่อยให้หนี้สินเพิ่มพูนจนยากต่อการชำระคืน ซึ่งขั้นตอนการประนอมหนี้จะเน้นการพูดคุยและเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกัน โดยผู้ประสบปัญหาควรประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของตนเอง และแจ้งให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินทราบตามความเป็นจริง
เริ่มต้นประนอมหนี้ต้องทำอย่างไร?
เมื่อเป็นหนี้บัตรเครดิต การเข้าสู่ขั้นตอนประนอมหนี้ถือเป็นทางออกที่ดีทั้งต่อเจ้าหนี้และลูกหนี้ ซึ่งการขอประนอมหนี้มีขั้นตอนที่ควรรู้ ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 ประเมินสถานการณ์ทางการเงินของตนเอง:
สำรวจรายรับ-รายจ่าย, หนี้สินที่มี, และความสามารถในการชำระหนี้
ขั้นตอนที่ 2 ติดต่อธนาคารหรือสถาบันการเงินทันที:
เมื่อรู้ตัวว่ามีปัญหาในการชำระหนี้ ควรติดต่อธนาคารหรือสถาบันการเงินเพื่อแจ้งปัญหาและขอคำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 3 เตรียมข้อมูลและเอกสารที่จำเป็น:
รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับหนี้สินและข้อมูลทางการเงินเพื่อประกอบการเจรจา
ขั้นตอนที่ 4 เจรจาต่อรอง:
เจรจาหาแนวทางประนอมหนี้ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ทางการเงินของตนเอง เช่น การขอปรับลดอัตราดอกเบี้ย, ขยายระยะเวลาผ่อนชำระ
ขั้นตอนที่ 5 รักษาประวัติการชำระหนี้:
หากสามารถตกลงประนอมหนี้ได้ ควรปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ตกลงกันอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาประวัติทางการเงินและเครดิตที่ดี
สำหรับสมาชิกบัตร KTC ที่สนใจเข้าร่วมโครงการประนอมหนี้สามารถติดต่อได้ที่คู่สายกลาง งานประนอมหนี้ 02-631-3399, 02-631-3600, 02-631-3666, 02-631-3700, 02-631-3555 เวลา 08.00 น.-17.00 น. หรือติดต่อผ่าน KTC PHONE 02 123 5000 ได้ 24 ชั่วโมง
คำถามยอดฮิตที่คนสงสัยเกี่ยวกับการประนอมหนี้
การประนอมหนี้บัตรเครดิตเป็นเรื่องที่หลายคนยังมีคำถามอยู่ไม่น้อย ซึ่งการเข้าใจคำตอบของข้อสงสัยเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณตัดสินใจและเตรียมตัวได้ดีขึ้นเมื่อต้องการประนอมหนี้ ดังนี้
ถ้าไม่ได้หยุดจ่าย ยังประนอมหนี้ได้ไหม?
การประนอมหนี้บัตรเครดิตสามารถทำได้แม้คุณจะยังชำระหนี้อยู่ หากคุณมีปัญหาการชำระหนี้ไม่ทันหรือมีภาระหนี้ที่เกิดจากบัตรเครดิตหลายใบ การติดต่อธนาคารหรือสถาบันการเงินเพื่อขอประนอมหนี้ในทันทีจะช่วยให้คุณได้รับการปรับโครงสร้างหนี้และลดภาระหนี้ได้
ประนอมหนี้กี่เดือนอนุมัติ?
โดยทั่วไปแล้ว การพิจารณาอนุมัติการประนอมหนี้จะใช้เวลาประมาณ 30-45 วัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับธนาคารหรือสถาบันการเงินผู้ออกบัตรที่คุณติดต่อขอประนอมหนี้
มีโครงการรัฐช่วยไหม? (อัพเดท 2568)
ในปี 2568 รัฐบาลมีโครงการช่วยเหลือการประนอมหนี้ ที่ช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาหนี้บัตรเครดิตสามารถเข้าถึงการปรับโครงสร้างหนี้ที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม รวมถึงการสนับสนุนให้มีเงื่อนไขในการประนอมหนี้ที่เหมาะสมสำหรับการฟื้นตัว
ถ้ามีบัตรเครดิตหลายใบ ทำได้พร้อมกันไหม?
การประนอมหนี้สามารถทำได้หลายใบพร้อมกัน หากคุณมีบัตรเครดิตที่ออกโดยธนาคารหรือสถาบันการเงินหลายแห่ง คุณต้องขอประนอมหนี้กับธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เป็นผู้ออกบัตรนั้นๆ เนื่องจากธนาคารหรือสถาบันการเงินแต่ละแห่งอาจมีเงื่อนไขการประนอมหนี้ที่แตกต่างกัน
ถ้าผ่อนน้อยกว่าขั้นต่ำจะส่งผลอย่างไร?
การผ่อนชำระหนี้ต่ำกว่ายอดขั้นต่ำที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะถือเป็นการผิดนัดชำระหนี้บัตรเครดิต ส่งผลให้ดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นและอาจถูกยกเลิกบัตรได้ ดังนั้น คุณควรให้ความสำคัญในการชำระหนี้ตามจำนวนและภายในระยะเวลาที่กำหนด หรือหากเห็นว่าจะไม่สามารถชำระหนี้บัตรเครดิตได้ ควรรีบติดต่อธนาคารหรือสถาบันการเงินเพื่อทำการประนอมหนี้ เพื่อปรับเงื่อนไขการชำระหนี้ให้เหมาะสม
ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการประนอมหนี้หรือไม่?
ธนาคารหรือสถาบันการเงินบางแห่งอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการประนอมหนี้ เช่น ค่าธรรมเนียมการดำเนินการหรือตรวจสอบข้อมูล แต่ส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีค่าธรรมเนียมในการขอประนอมหนี้
การประนอมหนี้จะส่งผลต่อเครดิตบูโรหรือไม่?
การประนอมหนี้อาจทำให้เครดิตบูโรหรือประวัติทางการเงินของคุณได้รับผลกระทบเล็กน้อยในระยะสั้น เพราะการปรับโครงสร้างหนี้อาจแสดงให้เห็นว่าคุณกำลังประสบปัญหาทางการเงิน แต่หากคุณสามารถบริหารจัดการหนี้ได้และชำระหนี้ตามเงื่อนไขใหม่ได้ ก็สามารถฟื้นฟูเครดิตบูโรของคุณได้
จะสามารถกู้เงินใหม่ได้หรือไม่หลังจากการประนอมหนี้?
การประนอมหนี้จะทำให้คุณต้องระมัดระวังในการกู้เงินใหม่ เนื่องจากอาจมีผลกระทบต่อเครดิตบูโรของคุณในระยะสั้น แต่หากคุณสามารถบริหารจัดการหนี้ได้และทำตามเงื่อนไขการประนอมหนี้ได้ครบถ้วน โอกาสในการกู้เงินในอนาคตก็จะดีขึ้น
ถ้าไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขการประนอมหนี้ได้ จะเกิดอะไรขึ้น?
หากคุณไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขการประนอมหนี้ได้ จนถูกยกเลิกข้อตกลงที่ทำไว้ ธนาคารหรือสถาบันการเงินผู้ออกบัตรอาจใช้สิทธิทางศาลเพื่อดำเนินคดีและบังคับชำระหนี้ รวมถึงมีผลให้เครดิตบูโรของคุณเสียหายได้
ควรขอประนอมหนี้เมื่อไหร่ดีที่สุด?
เมื่อคุณรู้สึกว่าไม่สามารถชำระหนี้บัตรเครดิตได้ตามปกติ หรือเมื่อคุณประสบปัญหาทางการเงินที่ทำให้ไม่สามารถชำระหนี้ตามจำนวนหรือภายในระยะเวลาที่กำหนดได้
เคล็ดลับการประนอมหนี้บัตรเครดิตให้ผ่าน
การประนอมหนี้บัตรเครดิตไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากเตรียมตัวและทำตามเคล็ดลับเหล่านี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณประสบความสำเร็จในการขอประนอมหนี้และลดภาระทางการเงินได้
1. เตรียมตัวให้พร้อมก่อนติดต่อธนาคารหรือสถานบันการเงิน
ก่อนที่จะติดต่อธนาคารหรือสถาบันการเงิน คุณควรรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับหนี้ เช่น ยอดหนี้ที่ค้างอยู่ อัตราดอกเบี้ย ปัญหาทางการเงินที่เกิดขึ้น และสถานะการชำระหนี้ที่ผ่านมาทั้งหมด เพื่อให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินเห็นถึงความตั้งใจของคุณในการแก้ไขปัญหา
2. พูดคุยและเจรจาด้วยความสุภาพ
การสื่อสารอย่างสุภาพและเป็นกันเองกับเจ้าหน้าที่ธนาคารจะช่วยให้การเจรจาราบรื่นมากขึ้น แสดงความจริงใจในการขอประนอมหนี้และแสดงเหตุผลที่ทำให้คุณไม่สามารถชำระหนี้ได้ อาทิ ปัญหาความยากลำบากทางการเงินที่คุณประสบอยู่
3. ไม่ให้ข้อมูลเท็จเด็ดขาด
การให้ข้อมูลเท็จหรือปิดบังข้อมูลอาจทำให้คุณเสียโอกาสในการประนอมหนี้ รวมถึงอาจส่งผลกระทบต่อเครดิตบูโรและโอกาสในการขอสินเชื่อในอนาคต การเปิดเผยข้อมูลที่แท้จริงและตรงไปตรงมาเป็นสิ่งสำคัญในการขอประนอมหนี้
4. วางแผนการชำระหนี้ให้ชัดเจน
การมีแผนการชำระหนี้ที่ชัดเจนจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับธนาคารหรือสถาบันการเงินว่าคุณมีความสามารถในการชำระหนี้ได้ในอนาคต โดยคุณอาจคำนวณความสามารถในการชำระเงินรายเดือนและแสดงให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินเห็นว่าคุณจะสามารถทำตามเงื่อนไขใหม่ได้
5. เสนอทางเลือกที่เหมาะสม
ในกรณีที่การประนอมหนี้ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่คุณต้องการ คุณสามารถเสนอทางเลือกอื่นๆ เช่น การขยายระยะเวลาในการชำระหนี้ หรือการลดจำนวนเงินที่ต้องชำระในแต่ละเดือน ขึ้นอยู่กับสถานะทางการเงินและความสามารถในการชำระหนี้ของคุณ
6. ตรวจสอบเงื่อนไขทุกข้อให้ละเอียด
ก่อนลงนามในสัญญาประนอมหนี้ ให้ตรวจสอบเงื่อนไขทั้งหมดอย่างละเอียด เช่น ระยะเวลาการผ่อนชำระ, ดอกเบี้ยใหม่, ค่างวดที่ต้องชำระ และข้อกำหนดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้คุณไม่พลาดเงื่อนไขที่อาจส่งผลต่อการชำระหนี้ในอนาคต
7. ติดตามการชำระหนี้อย่างสม่ำเสมอ
หลังจากประนอมหนี้แล้ว อย่าลืมติดตามและปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และอย่าละเลยการชำระหนี้แม้จะมีการปรับโครงสร้างหนี้แล้ว
เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเคทีซีและลูกค้ากรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง (KTBL) บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง (KTBL) และบริษัท วินเพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด ได้จัดงานงานมหกรรมฯไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ร่วมกับกรมบังคับคดี โดยลูกหนี้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด สามารถติดตามข่าวสาร และรายละเอียดของงานได้ที่ https://www.ktc.co.th/mediation
การประนอมหนี้บัตรเครดิตในปี 2568 เป็นทางเลือกที่ช่วยให้คุณจัดการหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการเจรจากับธนาคารหรือสถาบันการเงิน เพื่อขอลดดอกเบี้ย หรือขยายระยะเวลาผ่อนชำระ ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ต้องพิจารณา เช่น อาจมีผลกระทบต่อเครดิตบูโรหากไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขได้ ดังนั้นการเตรียมตัวให้พร้อมและเข้าใจเงื่อนไขต่างๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยการรวบรวมข้อมูลหนี้, เจรจาด้วยความสุภาพ, และการให้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมาจะช่วยเพิ่มโอกาสให้การประนอมหนี้สำเร็จ นอกจากนี้ การใช้เครื่องมือทางการเงินที่เหมาะสม เช่น การสมัครบัตรเครดิต KTC ที่มีโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์มากมาย ก็เป็นทางเลือกที่ช่วยให้คุณบริหารการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพและอาจช่วยลดภาระหนี้ในอนาคตได้ดีขึ้น