ในสภาวะการแข่งขันทางการตลาดที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบัน ผู้ประกอบการต้องหาวิธีเพิ่มยอดขายและโอกาสในการปิดการขายให้ได้มากยิ่งขึ้น การปรับกลยุทธ์ให้ทันสมัยและตรงกับพฤติกรรมของลูกค้าในยุคดิจิทัลจึงเป็นสิ่งจำเป็น ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำ 15 เทคนิคการเพิ่มยอดขายสมัยใหม่ วิธีกระตุ้นยอดขายเซลล์ ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากขึ้น
1. ใช้เครื่องมือโซเชียลมีเดียอย่างเต็มประสิทธิภาพ
การใช้โซเชียลมีเดียไม่ใช่เพียงแค่การโพสต์ขายของ แต่ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมกับลูกค้า การสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่า และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการแชร์และการพูดถึงในวงกว้าง นำไปสู่ความอยากได้ และตัดสินใจซื้อสินค้าของแบรนด์หรือร้านค้า
2. สร้าง Content Marketing ให้กับแบรนด์
การสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าและเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการ จะช่วยดึงดูดและสร้างความเชื่อมั่นให้กับแบรนด์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนบล็อก การทำคอนเทนต์ในสื่อโซเชียลมีเดีย การทำอินโฟกราฟิกที่มีข้อมูลเชิงลึกและข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับลูกค้า ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีส่วนช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
การทำคอนเทนต์ขายสินค้าในแบบวิดีโอ ทำให้ลูกค้าได้เห็นสินค้าในแบบต่างๆ ได้ เป็นการเพิ่มการตัดสินใจในการซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น
3. ทำ Video Marketing
การสร้างวิดีโอที่มีเนื้อหาน่าสนใจเกี่ยวกับสินค้าและบริการ เช่น วิดีโอสาธิตวิธีการใช้งาน วิดีโอรีวิวจากลูกค้า วิดีโอเบื้องหลังการผลิต หรือวิดีโอบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ สามารถช่วยให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์สินค้าหรือบริการของคุณได้ดียิ่งขึ้น นำไปสู่ความอยากได้ อยากซื้อ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีเพิ่มยอดขายที่เห็นผลดีเช่นกัน
4. การ Live Streaming
นอกจากการทำ Video Marketing แล้ว อีกหนึ่งวิธีกระตุ้นยอดขายเซลล์ คือ การ Live Streaming หรือการทำไลฟ์สดนั่นเอง เพราะการสาธิตสินค้าผ่านไลฟ์สดจะช่วยให้ลูกค้าได้เห็นสินค้าในมุมมองที่แตกต่างจากภาพนิ่งหรือลงรายละเอียดได้มากกว่าวิดีโอที่ถ่ายไว้
อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถโต้ตอบและถามคำถามเกี่ยวกับสินค้าได้ทันที ทำให้แบรนด์สามารถให้คำตอบและชี้แจงข้อสงสัยต่างๆ ได้ทันที ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจในการตัดสินใจซื้อของลูกค้าได้ดี
นอกจากนี้ การไลฟ์สดยังสามารถกระตุ้นยอดขายได้มากขึ้นโดยการมอบข้อเสนอพิเศษ เช่น ส่วนลดพิเศษหรือของแถมสำหรับผู้ที่สั่งซื้อระหว่างไลฟ์สด ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับข้อเสนอที่คุ้มค่าและไม่อยากพลาดโอกาสในการซื้อสินค้านั่นเอง
5. ทำ SEO และ SEM
วิธีเพิ่มยอดขายออนไลน์ต้องไม่ลืมเทคนิคการทำ SEO (Search Engine Optimization) และ SEM (Search Engine Marketing) ที่จะช่วยให้เว็บไซต์หรือร้านค้าออนไลน์ปรากฏในหน้าผลการค้นหาของ Search Engine มากขึ้น ทำให้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าสามารถค้นพบสินค้าและบริการได้ง่ายขึ้น นำไปสู่การเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์นั่นเอง
การใช้ Influencer สร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ช่วยเพิ่มยอดขายให้กับสินค้าได้
6. ใช้ Influencer โปรโมทแบรนด์
การใช้ Influencer Marketing เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ทรงพลังในการเพิ่มยอดขาย ซึ่งการร่วมมือกับ Influencer หรือบุคคลที่มีอิทธิพลบนโซเชียลมีเดียที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก มีกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับแบรนด์ จะช่วยให้การโปรโมทสินค้าและบริการของมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เมื่ออินฟลูเอนเซอร์แนะนำหรือรีวิวสินค้าในลักษณะที่น่าเชื่อถือและจริงใจ ก็จะช่วยสร้างความสนใจและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ดังนั้น
การเลือก Influencer ที่เหมาะสมกับแบรนด์และสินค้าเป็นสิ่งสำคัญ คุณควรเลือก Influencer ที่มีผู้ติดตามตรงกับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ และมีค่านิยมที่สอดคล้องกับแบรนด์ เพื่อให้การโปรโมทเกิดประสิทธิผลสูงสุด
การใช้ Influencer Marketing นอกจากจะช่วยเพิ่มยอดขายแล้ว ยังเป็นการสร้างความรู้สึกใกล้ชิดกับแบรนด์และทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในสินค้าหรือบริการมากยิ่งขึ้นด้วย
7. นำเสนอรีวิวเชิงบวกจากลูกค้าที่เคยใช้สินค้าและบริการ
ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลและความคิดเห็นของผู้ใช้งานจริงสามารถเข้าถึงได้ง่ายผ่านออนไลน์ รีวิวจากลูกค้าที่เคยใช้สินค้าหรือบริการ คือแหล่งข้อมูลสำคัญที่จะช่วยให้ลูกค้ารายใหม่ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
ซึ่งการรวบรวมแนะนำเสนอรีวิวเชิงบวก การแนะนำจากลูกค้าที่เคยใช้สินค้าและบริการมาแล้ว มีส่วนช่วยสร้างความเชื่อมั่นและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ได้ เนื่องจากรีวิวที่เป็นธรรมชาติและซื่อสัตย์จากลูกค้า สามารถสะท้อนถึงคุณภาพของสินค้าและบริการได้อย่างแท้จริง รวมถึงช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและการยอมรับในตลาด และมีส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อที่รวดเร็ว สู่การเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ การขอให้ลูกค้าเขียนรีวิวหรือแนะนำสินค้าและบริการหลังจากการซื้อ สามารถทำได้ผ่านหลายช่องทาง เช่น การเชิญชวนให้ลูกค้าทำรีวิวผ่านโซเชียลมีเดีย หรือการจัดโปรโมชันสำหรับลูกค้าที่รีวิวสินค้า ซึ่งจะเป็นวิธีที่ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าร่วมแชร์ประสบการณ์ที่ดีและสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างแบรนด์กับลูกค้าอีกด้วย
8. การใช้ Affiliate Marketing
การใช้ Affiliate Marketing หรือการตลาดแบบพันธมิตร เป็นการให้ผู้อื่นช่วยโปรโมทสินค้าหรือบริการของคุณ และเมื่อเกิดการขาย คุณก็แบ่งรายได้กับผู้ที่ช่วยโปรโมท ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีเพิ่มยอดขายออนไลน์และขยายฐานลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง Affiliate Marketing ยังสามารถวัดผลได้ง่ายด้วยระบบการติดตามลิงก์ (Tracking Links) ที่สามารถวัดผลการทำงานได้อย่างแม่นยำ ซึ่งสามารถติดตามยอดขาย จำนวนการคลิก หรือการกระทำอื่นๆ ที่เกิดจากพันธมิตรได้ทันที ทำให้สามารถปรับกลยุทธ์ได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
9. ใช้โฆษณาออนไลน์แบบจ่ายต่อคลิก (Pay-Per-Click)
การใช้โฆษณาแบบจ่ายต่อคลิก (PPC) เป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงในการเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด โฆษณา PPC สามารถปรากฏบนหน้าแรกของผลการค้นหาใน Search Engine เช่น Google หรือบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย การโฆษณาแบบนี้จะจ่ายเงินเมื่อมีคนคลิกที่โฆษณาเท่านั้น ทำให้คุณสามารถควบคุมงบประมาณได้และกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ทำให้เข้าถึงลูกค้าที่มีโอกาสซื้อสูงได้โดยตรง
10. สร้าง Loyalty Program
การสร้าง Loyalty Program เพื่อให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ หรือโปรแกรมสะสมแต้ม เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างความภักดีให้กับลูกค้าได้ โดยโปรแกรมเหล่านี้มักจะมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น ส่วนลดหรือของรางวัล เมื่อสะสมแต้มถึงตามที่กำหนด การมีโปรแกรมสะสมแต้มไม่เพียงแต่จะทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าซ้ำ แต่ยังช่วยสร้างความรู้สึกเชื่อมโยงกับแบรนด์ และกระตุ้นให้ลูกค้าบอกต่อหรือแนะนำแบรนด์ให้กับคนอื่นๆ ด้วยการให้ประสบการณ์ที่ดีและคุ้มค่า
11. การทำ CRM (Customer Relationship Management)
การจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) เป็นเทคนิคที่ช่วยเก็บข้อมูลลูกค้าและติดตามพฤติกรรมการซื้อ เพื่อเสนอสินค้าหรือบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ นำไปสู่การเพิ่มยอดขายและการภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาว
12. การทำ Remarketing
Remarketing เป็นอีกหนึ่งเทคนิคการเพิ่มยอดขาย ด้วยการโฆษณาที่มุ่งเน้นการนำเสนอสินค้าหรือบริการให้กับผู้ที่เคยเข้าชมเว็บไซต์หรือช่องทางต่างๆ ของคุณแล้วแต่ยังไม่ได้ทำการซื้อ เทคนิคนี้จะช่วยเตือนให้ลูกค้าจดจำแบรนด์และสินค้าของคุณได้ดีขึ้น โดยการนำเสนอข้อเสนอที่น่าสนใจและกระตุ้นให้พวกเขากลับมาทำการซื้อ การทำ Remarketing ยังสามารถปรับแต่งข้อความโฆษณาให้เหมาะสมกับพฤติกรรมและความสนใจของลูกค้าแต่ละคนได้อีกด้วย
13. การใช้ระบบแชทบอท (Chatbot)
การใช้ระบบแชทบอท เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มยอดขายและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า แชทบอทเป็นโปรแกรมอัตโนมัติที่สามารถสื่อสารกับลูกค้าผ่านข้อความและให้บริการในทันทีตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถามเกี่ยวกับสินค้าและบริการ การแนะนำผลิตภัณฑ์ การช่วยเหลือในการทำธุรกรรม หรือแม้กระทั่งการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ซึ่งจะทำให้ลูกค้ารู้สึกได้รับการบริการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ได้รับความช่วยเหลือหรือได้รับข้อมูลแบบทันทีทันใด ซึ่งการให้บริการแบบนี้ช่วยเพิ่มความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้า ส่งผลให้ประสบการณ์การซื้อสินค้าของลูกค้าดีขึ้น และกระตุ้นให้เกิดการซื้อได้ง่ายขึ้น
14. การมอบข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่น
การมอบข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่นเป็นเทคนิคสำคัญที่ช่วยกระตุ้นยอดขายและดึงดูดลูกค้าใหม่เข้ามาใช้บริการ การมีโปรโมชั่นที่น่าสนใจ เช่น การลดราคาสินค้า การมอบส่วนลดสำหรับการซื้อครั้งแรก การแจกของแถม การจัดโปรโมชั่นพิเศษตามเทศกาล การจัดโปรโมชั่นที่มีระยะเวลาจำกัด ฯลฯ
ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าพวกเขาได้รับความคุ้มค่าและเป็นโอกาสที่ไม่ควรพลาด ซึ่งสามารถสร้างแรงจูงใจให้ตัดสินใจซื้อได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
15. การมีช่องทางชำระเงินหลากหลาย
การมีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถช่วยเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะลูกค้าสามารถเลือกวิธีที่สะดวกและปลอดภัยที่สุดสำหรับตนเองได้ ดังนั้น อีกทั้งการที่ร้านค้ามีช่องทางการรับชำระที่หลากหลาย จะสามารถตอบสนองและรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้อีกด้วย เช่น การรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต การรับโอนเงินผ่าน Mobile Banking, PayPal, TrueMoney, LINE Pay, Alipay+ เป็นต้น
ทั้งนี้ การมีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย จะทำให้กระบวนการซื้อขายเป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกสบายมากขึ้น ส่งผลให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น และมีแนวโน้มที่จะกลับมาซื้อซ้ำในอนาคต
ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวต่างชาติได้มาท่องเที่ยวในไทยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งการมีบริการชำระเงินที่รองรับนักท่องเที่ยวจีนและชาวต่างชาติอย่าง Alipay และ Alipay+ จาก KTC นั้น จะช่วยเปิดโอกาสในการเพิ่มยอดขายได้ง่ายมากขึ้น
Alipay และ Alipay+ เป็นบริการรับชำระเงินด้วย QR Code จาก KTC ผ่านเครื่องรูดบัตร EDC, ป้ายตั้ง, โมบายแอปพลิเคชัน หรือ รับชำระผ่านลิงก์ ซึ่งจะช่วยให้ร้านค้าสามารถรองรับการรับชำระเงิน Alipay จากนักท่องเที่ยวชาวจีนได้อย่างง่ายดาย รวมไปถึง Alipay+ โมบายวอลเล็ตชั้นนำสำหรับนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกง มาเลเซีย เกาหลีใต้ และนักท่องเที่ยวทั่วโลก เช่น AlipayHK, Touch'n Go, KakaoPay, Gcash, ChangiPay,
ОСВС, HiPay, Mpay, Tosspay, Public Bank, Tinaba ฯลฯ
หากท่านใดมี E-wallets ในกลุ่มของ Alipay และ Alipay+ เมื่อเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ก็สามารถใช้ E-wallets ของประเทศตัวเอง ชำระเงินกับร้านค้า KTC ในไทยได้ทันที
หากร้านค้าใดหรือธุรกิจใดสนใจ สามารถกรอกข้อมูลผ่านเว็บไซต์ https://www.ktc.co.th/merchant/alipay แล้วรอเจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับ (ภายในวันและเวลาทำการถัดไป) หรือ ติดต่อฝ่ายบริการร้านค้า โทร. 02 123 5700 กด 3 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
ตอบรับทุกบริการ ชำระเงิน ด้วย KTC MERCHANT