การเขียนแคปชั่นให้น่าสนใจ เรียกลูกค้าออนไลน์ ปิดการขายรัว ๆ
การสร้างรายได้หลักและรายได้เสริมด้วยการขายของออนไลน์ ถือเป็นอีกอาชีพที่หลายคนให้ความสนใจ เพราะนอกจากมีสินค้าให้เลือกจำหน่ายอย่างหลากหลายแล้ว ยังเป็นธุรกิจที่ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านเสมอไป ที่สำคัญหากวางแผนการค้าได้ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย ยังมีโอกาสประสบความสำเร็จและเติบโตได้อย่างรวดเร็ว โดยหนึ่งกลยุทธ์ของการขายของออนไลน์ที่ไม่ควรมองข้าม คือการเขียนแคปชั่นขายของออนไลน์ แต่รู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้วการเขียนแคปชั่นต้องมาพร้อมเทคนิคดี ๆ เสมอ เพื่อช่วยดึงดูดลูกค้าให้ตัดสินใจซื้อของจากร้านของคุณ บทความนี้ KTC แจกลิสต์แคปชั่นขายของปังๆ พร้อมเคล็ดลับการตั้งแคปชั่นที่ช่วยปั้นร้านให้น่าสนใจ
วิธีเขียนแคปชั่นขายของ ทำอย่างไรให้ร้านขายดีขึ้น
Social Media Marketing ถือว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญของการขายสินค้าออนไลน์ หากวางแผนทำการตลาดมาดีย่อมส่งผลทำให้ร้านของคุณปิดการขายได้มากขึ้น ซึ่งการตั้งแคปชั่นใต้ภาพสินค้าที่ดีผ่านสื่อโซเชียลมิเดียต่าง ๆ ทั้ง Facebook Instagram Twitter หรือแม้แต่ใน TikTok Shop มีส่วนช่วยดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้มากขึ้น โดยเทคนิคง่าย ๆ ที่ KTC นำมาฝากมีทั้งหมด 7 ข้อควรรู้ ดังนี้
1. ประโยคเปิดแคปชั่นต้องโดนใจ
โดยปกติแล้วคนเรามักใช้เวลาไม่เกิน 5 วินาทีในการอ่านโพสต์และเลื่อนผ่านไปโพสต์อื่น ๆ ในโซเชียล ดังนั้นการดึงดูดลูกค้าด้วยแคปชั่นที่โดนใจมักช่วยให้ลูกค้าสนใจที่จะอ่านโพสต์นานขึ้น ตัวอย่าง หากคุณกำลังเปิดตัวสินค้าใหม่และกำลังมีไอเดียจัดโปรโมชั่นหรือมีแคมเปญแจกสินค้าฟรี เพียงแค่ตั้งประโยคแรกว่า “แจกฟรี” พร้อมอิโมจิสัญลักษณ์ (!) เท่านี้ก็ทำให้ลูกค้าสนใจที่จะอ่านโพสต์ต่อ ที่สำคัญต้องระบุเงื่อนไขของแคมเปญต่าง ๆ อย่างละเอียด ทั้งเรื่องกติกา ระยะเวลา และของที่แจกฟรี เท่านี้ก็ช่วยให้ลูกค้าสนใจที่จะอ่านโพสต์ต่อแล้ว
2. หลีกเลี่ยงการตั้งแคปชั่นที่ยาวเกินไป
แคปชั่นยิ่งสั้นมากเท่าไหร่ยิ่งดึงดูดความน่าสนใจให้โพสต์ได้มากเท่านั้น โดยแคปชั่นที่สร้างความน่าสนใจได้ดีควรมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 100 – 250 ตัวอักษร หรือตั้งเป็นแคปชั่นสั้น ๆ ความหมายโดน ๆ หรือแคปชั่นกวน ๆ ตามสไตล์วัยรุ่น ก็เป็นอีกเคล็ดลับที่ช่วยให้หน้าร้านของคุณดูไม่น่าเบื่อและไม่เป็นทางการจนเกินไป
3. สร้างความโดดเด่นและความแตกต่าง
โซเชียลมิเดียเป็นเครื่องมือในการสื่อสารที่สำคัญ ดังนั้นหากคุณตั้งแคปชั่นไม่สะดุดตา อ่านแล้วไม่โดนใจ คงทำให้การปิดการขายเป็นเรื่องยาก เพราะฉะนั้นแคปชั่นที่ดีควรเป็นแคปชั่นที่กระตุ้นให้คนอ่านอยากกดไลก์ กดหัวใจ กดแชร์ หรือคอมเมนต์ ลองคิดแคปชั่นให้มีความแตกต่างและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประเภทของโพสต์ด้วยว่าลูกค้ากำลังให้ความสนใจโพสต์แบบไหน กลุ่มลูกค้าสไตล์ไหน เป็นแนวทั่วไปหรือแนวตลก จากนั้นปรับให้เข้ากับสไตล์ของลูกค้า เท่านี้ก็สร้างความน่าสนใจให้ร้านได้แล้ว
การตั้งแคปชั่นอย่างถูกวิธี ช่วยเพิ่มโอกาสปิดการขาย
4. ตั้งคำถามในแคปชั่น
หากร้านของคุณพอมีฐานลูกค้าอยู่พอสมควร การตั้งคำถามในแคปชั่นแล้วให้ลูกค้าร่วมมือกับแบรนด์ เช่น กดไลก์ คอมเมนต์ แท็กเพื่อน หรือแชร์โพสต์ มักส่งผลทำให้ตัวแพลตฟอร์มแสดงโพสต์ของคุณให้ลูกค้าคนอื่น ๆ มองเห็นมากขึ้น เพราะฉะนั้นอย่ากลัวที่จะตั้งคำถามที่น่าสนใจ แต่ทั้งนี้คำถามที่ตั้งควรเป็นคำถามที่เข้าใจง่าย ตอบง่าย หรือคำถามที่ให้ความรู้ เช่น ร้านของคุณจำหน่ายอาหารคลีน คำถามอาจเป็นแนวสุขภาพ ข้อดีของการกินอาหารคลีน หรืออื่น ๆ รวมไปถึงการใช้วิธีการสร้างโพลแบบสำรวจใน IG Story ก็เป็นอีกกิจกรรมที่น่าสนใจมากเช่นกัน
5. ใช้แฮชแท็กทุกครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโพสต์ในเฟซบุ๊ก ไอจี หรือ TikTok การใช้แฮชแท็ก (#) ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะแฮชแท็กเหล่านี้เปรียบเสมือนกุญแจที่ช่วยให้คุณค้นหากลุ่มเป้าหมายได้ง่าย ทั้งยังช่วยให้ลูกค้าที่มีความสนใจสินค้าต่าง ๆ ค้นหาร้านที่จำหน่ายได้ง่ายขึ้นเช่นกัน แต่ทั้งนี้การติดแฮชแท็กควรเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่คนนิยมค้นหา วิธีนี้ช่วยเพิ่มโอกาสให้ร้านกลายเป็นที่รู้จัก ตัวอย่าง หากเป็นร้านขายกระเป๋า แฮชแท็กที่น่าสนใจมีหลายอย่าง เช่น #กระเป๋าสะพายข้าง #กระเป๋าสตางค์ #กระเป๋าแบรนด์ เป็นต้น
6. สร้างสีสันและเป็นตัวของตัวเอง
การสร้างบุคลิกหรือสร้างตัวตนที่น่าสนใจให้แบรนด์ ช่วยให้ลูกค้าเกิดภาพจำเกี่ยวกับร้านของคุณ ดังนั้นข้อความแคปชั่นควรสะท้อนถึงตัวตนของร้าน แต่งแต้มสีสันให้แคปชั่นด้วยอิโมจิน่ารัก ๆ หรือเลือกใช้อิโมจิแบบเรียบง่ายที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าร้านของคุณเก๋ไม่ซ้ำใคร อยากที่จะอ่านและติดตามโพสต์ของคุณเรื่อย ๆ
7. ระบุรายละเอียดสินค้าให้ครบถ้วน
ควรเลี่ยงการให้ลูกค้าถามราคาสินค้าในแชท เพราะอาจทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าลำบาก ต้องทักข้อความหาร้านค้าถึงจะรู้ราคา หากเป็นเช่นนั้นการปิดการขายคงเป็นเรื่องยากมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นในแคปชั่นควรมีรายละเอียดสำคัญระบุไว้ครบถ้วน เช่น ข้อมูลสินค้า สี ขนาด ราคา และอื่น ๆ วิธีนี้นอกจากช่วยให้ลูกค้ารู้รายละเอียดครบถ้วนก่อนสั่งซื้อแล้ว ยังช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการตอบคำถามเรื่องรายละเอียดในแชทอีกด้วย
แจกลิสต์ แคปชั่นขายของออนไลน์ เพิ่มความปังให้ร้านของคุณ
การตั้งแคปชั่นสไตล์วัยรุ่นเป็นเคล็ดลับที่ช่วยให้ร้านของคุณมีสีสันและไม่น่าเบื่อ แต่หากคิดไม่ออกว่าจะตั้งแคปชั่นแบบไหนดี KTC มีแคปชั่นสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มาแนะนำ เผื่อหยิบไปเป็นตัวเลือกในการโพสต์คู่กับรูปภาพสินค้าและบริการของธุรกิจ
- แคปชั่นนี้อาจไม่โดนใจ แต่ของที่ซื้อไปไม่เคยผิดหวัง
- อย่าพึ่งเลื่อนผ่าน ถ้ายังไม่ได้อ่านโปรเด็ดของเรา
- แม่ค้าอาจไม่ได้สวยที่สุด แต่ช่วยหยุดดูของร้านเราก่อนเถอะนะ
- สวัสดีวันจันทร์ พร้อมหรือยังที่จะสั่งออเดอร์กับเรา
- ร้านนี้ไม่มีโค้ดส่งฟรี มีแต่ของดีที่พร้อมส่งให้
- ซื้อร้านนี้ส่งฟรี แม่ค้าใจดีฟรีกล่องให้ด้วย
- แคปชั่นขายของไม่ค่อยมี มีแต่สินค้าดี ๆ มาแนะนำ
- ปลาร้าแซ่บรสนัว อร่อยชัวร์ทุกจาน
- โปรดีแบบนี้คนดีรีบมาช้อปให้คุ้มค่า
- ทักหน่อยแม่ค้าเหงา ราคาเบา ๆ ส่งฟรีถึงหน้าบ้าน
- โพสต์บ่อยอย่ารำคาญ อยู่ CF กันไปนาน ๆ นะลูกค้าที่รัก
- ตอบเร็ว ส่งไว ซื้อขายง่าย ไม่มีโกง
ช่องทางชำระเงินที่หลากหลาย ช่วยปิดการขายได้มากกว่าเดิม
นอกจากการตั้งแคปชั่นที่มีความสำคัญแล้ว วิธีขายของออนไลน์ให้ได้กำไร กระตุ้นยอดขาย จำเป็นต้องใช้หลายกลยุทธ์ร่วมด้วยเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้าที่คนกำลังให้ความสนใจ ราคาสินค้าที่สมเหตุสมผล การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ช่องทางการจำหน่ายสินค้า และช่องทางชำระเงินที่หลากหลาย ย่อมให้คุณปิดการขายสินค้าได้มากกว่าการมีช่องทางชำระเงินเพียงช่องทางเดียวแน่นอน โดยปัจจุบันมีระบบชำระเงินออนไลน์ให้เจ้าของธุรกิจเลือกใช้หลายประเภท แต่หากมองหาช่องทางชำระเงินที่ปลอดภัย สะดวกสบายทั้งกับคนขายและคนซื้อ KTC ขอแนะนำ Link Pay ตัวช่วยที่เหมาะสำหรับทุกธุรกิจ
Link Pay
Link Pay สะดวกสบายด้วยบริการชำระเงินผ่านลิงก์ ใช้งานง่าย ทุกที่ทุกเวลา ด้วยลิงก์ชำระเงินผ่านโซเชียลมิเดีย ตอบโจทย์ธุรกิจออนไลน์ที่ไม่มีหน้าร้าน ปลอดภัย ได้เงินเร็ว
- ร้านค้าสามารถสร้างลิงก์ หรือ QR Code แล้วส่งให้กับลูกค้าผ่านช่องทางที่ร้านค้าติดต่อกับลูกค้า เช่น สื่อโซเชียลมิเดียหรืออีเมล
- ร้านค้ากำหนดอายุการใช้งานของลิงก์ได้ โดยกำหนดได้นานสูงสุด 24 ชั่วโมง หากไม่มีการกำหนดลิงก์จะหมดอายุเองภายใน 15 นาที
- รองรับการชำระเงินทั้งแบบเต็มจำนวนและผ่อนชำระ
- ยกเลิกลิงก์ชำระเงินและสามารถสร้างลิงก์ใหม่ได้
- ซื้อขายปลอดภัย 24 ชั่วโมงด้วยรหัสยืนยันการทำธุรกรรมออนไลน์ ระบบ OTP (One Time Password) หรือรหัสผ่านใช้ครั้งเดียว
- ร้านค้าสามารถติดตามสถานะการจ่ายเงินของลูกค้า จากคำสั่ง “ติดตามผลรายการ” ในระบบได้ตลอดเวลา
ทั้งหมดนี้เป็นเคล็ดลับการเขียนแคปชั่นขายของให้น่าสนใจ ดึงดูดลูกค้า พร้อมช่องทางชำระเงินที่หลากหลายที่เป็นกลยุทธ์ปิดการขายที่ร้านค้าต้องให้ความใส่ใจ เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกในการชำระเงินให้กับลูกค้า ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการจากร้านของคุณได้มากกว่าเดิม
ระบบชำระเงินออนไลน์ KTC ตอบโจทย์ทุกธุรกิจ ปิดการขายได้ง่ายกว่า