เริ่มต้นขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ ทริคไม่ลับฉบับคนอยากรวย
ยุคนี้เป็นยุคที่สื่อออนไลน์เข้ามามีบทบาทต่อการใช้ชีวิตแทบทุกด้าน มีความสะดวกสบาย สามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างทั่วถึง รวดเร็ว และด้วยข้อดีต่าง ๆ จึงทำให้สื่อออนไลน์กลายเป็นช่องทางหารายได้เสริม ที่ไม่ต้องมีหน้าร้าน ไม่เสียค่าเช่าที่ ประหยัดต้นทุน บางธุรกิจไม่จำเป็นต้องมีการสต๊อกสินค้า อีกทั้งยังมีผู้ประกอบการหลายคนที่สามารถสร้างความสำเร็จให้ตัวเองได้ หากจับกลุ่มลูกค้าหรือเลือกขายสินค้าได้ถูกทาง ทั้งหมดนี้จึงทำให้การขายของออนไลน์กลายเป็นอีกธุรกิจที่น่าจับตามอง และแม้ว่าการเริ่มต้นเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มือใหม่ให้ขายดี มีรายได้เพียงพออาจไม่ง่าย แต่เชื่อได้เลยว่าคงไม่ยากเกินไปสำหรับคนที่มีความตั้งใจ และเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างถูกทาง วันนี้ KTC รวมเคล็ดลับง่าย ๆ สำหรับมือใหม่ เริ่มขายของออนไลน์ยังไงให้รวย ราบรื่น ไม่ติดขัด รับรองว่าเทคนิคเหล่านี้ ช่วยให้คุณประสบความสำเร็จเร็วขึ้นแน่นอน
แชร์วิธีขายของออนไลน์ให้รวย ประสบผลสำเร็จเร็ว ค้าขายราบรื่น
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการขายของออนไลน์ ได้กลายเป็นอาชีพหลักและอาชีพเสริมหลังเลิกงานของหลายคน ด้วยการซื้อขายที่ง่ายแสนง่าย จึงทำให้จำนวนคู่แข่งทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่มีเพิ่มขึ้นทุกวัน ดังนั้นการงัดกลยุทธ์เพิ่มยอดขายเพื่อนำมาลงสังเวียนออนไลน์จึงเป็นสิ่งสำคัญ หากใครมีไม้เด็ดที่เหนือกว่า มีฐานลูกค้าแน่น และสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าได้ ความสำเร็จอยู่ใกล้แค่เอื้อมแน่นอน ถึงอย่างไรแม้คุณจะเริ่มช้ากว่าคนอื่นหลายก้าว แต่คุณสามารถพัฒนาตัวเองให้วิ่งตามทันหรือแซงหน้าคนอื่น ๆ ได้ ด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ สำหรับมือใหม่หัดขายออนไลน์
1. เลือกสินค้าที่นำมาขาย
เริ่มขายของออนไลน์ขายอะไรดี? เป็นคำถามแรกที่คุณต้องตอบตัวเองให้ได้ เพราะการขายสินค้าออนไลน์ใช่ว่าจะหยิบมาขายได้ตามใจชอบ เพราะนอกจากการเลือกจำหน่ายสินค้าที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว การสำรวจความต้องการของลูกค้าเป็นอีกสิ่งที่ช่วยการันตีความสำเร็จได้เช่นกัน ซึ่งจริง ๆ แล้ว สินค้าออนไลน์ถูกกฎหมายไม่ได้มีเพียงแค่สินค้าแบบจับต้องได้ อาทิ สินค้าแฟชั่น เครื่องสำอาง สินค้าไอที ฯลฯ เท่านั้น แต่กลุ่มสินค้าที่จับต้องไม่ได้ อย่างไอเทมในเกม แอปพลิเคชัน วอลเปเปอร์มือถือ ต่างสามารถนำมาขายผ่านช่องทางออนไลน์และสร้างรายได้เป็นอย่างดี
2. ไอเดียชื่อร้านปังๆ
การตั้งชื่อร้านที่ดีไม่เพียงแต่เป็นจุดที่สร้างความสนใจให้ลูกค้าเท่านั้น แต่การตั้งชื่อร้านที่มีความเกี่ยวโยงกับสินค้าที่ขาย อาทิ ร้านขายกระเป๋า ควรมีคำว่า Bag หรือ Wallet อยู่ในชื่อร้าน เผื่อในกรณีที่ลูกค้าต้องการกระเป๋าสักใบ แล้วทำการเสิร์ชหาร้านค้าในโซเชียลต่าง ๆ มีความเป็นไปได้สูงว่าร้านของคุณจะติดลิสต์การค้นหา เมื่อลูกค้ามองเห็นร้านคุณผ่านสื่อต่าง ๆ บวกกับสินค้าน่าสนใจและตรงความต้องการ รับรองว่าคุณขายสินค้าได้แน่นอน
เคล็ดลับเปิดร้านขายของออนไลน์ให้รวย
3. เลือกช่องทางขายของออนไลน์ที่ถนัดที่สุด
ปัจจุบันช่องทางขายของออนไลน์มีให้เลือกหลากหลาย ทั้ง E-commerce Platform, Social Media และ Website ดังนั้นการเลือกช่องทางจำหน่ายตามความถนัด เป็นอีกข้อได้เปรียบที่ช่วยให้คุณขายสินค้าได้มากขึ้น ตัวอย่าง หากคุณเป็นคนพูดเก่ง มีความฉะฉาน ลื่นไหล และสามารถตอบคำถามลูกค้าได้รวดเร็วทันใจ การขายของออนไลน์ด้วยการไลฟ์สด ถือเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับการขายได้ดี หรือมีความสามารถด้านการทำเว็บไซต์ การสร้างเว็บด้วยตัวเองแล้วเพิ่มระบบชำระเงินออนไลน์ ที่นอกจากช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการซื้อสินค้าแล้ว ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการจำหน่ายสินค้าได้มากขึ้นอีกด้วย
4. มีแผนการตลาดที่ดี
หากคุณคิดว่าการขายของออนไลน์ไม่ต้องวางแผนการตลาด สิ่งนี้อาจทำให้คุณกำลังเดินผิดทาง เพราะหากคุณไม่มีลำดับที่ชัดเจนว่าการขายของจะไปในทิศทางไหน ไม่มีเป้าหมายธุรกิจ และไม่มีการประเมินผล (KPI) เพื่อปรับปรุงวางแผนเสียใหม่เมื่อร้านเริ่มขาดทุน หากข้อผิดพลาดเหล่านี้สะสมไปนาน ๆ อาจทำให้ธุรกิจของคุณเริ่มสะดุด มีเงินทุนหมุนเวียนไม่เพียงพอ และท้ายที่สุดอาจต้องจบธุรกิจลงอย่างน่าเสียดาย ดังนั้นการวางแผนการตลาดจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ร้านค้าต้องให้ความใส่ใจ
5. มีเงินทุนสำรองเพียงพอ
นอกจากแผนการตลาดแล้ว เงินทุนสำรองเป็นอีกสิ่งจำเป็นที่ร้านค้าทุกร้านควรมี เผื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน อย่างน้อย ๆ คุณยังมีเงินสำรองมาหมุนเวียนได้ทัน เพราะหากคุณไม่มีเงินในส่วนนั้น อาจส่งผลต่อการซื้อสินค้าหรือการสต๊อกสินค้า ที่ทำให้การค้าขายติดขัด ไม่ราบรื่น
6. ศึกษากฎหมายเบื้องต้น
ข้อแรกที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มือใหม่ต้องระวัง คือลูกเล่นการขายสินค้าที่มีการโฆษณาเกินจริง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์อาหารเสริมต่าง ๆ ที่ต้องระวังคำพูดมากเป็นพิเศษ อย่างต่อมาคือการฝากร้านใต้คอมเมนต์บนโซเชียลต่าง ๆ เพราะหากเจ้าของ Account ไม่อนุญาตให้ฝากร้าน คุณอาจโดนฟ้องร้องข้อหาก่อกวนหรือถูกสแปมได้ สุดท้ายแล้วแม้การขายของออนไลน์บนโซเชียลจะไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ แต่ถึงอย่างไรอย่าลืมนำกำไรมาคำนวณเพื่อยื่นภาษีออนไลน์เหมือนรายได้อื่น ๆ มิเช่นนั้นอาจถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังที่ทำให้ต้องเสียเงินก้อนโต
7. โพสต์ขายของให้น่าสนใจ
ไม่ว่าคุณจะเลือกจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางไหน การโพสต์ขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ อาทิ TikTok Facebook Instagram ฯลฯ อย่างสม่ำเสมอ เป็นอีกเทคนิคที่ช่วยกระตุ้นยอดขายได้ สำหรับเคล็ดลับง่าย ๆ ในการโพสต์ขายของที่ KTC แนะนำ คือให้เลือกโพสต์ขายสินค้าในกลุ่มเฉพาะ ใช้คำพูดอย่างเหมาะสม ไม่โฆษณาเกินจริง โพสต์ภาพสินค้าให้น่าซื้อ ระบุข้อมูล/ราคาสินค้าอย่างครบถ้วน โพสต์รีวิวจากลูกค้า และเลือกใช้คีย์เวิร์ดหรือแฮชแท็กที่กำลังได้รับความนิยมในการโพสต์ทุกครั้ง ที่สำคัญต้องหมั่นโพสต์และอัปเดตสินค้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับร้าน เพียงเท่านี้ก็ช่วยเพิ่มยอดขายให้ร้านได้แล้ว
ทริค! หลีกเลี่ยงการใช้คำที่เสี่ยงต่อการถูกปิดกั้นการมองเห็น เช่น ชื่อแบรนด์ ราคาสินค้าแบบเป็นตัวเลข สรรพคุณที่เกินจริง เป็นต้น
8. ตอบลูกค้าด้วยความรวดเร็ว
โลกออนไลน์มีการซื้อ-ขายสินค้าตลอด 24 ชั่วโมง ต่างจากร้านทั่วไปที่มีเวลาเปิดปิดแบบชัดเจน ดังนั้นยิ่งคุณมีเวลาตอบลูกค้ามากเท่าไหร่ จะช่วยให้คุณมีโอกาสในการจำหน่ายสินค้าได้มากขึ้นเท่านั้น หรือหากคุณไม่สะดวกที่จะตอบเองตลอด 24 ชั่วโมง อาจเลือกใช้เทคโนโลยีแชทบอท (Chatbot) เข้ามาเป็นตัวช่วย โดยคุณระบุข้อความอัตโนมัติที่เป็นคำตอบทั่วไป เช่น สี ขนาด ราคา วิธีการใช้งาน เป็นต้น วิธีนี้นอกจากจะช่วยให้คุณไม่ต้องมาคอยเฝ้าแชทแล้ว ยังช่วยให้ลูกค้าได้รับการตอบสนองที่รวดเร็ว และไม่ถูกทิ้งไว้จนต้องมองหาสินค้าร้านอื่นแทน
9. จัดส่งสินค้ารวดเร็ว ราคาส่งไม่แพง
ค่าจัดส่งเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้า ตัวอย่าง สินค้าราคาเท่ากันแต่ร้าน A คิดค่าส่งเพิ่ม 50 บาท แต่ร้าน B ส่งสินค้าฟรีไม่เสียค่าส่งเพิ่ม แน่นอนว่าลูกค้าคงตัดสินใจซื้อสินค้าจากร้าน B ก่อน แต่ในกรณีที่สินค้าบางรายการจำเป็นต้องมีค่าจัดส่งเพิ่มเติม แนะนำว่าให้จัดโปรโมชั่นพิเศษด้วยการกำหนดราคาซื้อขั้นต่ำเพื่อรับสิทธิ์ส่งฟรี หรือมีของแถมให้ลูกค้า ที่สำคัญต้องส่งสินค้าด้วยความรวดเร็ว (จัดส่งสินค้าทุกวันยิ่งช่วยเพิ่มโอกาส) แต่หากใครไม่สะดวกส่งสินค้าทุกวัน อาจกำหนดเวลาตัดรอบและแจ้งการจัดส่งในโพสต์สินค้าทุกครั้ง เพื่อให้ลูกค้ารับทราบข้อมูลการจัดส่งเบื้องต้นก่อนตัดสินใจซื้อ
บริการรับชำระเงินจาก KTC ช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและปิดการขายได้มากกว่า
10. ช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย เพิ่มยอดขายให้ปังขึ้น
เทคนิคสำคัญอย่างหนึ่งที่ช่วยให้การขายของออนไลน์มียอดขายเพิ่มขึ้น คือการที่ร้านค้ามีช่องทางชำระเงินที่หลากหลาย เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกชำระได้ตามความสะดวก ในกรณีของร้านค้าขนาดเล็ก ไม่มีหน้าร้าน หรือร้านค้าเปิดใหม่ KTC เสนอช่องทางการชำระเงิน KTC Link Pay เป็นบริการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต และบัตรเดบิตผ่าน Social Media ใช้งานง่ายทุกที่ทุกเวลา อีกทั้งยังมีความปลอดภัยทั้งต่อคนซื้อและคนขาย ตลอด 24 ชั่วโมง บริหารจัดการง่าย สะดวกสบาย ร้านค้าสามารถดำเนินการได้เอง
- ร้านค้าสามารถสร้างลิงก์ หรือ QR Code แล้วส่งให้กับลูกค้า ได้ผ่านช่องทางที่ร้านติดต่อกับลูกค้า อาทิ สื่อโซเชียลมีเดียหรืออีเมล
- ร้านค้ากำหนดอายุการใช้งานของลิงก์ได้ตามต้องการ โดยกำหนดได้นานสูงสุด 24 ชั่วโมง แต่หากไม่กำหนดลิงก์จะหมดอายุภายใน 15 นาที
- สามารถยกเลิกลิงก์ชำระเงินเดิมและสร้างลิงก์ใหม่ได้
- รองรับการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิต ทั้งยังผ่อนชำระด้วยบัตรเครดิต KTC ได้อีกด้วย (ผ่อนชำระตามเงื่อนไขที่กำหนด)
- เพิ่มความปลอดภัยด้วยการยืนยันรหัสการทำธุรกรรมออนไลน์ ผ่านระบบ OTP (One Time Password) หรือรหัสผ่านใช้ครั้งเดียว
- ร้านค้าสามารถติดตามสถานะการจ่ายเงินของลูกค้า จากคำสั่ง “ติดตามผลรายการ” ในระบบได้ตลอดเวลา มั่นใจ ได้รับเงินชัวร์
การค้าขายออนไลน์เป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง เพราะไม่ว่าจะเป็นคนในสายอาชีพใด หากต้องการหาอาชีพหลักหรืออาชีพเสริม สามารถลงทุนกับการค้าขายออนไลน์ได้ไม่ต่างกัน ดังนั้นการมีกลยุทธ์การขายและช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยดึงดูดให้ลูกค้าสนใจสินค้ามากขึ้น มีโอกาสเติบโตในธุรกิจได้มากกว่า และช่วยให้คุณควบคุมทิศทางธุรกิจให้ประสบผลสำเร็จได้ตามต้องการ ทั้งหมดนี้เป็นเคล็ดลับง่าย ๆ สำหรับมือใหม่เริ่มขายออนไลน์ที่ KTC นำมาฝาก เจ้าของธุรกิจหน้าใหม่สามารถนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองได้อย่างเหมาะสม รับรองว่าช่วยสร้างความสำเร็จให้เร็วขึ้นได้อย่างแน่นอน
ค้าขายไม่มีสะดุดและเพิ่มกำไรให้ร้าน ด้วยช่องทางชำระเงิน KTC LINK PAY