รวมเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เรื่องสำคัญที่คุณต้องรู้

หลายคนน่าจะได้ยินข่าวกันมาบ้างแล้วในช่วงหลายปีมานี้ ที่ทางรัฐบาลได้ทำการยกเลิกการจัดเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดิน และเปลี่ยนมาจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแทน จึงทำให้หลายคนอาจจะกำลังตั้งข้อสงสัยว่า การเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดีกว่าแบบเก่าอย่างไร และมีอะไรบ้างที่จะต้องรู้เอาไว้ เราจะอธิบายให้ได้ฟังกัน

เลือกอ่านตามหัวข้อ

• ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างคืออะไร
• ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มีกี่ประเภท
• ทำไมเราต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
• ภาษีที่ดินคำนวณอย่างไร
• ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ต้องจ่ายเมื่อไหร่
• สรุปบทความ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เรื่องสำคัญที่คุณต้องรู้

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างคืออะไร

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง คือ การเรียกเก็บภาษีรายปี โดยคิดจากมูลค่าของที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างที่ครอบครองบนที่ดินผืนนั้น โดยไม่สนว่าจะใช้ในการประกอบกิจการหรือไม่ เพื่อป้องกันการกว้านซื้อที่ดินไปครอบครอง โดยปล่อยทิ้งไว้ให้รกร้างโดยไม่ก่อประโยชน์ใด ๆ จึงถูกประกาศใช้ในปี 2562 ที่ผ่านมา แทนที่ภาษีโรงเรือนและที่ดิน ที่มีความซับซ้อนในแง่ของข้อกฎหมายที่ยังไม่ชัดเจนมากพอ

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มีกี่ประเภท

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท ก็คือ ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม ที่ดินเพื่ออยู่อาศัย ที่ดินเพื่อพาณิชยกรรม และที่ดินรกร้างว่างเปล่า ซึ่งจะมีอัตราการเก็บภาษีที่แตกต่างกันไป ดังนี้

ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม

ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม คือที่ดินที่ใช้ล้อมรั้วทำนา เลี้ยงสัตว์ ปลูกผัก และอื่นๆ จะถูกแบ่งการจัดเก็บภาษีออกเป็น 2 ประเภท คือแบบบุคคลธรรมดา และแบบนิติบุคคล ซึ่งจะต้องเสียภาษีในอัตรา ดังนี้

บุคคลธรรมดา ต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามอัตราภาษี ดังนี้

• ที่ดินมูลค่า 0-50 ล้านบาท : ได้รับการยกเว้นภาษี
• ที่ดินมูลค่า 50-125 ล้านบาท มีอัตราภาษี 0.01% : เสียภาษีล้านละ 100 บาท
• ที่ดินมูลค่า 125-150 ล้านบาท มีอัตราภาษี 0.03% : เสียภาษีล้านละ 300 บาท
• ที่ดินมูลค่า 150-550 ล้านบาท มีอัตราภาษี 0.05% : เสียภาษีล้านละ 500 บาท
• ที่ดินมูลค่า 550-1,050 ล้านบาท มีอัตราภาษี 0.07% : เสียภาษีล้านละ 700 บาท
• ที่ดินมูลค่า 1,050 ล้านบาทขึ้นไป มีอัตราภาษี 0.1% : เสียภาษีล้านละ 1,000 บาท

นิติบุคคล ต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามอัตราภาษี ดังนี้

• ที่ดินมูลค่า 0-75 ล้านบาท มีอัตราภาษี 0.01% : เสียภาษีล้านละ 100 บาท
• ที่ดินมูลค่า 75-100 ล้านบาท มีอัตราภาษี 0.03% : เสียภาษีล้านละ 300 บาท
• ที่ดินมูลค่า 100-500 ล้านบาท มีอัตราภาษี 0.05% : เสียภาษีล้านละ 500 บาท
• ที่ดินมูลค่า 500-1,000 ล้านบาท มีอัตราภาษี 0.07% : เสียภาษีล้านละ 700 บาท
• ที่ดินมูลค่า 1,000 ล้านบาทขึ้นไป มีอัตราภาษี 0.1% : เสียภาษีล้านละ 1,000 บาท

ที่ดินเพื่ออยู่อาศัย

ที่ดินเพื่ออยู่อาศัย เป็นภาษที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ทำให้หลายคนกังวลใจมากที่สุด เพราะน่าจะกำลังคิดว่าทำไมต้องเสียภาษีในการอาศัยในบ้านตัวเองด้วย แต่ในความเป็นจริงแล้ว คนส่วนใหญ่จะไม่โดนผลกระทบตรงส่วนนี้มากนัก จะโดนเฉพาะในกลุ่มคนที่มีโฉนดที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างหลายหลังมากกว่า โดยจะมีอัตราภาษี ดังนี้

บุคคลธรรมดาผู้เป็นเจ้าของที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างหลังเดียว ต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ดังนี้

• ที่ดินมูลค่า 0-50 ล้านบาท : ได้รับการยกเว้นภาษี
• ที่ดินมูลค่า 50-75 ล้านบาท มีอัตราภาษี 0.03% : เสียภาษีล้านละ300 บาท
• ที่ดินมูลค่า 75-100 ล้านบาท มีอัตราภาษี 0.05% : เสียภาษีล้านละ 500 บาท
• ที่ดินมูลค่า 100 ล้านบาทขึ้นไป มีอัตราภาษี 0.1% : เสียภาษีล้านละ 1,000 บาท

บุคคลธรรมดาผู้เป็นเจ้าของสิ่งปลูกสร้างหลังเดียว ต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ดังนี้

• ที่ดินมูลค่า 0-10 ล้านบาท : ได้รับการยกเว้นภาษี
• ที่ดินมูลค่า 10-50 ล้านบาท มีอัตราภาษี 0.02% : เสียภาษีล้านละ 200 บาท
• ที่ดินมูลค่า 50-75 ล้านบาท มีอัตราภาษี 0.03% : เสียภาษีล้านละ 300 บาท
• ที่ดินมูลค่า 75-100 ล้านบาท มีอัตราภาษี 0.05% : เสียภาษีล้านละ 500 บาท
• ที่ดินมูลค่า 100 ล้านบาทขึ้นไป มีอัตราภาษี 0.1% : เสียภาษีล้านละ 1,000 บาท

บุคคลธรรมดาผู้เป็นเจ้าของที่ดิน หรือสิ่งปลูกสร้าง 2 หลังขึ้นไป ต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ดังนี้

• ที่ดินมูลค่า 0-50 ล้านบาท มีอัตราภาษี 0.02% : เสียภาษีล้านละ 200 บาท
• ที่ดินมูลค่า 50-75 ล้านบาท มีอัตราภาษี 0.03% : เสียภาษีล้านละ 300 บาท
• ที่ดินมูลค่า 75-100 ล้านบาท มีอัตราภาษี 0.05% : เสียภาษีล้านละ 500 บาท
• ที่ดินมูลค่า 100 ล้านบาทขึ้นไป มีอัตราภาษี 0.1% : เสียภาษีล้านละ 1,000 บาท

ที่ดินเพื่อพาณิชยกรรม

ที่ดินเพื่อพาณิชยกรรม คือที่ดินที่ใช้ในการประกอบกิจการต่าง ๆ ที่ไม่ใช่เพื่ออยู่อาศัย เช่น โรงแรม อพาร์ทเม้นท์ อาคารสำนักงาน โรงงาน โกดังสินค้า ร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน และอื่น ๆ จะต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างโดยไม่ได้รับการยกเว้นใด ๆ โดยจะมีอัตราการเรียกเก็บ ดังนี้

• ที่ดินมูลค่า 0-50 ล้านบาท มีอัตราภาษี 0.3% : เสียภาษีล้านละ 3,000 บาท
• ที่ดินมูลค่า 50-200 ล้านบาท มีอัตราภาษี 0.4% : เสียภาษีล้านละ 4,000 บาท
• ที่ดินมูลค่า 200-1,000 ล้านบาท มีอัตราภาษี 0.5% : เสียภาษีล้านละ 5,000 บาท
• ที่ดินมูลค่า 1,000-5,000 ล้านบาท มีอัตราภาษี 0.6% : เสียภาษีล้านละ 6,000 บาท
• ที่ดินมูลค่า 5,000 ล้านบาทขึ้นไป มีอัตราภาษี 0.7% : เสียภาษีล้านละ 7,000 บาท

ที่ดินรกร้างว่างเปล่า

ที่ดินรกร้างว่างเปล่า คือที่ดินที่ถูกกว้านซื้อทิ้งไว้ และไม่ได้ใช้งานให้เกิดประโยชน์ใด ๆ จึงจะมีอัตราการเก็บภาษีที่ดินว่างเปล่ามากขึ้นหากปล่อยทิ้งร้างไว้นาน เพื่อป้องกันกลุ่มทุนในการซื้อที่ดินเก็บเอาไว้เกร็งราคาเพียงอย่างเดียว โดยจะมีการคิดอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ดังนี้

• ที่ดินมูลค่า 0-50 ล้านบาท มีอัตราภาษี 0.3% : เสียภาษีล้านละ 3,000 บาท
• ที่ดินมูลค่า 50-200 ล้านบาท มีอัตราภาษี 0.4% : เสียภาษีล้านละ 4,000 บาท
• ที่ดินมูลค่า 200-1,000 ล้านบาท มีอัตราภาษี 0.5% : เสียภาษีล้านละ 5,000 บาท
• ที่ดินมูลค่า 1,000-5,000 ล้านบาท มีอัตราภาษี 0.6% : เสียภาษีล้านละ 6,000 บาท
• ที่ดินมูลค่า 5,000 ล้านบาทขึ้นไป มีอัตราภาษี 0.7% : เสียภาษีล้านละ 7,000 บาท

ทำไมเราต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

เพราะภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เป็นการปฏิรูปโครงสร้างระบบภาษีด้านทรัพย์สินให้มีความทันสมัย และเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยกระตุ้นให้การถือครองที่ดินรกร้าง หรือไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ลดน้อยลง และเงินที่ได้จากการจัดเก็บภาษีส่วนนี้ จะถูกนำไปพัฒนาพื้นที่ส่วนท้องถิ่นให้เกิดความเจริญมากยิ่งขึ้น

ภาษีที่ดินคำนวณอย่างไร

ในส่วนของการคำนวณภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จะแบ่งออกได้ทั้งหมด ดังนี้

ที่ดินที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง

• (มูลค่าที่ดิน x อัตราภาษี) = ภาษีที่ต้องจ่ายรายปี

ยกตัวอย่างเช่น ครอบครองที่ดินมูลค่า 70 ล้านบาท จะมีอัตราภาษีอยู่ที่ 0.03% ให้แทนสูตรตามนี้ (70 ล้านบาท x 0.03%) = 21,000 บาท คือภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ต้องจ่าย

ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

• (มูลค่าที่ดิน + มูลค่าสิ่งปลูกสร้าง) x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่ายรายปี

ยกตัวอย่างเช่น ครอบครองที่ดินมูลค่า 70 ล้านบาท และมีสิ่งปลูกสร้างอีก 10 ล้านบาท จะมีอัตราภาษีอยู่ที่ 0.05% ให้แทนสูตรตามนี้ (70 ล้านบาท + 10 ล้านบาท) x 0.05% = 40,000 บาท คือภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ต้องจ่าย

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ต้องจ่ายเมื่อไหร่

หากยึดจากปีภาษี 2566 ที่ผ่านมา จะต้องจ่ายภายในไม่เกินเดือนมิถุนายน และหากต้องชำระเกิน 3,000 บาท สามารถขอแบ่งจ่ายเป็น 3 งวดเท่า ๆ กันได้โดยไม่เสียดอกเบี้ย

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ต้องจ่ายเมื่อไหร่

และนี่ก็คือข้อมูลของภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตัวใหม่ ที่ถูกบังคับใช้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการครอบครองที่ดินในประเทศ อีกทั้งยังช่วยสร้างการพัฒนาในพื้นที่ท้องถิ่นได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย สิ่งสำคัญที่ทุกคนควรจะต้องให้ความสำคัญก็คือเรื่องของภาษี โดยเฉพาะคนไทยเราที่ส่วนใหญ่อาจจะละเลยตรงจุดนี้กันไปบ้าง ต้องไม่ลืมว่าการชำระภาษีคือหน้าที่ที่ควรให้ความร่วมมือ เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะโดนเรียกปรับย้อนหลัง จนกลายเป็นเงินจำนวนที่จ่ายไม่ไหวในภายหลังเอาได้ แต่หากใครกำลังประสบปัญหาด้านการเงิน แต่ยังไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร ถ้าคุณยังมีรถ อย่าลืมมองKTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ที่ให้วงเงินก้อนใหญ่ สมัครง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก รู้ผลไว พร้อมรับเงินได้ทันที และยังผ่อนได้ยาวสูงสุด 84 เดือน โดยไม่ต้องมีคนค้ำ ตอบโจทย์คนขาดสภาพคล่องในได้อย่างดีเยี่ยม

*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด*

*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21% - 24% ต่อปี*