คนมีรถต้องรู้ต่อพรบรถยนต์ แต่ไม่มีเล่มทะเบียนต้องทำยังไง?
รถทุกคันจำเป็นต้องมี พ.ร.บ. รถยนต์ ซึ่งคือประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถทั้งคู่กรณีและผู้เอาประกันภัย เป็นกฎหมายบังคับให้รถยนต์ทุกคันที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกต้องทำ โดยหลักสำคัญของ พ.ร.บ. รถยนต์ คือการให้ความคุ้มครองแก่บุคคลเท่านั้น และเพื่อให้ทุกคนเข้าใจถึงความสำคัญของ พ.ร.บ.รถยนต์ มากขึ้น ตามพี่เบิ้มไปดูข้อมูลที่รวบรวมมาฝากกัน
พ.ร.บ. รถยนต์ ย่อมาจากอะไร?
พ.ร.บ.รถยนต์ ย่อมาจากพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ กฎหมายที่บังคับให้รถที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกทุกคันต้องทำ เพื่อป็นหลักประกันให้กับคนในรถหรือผู้ใช้รถใช้ถนนว่าจะได้รับความคุ้มครองเบื้องต้นเป็นค่ารักษาพยาบาลในกรณีบาดเจ็บ และค่าปลงศพในกรณีเสียชีวิต โดยไม่ต้องพิสูจน์ความผิด เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันบนท้องถนนไม่อย่างทันท่วงที
ความคุ้มครองเบื้องต้นตาม พ.ร.บ. มีอะไรบ้าง?
ความคุ้มครองเบื้องต้นตาม พ.ร.บ. รถยนต์
สำหรับความคุ้มครองในส่วนของ พ.ร.บ. คือค่าเสียหายเบื้องต้นของผู้ประสบภัย โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ ซึ่งไม่ต้องรอพิสูจน์ความผิด บริษัทจะชดใช้ให้แก่ผู้ประสบภัยหรือทายาทโดยธรรมของผู้ประสบภัย ภายใน 7 วัน นับแต่บริษัทได้รับคำร้องขอค่าเสียหาย โดยสามารถเคลมพ.ร.บ. เพื่อขอรับค่าเสียหายเบื้องต้นมีดังนี้
กรณีบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
1. กรณีบาดเจ็บ จะได้รับการชดใช้เป็นค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอันจำเป็นเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท ต่อหนึ่งคน
2. กรณีผู้ประสบภัยได้รับความเสียหายต่อร่างกาย (ทุพพลภาพ) อย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้บริษัทจะจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้น จำนวน 35,000 บาท ต่อหนึ่งคน (ตาบอด, หูหนวก, เป็นใบ้หรือเสียความสามารถในการพูด หรือลิ้นขาด, สูญเสียอวัยวะสืบพันธุ์, เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้ว, เสียอวัยวะอื่นใด, จิตพิการอย่างติดตัว, ทุพพลภาพอย่างถาวร)
3. กรณีบาดเจ็บจะได้รับการชดใช้ค่ารักษาพยาบาลตาม ข้อ 1. และต่อมาทุพพลภาพตาม ข้อ 2. รวมกันแล้วจะไม่เกิน 65,000 บาท ต่อหนึ่งคน
4. กรณีเสียชีวิตจะได้รับการชดใช้เป็นค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายอันจำเป็นเกี่ยวกับการจัดการศพ จำนวน 35,000 บาท ต่อหนึ่งคน
5. กรณีเสียชีวิตภายหลังการรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอันจำเป็นเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงตามข้อ 1 รวมกันไม่เกิน 65,000 บาท ต่อหนึ่งคน
ค่าเสียหายเบื้องต้น
กรณีรถตั้งแต่ 2 คันขึ้นไปก่อให้เกิดความเสียหายเป็นเหตุให้ผู้อยู่ในรถไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต บริษัทที่รับประกันภัยรถแต่ละคันต้องจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้แก่ผู้ประสบภัยที่อยู่ในรถคันที่บริษัทรับประกันภัยไว้ หากเป็นบุคคลภายนอกที่ไม่ได้อยู่ในรถคันใดคันหนึ่งให้บริษัทประกันภัยร่วมกันจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้แก่ผู้ประสบภัยในอัตราส่วนที่เท่ากัน ในการใช้สิทธิขอรับค่าเสียหายเบื้องต้น ผู้ประสบภัยต้องร้องขอค่าเสียหายเบื้องต้นกับบริษัทภายใน 180 วัน
ค่าสินไหมทดแทน (ส่วนเกินค่าเสียหายเบื้องต้น)
เป็นค่าเสียหายที่นอกเหนือจากค่าเสียหายเบื้องต้น โดยบริษัทประกันจะจ่ายค่าสินไหมทดแทน ในกรณีผู้ประสบภัยได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นฝ่ายถูก จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเป็นจำนวนเงินดังนี้
1. ในกรณีที่ผู้ประสบภัยได้รับบาดเจ็บแต่ไม่ถึงกับสูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพอย่างถาวร บริษัทประกันภัยจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลและค่าเสียหายอย่างอื่นที่ผู้ประสบภัย สามารถเรียกร้องได้ตามความเสียหายที่แท้จริงแต่ไม่เกิน 80,000 บาทต่อหนึ่งคน
2. กรณีได้รับความเสียหายต่อร่างกายหรืออนามัยในกรณีใดกรณีหนึ่งหรือหลายกรณี (ตาบอด, หูหนวก, เป็นใบ้หรือเสียความสามารถในการพูด หรือลิ้นขาด, สูญเสียอวัยวะสืบพันธุ์, เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้ว, เสียอวัยวะอื่นใด, จิตพิการอย่างติดตัว, ทุพพลภาพอย่างถาวร) บริษัทจะจ่ายเต็มตามจำนวนเงินคุ้มครองสูงสุด 200,000-300,000 บาทต่อหนึ่งคน
3. กรณีเสียชีวิต บริษัทจะจ่ายเต็มตามจำนวนเงินคุ้มครองสูงสุด 500,000 บาทต่อหนึ่งคน
4. ในกรณีที่เข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลในฐานะผู้ป่วยใน บริษัทจะจ่ายค่าชดเชยรายวัน วันละ 200 บาท จำนวนรวมกันไม่เกิน 20 วัน
จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่า พ.ร.บ. รถยนต์ ถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งและต้องทำการต่อพ.ร.บ. ในทุก ๆ ปีตามที่กฎหมายกำหนด หากฝ่าฝืนจะมีโทษสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท และไม่สามารถทำการเสียภาษีรถยนต์หรือต่อภาษีรถยนต์ได้ ทำให้รถยนต์ขาดการต่อภาษีประจำปีแล้วยังต้องเสียค่าปรับย้อนหลัง และถ้าขาดการต่อภาษีรถยนต์เกิน 3 ปี ป้ายทะเบียนรถยนต์จะถูกสั่งยกเลิกทันที
ต่อพ.ร.บ. รถยนต์ทุก ๆ ปี เพื่อความคุ้มครองที่ครอบคลุม
ต่อพรบรถยนต์ ราคาเท่าไหร่?
สำหรับรถยนต์โดยสาร การต่อพ.ร.บ. รถยนต์จะมีราคาที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับประเภทรถ การใช้งาน ไปจนถึงขนาดตัวเครื่องยนต์ โดยมีรายละเอียดคร่าว ๆ ดังนี้
- รถยนต์นั่งไม่เกิน 7 คน แบบส่วนบุคคล ราคาอยู่ที่ 600 บาท
- รถยนต์นั่งไม่เกิน 7 คน สำหรับรับจ้าง/ให้เช่า/สาธารณะ ราคาอยู่ที่ 1,900 บาท
- รถยนต์โดยสารเกิน 7 คน แต่ไม่เกิน 15 ที่นั่ง ราคาอยู่ที่ 1,100 บาท
- รถยนต์พลังงานไฟฟ้านั่งไม่เกิน 7 คน ราคาอยู่ที่ 600 บาท
- รถยนต์บรรทุก น้ำหนักไม่เกิน 3 ตัน ราคาอยู่ที่ 900 บาท
- รถยนต์บรรทุก น้ำหนักเกิน 3 ตัน แต่ไม่เกิน 6 ตัน ราคาอยู่ที่ 1,220 บาท
*ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
ต่อพรบ รถยนต์ ใช้อะไรบ้าง? เตรียมตัวอย่างไร
พ.ร.บ. รถยนต์จะมีอายุอยู่ที่ 1 ปี เมื่อถึงกำหนดเจ้าของรถต้องทำการต่อพ.ร.บ.รถยนต์ ในปัจจุบันสามารถดำเนินการได้ทั้งเข้าไปติดต่อกรมการขนส่งทางบกของแต่ละจังหวัดเพื่อยื่นเอกสารขอต่อพ.ร.บ. รถยนต์ หรือต่อพรบ.รถออนไลน์ด้วยตัวเองง่าย ๆ หากไม่สะดวกเดินทางไปยังสำนักขนส่ง โดยต้องเตรียมเอกสารให้พร้อม ดังนี้
- สมุดคู่มือจดทะเบียนรถตัวจริงหรือสำเนา
- เอกสาร พ.ร.บ.รถยนต์ ที่ยังไม่หมดอายุ
- ใบรับรองการตรวจสภาพรถ (สำหรับรถที่มีอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป)
- เงินสำหรับชำระค่า พ.ร.บ.รถยนต์
ไม่มีเล่ม ต่อพรบรถยนต์ ใช้อะไรบ้าง? สำหรับผู้ที่ไม่มีเล่มทะเบียนรถไม่ว่าจะเป็นในกรณีรถยังผ่อนไม่หมด หรือนำรถไปขอสินเชื่อจำนำทะเบียนรถหรือสินเชื่อรถแลกเงินสามารถต่อพ.ร.บ. รถยนต์ได้ โดยใช้สำเนาสมุดคู่มือจดทะเบียนในการยื่นต่อพ.ร.บ. พร้อมเอกสารอื่น ๆ ตามที่กำหนด และสามารถต่อล่วงหน้าก่อนหมดอายุได้ถึง 90 วัน
จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าพ.ร.บ. รถยนต์ถือเป็นสิ่งจำเป็นต่อรถยนต์ทุกคันและเป็นข้อบังคับตามที่กฎหมายกำหนดหากไม่ปฏิบัติตามอาจมีโทษปรับตามมาได้ อีกทั้งไม่ควรปล่อยให้ พ.ร.บ.รถยนต์ขาด เพราะอาจส่งผลถึงการต่อภาษีรถยนต์ของคุณได้อีกด้วย
สำหรับใครที่กำลังประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินแต่กังวลในเรื่องของการต่อพ.ร.บ. รถยนต์ ต่อภาษีรถยนต์ประจำปี หรือต่อประกันภัยรถยนต์ ว่าหากไม่มีเล่มทะเบียนสามารถดำเนินการได้หรือไม่ คำตอบคือสามารถดำเนินการได้เพียงมีสำเนาเล่มทะเบียนรถ ถ้าคุณมีรถปลอดภาระและกำลังมองหาตัวช่วยทางการเงินขอแนะนำ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ที่รับทั้งรถยนต์ รถกระบะ รถตู้ ไม่ว่าจะอาชีพไหนก็สามารถยื่นขอสินเชื่อได้ พร้อมอนุมัติไวภายใน 1 ชั่วโมง ให้วงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท แถมรถยังมีไว้ใช้ขับขี่ได้เหมือนเดิม เพียงฝากเรื่องผ่านช่องทางออนไลน์ของ KTC พี่เบิ้มหรือกรอกข้อมูลด้านล่าง แล้วรอทีมงานพี่เบิ้ม Delivery ติดต่อกลับไปนัดหมายวันเวลา ก่อนเดินทางไปรับสมัครและตรวจสภาพรถถึงที่บ้าน เมื่อผ่านการอนุมัติได้รับเงินโอนเข้าบัญชีทันที พร้อมรับบัตรกดเงินสด KTC พี่เบิ้ม ไปใช้ต่อเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน สามารถกดเงินจากตู้ ATM ได้ตลอด 24 ชั่วโมงแบบไม่มีค่าธรรมเนียม
อ้างอิงข้อมูลจาก : สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
สมัคร KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ตัวช่วยด้านการเงินในทุกสถานการณ์ฉุกเฉิน