ในโลกของธุรกิจและการนำเสนอ การ Pitching เป็นทักษะสำคัญที่ผู้ประกอบการ นักธุรกิจ หรือนักขายจำเป็นต้องมี เพราะการ Pitch คือการนำเสนอไอเดีย ผลิตภัณฑ์ หรือบริการในเวลาอันสั้น เพื่อดึงดูดความสนใจจากนักลงทุน ลูกค้า หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจหรือได้รับการสนับสนุนในรูปแบบต่างๆ วันนี้ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจในเรื่องการ Pitching และเทคนิคการนำเสนองานให้น่าสนใจ เพื่อนำไปพัฒนาทักษะหนึ่งของตัวเองแล้วล่ะก็ เราก็ได้นำข้อมูลดีๆ ทั้งเรื่องข้อควรรู้และการเตรียมตัวก่อน Pitching และเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ มาฝากกัน
Pitching คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร ?
Pitching คือการนำเสนอแนวคิด ผลิตภัณฑ์ หรือบริการในเวลาสั้นๆ เพื่อโน้มน้าวให้ผู้ฟังสนใจและเห็นคุณค่าในสิ่งที่นำเสนอ โดยทั่วไปมักใช้เวลาประมาณ 3-10 นาที ขึ้นอยู่กับบริบทและโอกาส โดยการ Pitch ก็มีหลากหลายรูปแบบ อาทิ เช่น Elevator Pitch (การนำเสนอแบบสั้น), Investor Pitch (การนำเสนอต่อนักลงทุน) หรือ Sales Pitch (การนำเสนอเพื่อขายสินค้าและบริการ) ทั้งนี้ทั้งนั้น Pitching กลายมาเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้ประกอบการ นักธุรกิจ และนักขาย ด้วยมีความสำคัญดังต่อไปนี้
- ดึงดูดโอกาสทางธุรกิจ : การ Pitching ที่ดีช่วยให้ผู้ฟังเห็นคุณค่าและศักยภาพของไอเดีย ซึ่งอาจนำไปสู่การลงทุนหรือความร่วมมือทางธุรกิจ
- สร้างความน่าเชื่อถือ : การ Pitching เป็นโอกาสที่ผู้เสนอสามารถแสดงความเชี่ยวชาญ ความเป็นมืออาชีพ และความเข้าใจในตลาด เพื่อให้ผู้ฟังมั่นใจในศักยภาพของโปรเจกต์
- ทำให้ไอเดียน่าสนใจและเข้าใจง่าย : Pitching ช่วยให้เราสามารถสื่อสารแนวคิดที่ซับซ้อนให้น่าสนใจ กระชับ และตรงจุด ซึ่งสำคัญมากเมื่อมีเวลาจำกัด
- เพิ่มโอกาสปิดการขาย : สำหรับธุรกิจและนักขายที่ต้องการขายสินค้าและบริการ Pitching เป็นกุญแจสำคัญในการโน้มน้าวให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ
- สร้างแรงบันดาลใจและความมั่นใจ : การ Pitching ไม่ใช่แค่การนำเสนอข้อมูล แต่ยังเป็นการถ่ายทอดความกระตือรือร้น และความเชื่อมั่น ซึ่งช่วยกระตุ้นให้ผู้ฟังเกิดความสนใจและอยากมีส่วนร่วม
Pitching ต่างกับ Presenting อย่างไร ?
แม้ว่าทั้ง Pitching และ Presenting จะเป็นการนำเสนอข้อมูล แต่ทั้งสองอย่างนี้มีจุดมุ่งหมายและลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน หลักๆ คือ Pitching จะเน้นการขายไอเดีย เน้นความกระชับ โน้มน้าวใจ และดึงดูดความสนใจในเวลาสั้นๆ ส่วน Presenting จะเป็นการให้ข้อมูล เจาะลึกในรายละเอียด เพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจประเด็นต่างๆ อย่างชัดเจน ทั้งนี้ เพื่อให้คุณเข้าใจง่ายขึ้น เราขอทำตารางสรุปรายละเอียดให้ ดังนี้
หัวข้อ |
Pitching |
Presenting |
จุดมุ่งหมาย |
โน้มน้าวผู้ฟังให้สนใจ สนับสนุน หรือลงทุนในไอเดีย |
ถ่ายทอดข้อมูล อธิบายเนื้อหา หรือรายงานผล |
ลักษณะการนำเสนอ |
กระชับ ตรงประเด็น ใช้เวลาสั้นๆ |
มีรายละเอียดลึกซึ้ง ขยายความได้มากขึ้น |
กลุ่มเป้าหมาย |
นักลงทุน ลูกค้า ผู้บริหาร หรือคณะกรรมการ |
ทีมงาน ลูกค้า หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง |
รูปแบบการนำเสนอ |
ใช้เทคนิคการเล่าเรื่อง (Storytelling) มีพลัง ดึงดูดอารมณ์ |
ใช้ข้อมูลเชิงลึก กราฟ สถิติ และวิเคราะห์เชิงตรรกะ |
ระยะเวลา |
สั้น กระชับ (30 วินาที - 10 นาที) |
ยาวกว่า อาจใช้เวลา 15-60 นาที หรือมากกว่า |
โฟกัสหลัก |
ดึงดูดความสนใจและสร้างความเชื่อมั่น |
ให้ข้อมูลเชิงลึกและรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องที่นำเสนอ |
Pitching มีกี่แบบ ?
อย่างที่กล่าวไปว่า Pitching นั้นมีหลากหลายรูปแบบ โดยสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามจุดมุ่งหมายและสถานการณ์ในการนำเสนอ
1.Elevator Pitch (การนำเสนอแบบสั้น)
เป็นการ Pitch ที่กระชับที่สุด ใช้เวลา 30 วินาที - 2 นาที เปรียบเสมือนการนำเสนอไอเดียโดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ เท่ากับการโดยสารลิฟต์ มักใช้ในสถานการณ์ที่คุณมีโอกาสพบปะกับบุคคลสำคัญโดยไม่ได้นัดหมายล่วงหน้า ต้องการแนะนำไอเดียอย่างรวดเร็ว ใช้ในงาน networking หรือโอกาสที่มีเวลาจำกัด หรือต้องการดึงดูดความสนใจเพื่อให้มีการพูดคุยต่อ
2.Investor Pitch (การนำเสนอต่อนักลงทุน)
การ Pitch ไอเดียหรือธุรกิจต่อนักลงทุน โดยมุ่งเน้นระดมเงินทุน โอกาสในการลงทุน ผลตอบแทน หรือแข่งขันในเวที Startup Pitching มักใช้เวลาประมาณ 10-20 นาที โดยมีรายละเอียดมากขึ้น อาทิ ข้อมูลทางการเงิน แผนธุรกิจ และกลยุทธ์การเติบโตในอนาคต
3.Sales Pitch (การนำเสนอเพื่อขายสินค้าและบริการ)
การ Pitch เพื่อขายสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้าหรือผู้มีอำนาจตัดสินใจ โดยมุ่งเน้นที่ คุณค่าและประโยชน์ของสินค้า และการเจรจาปิดการขาย
4.Corporate Pitch (การนำเสนอในองค์กร)
การ Pitch ไอเดีย โครงการ หรือข้อเสนอใหม่ๆ ให้กับ ผู้บริหาร ทีม หรือองค์กร เพื่อขอการสนับสนุน อาทิ เสนอโปรเจกต์ใหม่ในองค์กร ขอโอกาสเพิ่มงบประมาณหรือทรัพยากร หรือนำเสนอแนวทางพัฒนาองค์กร เป็นต้น
5.Product Pitch (การนำเสนอผลิตภัณฑ์)
การ Pitch สินค้าหรือบริการแบบเฉพาะเจาะจง โดยเน้น ฟีเจอร์ การใช้งาน และประโยชน์ของสินค้า โดยมักจะใช้เมื่อมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ การสาธิตผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าหรือพาร์ทเนอร์
หรือใช้ในงานแสดงสินค้าหรืองานเปิดตัว เป็นต้น
Pitching มีหลากหลายรูปแบบ แบ่งตามจุดมุ่งหมายและสถานการณ์ในการนำเสนอ
ข้อควรรู้และการเตรียมตัวก่อน Pitching
การ Pitching ไม่ใช่แค่การพูดนำเสนอไอเดีย แต่เป็นการโน้มน้าวและสร้างความเชื่อมั่น ให้กับผู้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุน ลูกค้า หรือผู้บริหาร ฉะนั้น นอกจากการเตรียมตัวที่ดีจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ประสบความสำเร็จแล้ว ยังต้องอาศัยทักษะหลายด้าน ต่อไปนี้
- เข้าใจเป้าหมายและกลุ่มผู้ฟัง : การรู้จักผู้ฟังถือเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้การ Pitching ประสบความสำเร็จ โดยผู้ Pitch ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับผู้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุน ลูกค้า หรือพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ เพื่อปรับการนำเสนอให้ตรงกับความสนใจและความต้องการของพวกเขา
- ทำให้การสื่อสารน่าสนใจ กระชับ และตรงประเด็น : เพราะการ Pitching นั้นใช้ระยะเวลาเพียงสั้นๆ การสื่อสารที่นำเสนอข้อมูลสำคัญทั้งหมดอย่างกระชับและตรงประเด็นภายในเวลาที่จำกัดจึงสำคัญ รวมไปถึงควรหลีกเลี่ยงข้อมูลที่ไม่จำเป็น ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย อย่าใช้ศัพท์เทคนิคมากเกินไป
- เตรียมข้อมูลสนับสนุนให้ครบถ้วน : การมีข้อมูลทางมีสถิติ หรือกรณีศึกษา จะสามารถเสริมความน่าสนใจและความน่าเชื่อถือให้กับการ Pitching ของคุณได้ อย่างไรก็ดี ด้วยเวลาอันจำกัด อย่าลืมว่า ข้อมูลในสไลด์ควรเลือกเฉพาะข้อมูลที่สำคัญและนำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจง่าย
- เตรียมตอบคำถามและข้อโต้แย้ง : สุดท้าย แน่นอนว่าเมื่อ Pitching จบย่อมมีคำถามจากผู้ฟังแน่นอน ฉะนั้น การคาดการณ์คำถามที่อาจเกิดขึ้นและเตรียมคำตอบไว้ล่วงหน้า ฝึกการตอบคำถามอย่างมั่นใจและตรงประเด็นก็เป็นเรื่องที่ต้องฝึกฝนเช่นกัน
- ฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ : การจะทำให้การ Pitching มั่นใจและมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ การฝึกซ้อมการนำเสนอ โดยแนะนำให้ฝึกต่อหน้าผู้ฟัง เพื่อรับฟีดแบ็คและปรับปรุงการนำเสนอของคุณ
หัวใจสําคัญของการ Pitching ให้ผู้ฟังสนใจ ได้งานหรือได้เงินลงทุน
การ Pitching ที่ประสบความสำเร็จต้องทำให้ ผู้ฟังสนใจ เชื่อมั่น และตัดสินใจลงทุนหรือให้โอกาสคุณ ได้อย่างรวดเร็ว ต่อไปนี้คือ 6 สิ่งที่ต้องมีในเนื้อหาการ Pitching และสไลด์ เพื่อให้คุณ Pitching อย่างมืออาชีพและสร้างโอกาสได้จริง
- Problem & Opportunity : เริ่มต้นด้วย Hook ที่ดึงดูด เปิดเรื่องให้น่าสนใจภายใน 10–30 วินาทีแรก เช่น ปัญหาคืออะไร และมีโอกาสทางธุรกิจมากแค่ไหน โดยชี้ให้เห็นว่าโอกาสทางธุรกิจอยู่ตรงไหน และทำไมตอนนี้ถึงเป็นเวลาที่เหมาะสมในการแก้ปัญหานี้
- Solution & Value Proposition : วิธีแก้ไขปัญหาและมูลค่าที่สร้างได้ โดยอธิบาย Solution อย่างชัดเจน ว่ามีความแตกต่างหรือดีกว่าทางเลือกอื่นๆ อย่างไร สำคัญคือต้องแสดงให้เห็นว่า Solution นี้สร้างมูลค่าได้จริง เพราะหากไม่มีมูลค่า ก็ไม่มีแรงจูงใจให้ผู้ใช้หรือนักลงทุนสนใจ
- Business Model : โมเดลธุรกิจของคุณและความได้เปรียบทางการแข่งขัน ระบุชัดเจนว่า รายได้จะมาจากไหน และต้นทุนหลักคืออะไร รวมถึงไปถึงกลยุทธ์ที่จะสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาด
- Competition & Market Positioning : เข้าใจตลาดและคู่แข่ง เพราะทุกตลาดมีการแข่งขัน อย่าลืมที่จะวิเคราะห์คู่แข่งและเน้น จุดแข็งของธุรกิจคุณ ที่สามารถสร้างความแตกต่างได้
- Founding Team : นักลงทุนไม่ได้ลงทุนแค่ในธุรกิจ แต่ลงทุนในทีม แสดงให้เห็นว่าทีมของคุณมีความสามารถ ประสบการณ์ และทักษะที่จำเป็นต่อการทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ
- Fundraising & Investment Return : แผนการใช้เงินและผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับ โดยอธิบายว่าต้องการเงินทุน เท่าไหร่ และจะนำไปใช้ทำอะไร แสดงให้เห็นว่าเม็ดเงินที่ได้รับจะช่วยสร้างมูลค่าให้ธุรกิจและนำไปสู่การเติบโตและผลตอบแทนอย่างไร
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://techsauce.co/news/paul-o-brien-mediatech-venture-share-pitch-deck-startup
ความสำเร็จในการ Pitching เริ่มต้นจากการเข้าใจผู้ฟัง และปรับการสื่อสารให้เหมาะสมกับแต่ละกลุ่ม เพราะ Pitching ไม่ใช่แค่การพูด แต่เป็นการโน้มน้าวให้ผู้ฟัง เชื่อและตัดสินใจลงทุนหรือให้โอกาสเรา ฉะนั้น ในทุกๆ การ Pitching จึงไม่เพียงแต่การบอกเล่าไอเดียหรือข้อมูลที่เรามี แต่ต้องสามารถจับใจผู้ฟังด้วยการตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขา แสดงความมั่นใจ และทำให้พวกเขารู้สึกว่า เราเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนหรือความร่วมมือในโอกาสนั้นๆ
นอกจากนี้ สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเงินทุนเพื่อบริหารธุรกิจ บัตรเครดิต KTC สามารถเป็นตัวช่วยที่ดีในการจัดการกระแสเงินสด ช่วยให้คุณมีสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น ค่าใช้จ่ายเบื้องต้น การซื้ออุปกรณ์ หรือการลงทุนขยายธุรกิจ ด้วยไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี พร้อมสิทธิประโยชน์อีกมากมาย อาทิ การรับเครดิตเงินคืน และคะแนน KTC FOREVER ที่ใช้แลกรับเป็นเครดิตเงินคืนหรือเป็นส่วนลดเพิ่มเติมได้ สะดวกสบายทุกการใช้จ่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ รองรับทุกการใช้จ่ายทางธุรกิจ Pitch ให้ปัง บริหารเงินให้คล่อง ด้วยบัตรเครดิต KTC
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC