ในโลกธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง การที่แบรนด์จะอยู่รอดและเติบโตได้นั้น Brand Awareness คือหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพราะไม่ว่าสินค้าของคุณจะดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีใครรู้จัก โอกาสในการเติบโตก็เป็นไปได้ยาก แต่การจะสร้างการจดจำก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องมีการวางแผนธุรกิจที่ดี เดี๋ยววันนี้ KTC จะพาทุกคนมาเจาะลึกเรื่องนี้ให้เอง
เลือกอ่านตามหัวข้อ
Brand Awareness คืออะไร
Brand Awareness คือ การสร้างการรับรู้ และจดจำในแบรนด์ให้เกิดขึ้นในใจของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นชื่อ โลโก้ สโลแกน หรือเอกลักษณ์ต่าง ๆ ของแบรนด์ เมื่อผู้บริโภคสามารถจดจำ และนึกถึงแบรนด์ได้ในทันทีที่ต้องการสินค้าหรือบริการในหมวดหมู่นั้น ๆ
ประโยชน์ของการสร้าง Brand Awareness คืออะไร
หลายคนอาจสงสัยว่า Brand Awareness คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร จริง ๆ แล้วการสร้างการรับรู้ในแบรนด์มีประโยชน์มากมายต่อธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นด้านภาพลักษณ์ เพิ่มยอดขาย หรือการแข่งขันในตลาด มาดูกันว่ามีประโยชน์อะไรบ้าง
เสริมสร้างภาพลักษณ์
เมื่อผู้บริโภครู้จักและจดจำแบรนด์ได้ พวกเขาจะเริ่มเชื่อมโยงคุณค่าและคุณภาพเข้ากับแบรนด์ของคุณ ทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์แข็งแกร่งขึ้น และสร้างความน่าเชื่อถือในสายตาของลูกค้า
สร้างการจดจำให้กับลูกค้า
Brand Awareness คือกุญแจสำคัญที่ทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ของคุณได้ เมื่อพวกเขาต้องการซื้อสินค้าในหมวดหมู่ที่คุณขาย แบรนด์ของคุณจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกแรก ๆ ที่พวกเขานึกถึง
เพิ่มโอกาสแข่งขันในตลาด
การมี Brand Awareness ที่แข็งแกร่งช่วยให้แบรนด์มีความได้เปรียบในการแข่งขัน เพราะผู้บริโภคมักเลือกแบรนด์ที่พวกเขารู้จัก และคุ้นเคยมากกว่าแบรนด์ที่ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน
ลดต้นทุนในการทำตลาด
เมื่อแบรนด์เป็นที่รู้จักและจดจำ การทำการตลาดในครั้งต่อ ๆ ไปจะง่ายขึ้น และใช้งบประมาณน้อยลง เพราะไม่ต้องเริ่มสร้างการรับรู้ใหม่ทั้งหมด
3 กฎเหล็กในการสร้าง Brand Awareness ให้เป็นที่จดจำ
การจะสร้าง Brand Awareness คือการต้องมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนและเป็นระบบ โดยมี 3 กฎสำคัญที่ต้องทำให้ได้
1. การวางตำแหน่งแบรนด์ (Brand Positioning)
การกำหนดตำแหน่งของแบรนด์ให้ชัดเจนว่าคุณคือใคร อยู่ในตลาดไหน และมีจุดยืนอย่างไร จะช่วยให้ผู้บริโภคเข้าใจและจดจำแบรนด์ของคุณได้ง่ายขึ้น ทำให้การสร้าง Brand Awareness เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
2. การสร้างเอกลักษณ์ (Brand Identity)
เอกลักษณ์ของแบรนด์ต้องโดดเด่นและจดจำง่าย ไม่ว่าจะเป็นโลโก้ สี ฟอนต์ หรือการสื่อสาร ทั้งหมดต้องสอดคล้อง และสะท้อนตัวตนของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน
3. การสร้างประสบการณ์ที่มีต่อแบรนด์ (Brand Experience)
ประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับจากแบรนด์ต้องสม่ำเสมอและน่าประทับใจ เพราะนี่คือสิ่งที่จะทำให้พวกเขาจดจำ และกลับมาใช้บริการซ้ำ
ตัวอย่างวิธีการสร้าง Brand Awareness ในธุรกิจต่าง ๆ
เพราะ Brand Awareness คือสิ่งที่ทุกธุรกิจต้องสร้าง แต่แต่ละประเภทธุรกิจก็มีวิธีการที่แตกต่างกันไป มาดูตัวอย่างกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจต่าง ๆ ที่คุณสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้
- ร้านอาหาร : การสร้างเอกลักษณ์ผ่านการตกแต่งร้านในสไตล์เฉพาะตัว เช่น การใช้โทนสีที่โดดเด่น จัดมุมถ่ายรูปสวย ๆ รวมถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังสร้างเมนูพิเศษที่หาทานที่ไหนไม่ได้ ทำให้ลูกค้าอยากแชร์ประสบการณ์ในโซเชียลมีเดีย
- ร้านเครื่องสำอาง : การสร้างประสบการณ์แบบครบวงจร ตั้งแต่การมีจุดทดลองผลิตภัณฑ์ที่สะอาด และน่าใช้ การจัดเวิร์คช็อปสอนแต่งหน้าฟรี การผลิตคลิปสั้นสาธิตการใช้ผลิตภัณฑ์ และการให้คำแนะนำส่วนตัวจากผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ลูกค้าได้เรียนรู้และมั่นใจในการใช้สินค้า
- ร้านเสื้อผ้า : การนำเสนอไลฟ์สไตล์ผ่านการจัดแสดงสินค้าที่สร้างแรงบันดาลใจ การสร้างคอนเทนต์แนะนำการแต่งตัว การออกแบบแพคเกจจิ้งที่สวยงาม และการสร้างชุมชนแฟชั่นผ่านแฮชแท็กเฉพาะ ทำให้ลูกค้ารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์
- ร้านกาแฟ : การสร้างบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยการตกแต่งและกลิ่นหอมของกาแฟ การออกแบบแก้วที่มีลวดลายเฉพาะตัว การคัดสรรเมล็ดกาแฟพิเศษตามฤดูกาล และการจัดกิจกรรมสอนชงกาแฟ สร้างให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับมากกว่าแค่เครื่องดื่ม แต่ได้สัมผัสประสบการณ์พิเศษที่แตกต่าง
- ร้านหนังสือ : การจัดพื้นที่อ่านหนังสือที่สะดวกสบาย การแบ่งหมวดหมู่ที่ค้นหาง่าย การจัดกิจกรรมพบนักเขียน และการสร้างชุมชนนักอ่านผ่านการจัดบุ๊คคลับ ทำให้ร้านกลายเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ และแลกเปลี่ยนที่ลูกค้าอยากกลับมาซ้ำ
- ร้านเบเกอรี่ : การนำเสนอสูตรเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร การจัดวางผลิตภัณฑ์ที่ดึงดูดสายตา การสร้างกลิ่นหอมของขนมอบสดใหม่ และการเปิดให้ลูกค้าได้ชมขั้นตอนการทำขนม ทำให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ความอร่อยตั้งแต่ก้าวเข้าร้าน
สรุปบทความ Brand Awareness คืออะไร ทำไมสำคัญกับทุกธุรกิจ
เพราะ Brand Awareness คือพื้นฐานสำคัญของความสำเร็จทางธุรกิจ การสร้างการรับรู้ และจดจำในแบรนด์ที่ดีจะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และนำไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืน แต่หากธุรกิจคุณยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และยังไม่มีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน พร้อมแก้ปัญหานี้ให้กับคุณ ด้วยวงเงินสินเชื่อก้อนใหญ่ สมัครง่าย ไม่ยุ่งยาก และยังมีบริการ พี่เบิ้ม Delivery ไปประเมินราคารถให้ถึงหน้าบ้าน อนุมัติไวใน 1 ชม. รับเงินก้อนได้ทันที โดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน และผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน โดยสามารถเลือกรับบัตรกดเงินสด KTC พี่เบิ้ม ไว้ใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉินได้อย่างอุ่นใจ หากไม่มีการกดใช้ก็ไม่เสียดอกเบี้ยแต่อย่างใด
*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร*
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด*
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21%-24% ต่อปี*
*กรณีที่รถยังผ่อนไม่หมด สามารถนำมาประเมินวงเงินเบื้องต้นก่อนได้*