เพื่อแบ่งเบาภาระของสมาชิก KTC ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เคทีซี จึงมีมาตรการช่วยเหลือด้านสินเชื่อสำหรับสมาชิก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 – 31 ธันวาคม 2565 ดังนี้

สมาชิกบัตรเครดิต KTC สมาชิกบัตรกดเงินสด KTC PROUD
เปลี่ยนประเภทหนี้บัตรเครดิต
เป็นหนี้เงินกู้สินเชื่อส่วนบุคคลระยะยาว
ดอกเบี้ยฯ 14% ต่อปี นาน 48 เดือน
ผ่อนผันการชำระหนี้บัตรกดเงินสด
เป็นหนี้เงินกู้สินเชื่อส่วนบุคคลระยะยาว
ดอกเบี้ยฯ 23% ต่อปี นาน 48 เดือน

ระยะเวลา : 1 มกราคม 2565 – 31 ธันวาคม 2565

คุณสมบัติ: 
1.สงวนสิทธิ์เฉพาะสมาชิกทีมีสถานภาพบัญชีปกติ หรือไม่ถูกจัดชั้นเป็นหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL) หรือ ไม่ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยเกินกว่า 90 วัน หรือ 3 เดือน นับแต่วันครบกำหนดชำระ ณ วันที่ 1 มีนาคม 2563
2. เฉพาะสมาชิกที่ได้รับการอนุมัติบัตรเครดิต KTC / บัตรกดเงินสด KTC PROUD ก่อนวันที่ 3 กันยายน 2564 เท่านั้น
3. ขอสงวนสิทธิ์ลูกค้าบัตรเครดิตประเภทใช้เงินฝากเป็นหลักประกันวงเงินบัตรเครดิต ไม่สามารถเข้าร่วมรายการได้
4. ขอสงวนสิทธิ์ลูกค้าบัตรเครดิตประเภทบัตรเครดิต Corporate และ Government ไม่สามารถเข้าร่วมรายการได้
5. สมาชิกบัตรกดเงินสดที่ได้รับอัตราดอกเบี้ยฯ

หมายเหตุ :
ลูกค้าต้องส่งหลักฐานการถูกลดเงินเดือน หรือถูกเลิกจ้าง ส่วนนิติบุคคลต้องส่งเอกสารที่มีหลักฐานเพื่อยืนยันว่าได้รับผลกระทบ
มาที่ credit@ktc.co.th โดยใช้หัวข้อว่า : แปลงหนี้ 48 เดือน

 

เงื่อนไขการเปลี่ยนประเภทหนี้บัตรเครดิต KTC :
1. การเปลี่ยนประเภทหนี้บัตรเครดิตเป็นหนี้เงินกู้สินเชื่อส่วนบุคคลระยะยาวนี้ จะเป็นยอดหนี้รวมเฉพาะของบัตรเครดิตส่วนบุคคล และบัตรเสริมทุกใบภายใต้บัญชีของบัตรเครดิตหลัก รวมถึงยอดเงินต้นคงค้างที่ยังไม่เรียกเก็บของรายการผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิต
2. บัตรเครดิตทุกใบภายใต้บัญชีของบัตรเครดิตหลักดังกล่าว จะถูกระงับการใช้ไว้ชั่วคราว จนกว่าจะชำระหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลระยะยาวเสร็จสิ้นครบถ้วน รวมถึงไม่สามารถใช้บริการหักค่าใช้จ่ายรายเดือนอัตโนมัติ (KTC AUTO PAYMENT) ได้ตั้งแต่วันที่บันทึกรายการเงินกู้
3.สมาชิกจะต้องชำระเงินต้นที่เกินกว่าวงเงินที่ได้รับอนุมัติ ก่อนการดำเนินการเปลี่ยนประเภทหนี้ สำหรับดอกเบี้ยฯ และค่าธรรมเนียม ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม และค่าใช้จ่ายอื่นใดอันเกิดจากการใช้บัตรเครดิตที่เกิดขึ้นก่อนวันที่เคทีซีบันทึกรายการเงินกู้ จะถูกเรียกเก็บในงวดสุดท้ายของการผ่อนชำระสินเชื่อส่วนบุคคลระยะยาว หรือ งวดสุดท้ายของการปิดบัญชีสินเชื่อดังกล่าว
4. สมาชิกจะต้องชำระค่าอากรแสตมป์สำหรับหนี้เงินกู้จากการเปลี่ยนประเภทหนี้
5. กรณีผิดนัดชำระหนี้งวดใดงวดหนึ่ง อัตราดอกเบี้ยฯ จะถูกปรับเป็นอัตราดอกเบี้ยฯ 16% ต่อปี ตั้งแต่วันที่บันทึกรายการเงินกู้
6. สงวนสิทธิ์ในการพิจารณาช่วยเหลือเฉพาะสมาชิกที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด COVID-19  รวมทั้งขอข้อมูลหรือเอกสารประกอบการพิจารณา ตามหลักเกณฑ์ที่เคทีซีกำหนด

เงื่อนไขการผ่อนผันการชำระหนี้บัตรกดเงินสด KTC PROUD:
1.บัตรกดเงินสดจะถูกระงับการใช้ไว้ชั่วคราว จนกว่าจะชำระหนี้เงินกู้สินเชื่อส่วนบุคคลระยะยาวเสร็จสิ้นครบถ้วน รวมถึงไม่สามารถใช้บริการหักค่าประกันรายเดือนอัตโนมัติได้ตั้งแต่วันที่บันทึกรายการเงินกู้
2.สำหรับดอกเบี้ยฯ และค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ยังคงค้างก่อนวันที่บันทึกรายการเงินกู้ จะถูกเรียกเก็บในงวดสุดท้ายของการผ่อนชำระสินเชื่อส่วนบุคคลระยะยาว  หรืองวดสุดท้ายของการปิดบัญชีสินเชื่อดังกล่าว
3.กรณีผิดนัดชำระหนี้งวดใดงวดหนึ่ง อัตราดอกเบี้ยฯ จะถูกปรับเป็นอัตราดอกเบี้ยฯ ปกติของสมาชิกแต่ละราย สูงสุดไม่เกิน 25% ต่อปีตั้งแต่วันที่บันทึกรายการเงินกู้
4.สงวนสิทธิ์ในการพิจารณาช่วยเหลือเฉพาะสมาชิกที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด COVID-19 รวมทั้งขอข้อมูลหรือเอกสารประกอบการพิจารณา ตามหลักเกณฑ์ที่เคทีซีกำหนด

ช่องทางการสมัคร:
• ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการที่ www.ktc.co.th/balancetransfer 
• จุดบริการ KTC TOUCH สาขาในกรุงเทพฯ ภายในวันและเวลาทำการ 
  ดูรายละเอียดการเปิดให้บริการของ KTC TOUCH

ช่องทางการชำระค่างวดสินเชื่อส่วนบุคคลระยะยาว:
• KTC TOUCH ทุกสาขา
• ธนาคารกรุงไทย ทุกช่องทาง
• Mobile Banking ทุกธนาคาร
หมายเหตุ: ไม่สามารถชำระผ่านบริการหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ (Direct Debit)

หมายเหตุ กรณีต่างจังหวัด:
1. สมาชิกจะต้องรับผิดชอบชำระค่าบริการของเจ้าหน้าที่รับ-ส่ง เอกสาร และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี) กับผู้ให้บริการรับชำระ ณ วันเซ็นสัญญาสูงสุด 230 บาท
2. ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงวันรับเอกสารหลังยืนยันเรียบร้อยแล้ว สมาชิกจะต้องเริ่มต้นทำรายการใหม่ทั้งหมดอีกครั้ง
3. เคทีซีสงวนสิทธิ์การบริการเข้ารับเอกสารในเขตพื้นที่ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส หากสมาชิกในเขตจังหวัดดังกล่าวต้องการเข้าร่วมโครงการ สามารถลงทะเบียนข้างต้นได้ เพื่อนัดรับเอกสารในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงแทน