เงินสงเคราะห์บุตรประกันสังคม ลงทะเบียนอย่างไร ใครได้รับบ้าง?

เงินสงเคราะห์บุตรประกันสังคม เป็นสิทธิ์ที่พ่อแม่ผู้ประกันตนสามารถขอรับได้ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตร วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักกับเงื่อนไข วิธีลงทะเบียน และรายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับเงินสงเคราะห์บุตร รวมถึงทางเลือกในการบริหารจัดการเงินสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการความคล่องตัวในการใช้จ่าย

เลือกอ่านตามหัวข้อ

• เงินสงเคราะห์บุตรประกันสังคมคืออะไร?
• ใครมีสิทธิ์ได้รับเงินสงเคราะห์บุตร?
• วิธีลงทะเบียนขอรับเงินสงเคราะห์บุตรประกันสังคม
• เงินสงเคราะห์บุตรประกันสังคม ได้รับเท่าไหร่ และโอนเงินวันไหน?
• บริหารค่าใช้จ่ายบุตรอย่างไรให้คล่องตัว?
• KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ทางเลือกเสริมสภาพคล่อง
• ข้อดีของ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน

เงินสงเคราะห์บุตรประกันสังคมคืออะไร?

เงินสงเคราะห์บุตรประกันสังคมเป็นเงินช่วยเหลือที่สำนักงานประกันสังคมจ่ายให้แก่ผู้ประกันตนที่มีบุตร เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรจนกว่าจะอายุครบ 6 ปี โดยสามารถรับเงินช่วยเหลือได้เป็นรายเดือน และมีการปรับอัตราตามนโยบายของรัฐบาล

ใครมีสิทธิ์ได้รับเงินสงเคราะห์บุตร?

ผู้ประกันตนที่สามารถขอรับเงินสงเคราะห์บุตรได้ต้องเข้าเงื่อนไขต่อไปนี้:

• เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 หรือมาตรา 39
• ส่งเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายใน 36 เดือนก่อนยื่นคำขอ
• มีบุตรที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี และต้องไม่เกิน 3 คน
• บุตรต้องเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายและอยู่ในการอุปการะของผู้ประกันตน

วิธีลงทะเบียนขอรับเงินสงเคราะห์บุตรประกันสังคม

การลงทะเบียนสามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่

1. ยื่นเอกสารที่สำนักงานประกันสังคม

• กรอกแบบฟอร์ม สปส.2-01
• แนบสำเนาสูติบัตรของบุตร
• สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากเพื่อรับเงินโอน
• สำเนาบัตรประชาชนของผู้ยื่นคำขอ

2. ลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม

• เข้าเว็บไซต์ www.sso.go.th
• เลือกเมนู "บริการอิเล็กทรอนิกส์"
• กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน และอัปโหลดเอกสารที่กำหนด

3. ยื่นผ่านนายจ้าง (สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33)

• นายจ้างสามารถเป็นตัวแทนในการดำเนินการขอรับเงินสงเคราะห์บุตรแทนพนักงานได้

เงินสงเคราะห์บุตรประกันสังคม ได้รับเท่าไหร่ และโอนเงินวันไหน?

ณ ปี 2568 อัตราเงินสงเคราะห์บุตรอยู่ที่ 1,000 บาทต่อบุตร 1 คน ต่อเดือน โดยสำนักงานประกันสังคมจะโอนเงินให้ทุกวันที่ 20 ของเดือนผ่านบัญชีธนาคารของผู้ประกันตน

บริหารค่าใช้จ่ายบุตรอย่างไรให้คล่องตัว?

แม้เงินสงเคราะห์บุตรจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย แต่บางครั้งอาจไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น เช่น ค่าเทอม ค่ารักษาพยาบาล หรือค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน การมีแหล่งเงินสำรองที่พร้อมใช้จึงเป็นทางเลือกที่ช่วยให้การเงินไม่สะดุด

KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ทางเลือกเสริมสภาพคล่อง

หากต้องการเสริมสภาพคล่องทางการเงิน KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ช่วยคุณได้ด้วยบริการสินเชื่อวงเงินก้อนใหญ่ สมัครได้ทุกอาชีพ อีกทั้งยังมีบริการ พี่เบิ้ม Delivery ไปประเมินราคารถให้ถึงหน้าบ้าน อนุมัติไวใน 1 ชม. รับเงินก้อนได้ทันที โดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน และผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน โดยสามารถเลือกรับบัตรกดเงินสด KTC พี่เบิ้ม ไว้ใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉินได้อย่างอุ่นใจ หากไม่มีการกดใช้ก็ไม่เสียดอกเบี้ยแต่อย่างใด

ข้อดีของ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน

• วงเงินใหญ่รับวงเงินสูงสุด 100%
• อนุมัติไวใน 1 ชั่วโมง ได้เงินใช้ทันใจ ไม่ต้องรอนาน
• ไปหาถึงที่ บริการถึงหน้าบ้าน ตลอด 7 วัน ไม่มีวันหยุด

กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร

เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด

*วงเงินอนุมัติเป็นไปตามความสามารถในการชำระหนี้และราคาประเมินมูลค่ารถ

*อนุมัติไวใน 1 ชั่วโมง รับเงินทันที เมื่อเอกสารครบถ้วนถูกต้องและโอนเงินเข้าบัญชีกรุงไทย

*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21%-24% ต่อปี

กรณีที่รถยังผ่อนไม่หมด สามารถนำมาประเมินวงเงินเบื้องต้นก่อนได้