แผนการตลาด กระบวนการช่วยให้ธุรกิจเติบโต
ในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน แผนการตลาดที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมาย และก้าวนำหน้าคู่แข่ง ซึ่งการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดที่ออกแบบมาอย่างดี ไม่เพียงแต่ช่วยให้ธุรกิจเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืน ในบทความนี้ เราจะสำรวจองค์ประกอบหลักและขั้นตอนที่เกี่ยวข้องในการพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดที่ประสบความสำเร็จ รวมถึงแนะนำช่องทางทำ Digital Marketing ซึ่งเป็นช่องทางการตลาดที่มีส่วนสำคัญต่อวิธีเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจได้อย่างเห็นผล
กลยุทธ์การตลาดที่ดี มีองค์ประกอบอะไรบ้าง
กลยุทธ์ทางการตลาดที่ดี เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจที่จะประสบความสำเร็จ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นควรมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ ยืดหยุ่น และสอดคล้องกับเป้าหมายโดยรวม ทั้งนี้เพื่อขับเคลื่อนให้ธุรกิจเป็นผู้นำในด้านการแข่งขัน โดยองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ธุรกิจประสบความสำเร็จด้านการตลาด มีดังต่อไปนี้
- กำหนดวัตถุประสงค์ของธุรกิจ
การวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด คือการกำหนดวัตถุประสงค์ให้ชัดเจนว่าธุรกิจมีเป้าหมายอะไร ตัวอย่างเช่น เพื่อเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์ สร้างโอกาสในการขายเพิ่มยอดขาย หรือขยายสู่ตลาดใหม่หรือไม่ การกำหนดวัตถุประสงค์ที่เฉพาะเจาะจง ช่วยให้ธุรกิจสามารถนำเสนอแผนการตลาดให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจได้มากที่สุด
- รู้จักกลุ่มเป้าหมาย
การทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย มีความสำคัญต่อการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งธุรกิจจำเป็นต้องวิจัยตลาดอย่างละเอียด เพื่อระบุความต้องการและความชอบของผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้า โดยข้อมูลส่วนนี้ช่วยให้ธุรกิจปรับแต่งแผนการตลาด เลือกช่องทางที่เหมาะสม และพัฒนาเนื้อหาให้น่าสนใจเพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างต่อเนื่อง
- วิเคราะห์คู่แข่ง
การวิเคราะห์คู่แข่งเป็นสิ่งสำคัญในการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด ซึ่งการรู้จุดแข็งและจุดอ่อนของคู่แข่งทางธุรกิจ ช่วยให้ธุรกิจสามารถแยกแยะแบรนด์ของตนเองกับคู่แข่ง เพื่อนำมาพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ คิดค้นโปรโมชั่น เพื่อนำเสนอลูกค้าเป้าหมายได้อย่างตอบโจทย์
- ความโดดเด่นหรือแตกต่างจากคู่แข่ง
การคิดค้นและพัฒนาสินค้าหรือบริการให้มีความโดดเด่น หรือมีความแตกต่างจากคู่แข่ง Unique Value Proposition (UVP) อธิบายว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการช่วยแก้ปัญหาของลูกค้าได้อย่างไร ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากเป็นรากฐานของการวางตำแหน่งทางธุรกิจ
- กำหนดช่องทางการตลาดของธุรกิจ
เมื่อธุรกิจสามารถกำหนดวัตถุประสงค์ ระบุผู้ชมเป้าหมาย และสร้าง UVP แล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการกำหนดช่องทางการตลาด ที่ช่วยให้เข้าถึงลูกค้าหรือผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น สื่อโซเชียลมีเดีย Facebook, YouTube, Instagram, TikTok และ Twitter การตลาดเนื้อหา การตลาดผ่านอีเมล การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนเครื่องมือการค้นหา Google และช่องทางออฟไลน์ เช่น โทรทัศน์ วิทยุ สิ่งพิมพ์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ใบปลิว โบรชัวร์ ป้ายประกาศ เป็นต้น
- กำหนดงบประมาณและจัดสรรทรัพยากร
การวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด จำเป็นต้องมีการจัดสรรงบประมาณและทรัพยากรอย่างเหมาะสม จัดสรรเงินทุนอย่างเพียงพอ และตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีทรัพยากรที่จำเป็น ไม่ว่าจะใช้บุคลากรภายในหรือจ้างบุคคลภายนอกก็ตาม ทั้งนี้เพื่อดำเนินการตามแผนการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ
- ติดตาม ประเมินผล และปรับใช้
กลยุทธ์ทางการตลาดที่ประสบความสำเร็จไม่คงที่หรือตายตัว ดังนั้นควรมีการตรวจสอบและประเมินประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมทำการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์และปรับปรุงผลลัพธ์ให้ประสบผลสำเร็จ
ทั้งหมดนี้คือองค์ประกอบของกลยุทธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ มีส่วนช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตและสามารถแข่งขันได้ในระยะยาว นอกจากนี้ในโลกยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างรอบตัวเชื่อมต่อถึงกันได้ทางออนไลน์ การตลาดออนไลน์หรือ Digital Marketing ได้กลายเป็นเครื่องมือการตลาดที่ทรงประสิทธิภาพ และเป็นช่องทางที่ธุรกิจจำเป็นต้องให้ความสำคัญ
การตลาดออนไลน์ (Digital Marketing) มีกี่ช่องทาง
การวางแผนการตลาดในธุรกิจยุคใหม่มีหลากหลายช่องทาง
1. Search Engine Optimization (SEO)
การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนเครื่องมือการค้นหา Google ด้วยการระบุคำหลัก (Keyword) ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์ที่มีคนค้นหาเยอะ บวกกับเนื้อหาที่มีคุณภาพและน่าสนใจ สามารถตอบข้อสงสัยให้กับผู้เยี่ยมชมได้ สิ่งนี้ช่วยเพิ่มการมองเห็นของลูกค้าหรือผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า และเพิ่มโอกาสการคลิกเข้าดูเว็บไซต์มากขึ้นกว่าเดิม
2. Search Engine Marketing (SEM)
การทำการตลาดผ่านเครื่องมือค้นหา Google เพื่อให้เว็บไซต์ติดอยู่อันดับต้น ๆ ในหน้าแรก ผ่านการซื้อโฆษณา เช่น Google Ads รวมถึงแคมเปญแบบจ่ายต่อคลิก Pay Per Click (PPC) โดยผู้ลงโฆษณาจะจ่ายก็ต่อเมื่อมีคนคลิกโฆษณาของตนเท่านั้น ซึ่งทำให้ SEM เป็นวิธีที่ประหยัดต้นทุนในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและโปรโมตธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการทางออนไลน์ ความสำเร็จของการทำ SEM ขึ้นอยู่กับการวิจัยคำหลัก ความเกี่ยวข้องของข้อความโฆษณา คุณภาพของหน้า Landing Page
3. Content Marketing
การสร้างและเผยแพร่คอนเทนต์คุณภาพที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์สินค้า เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายผ่านทาง บล็อก หรือวิดีโอ ช่วยให้คนรู้จักแบรนด์มากขึ้น ทั้งยังสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้ามากขึ้นด้วย
4. Social Media Marketing
การตลาดบนโซเชียลมีเดียสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ติดตามได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการโปรโมตผลิตภัณฑ์หรือบริการ และการจัดทำโปรโมชั่นต่าง ๆ บนแพลตฟอร์ม เช่น Facebook, Instagram, Twitter และ TikTok ด้วยเนื้อหาและภาพที่น่าสนใจ ช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากสามารถเชื่อมต่อกับผู้ติดตามได้อย่างกว้างขวาง ทั้งยังเป็นช่องทางที่มีศักยภาพในการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์และผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า สิ่งนี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถส่งเสริมความภักดีและความไว้วางใจในแบรนด์ ซึ่งนำไปสู่การรักษาลูกค้าที่เพิ่มขึ้นและการขายซ้ำในที่สุด
5. Email Marketing
การขับเคลื่อนคอนเวอร์ชัน หรือกิจกรรมใด ๆ ก็ตามที่อาจทำให้เกิดมูลค่าแก่สินค้าและบริการในรูปแบบอีเมล ถือเป็นการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า เป้าหมายคือประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร โปรโมชั่น หรือสินค้าเปิดตัวใหม่ต่าง ๆ
6. Influencer Marketing
การร่วมมือกับบุคคลที่มีอิทธิพลบนโซเชียลมีเดีย (Influencer) อาทิ ดารา นักร้อง Bloggers และ Vloggers หรือบุคคลที่มีผู้ติดตามบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจำนวนมาก สำหรับ Macro Influencer มักเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง คนดัง หรือผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่มีผู้ติดตามจำนวนมากกว่าแสนคนหรือแม้แต่หลายล้านคน ในทางกลับกัน Mirco Influencer มีผู้ชมจำนวนน้อยแต่มีส่วนร่วมสูงโดยปกติจะมีผู้ติดตามตั้งแต่ไม่กี่พันคนไปจนถึงหลายหมื่นคน กลุ่มนี้จะมุ่งเน้นไปที่หัวข้อเฉพาะ ทำให้ผู้ติดตามของพวกเขามีความสัมพันธ์และน่าเชื่อถือมากขึ้น และ Nano Influencer ที่มีชุมชนขนาดเล็กแต่มีความภักดีและเฉพาะเจาะจง ซึ่งมักประกอบด้วยผู้ติดตามไม่กี่ร้อยถึงสองสามพันคน กลุ่มนี้มักเก่งในการสร้างการเชื่อมต่อที่แท้จริงและเป็นส่วนตัวกับผู้ชม ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการร่วมมือกับบุคคลที่มีอิทธิพลบนโซเชียลมีเดีย เป็นอีกวิธีการโปรโมตผลิตภัณฑ์หรือบริการแก่ผู้ติดตามที่น่าสนใจ ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ได้เป็นวงกว้าง
7. Affiliate Marketing
การตลาดออนไลน์ ที่เจ้าของแบรนด์ใช้ตัวแทนในการช่วยโปรโมตผลิตภัณฑ์บนเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของตน โดยตัวแทนจะได้รับค่าคอมมิชชันสำหรับการขาย
8. Online Advertising
การโฆษณาบนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ สื่อสังคมออนไลน์ อาทิ Facebook, Instagram, Twitter ฯลฯ เครื่องมือค้นหา หรือแอปมือถือ ในรูปแบบ Banner Ads, Pop-up Ads, Native Ads และ Remarketing Ads ทั้งหมดนี้ช่วยเพิ่มการรับรู้ต่อแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
9. Mobile Marketing
การการตลาดบนมือถือมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจในยุคดิจิทัล ด้วยการใช้งานสมาร์ทโฟนอย่างแพร่หลายในชีวิตประจำวันของผู้คน และจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือที่เพิ่มมากขึ้น ธุรกิจจึงไม่สามารถมองข้ามช่องทางอันทรงพลังนี้ไปได้ กลยุทธ์การตลาดบนมือถือช่วยให้ธุรกิจสามารถมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายในลักษณะที่เป็นส่วนตัว นำเสนอโปรโมชั่นได้แบบเรียลไทม์ ดังนั้นการตลาดบนมือถือจึงเป็นช่องทางที่ช่วยให้ธุรกิจรักษาความสามารถในการแข่งขันได้ในระยะยาว
10. Analytics and Tracking
เครื่องมือสำหรับตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า ในรูปแบบการเก็บสถิติโดยใช้เครื่องมือเช่น Google Analytics (รอลิงก์บทความที่ 13 July Lot 2) เพื่อช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพกลยุทธ์ทางการตลาดให้ตรงกลุ่มเป้าหมายให้มากยิ่งขึ้น
การวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นเสาหลักของความสำเร็จของธุรกิจ ด้วยการกำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน ทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย วิเคราะห์คู่แข่ง พัฒนาคุณค่าที่ไม่เหมือนใคร เลือกช่องทางการตลาดที่เหมาะสม สร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ จัดสรรทรัพยากร และประเมินประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เป็นเคล็ดลับที่ช่วยยให้ธุรกิจสามารถสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดที่แข็งแกร่ง มีส่วนช่วยขับเคลื่อนการเติบโต และช่วยให้ธุรกิจก้าวไปข้างหน้าในตลาดที่ไม่หยุดนิ่งในปัจจุบัน สำหรับธุรกิจที่ต้องการเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน วางกลยุทธ์ทางการตลาดให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้า แต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ขอแนะนำ MAAI BY KTC ระบบบริหารจัดการ CRM และ DIGITAL LOYALTY PLATFORM แบบครบวงจร
MAAI Platform ตอบโจทย์การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า
ที่เข้าใจมุมมองธุรกิจ ตอบโจทย์การทำระบบการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า ด้วยประสบการณ์กว่า 25 ปี ที่มุ่งสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า MAAI BY KTC ชูจุดเด่นด้วยระบบ Loyalty ที่เข้าใจทุกความต้องการของธุรกิจ และระบบการแลกคะแนนกับเครือข่ายพันธมิตรที่หลากหลาย กว่า 3,500 จุด และยังสามารถใช้คะแนน MAAI สแกน จ่ายที่ร้านถุงเงินกว่า 1.8 ร้านค้าทั่วประเทศ เชื่อมต่อธุรกิจของคุณเข้ากับเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่ง มีระบบจัดการหลังบ้าน และเลือกสิทธิประโยชน์ดี ๆ ให้กับลูกค้าได้ด้วยตัวเอง ช่วยรักษาฐานลูกค้าเก่า พร้อมดึงดูดลูกค้าใหม่ด้วย Digital CRM ผ่านเครือข่ายพันธมิตร หากธุรกิจของคุณสนใจในการทำ Digital Loyalty Platform ติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-123-5678
กระตุ้นยอดขาย ธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดด สมัครแอป MAAI BY KTC