อสังหาริมทรัพย์ ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้คนเริ่มให้ความสนใจ เพราะสามารถต่อยอดด้วยการลงทุนให้เงินต่อเงิน แต่อาจยังมีหลายคนที่ไม่ทราบว่าอสังหาริมทรัพย์คืออะไร ต่างกับสังหาริมทรัพย์อย่างไร หรือควรรู้อะไรเกี่ยวกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์บ้าง ในบทความนี้จึงได้รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อผู้ที่กำลังสนใจในอสังหาริมทรัพย์ จะมีอะไรบ้างไปดูกัน!
เลือกอ่านตามหัวข้อ
อสังหาริมทรัพย์คืออะไร?
อสังหาริมทรัพย์ (Real Estate) หมายถึงทรัพย์สินที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ หรือก็คือที่ดินและอาคารต่าง ๆ เช่น บ้าน, คอนโดมิเนียม, อาคารพาณิชย์ และโรงงาน รวมถึงสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ หรือทรัพย์ตามธรรมชาติที่อยู่บนที่ดินนั้น ๆ นอกจากนี้ อสังหาริมทรัพย์ยังหมายถึงกรรมสิทธิ์ในที่ดินอีกด้วย
การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นทางเลือกที่มีความเสี่ยงต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนประเภทอื่น เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มที่มูลค่าจะเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา นอกจากนี้ยังสามารถสร้างรายได้ประจำจากการเช่า ทำให้อสังหาริมทรัพย์เป็นตัวเลือกที่นิยมสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้าง Passive Income จากการลงทุนในระยะยาว
ประเภทของอสังหาริมทรัพย์มีอะไรบ้าง?
แน่นอนว่าเมื่อทราบความหมายของอสังหาริมทรัพย์กันไปแล้ว อีกหนึ่งข้อสงสัยถัดมาก็คือประเภทของอสังหาริมทรัพย์นั่นเอง อสังหาริมทรัพย์มีอะไรบ้าง? อ่านข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่าง ๆ 5 กลุ่มหลักที่รวบรวมไว้ในหัวข้อนี้เลย!
1. อสังหาริมทรัพย์เพื่อการเกษตร
อสังหาริมทรัพย์เพื่อการเกษตร หมายถึงที่ดินและทรัพย์สินที่ใช้สำหรับกิจกรรมทางการเกษตร เช่น การเพาะปลูกพืช, การเลี้ยงสัตว์, การทำสวน หรือการผลิตผลผลิตทางเกษตรอื่น ๆ โดยอสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้รวมพื้นที่เพาะปลูก, ฟาร์ม, สวนผลไม้ และแหล่งน้ำที่ใช้ในการเกษตรกรรมทั้งหมด
การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการเกษตรมักจะมุ่งเน้นที่การใช้ทรัพย์สินเพื่อเพิ่มผลผลิตและสร้างรายได้จากกิจกรรมทางการเกษตร ฉะนั้น การเลือกซื้อที่ดินหรือทรัพย์สินประเภทนี้ควรคำนึงถึงปัจจัยหลายประการ เช่น คุณภาพของดิน, แหล่งน้ำ, สภาพอากาศ หรือความสามารถในการเข้าถึงตลาดเพื่อขายผลผลิต เป็นต้น
2. อสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย
อสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย หมายถึงที่ดินและทรัพย์สินที่ใช้สำหรับการอยู่อาศัยของบุคคลหรือครอบครัว ซึ่งรวมบ้าน, คอนโดมิเนียม, ทาวน์เฮาส์, อพาร์ตเมนต์ และอาคารที่พักอาศัยประเภทอื่น ๆ โดยอสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้มุ่งเน้นการเป็นที่พักที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้อยู่อาศัย โดยการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยมักจะเกี่ยวข้องกับการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองหรือการซื้อเพื่อให้เช่า ซึ่งสามารถสร้างรายได้จากค่าเช่าและมีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในประเภทอื่น ๆ
3. อสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์
อสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ หมายถึงที่ดินและทรัพย์สินที่ใช้สำหรับกิจกรรมทางธุรกิจและการค้า เช่น อาคารสำนักงาน, ศูนย์การค้า, ร้านค้า และศูนย์ประชุม ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการดำเนินธุรกิจและสร้างรายได้จากการดำเนินการทางการค้า โดยอสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้มีความสำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจและการค้านั่นเอง
อสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์มีหลายประเภทและสามารถใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย เช่น อาคารสำนักงานที่ให้บริการพื้นที่ทำงานสำหรับธุรกิจ, ศูนย์การค้าที่รวบรวมร้านค้าต่าง ๆ ไว้ หรือโรงแรมที่ให้บริการที่พักและความบันเทิง ฉะนั้น การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์มักจะมีโอกาสในการสร้างรายได้จากค่าเช่าและมูลค่าทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นเมื่อมีการพัฒนาหรือขยายพื้นที่ธุรกิจ
4. อสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม
อสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม หมายถึงที่ดินและทรัพย์สินที่ใช้สำหรับกิจกรรมทางอุตสาหกรรมและการผลิต ซึ่งรวมถึงโรงงาน, คลังสินค้า, สถานที่ผลิต และพื้นที่สำหรับจัดการวัตถุดิบ โดยอสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้มุ่งเน้นการสนับสนุนกระบวนการผลิตและการดำเนินงานของธุรกิจอุตสาหกรรม โดยมีลักษณะการออกแบบที่เหมาะสมกับการทำงานของเครื่องจักร ระบบการจัดเก็บ และการจัดการห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมนั้น สามารถสร้างรายได้จากการเช่าพื้นที่ให้กับธุรกิจอุตสาหกรรมหรือการดำเนินธุรกิจการผลิตเอง
5. อสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักผ่อน
อสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักผ่อน หมายถึงที่ดินและทรัพย์สินที่ออกแบบมาเพื่อให้บริการด้านการพักผ่อนหย่อนใจต่าง ๆ เช่น รีสอร์ต, วิลล่า, โรงแรม, และบ้านตากอากาศ อสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้มักตั้งอยู่ในสถานที่ที่มีบรรยากาศดีหรือสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการพักผ่อน เช่น ชายทะเล ภูเขา หรือแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้มักจะมุ่งเน้นที่การดึงดูดนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่ต้องการใช้เวลาในการพักผ่อน ซึ่งสามารถสร้างรายได้จากการเช่า หรือการดำเนินกิจกรรมท่องเที่ยวและบริการในสถานที่นั้น ๆ
อสังหาริมทรัพย์กับสังหาริมทรัพย์ต่างกันอย่างไร?
มาถึงตรงนี้ เราได้ทำความรู้จักคร่าว ๆ เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์กันไปแล้ว แต่อสังหาริมทรัพย์กับสังหาริมทรัพย์ต่างกันอย่างไรบ้าง สามารถอธิบายได้ดังนี้
อสังหาริมทรัพย์
- ลักษณะ : อสังหาริมทรัพย์หมายถึงทรัพย์สินที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ซึ่งรวมถึงที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ตั้งอยู่บนที่ดิน เช่น บ้าน, คอนโดมิเนียม, อาคารสำนักงาน หรือโรงงาน เป็นต้น
- การใช้งาน : ใช้สำหรับการอยู่อาศัย, การพักผ่อน, การพาณิชย์, การเกษตร หรืออุตสาหกรรม โดยอสังหาริมทรัพย์มักจะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง และมีการซื้อขายหรือเช่าในตลาดอสังหาริมทรัพย์
สังหาริมทรัพย์
- ลักษณะ : สังหาริมทรัพย์หมายถึงทรัพย์สินที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ซึ่งรวมถึงสิ่งของที่ไม่ติดอยู่กับที่ดิน เช่น เฟอร์นิเจอร์, รถยนต์, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และทรัพย์สินส่วนบุคคลอื่น ๆ
- การใช้งาน : ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น โทรศัพท์มือถือ, ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงาน หรือการใช้งานอื่น ๆ โดยสามารถย้ายไปยังสถานที่อื่นได้ตามต้องการ
ก่อนเริ่มการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ควรรู้อะไรบ้าง?
ก่อนที่จะเริ่มลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ มีหลายปัจจัยที่ควรทราบและพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มอัตราความสำเร็จ โดยยกตัวอย่างดังต่อไปนี้
- ศึกษาตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ที่สนใจ เพื่อเข้าใจแนวโน้มการเติบโต ราคาตลาดปัจจุบัน และการแข่งขันในตลาด
- ตรวจสอบสถานะทางการเงิน รวมถึงงบประมาณที่สามารถใช้ลงทุนได้และความสามารถในการรับภาระหนี้
- ศึกษาสินเชื่อถูกกฎหมายที่สามารถช่วยในการกู้ซื้อบ้านได้ มีดอกเบี้ยเหมาะสม ไม่เกินความสามารถในการผ่อนจ่าย
- วิเคราะห์อสังหาริมทรัพย์ เช่น การตรวจสอบโครงสร้าง สภาพภายใน และปัญหาที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงตรวจสอบเอกสารทางกฎหมาย เช่น สัญญา สิทธิ์การครอบครอง และข้อจำกัดต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบในภายหลัง
- พิจารณาวัตถุประสงค์ของการลงทุน เช่น การซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง การซื้อเพื่อการปล่อยเช่า หรือการซื้อเพื่อการขายในอนาคต
- วางแผนการจัดการทรัพย์สิน เช่น การเลือกผู้จัดการทรัพย์สินหากคุณไม่สามารถดูแลเอง หรือคิดถึงค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและซ่อมแซมที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
- ตรวจสอบกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน เช่น กฎหมายเกี่ยวกับการเช่า การโอนกรรมสิทธิ์ และภาษีทรัพย์สิน
ข้อดีของการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
สำหรับใครที่มีเป้าหมายในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อต่อยอดเงินก้อนให้รวยยิ่งขึ้น เราได้รวบรวมข้อดีของการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มาไว้แล้ว ดังนี้
- มีรายได้ประจำจากค่าเช่า เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าเช่าคอนโดมิเนียม หรือค่าเช่าอาคารสำนักงาน ซึ่งช่วยให้เกิดกระแสเงินสดที่มั่นคง
- เพิ่มมูลค่าทรัพย์สิน เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มที่จะเพิ่มมูลค่าขึ้นตามกาลเวลา โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว หรือในทำเลที่มีความต้องการสูง
- การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อาจได้รับประโยชน์ทางภาษี เช่น การหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบำรุงรักษาและการจัดการทรัพย์สิน การหักค่าเสื่อมราคาของอาคาร และการลดหย่อนภาษีจากการขายทรัพย์สินที่เป็นทรัพย์สินลงทุน
- สามารถป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ เนื่องจากมูลค่าของทรัพย์สินและค่าเช่าอาจเพิ่มขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ
อสังหาริมทรัพย์ ต่อยอดการลงทุนให้คุ้มค่า
อสังหาริมทรัพย์ได้รับความสนใจจากผู้ที่ต้องการลงทุนและต่อยอดเงินให้เพิ่มพูนในอนาคต หลายคนจึงเลือกที่จะซื้อบ้านหลังแรกเพื่ออยู่อาศัย และเมื่อมีการย้ายที่อยู่อาศัยก็ปล่อยบ้านให้เช่า เพื่อเพิ่มแหล่งรายได้จากค่าเช่านั่นเอง และหากใครที่ต้องการรีโนเวทบ้านเพื่อเพิ่มความสวยงาม ดึงดูดผู้เช่าให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น ให้บัตรกดเงินสด KTC PROUD เป็นตัวช่วงทางการเงินของคุณ หมดปัญหาหมุนเงินไม่ทัน ไม่มีเงินใช้ยามฉุกเฉิน สามารถกดเงินสดจากตู้ ATM หรือผ่านทางแอป KTC Mobile ได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม
KTC PROUD ตัวช่วยบริหารเงินเพื่อการลงทุน
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 25% ต่อปี