หน้าไม่ดรอปทุกสภาพอากาศด้วยสกินแคร์ที่ควรมี
ผิวหน้าเป็นส่วนที่ไม่ค่อยมีอะไรมาปกปิด การดูแลผิวหน้าให้สุขภาพดีอยู่เสมอ ก็ช่วยสร้างความมั่นใจได้อีกวิธีหนึ่ง โดยเฉพาะผู้ที่ต้องพบเจอคนหมู่มากเป็นประจำ แต่บ่อยครั้งสภาพอากาศก็ทำให้ใบหน้าที่จัดแต่งมาเป็นอย่างดีต้องพัง โดยเฉพาะฤดูฝนที่มักมีสายฝนมาชะล้างเครื่องสำอางและสกินแคร์บนใบหน้าออกจนหมด ทำให้หลายคนหมดความมั่นใจ สกินแคร์ประจำหน้าฝนจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีเพื่อความหน้าเป๊ะตลอดวัน
ประโยชน์ของสกินแคร์บนใบหน้า
สกินแคร์ คือ ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับผิว ทั้งผิวหน้าและผิวกาย โดยสกินแคร์ทำหน้าที่บำรุง ฟื้นฟู และตกแต่งใบหน้าให้สวยงาม เครื่องสำอางก็จัดเป็น 1 ในผลิตภัณฑ์ประเภทสกินแคร์เช่นกัน แต่ทำหน้าที่ในเรื่องของการตกแต่งใบหน้ามากกว่า ขณะที่สกินแคร์อื่น ๆ ทำหน้าที่บำรุงและฟื้นฟูให้ผิวสุขภาพดี โดยประโยชน์ของสกินแคร์หลัก ๆ มีดังนี้
- ฟื้นฟูผิวจากการถูกทำร้าย
สกินแคร์ประเภทนี้จะเข้าไปปลอบประโลมผิวหน้าจากโดนทำร้าย เพื่อให้ผิวไม่เสีย เช่น ครีมว่านหางจระเข้ สำหรับผิวไหม้แดด
- ลดความหย่อนคล้อย
ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีริ้วรอยและลดความหย่อนคล้อยจากช่วงวัยที่มากขึ้น หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น ครีมที่สกัดจากทับทิมช่วยลดเลือนริ้วรอยได้
- ลดจุดบกพร่องบนใบหน้า
ครีมหรือผลิตภัณฑ์บำรุงบางชนิดมีคุณสมบัติในการลบและเลือนจุดบกพร่องบนใบหน้า ทั้งฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยแดงต่าง ๆ เช่น ครีมที่สกัดจากมะนาวช่วยลดจุดด่างดำ ครีมลดเลือนหลุมสิว
- บำรุงให้ผิวแข็งแรง
สกินแคร์ที่ผลิตมาสำหรับผิวที่แพ้ง่าย มักเป็นครีมที่ใช้สารสกัดจากธรรมชาติ 100% ทำให้มีโอกาสแพ้น้อยและช่วยบำรุงผิวให้แข็งแรง เช่น สกินแคร์ออร์แกนิคต่าง ๆ
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
ผิวที่ชุ่มชื้นทำให้ดูมีสุขภาพดี ทั้งยังทำให้เครื่องสำอางติดทนนานตลอดทั้งวัน สกินแคร์หลายตัวจึงเน้นความชุ่มชื้นเป็นหลัก เช่น ครีมที่สกัดจากพืชที่มีน้ำมากอย่างว่านหางจระเข้และแตงกวาที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า
- ปกปิดริ้วรอยและรอยดำ รอยแดงต่าง ๆ
คุณสมบัติการปกปิดนี้มักจะใช้เมื่อต้องการตกแต่งใบหน้าให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน ช่วยแต่งหน้าได้ง่ายขึ้น และเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ใช้สกินแคร์
- เพิ่มสีสันบนใบหน้า
เครื่องสำอางเป็นสิ่งที่เข้ามามีบทบาทในการเพิ่มสีสันให้ใบหน้า โดยเครื่องสำอางสามารถเพิ่มสีสันได้ทั่วทั้งใบหน้าแล้วแต่การออกแบบของแบรนด์ ทำให้เป็นสกินแคร์ประเภทนี้ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
- ป้องกันแสงแดด
ครีมกันแดดเป็นสกินแคร์ที่ได้รับความนิยมมากไม่แพ้สกินแคร์ตัวอื่น ๆ เพราะแดดเป็นตัวการร้ายในการทำลายผิว สกินแคร์จึงต้องออกแบบมาเพื่อกันแดดด้วย
การดูแลผิวเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะผิวหน้า ไม่แปลกที่หลายคนเลือกใช้สกินแคร์เป็นประจำ เพื่อบำรุงผิวหน้าให้ดูสดใส อ่อนกว่าวัย นอกจากการใช้สกินแคร์แล้ว บางคนอาจเสริมความมั่นใจด้วยการใช้บริการคลินิคเพื่อเสริมความงามที่ปัจจุบันเปิดกว้างมากขึ้น สามารถใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ เช่น การฉีดโบท็อกซ์ การทำศัลยกรรม เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง
ปัญหาผิวและวิธีดูแลผิวช่วงหน้าฝน
ช่วงหน้าฝนนอกจากโรคตามฤดูกาลแล้ว ก็ไม่ควรมองข้ามปัญหาผิวหน้า ทำให้หลายคนเพิ่มสกินแคร์หน้าฝนเข้าไปในไอเทมที่ควรมีในช่วงหน้าฝน เพราะหากไม่บำรุงผิวหน้าอย่างสม่ำเสมออาจเกิดผลเสียได้มากกว่าที่คิด
สวยง่าย ผ่อนสบาย จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่คลินิคความงาม
ปัญหาผิวที่พบบ่อยช่วงหน้าฝน
สกินแคร์มีคุณสมบัติเฉพาะของตัวเอง
ปัญหาผิวในช่วงหน้าฝนมักเป็นปัญหาที่เกิดจากสภาพอากาศ เชื้อโรค รวมถึงฝุ่นละอองต่าง ๆ ที่ปะปนอยู่ในลมฝน
- หน้ามัน
ในช่วงหน้าฝนความชื้นในอากาศมีมากและไปกระตุ้นการสร้างไขมันบนชั้นผิวหนัง ทำให้ช่วงหน้าฝนผิวหน้ามันง่ายกว่าปกติ
- สิวอุดตัน
ฝุ่นละอองและเชื้อโรคที่ปะปนมาในลมฝนมีโอกาสสัมผัสโดนใบหน้าก่อนเข้าไปอุดตันจนเกิดเป็นสิว หากปล่อยไว้ไม่ดูแลปล่อยให้เป็นสิวในตำแหน่งเดิมซ้ำ ๆ อาจทำให้เกิดปัญหารูขุมขนกว้างตามมาภายหลัง
- คันผิวหนัง
เชื้อโรคที่ปะปนมากับฝนมีอยู่มาก เมื่อสัมผัสโดนผิวหนังทั้งผิวหน้าและผิวกายอาจก่อให้เกิดอาการคัน หรือมีผื่นขึ้นตามร่างกาย
การดูแลผิวให้สุขภาพดีในหน้าฝน
เพื่อป้องกันผิวโดนทำร้ายจากเชื้อโรคและอากาศในหน้าฝน ควรรู้วิธีดูแลผิวในหน้าฝนอย่างถูกต้อง
- ดื่มน้ำมาก ๆ
ช่วงหน้าในที่อากาศดี คนมักจะละเลยการดื่มน้ำให้เพียงพอ ส่งผลให้ผิวขาดความชุ่มชื้นและหมองคล้ำลง
- ทาครีมกันแดดเสมอ
คนมักจะมองข้ามครีมกันแดดช่วงหน้าฝน เพราะเห็นว่าไม่มีแดด ทั้งที่แสงยูวียังคงกระจายในอากาศแม้ไม่มีแสงแดดก็ตาม
- รับประทานวิตามินซี
วิตามินซีมีส่วนช่วยให้ผิวกระจ่างใส และที่สำคัญช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้ไม่ป่วยง่ายช่วงหน้าฝน
- เช็ดหน้าให้สะอาดทุกครั้ง
การเช็ดหน้าให้สะอาด ทั้งการใช้โทนเนอร์และรีมูฟเวอร์ช่วยลดการเกิดสิวบนใบหน้าได้ รวมถึงช่วยกำจัดคราบฝุ่นที่เกาะอยู่ในรูขุมขนด้วย
การดูแลผิวช่วงหน้าฝน นอกจากใส่ใจเชื้อโรคและฝุ่นละอองที่มากับฝนแล้ว ไม่ควรละเลยการบำรุงผิวโดยเด็ดขาด ยิ่งปัจจุบันสกินแคร์เข้าถึงได้ง่ายที่เซเว่นก็มีขาย ช่วยให้ทุกคนสามารถดูแลผิวพรรณของตนได้ง่ายขึ้น
5 สกินแคร์ที่ควรมีในช่วงหน้าฝน
การเลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับหน้าฝน
ช่วงหน้าฝนควรเลือกสกินแคร์กันน้ำและเมคอัพกันน้ำ เพื่อป้องกันน้ำฝนชะล้างสกินแคร์ที่ใช้ทั้งหมดออก โดยสกินแคร์ที่ควรมีช่วงหน้าฝน ได้แก่
- ครีมกันแดด
สกินแคร์ที่ขาดไม่ได้ในทุกฤดูกาล แม้ในช่วงหน้าฝนที่แดดน้อย เพราะแสงยูวียังคงอยู่ในชั้นบรรยากาศและมีหลายรูปแบบ ทั้งแสงจากจอสมาร์ทโฟน แสงจากคอมพิวเตอร์ แสงไฟต่าง ๆ
- มอยส์เจอไรเซอร์
ครีมที่ให้ความชุ่มชื้นควรใช้เป็นประจำในช่วงหน้าฝน เพราะมอยส์เจอไรเซอร์จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ใบหน้า หากหน้าชุ่มชื้นเพียงพอความมันจะค่อย ๆ หายไป รวมถึงช่วยทำให้ผิวดูสุขภาพดีอิ่มน้ำ หน้านุ่มฟู
- โทนเนอร์หรือรีมูฟเวอร์
ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกบนใบหน้าขาดไม่ได้เลยในช่วงหน้าฝน เพราะเชื้อโรคฟุ้งกระจายในอากาศได้ดี และมีชีวิตยาวนานขึ้นในสภาพอากาศชื้นของหน้าฝน การทำความสะอาดผิวหน้าเป็นประจำทุกวันจึงช่วยลดโอกาสสะสมของแบคทีเรีย ไร้ปัญหาสิวกวนใจ
- โฟมล้างหน้า
การล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าจะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกและความมันออกจากใบหน้าได้อีกวิธีหนึ่ง ช่วยให้ผิวหน้าสะอาดขึ้น พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อ ๆ ไป
- เซรั่มบำรุงผิว
การบำรุงผิวที่เข้มข้น เซรั่มมีหลายสูตรแต่มักจะเน้นการบำรุงที่ล้ำลึก เสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิว ทำให้ผิวไม่แพ้ง่าย
สกินแคร์มีความสำคัญมากเพราะออกแบบมาเพื่อผิวโดยเฉพาะ หากไม่มีการบำรุงจากสกินแคร์เลย ผิวจะมีปัญหาต่าง ๆ เช่น สิว ฝ้า กระ ความหมองคล้ำ ความหย่อนคล้อย การดูแลผิวพรรณให้ดูดีอยู่เสมอจึงช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและสร้างความมั่นใจ โดยอาจทำควบคู่ไปกับการเสริมความงามแขนงอื่น ๆ เพราะปัจจุบันวิทยาการล้ำหน้ามีการเสริมความงามหลายรูปแบบ แต่ควรเลือกสถาบันเสริมความงามที่เชื่อถือได้ และถ้าต้องการความคุ้มค่าในการใช้จ่ายเพื่อผิวพรรณ แนะนำให้ตรวจสอบโปรโมชั่นบัตรเครดิตทุกครั้ง เพราะร้สถาบันเสริมความงามหลายแห่งรับบัตรเครดิต ทั้งอาจมีโปรโมชั่นผ่อน 0% หรือเครดิตเงินคืนด้วย ความสวยและความคุ้มบางครั้งก็มาด้วยกันได้
สวยแบบคุ้ม ๆ ผ่อนสบาย เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต
ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี