ต่อ พ.ร.บ. ออนไลน์ 2568 อัปเดตล่าสุดทำอย่างไรบ้าง?

พ.ร.บ. เป็นประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับที่เจ้าของรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ทุกคันต้องจัดทำเป็นประจำทุกปี ตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 โดยกรมการขนส่งทางบกกำหนดให้รถทุกคันต้องจัดทำ พ.ร.บ. หรือมี พ.ร.บ. ที่ยังไม่หมดอายุ จึงจะสามารถต่อภาษีประจำปีได้

แม้ว่ารถทุกคันจะต้องทำประกัน พ.ร.บ. ทุกปี แต่ปัจจุบันเจ้าของรถสามารถซื้อพ.ร.บ. ออนไลน์ได้อย่างสะดวก โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปสำนักงานขนส่ง บทความนี้จะมาแนะนำวิธีต่อพ.ร.บ. ออนไลน์ 2568 ง่ายๆ ด้วยตัวเอง จะมีขั้นตอนอย่างไรบ้างไปดูกัน

เลือกอ่านตามหัวข้อ

• การต่อพ.ร.บ. รถยนต์คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ
• การต่อพ.ร.บ. กับการจ่ายภาษีรถเหมือนกันไหม
• ประเภทของรถที่สามารถต่อพ.ร.บ. ออนไลน์ได้
• การต่อพ.ร.บ. ออนไลน์มีกี่วิธี
• ทำไมต้องต่อพ.ร.บ. คุ้มครองค่าอะไรบ้าง
• ต่อพ.ร.บ. ออนไลน์ง่ายๆ ทำได้ที่บ้าน

การต่อพ.ร.บ. รถยนต์คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ

พ.ร.บ. รถยนต์ หรือ ประกัน พ.ร.บ. คือ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 โดยกฎหมายกำหนดให้รถทุกคันต้องทำประกันภัย พ.ร.บ. เพื่อคุ้มครองและช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากรถ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยไม่คำนึงถึงความถูกหรือผิดของผู้เอาประกันภัย

ประกัน พ.ร.บ. ครอบคลุมทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และคนเดินถนน ไม่ว่าใครก็ตามที่ประสบอุบัติเหตุจากการใช้รถใช้ถนน ก็จะได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย พ.ร.บ. ด้วยเช่นกัน

การต่อพ.ร.บ. จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการต่อภาษีประจำปีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ กรณี พ.ร.บ. ยังไม่ขาดอายุ จะต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 90 วัน จึงจะใช้ชำระภาษีประจำปีได้ แต่หาก พ.ร.บ. มีอายุน้อยกว่า 90 วัน จำเป็นต้องซื้อ พ.ร.บ. ใหม่ จึงจะสามารถชำระภาษีประจำปีได้

ปัจจุบันเจ้าของรถสามารถต่อ พ.ร.บ. ออนไลน์ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังสำนักงานขนส่ง หรือจุดบริการตามสถานที่ต่างๆ ช่วยเพิ่มความสะดวกโดยเฉพาะผู้ที่ประสงค์ชำระภาษีผ่านช่องทางออนไลน์เช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการต่อพ.ร.บ.รถยนต์ หรือต่อพ.ร.บ.รถจักรยานยนต์ ต่างก็สามารถใช้วิธีต่อพ.ร.บ. ออนไลน์ได้

การต่อพ.ร.บ. กับการจ่ายภาษีรถเหมือนกันไหม

หลายคนมีความเข้าใจผิดว่าการต่อพ.ร.บ. และการจ่ายภาษีประจำปีรถเป็นสิ่งเดียวกัน แต่ความจริงแล้วทั้งสองอย่างมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะก่อนที่จะชำระภาษีประจำปีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ได้นั้น จำเป็นจะต้องมีประกัน พ.ร.บ. เสียก่อน จึงจะสามารถชำระภาษีได้ หากว่าเจ้าของรถไม่จัดทำประกัน พ.ร.บ. ก็จะไม่สามารถชำระภาษีได้

นอกจากนี้ การใช้รถที่ไม่มี พ.ร.บ. ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท และหากใช้รถที่ไม่มี พ.ร.บ. และขาดต่อภาษีประจำปีรถยนต์ด้วยแล้วล่ะก็ จะมีโทษปรับสูงสุดถึง 20,000 บาทเลยทีเดียว

ประเภทของรถที่สามารถต่อพ.ร.บ. ออนไลน์ได้

กฎหมายกำหนดให้รถที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกทุกคัน จำเป็นต้องจัดทำ พ.ร.บ. เป็นประจำทุกปี และสามารถต่อ พ.ร.บ. ออนไลน์ได้ ดังนี้

• รถยนต์นั่งส่วนบุคคล :รถเก๋ง, รถกระบะ 4 ประตู, รถตู้ ฯลฯ
• รถบรรทุกส่วนบุคคล :รถกระบะตอนเดี่ยว กระบะตอนครึ่ง รถตู้บรรทุก ฯลฯ
• รถจักรยานยนต์ :มอเตอร์ไซค์, บิ๊กไบค์, มอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง ฯลฯ
• รถประเภทอื่น ๆ : รถสามล้อ, รถแทรกเตอร์, รถใช้งานเกษตรกรรม ฯลฯ

การต่อพ.ร.บ. ออนไลน์มีกี่วิธี

การต่อพ.ร.บ. ออนไลน์สามารถทำได้เองไม่ยุ่งยาก ซึ่งเจ้าของรถสามารถต่อพ.ร.บ. ผ่านช่องทางออนไลน์ของบริษัทประกันแต่ละแห่งโดยตรง หรือผ่านเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบกก็ได้เช่นกัน เมื่อดำเนินการต่อพ.ร.บ. เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว สามารถรอรับเอกสารทางไปรษณีย์ที่บ้านหรือที่อยู่ที่สะดวกได้เลย

ต่อพ.ร.บ. ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก

ขั้นตอนการต่อพ.ร.บ. ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก มีดังนี้

1. เข้าเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th/esvapp/login.jsf

2. กดปุ่ม "เข้าสู่ระบบผ่าน Digital ID" (หากยังไม่เคยลงทะเบียน Digital ID จำเป็นต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน ThaID บนมือถือระบบ IOS หรือ Android หรือลงทะเบียน DGA Digital ID ที่ https://connect.egov.go.th/Account/Register)

3. ดำเนินการเข้าสู่ระบบผ่าน DGA Digital ID หรือ ThaID

4. กดปุ่ม "ชำระภาษีรถประจำปี" ต่อด้วย "ชำระภาษีรถประจำปีผ่านอินเตอร์เน็ต"

5. กดปุ่ม "ลงทะเบียนรถ" และกรอกข้อมูลรายละเอียดรถ หากเคยลงทะเบียนแล้ว กดปุ่มยื่นชำระภาษีได้เลย

6. เลือกซื้อ พ.ร.บ. ออนไลน์บนหน้าข้อมูลการยื่นชำระภาษี

7. เลือกบริษัทประกันภัย กรอกข้อมูลรถ รายละเอียดผู้เอาประกันภัย และที่อยู่จัดส่งเอกสาร

8. เลือกวิธีชำระเงิน และดำเนินการชำระเงิน

9. รอรับ พ.ร.บ. ทางไปรษณีย์ตามที่อยู่ที่ระบุไว้

ระหว่างนี้เจ้าของรถสามารถดำเนินการชำระภาษีประจำปีรถยนต์และจักรยานยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ต่อได้ทันที โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

1. เข้าเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th/esvapp/login.jsf

2. กดปุ่ม "เข้าสู่ระบบผ่าน Digital ID" และดำเนินการเข้าสู่ระบบผ่าน DGA Digital ID หรือ ThaID

3. กดปุ่มยื่นชำระภาษีรถที่ได้ลงทะเบียนไว้แล้ว

4. ระบบจะแสดงข้อมูลรถและรายการที่ต้องชำระ

5. กรอกข้อมูลเลขไมล์รถยนต์

6. กดปุ่ม "กรอกสถานที่จัดส่งเอกสาร" ระบบจะแสดงข้อมูลที่อยู่จัดส่งเอกสาร

7. กดปุ่ม "เลือกวิธีชำระเงิน" เลือกวิธีที่สะดวกจาก 4 ตัวเลือก ดังนี้

- หักจากบัญชีเงินฝากธนาคาร

- ชำระด้วยบัตรเครดิต / บัตรเดบิต

- ชำระผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร

- ชำระผ่าน QR Code ออนไลน์

8. ดำเนินการชำระเงิน

9. รอรับเอกสารทางไปรษณีย์ตามที่อยู่ที่ระบุไว้

ทั้งนี้ ผู้ยื่นชำระภาษีจะได้รับเอกสารทางไปรษณีย์ภายในระยะเวลา 5 - 10 วันทำการ นับตั้งแต่วันที่ชำระค่าภาษีสำเร็จ โดยสามารถตรวจสอบสถานะดำเนินการ และหมายเลข EMS ได้ที่เมนู "ตรวจสอบผลชำระภาษี / เปลี่ยนช่องทางชำระเงิน"

ต่อพ.ร.บ. ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ประกันรถยนต์

นอกเหนือจากการต่อพ.ร.บ. ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบกแล้วนั้น เจ้าของรถยังสามารถเลือกต่อพ.ร.บ. ผ่านช่องทางออนไลน์ของบริษัทประกันภัยต่างๆ ทั้งบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันได้เช่นเดียวกัน โดยแต่ละแห่งอาจมีขั้นตอนและวิธีการชำระเงินแตกต่างกันออกไป ควรศึกษารายละเอียดอย่างรอบคอบก่อนดำเนินการต่อพ.ร.บ.

ทางที่ดีควรเลือกบริษัทประกันภัยที่น่าเชื่อถือ มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ทำไมต้องต่อพ.ร.บ. คุ้มครองค่าอะไรบ้าง

พ.ร.บ. เป็นประกันภัยภาคบังคับที่กฎหมายกำหนดให้รถทุกคันต้องมีตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 เพื่อคุ้มครองผู้ประสบอุบัติเหตุทุกกรณี ทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และบุคคลภายนอก โดยไม่ต้องรอพิสูจน์ความรับผิดของผู้เอาประกันภัย และยังถือเป็นหลักประกันค่ารักษาพยาบาลแก่โรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษาอีกด้วย

ทั้งนี้ พ.ร.บ. จะคุ้มครองเฉพาะความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลเท่านั้น ไม่ครอบคลุมถึงค่าซ่อมรถ และความเสียหายต่อทรัพย์สินภายนอก และจะคุ้มครองเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นการซื้อผ่านช่องทางปกติ หรือต่อ พ.ร.บ. ออนไลน์ก็ตาม

เงื่อนไขความคุ้มครอง พ.ร.บ. สามารถแบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ ค่าเสียหายเบื้องต้น และค่าสินไหมทดแทน

ค่าสินไหมเบื้องต้น

บริษัทประกันภัยจะจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นแก่ผู้ประสบภัยจากรถที่ได้รับความเสียหายต่อชีวิตและร่างกาย ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่บริษัทได้รับคำร้องโดยไม่ต้องรอพิสูจน์ความรับผิด

• กรณีผู้ประสบภัยได้รับบาดเจ็บ จะได้รับค่ารักษาพยาบาลตามจำนวนที่จ่ายไปจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน
• กรณีผู้ประสบภัยสูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร จะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้น 35,000 บาทต่อคน
• กรณีผู้ประสบภัยเสียชีวิต จะได้รับค่าปลงศพตามจำนวนเงินค่าเสียหายเบื้องต้น 35,000 บาทต่อคน

ทั้งนี้ หากเกิดความเสียหายหลายกรณีจะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้น รวมกันแล้วไม่เกิน 65,000 บาทต่อคน

ค่าสินไหนทดแทน

ผู้ประสบภัยจะได้รับความคุ้มครองหากได้รับความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย โดยผู้ขับขี่รถคันที่เอาประกันภัยต้องรับผิดตามกฎหมาย ดังนี้

• กรณีผู้ประสบภัยได้รับบาดเจ็บ จะได้รับค่ารักษาพยาบาลตามความเสียหายที่แท้จริง แต่ไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน
• กรณีผู้ประสบภัยสูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร จะได้รับค่าสินไหมทดแทน 200,000 - 500,000 บาทต่อคน (กรณีสูญเสียอวัยวะ ความคุ้มครองจะเป็นไปตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ)
• กรณีผู้ประสบภัยเสียชีวิต จะได้รับค่าสินไหมทดแทน 500,000 บาทต่อคน
• กรณีผู้ประสบภัยเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาล (ผู้ป่วยใน) จะได้รับค่าชดเชยรายวัน วันละ 200 บาท (สูงสุดไม่เกิน 20 วัน)

ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ที่เป็นฝ่ายต้องรับผิด จะได้รับความคุ้มครองเฉพาะค่าเสียหายเบื้องต้นเท่านั้น

ต่อพ.ร.บ. ออนไลน์ง่าย ๆ ทำได้ที่บ้าน

ปัจจุบันการต่อพ.ร.บ. ออนไลน์ได้รับความนิยมอย่างสูง เพราะสามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน สะดวกรวดเร็ว เพียงมีคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ตโฟนก็สามารถทำได้ เช่นเดียวกับสินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน สำหรับผู้ที่กำลังมองหาสินเชื่อรถแลกเงิน สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์ สินเชื่อบิ๊กไบค์

KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ช่วยคุณได้ด้วยบริการสินเชื่อวงเงินสูงสุด 100% อาชีพไหนก็สมัครได้ อีกทั้งยังมีบริการ พี่เบิ้ม Delivery ไปประเมินราคารถให้ถึงหน้าบ้าน อนุมัติไวใน 1 ชั่วโมง รับเงินทันที โดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน และผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน โดยสามารถเลือกรับบัตรกดเงินสด KTC พี่เบิ้ม ไว้ใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉินได้อย่างอุ่นใจ หากไม่มีการกดใช้ก็ไม่เสียดอกเบี้ยแต่อย่างใด

กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร

เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด

*วงเงินอนุมัติเป็นไปตามความสามารถในการชำระหนี้และราคาประเมินมูลค่ารถ

*อนุมัติไวใน 1 ชั่วโมง รับเงินทันที เมื่อเอกสารครบถ้วนถูกต้องและโอนเงินเข้าบัญชีกรุงไทย

*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21%-24% ต่อปี

กรณีที่รถยังผ่อนไม่หมด สามารถนำมาประเมินวงเงินเบื้องต้นก่อนได้