5 วิธีเช็คเบอร์มิจฉาชีพด้วยตัวเองง่าย ๆ ไม่ต้องเสี่ยงโดนหลอก

ต้องยอมรับว่าปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลายเป็นหนึ่งในภัยคุกคามยุคดิจิทัลที่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด โดยมิจฉาชีพเหล่านี้มักสรรหาสารพัดกลอุบายหลายรูปแบบมาหลอกล่อเหยื่อให้โอนเงิน จนหลายคนเริ่มวิตกกังวลถึงขั้นไม่กล้ารับสายจากเบอร์แปลกที่ไม่เคยบันทึกไว้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันอย่างเลี่ยงไม่ได้ ในบทความนี้จึงจะมาแนะนำวิธีเช็คเบอร์มิจฉาชีพทางออนไลน์ที่ทั้งง่าย ประหยัดเวลา และสามารถใช้งานได้จริง จะมีวิธีไหนน่าสนใจบ้างมาดูกัน

เลือกอ่านตามหัวข้อ

• รับสายเบอร์มิจฉาชีพจะเกิดผลกระทบอะไรมั้ย?
• 5 วิธีเช็คเบอร์มิจฉาชีพผ่านช่องทางออนไลน์ด้วยตัวเอง
• เทคนิครู้ได้อย่างไรว่าเบอร์ที่คุยอยู่เป็นมิจฉาชีพ?
• แจ้งปัญหาเบอร์มิจฉาชีพผ่านเครือข่ายมือถือ
• เช็คเบอร์มิจฉาชีพให้ชัวร์ ไม่ต้องกลัวตกเป็นเหยื่อ

รับสายเบอร์มิจฉาชีพจะเกิดผลกระทบอะไรมั้ย?

หลายคนอาจเคยได้ยินข่าวลือว่าการรับสายจากมิจฉาชีพ อาจทำให้เงินในบัญชีถูกดูดออกไปไม่รู้ตัว แต่ความจริง คือ หากไม่ได้ให้ข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญ อาทิ เลขบัตรประชาชน รหัส OTP หรือข้อมูลบัญชีธนาคาร ก็ไม่มีความเสี่ยงที่จะถูกดูดเงินอย่างที่หลายคนเข้าใจ อย่างไรก็ตามหากเจอเบอร์โทรต้องสงสัย ควรเช็คบัญชีมิจฉาชีพผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์เช็คบัญชีมิจฉาชีพ เพื่อหลีกเลี่ยงการพูดคุยหรือให้ข้อมูลกับปลายสายที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย และควรทำการบล็อกเบอร์ดังกล่าวทันทีที่รู้ว่าเป็นเบอร์อันตรายของคนร้าย

5 วิธีเช็คเบอร์มิจฉาชีพผ่านช่องทางออนไลน์ด้วยตัวเอง

ปัจจุบันสามารถตรวจสอบเบอร์มิจฉาชีพฟรีผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ได้แล้ว ไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยคัดกรองเบอร์โทรต้องสงสัยและลดโอกาสตกเป็นเหยื่อ ซึ่งวิธีตรวจสอบมีดังนี้

เช็คเบอร์มิจฉาชีพด้วย WhosCall

วิธียอดนิยมในการเช็คเบอร์มิจฉาชีพ คือ การใช้แอปพลิเคชัน WhosCall ซึ่งมีฐานข้อมูล (Data Base) หมายเลขโทรศัพท์เป็นจำนวนหลายล้าน เมื่อมีสายโทรเข้ามา ตัวแอปจะตรวจสอบเบอร์โทรแปลกนั้นแล้วแสดงชื่อให้สังเกตได้ทันที โดยเฉพาะเบอร์มิจฉาชีพ นอกจากนี้หากพบว่าเบอร์ดังกล่าวเป็นเบอร์อันตรายที่ยังไม่ได้ถูกบันทึกในคลังข้อมูล ผู้ใช้งานแอปก็สามารถเข้าไปแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมได้ทันที

เช็คเบอร์มิจฉาชีพผ่านการค้นหาบน Google

สามารถตรวจสอบเบอร์มิจฉาชีพด้วยการลองพิมพ์เบอร์โทรดังกล่าวใน Google จะสามารถแสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องขึ้นมาได้ว่าเป็นเบอร์ของหน่วยงานที่แอบอ้างจริงหรือไม่ รวมไปถึงหากเป็นเบอร์คนร้ายก็อาจจะขึ้นในเว็บไซต์ที่มีผู้เสียหายเข้าไปเตือนภัยเอาไว้

เช็คเบอร์มิจฉาชีพผ่านการค้นหาบน Facebook

หนึ่งในวิธีง่าย ๆ คือการเช็คเบอร์คอลเซ็นเตอร์หรือเบอร์แปลก ผ่านช่องค้นหาของ Facebook เพียงคัดลอกหมายเลขโทรศัพท์แล้ววางในช่องค้นหา หากเบอร์นั้นเคยถูกโพสต์เตือนภัยไว้ในกลุ่มหรือเพจเกี่ยวกับมิจฉาชีพออนไลน์ ข้อมูลเหล่านี้จะแสดงขึ้นมาทันที

ตรวจสอบข้อมูลมิจฉาชีพด้วย Blackseller

Blackseller เป็นเว็บไซต์สำหรับตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์แปลกที่ใช้งานได้สะดวก รวดเร็ว เพียงนำเบอร์ที่สงสัยไปเช็คในเว็บ หากเป็นเบอร์ที่เคยส่งลิงก์แปลก ๆ เข้ามาหลอกล่อให้กดเพื่อให้ติดตั้งแอปหรือส่งข้อมูลส่วนตัวก็จะปรากฏขึ้น เนื่องจากมีผู้เสียหายช่วยกันเข้ามาแจ้งข้อมูลไว้นั่นเอง

ตรวจสอบเบอร์มิจฉาชีพบน Line

อีกหนึ่งวิธีเช็คเบอร์มิจฉาชีพที่หลายคนอาจมองข้าม คือการใช้แอปพลิเคชัน Line โดยกดเข้าไปที่แท็บ “เพิ่มเพื่อน” จากนั้นกรอกค้นหาเบอร์โทรศัพท์แปลก ๆ ที่เจอ แล้วกดค้นหา หากมีการเชื่อมเบอร์กับบัญชี Line จะสามารถเห็นได้ทันทีว่าใครเป็นเจ้าของเบอร์ดังกล่าว

เทคนิครู้ได้อย่างไรว่าเบอร์ที่คุยอยู่เป็นมิจฉาชีพ?

จะดีกว่าไหมถ้าสามารถจับสังเกตแก๊งมิจฉาชีพได้ตั้งแต่ต้น ไม่ต้องเสี่ยงหลงเชื่อกลอุบายไปแล้วมาเช็คเบอร์มิจฉาชีพทีหลัง เพราะถึงตอนนั้นทุกอย่างอาจสายเกินไป ซึ่งเทคนิคการสังเกตพิรุธคนร้ายสามารถทำได้เบื้องต้นดังนี้

• สังเกตหมายเลขขึ้นต้นแปลก ๆ เช่น +669, +697, +698 แม้จะดูคล้ายเบอร์มือถือทั่วไป แต่เบอร์อันตรายเหล่านี้มักมาจากการปลอมแปลงให้เหมือนเบอร์จริง และถูกใช้บ่อยโดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์
• ตรวจสอบว่าเป็นสายจากองค์กรหรือบริษัทที่เราไม่เคยทำธุรกรรมด้วยหรือไม่ หากปลายสายอ้างว่าเป็นจากธนาคาร บริษัทขนส่ง หรือหน่วยงานราชการ แต่คุณไม่เคยมีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานนั้นมาก่อน ถือเป็นสัญญาณเตือนสำคัญว่าอาจเป็นคนร้ายที่สวมรอยมา
• มีข้อมูลส่วนตัวของเราถูกต้อง แต่ใช้เพื่อเร่งให้ตัดสินใจเร็ว เช่น การแจ้งว่า “คุณมีพัสดุตกค้าง” หรือ “มีคดีความอยู่” แล้วเร่งให้โอนเงินหรือให้ OTP ทันที ให้ตั้งสติและตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างรอบคอบก่อน

แจ้งปัญหาเบอร์มิจฉาชีพผ่านเครือข่ายมือถือ

ในกรณีที่พบเบอร์มิจฉาชีพ หรือได้รับสายต้องสงสัยจากเบอร์แปลก ๆ นอกจากการเช็คเบอร์โทรเข้าแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือ การแจ้งเบอร์เหล่านี้ไปยังผู้ให้บริการมือถือ เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้คนอื่นตกเป็นเหยื่อซ้ำอีก

• เช็คเบอร์มิจฉาชีพ DTAC : แจ้งเบาะแสเบอร์มิจฉาชีพ โทร. 1678
• เช็คเบอร์มิจฉาชีพ AIS : แจ้งเบาะแสเบอร์มิจฉาชีพ โทร. 1185
• เช็คเบอร์มิจฉาชีพ TRUE : แจ้งเบาะแสเบอร์มิจฉาชีพ โทร. 9777

เช็คเบอร์มิจฉาชีพให้ชัวร์ ไม่ต้องกลัวตกเป็นเหยื่อ

หากมีสายน่าสงสัยโทรเข้ามา พร้อมทั้งแอบอ้างให้โอนเงินหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ขอให้ตั้งสติและสงสัยไว้ว่าอาจเป็นกลอุบายของแก๊งมิจฉาชีพ หากรู้สึกไม่มั่นใจสามารถวางสายได้ทันที หรืออาจลองโทรกลับเพื่อเช็คเบอร์มิจฉาชีพ ซึ่งหากเป็นมิจฉาชีพ มักจะไม่สามารถติดต่อกลับได้ หลังจากนั้นควรนำหมายเลขดังกล่าวไปแจ้งบนเว็บเตือนภัย หรือหากยังไม่แน่ใจสามารถใช้แอปพลิเคชันตรวจสอบเบอร์โทร เว็บไซต์ค้นหาเบอร์โทรศัพท์มิจฉาชีพ ไปจนถึงการค้นหาผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ จะได้รู้เท่าทัน ไม่ตกเป็นเหยื่อคนร้าย

นอกจากการมีสติในการรับมือแล้ว การเตรียมตัวให้พร้อมทางการเงินก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน และนั่นคือเหตุผลที่ บัตรกดเงินสด KTC PROUD เป็นตัวช่วยด้านการเงินยามฉุกเฉินที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ ชีวิตไม่สะดุด สะดวกทุกการใช้จ่าย เพราะหากวันหนึ่งคุณต้องเผชิญกับภาวะฉุกเฉิน เช่น ต้องการยืมเงินฉุกเฉิน 5000 ด่วน การมีแหล่งสินเชื่อออนไลน์ที่ไว้ใจได้ เบิกถอนได้ทันที ย่อมดีกว่ารีบร้อนกู้หนี้นอกระบบจากช่องทางที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งอาจพาให้ตกเป็นเหยื่อรายต่อไปโดยไม่รู้ตัว

• สมัครง่าย เงินเดือน 12,000 บาท ก็สมัครได้
• อนุมัติไว เลือกรับเงินโอนเข้าบัญชีได้ทันที เมื่ออนุมัติ
• เบิกเงินได้ 24 ชั่วโมง ผ่านแอป KTC Mobile และ ATM ทั่วประเทศ
• ผ่อนสินค้า 0% นานสูงสุด 24 เดือน ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ
• รูดซื้อสินค้า และช้อปออนไลน์ พร้อมรับสิทธิพิเศษทั้งปี

ตอบโจทย์ทุกช้อยส์ในชีวิตด้วยบัตรกดเงินสด KTC PROUD

*กู้เท่าที่จําเป็นและชําระคืนได้ตามกําหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 25% ต่อปี