ในโลกของการทำงานยุคปัจจุบัน มีคำกล่าวหนึ่งได้บอกไว้ว่า “การอยู่กับที่เท่ากับถอยหลัง” ดังนั้นการเติบโตในสายอาชีพจึงกลายเป็นสิ่งที่มืออาชีพยุคใหม่ทั้งหลายต่างปรารถนา แต่การจะเติบโตแบบก้าวกระโดดได้นั้นไม่ใช่สิ่งที่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เป็นผลลัพธ์ของการวางแผนและการลงมือทำอย่างแข็งขัน ซึ่ง “การตั้งเป้าหมาย” อย่างฉลาดและรอบคอบ คือหัวใจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ
กว่าหลายทศวรรษที่ผ่านมา มีผู้ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในสายงานมาแล้วนับไม่ถ้วน ซึ่งบุคคลทั้งหลายเหล่านั้นมักมีทักษะที่สำคัญอย่างหนึ่งร่วมกัน นั่นคือ เป้าหมายที่ความสามารถในการตั้งชัดเจน และ สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ในบทความนี้ KTC จึงจะพาไปเจาะลึกถึงเทคนิคการตั้งเป้าหมาย (Goal Setting) แบบก้าวกระโดด เพื่อให้นำไปปรับใช้และสร้างความเติบโตในเส้นทางอาชีพ
ทำไมการตั้งเป้าหมายถึงสำคัญกับการเติบโตในสายอาชีพ
มีงานวิจัยและผลสำรวจมากมายที่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างการตั้งเป้าหมายและความสำเร็จ ตัวอย่างเช่น ทฤษฎีการตั้งเป้าหมายเพื่อสร้างแรงจูงใจของ Edwin A. Locke และ Gary P. Latham ซึ่งได้ทดสอบผู้เข้าร่วมนับพันคน เพื่อจุดประสงค์ในการนำเสนอให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในชีวิตของผู้ที่มีเป้าหมาย โดยผลลัพธ์ชี้ให้เห็นว่า บุคคลที่เขียนจดบันทึกความปรารถนาของตนเองมีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายได้มากกว่าผู้ที่ไม่ได้เขียนมากถึง 50% ในขณะเดียวกัน การมีเป้าหมายยังช่วยให้มีสมาธิ มีแรงจูงใจ และสามารถจัดสรรเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
เมื่อกล่าวถึงคนที่ประสบความสำเร็จในสายงานเพราะตั้งเป้าได้ถูกวิธี ให้ลองนึกถึงบุคคลที่ประสบความสำเร็จในสายงานที่คุณชื่นชม และไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นผู้บริหารระดับสูง ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง หรือผู้ประกอบการที่สร้างธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว เบื้องหลังความสำเร็จของพวกเขามักเกิดจากการตั้งเป้าหมายที่ท้าทาย แต่ยังคงตั้งอยู่บนพื้นฐานของการทำได้จริง
จุดเริ่มต้นของเป้าหมายที่ใช่
ก่อนที่จะกระโจนเข้าสู่การตั้งเป้าหมาย สิ่งแรกที่เราต้องทำคือ การสำรวจและทำความเข้าใจตัวเองอย่างลึกซึ้ง พิจารณาว่าเรามีทักษะ ความสามารถ และประสบการณ์อะไรที่เป็นจุดแข็ง และมีด้านใดบ้างที่เป็นจุดอ่อนที่ยังต้องพัฒนา การตระหนักถึงจุดแข็งจะช่วยให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากมันในการบรรลุเป้าหมาย ในขณะที่การรู้จุดอ่อนจะช่วยให้เราสามารถวางแผนเพื่อพัฒนา หรือเป็นตัวเลือกให้พึ่งพาบุคคลอื่น ๆ ที่มีความเชี่ยวชาญในส่วนนั้น
การกำหนดเป้าหมายชีวิต และเชื่อมโยงกับเป้าหมายการงาน เบื้องต้นให้ลองถามตนเองว่า “เป้าหมายสูงสุดในชีวิตของเราคืออะไร” อาจเป็นการมีชีวิตที่มั่นคง มีความสุข ได้สร้างคุณค่า หรือได้เดินทางรอบโลก เมื่อเรามีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจนแล้ว เราจะสามารถเชื่อมโยงเป้าหมายการงานให้สอดคล้องและสนับสนุนเป้าหมายชีวิตนั้นได้
หากเป้าหมายชีวิตคือการมีอิสระทางการเงิน เป้าหมายการงานของเราอาจเป็นการเลื่อนตำแหน่งเพื่อเพิ่มรายได้ หรือการพัฒนาทักษะเพื่อเพิ่มโอกาสในการหารายได้เสริม
การใช้เครื่องมือช่วย เช่น SWOT หรือ Ikigai ซึ่งจะสามารถช่วยให้เราทำความเข้าใจตัวเองได้ดีมากยิ่งขึ้น
- SWOT Analysis เป็นเครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์ Strengths (จุดแข็ง), Weaknesses (จุดอ่อน), Opportunities (โอกาส), และ Threats (อุปสรรค) ที่เกี่ยวข้องกับตัวเราในบริบทของการทำงาน
- Ikigai (อิคิไก) เป็นแนวคิดจากญี่ปุ่นที่ช่วยค้นหา "เหตุผลของการมีชีวิตอยู่" โดยการพิจารณาจาก 4 ด้าน ได้แก่ สิ่งที่คุณรัก (Passion), สิ่งที่คุณเก่ง (Profession), สิ่งที่สังคมต้องการ (Vocation), และสิ่งที่สร้างรายได้ให้คุณได้ (Mission) ซึ่งการพิจารณาตามหลักการ Ikigai จะช่วยให้พบเป้าหมายการงานที่มีความหมายและยั่งยืน
SMART Goals เทคนิคตั้งเป้าหมายที่จับต้องได้
หลักการ SMART เป็นกรอบแนวคิดที่ช่วยให้การตั้งเป้าหมายดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแต่ละตัวอักษรมีความหมายดังนี้
- S - Specific (เป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง) เป้าหมายควรมีความชัดเจน ไม่คลุมเครือ ถามตัวเองว่า "เราต้องการอะไร?", "ทำไมถึงต้องการ?", "ใครเกี่ยวข้อง?", "อยู่ที่ไหน?" และ "มีข้อจำกัดอะไรบ้าง?"
- M - Measurable (เป้าหมายที่สามารถวัดผลได้) เป้าหมายที่ดีควรมีตัวชี้วัดที่ชัดเจน เช่น จำนวน ยอดขาย เปอร์เซ็นต์ หรือระยะเวลา
- A - Achievable (เป้าหมายที่บรรลุได้จริง) การตั้งเป้าหมายควรมีความท้าทาย แต่ขณะเดียวกันก็ต้องอยู่ในขอบเขตที่สามารถลงมือทำและบรรลุได้ โดยอาจพิจารณาจากทรัพยากร ความรู้ และทักษะที่แต่ละคนมี
- R - Relevant (เป้าหมายที่สอดคล้องกับความเป็นจริง) การสำรวจปัจจัยแวดล้อมที่มีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อการไปถึงเป้าหมาย รวมถึงวิเคราะห์ความสอดคล้องระหว่างเป้าหมายกับความเป็นจริง ก็เป็นสิ่งสำคัญที่พึงกระทำ
- T - Time-bound (เป้าหมายที่กำหนดขอบเขตเวลา) เป้าหมายที่ดีควรกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจนว่าจะต้องทำให้สำเร็จเมื่อไหร่ การมีกำหนดเวลาเช่นนี้จะช่วยสร้างแรงกดดันเชิงบวกและกระตุ้นให้เราลงมือกระทำจนกว่าจะประสบความสำเร็จ
การตั้งเป้าในสายงาน
ตัวอย่างเช่น ผู้จัดการฝ่ายการตลาดตั้งเป้าที่จะเพิ่มยอดขาย 30% ภายในหนึ่งปี โดยมีการวางกลยุทธ์และแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน หรือจะเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ที่ตั้งเป้าจะเรียนรู้ภาษาโปรแกรมมิ่งใหม่ภายใน 6 เดือน เพื่อนำมาพัฒนาโปรเจกต์ที่ซับซ้อนขึ้น ซึ่งการมีเป้าหมายที่ชัดเจนนี้เป็นเหมือนเข็มทิศที่นำทางให้พวกเขามุ่งสู่ความสำเร็จ
เชื่อมโยงเป้าหมายกับการลงมือทำ
1. สร้าง Action Plan รายเดือน หรือรายไตรมาส การมีเป้าหมายที่ชัดเจนอาจจะยังไม่เพียงพอที่จะพาไปสู่ความสำเร็จ แต่การแปลงเป้าหมายเหล่านั้นให้กลายเป็นแผนดำเนินการที่ระบุชัดเจนว่า ในแต่ละเดือน หรือแต่ละไตรมาส เราจะต้องทำอะไรบ้างนั้น จะเป็นการช่วยผลักดันให้เข้าใกล้เป้าหมายมากยิ่งขึ้น โดยสามารถทำได้โดยการกำหนดภาระหน้าที่ให้ชัดเจน มีการจัดลำดับความสำคัญ และกำหนดเวลาแล้วเสร็จ
2. การติดตามผล และปรับแผนให้เท่าทันสถานการณ์ การติดตามความคืบหน้าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ควรมีการทบทวนเป้าหมายและแผนปฏิบัติการอย่างสม่ำเสมอ อาจเป็นรายสัปดาห์ หรือรายเดือนขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล เพื่อดูว่าเรากำลังเดินหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้องหรือไม่ และหากมีอุปสรรคหรือสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป เราก็จำเป็นต้องปรับแผนของเราให้สอดคล้อง เพื่อให้ยังคงสามารถมุ่งสู่เป้าหมายได้
เครื่องมือและแอปฯ ที่ช่วยให้ Goal Setting บรรลุผลง่ายขึ้น
ในยุคดิจิทัล มีเครื่องมือและแอปพลิเคชันมากมายที่สามารถช่วยให้การตั้งเป้าหมายและการติดตามผลเป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น
- Notion : Workspace อเนกประสงค์ที่สามารถสร้างหน้าสำหรับจดบันทึกเป้าหมาย สร้าง Action Plan ติดตามความคืบหน้า และจัดการภาระงานต่างๆ ได้อย่างยืดหยุ่น
- Trello : เครื่องมือจัดการโปรเจกต์ ที่เหมาะสำหรับการแบ่งเป้าหมายออกเป็นรายการภาระงานย่อย ๆ กำหนดสถานะ และติดตามความคืบหน้า
- Todoist แอปพลิเคชันจัดการ To-Do List ที่ใช้งานง่าย ช่วยให้เราสามารถสร้างรายการภาระงาน ระบุขอบเขตวันครบกำหนด ตั้งการแจ้งเตือน และติดตามความคืบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เทคนิคการจดเป้าหมายและติดตามความคืบหน้า
ไม่ว่าจะใช้เครื่องมือดิจิทัล กระดาษ หรือสมุดบันทึก วิธีการทั้งหมดล้วนช่วยให้การจดบันทึกเป้าหมายมีความชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น แต่เทคนิคเพิ่มเติมที่จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดี และอยู่ในกำหนดเวลามากยิ่งขึ้น ก็คือการแบ่งเป้าหมายใหญ่ออกเป็นเป้าหมายย่อย ๆ ที่สามารถทำได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้น การให้รางวัลตัวเองเมื่อบรรลุเป้าหมายเล็ก ๆ ก็เป็นวิธีที่ดีในการสร้างแรงจูงใจให้ไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ขึ้นได้อย่างดี
เคล็ดลับ “ตั้งเป้า” อย่างไร ให้ไปถึงจริง
การตั้งเป้าหมายเป็นรากฐานสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จในชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงาน จุดมุ่งหมายเปรียบเสมือนเข็มทิศที่นำทางให้การกระทำในแต่ละวันมีความหมาย และขับเคลื่อนด้วยความมุ่งมั่น การมีเป้าหมายที่ชัดเจนสามารถเปลี่ยนอุปสรรคให้กลายเป็นพลังในการก้าวไปข้างหน้าได้
“Setting goals is the first step in turning the invisible into the visible.
“การตั้งเป้าหมายคือขั้นตอนแรกในการเปลี่ยนสิ่งที่มองไม่เห็นให้กลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้”
Tony Robbins
“Without goals and plans to reach them, you are like a ship that has set sail with no destination.”
“การไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนก็เหมือนกับการเดินทางอย่างไร้ทิศทาง เราจะหลงทางและไม่รู้ว่าจะไปสิ้นสุดที่ใด”
Fitzhugh Dodson
“However difficult life may seem, there is always something you can do and succeed at”
“แม้ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด เราก็ยังสามารถหาโอกาสและทำบางสิ่งให้สำเร็จได้ จงอย่าท้อแท้และมองหาความเป็นไปได้เสมอ”
Stephen Hawking
“You are never too old to set another goal or to dream a new dream.”
“คุณไม่มีวันแก่เกินไปที่จะตั้งเป้าหมายใหม่หรือวาดฝันใหม่”
Les Brown
“The great glorious masterpiece of man is to know how to live with purpose.”
“ผลงานชิ้นเอกอันยิ่งใหญ่และรุ่งโรจน์ของมนุษย์คือการรู้วิธีใช้ชีวิตอย่างมีจุดมุ่งหมาย”
Michel de Montaigne
“Every twist and turn in life is an opportunity to learn something new about yourself, your interests, your talents, and how to set and then achieve goals.”
“ทุกการเปลี่ยนแปลงและทุกทางแยกในชีวิตคือโอกาสในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เกี่ยวกับตัวเอง ความสนใจ พรสวรรค์ และวิธีการตั้งเป้าหมายและบรรลุเป้าหมายเหล่านั้น”
Jameela Jamil
“Learn as if you were not reaching your goal and as though you were scared of missing it.”
“เรียนรู้ราวกับว่าคุณยังไปไม่ถึงเป้าหมาย และราวกับว่าคุณกลัวที่จะพลาดมันไป”
Confucius
“The real value of setting and achieving goals lies not in the rewards you receive but in the person you become as a result of reaching your goals.”
“คุณค่าที่แท้จริงของการตั้งเป้าหมายและการบรรลุเป้าหมายไม่ได้อยู่ที่รางวัลที่คุณได้รับ แต่อยู่ที่ตัวตนที่คุณกลายเป็นผลจากการบรรลุเป้าหมายนั้น”
Robin Sharm
การตั้งเป้าหมายไม่ใช่เรื่องยาก แต่การตั้งเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพและลงมือทำอย่างสม่ำเสมอต่างหาก ที่จะนำมาซึ่งการเติบโตในสายงานแบบก้าวกระโดด อย่ารอให้ถึงวันพรุ่งนี้ เริ่มต้นสำรวจตัวเอง กำหนดเป้าหมายที่ SMART สร้าง Action Plan และลงมือทำตั้งแต่วันนี้ ทุกก้าวเล็ก ๆ ที่เดินหน้า จะนำพาให้ใกล้ความสำเร็จในเส้นทางอาชีพอย่างแน่นอน
สมัครบัตรเครดิต KTC สามารถยื่นสมัครออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้า ครอบคลุมทุกความคุ้มค่าการใช้จ่าย ด้วยการรับคะแนน KTC FOREVER สะสมได้ไม่จำกัดและไม่มีวันหมดอายุ
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC