ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของแต่ละสิ่งล้วนแตกต่างกัน เช่นเดียวกับ ‘ผลไม้’ แต่ละชนิดที่จะมีรสชาติแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าควรเลือกทานผลไม้ชนิดไหนในช่วงเวลาใด มีวิธีเลือกซื้อผลไม้ง่าย ๆ สำหรับพ่อบ้านแม่บ้านมือใหม่หรือไม่ มาดู 5 เคล็ดลับการเลือกผลไม้ตามฤดูกาลที่นำมาฝากในบทความนี้ แล้วคุณจะรู้ว่า การเลือกผลไม้ที่ดีที่สุดของฤดูกาลนั้นไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด
ผลไม้ตามฤดูกาลมีอะไรบ้าง?
ผลไม้
สภาพดินฟ้าอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละฤดู ทำให้ผลไม้มีอัตราการเติบโตและรสชาติที่แตกต่างกันไป สำหรับใครที่รู้สึกว่าไม่ชอบทานผลไม้ เนื่องจากยังไม่เจอความอร่อยที่ใคร ๆ ก็พูดถึง ไม่แน่ใจว่าอาจเป็นเพราะยังไม่ได้ลองผลไม้ตามฤดูกาลที่ให้รสชาติที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้น ๆ ก็เป็นได้
แล้วผลไม้ตามฤดูกาลจะมีอะไรบ้าง ช่วงไหนควรเลือกทานผลไม้ชนิดใด ลองมาพิจารณาตาม ‘ปฏิทินผลไม้’ ตามรายละเอียด ดังนี้
เดือน | ชนิดผลไม้ |
---|---|
มกราคม - มีนาคม | องุ่น กล้วยหอม กล้วยน้ำว้า สับปะรด อ้อย แตงโม ขนุน มะปราง ลูกตาลอ่อน มะตูม |
เมษายน - มิถุนายน | มะม่วง ทุเรียน เงาะ ลิ้นจี่ มะไฟ ลูกหว้า ระกำ ชมพู่ มังคุด กระท้อน สับปะรด ขนุน มะละกอ |
กรกฎาคม - กันยายน | ส้มโอ ฝรั่ง น้อยหน่า มะยม อ้อย ลำไย มะเฟือง ลางสาด ลองกอง กล้วยหอม กล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ แตงไทย |
ตุลาคม - ธันวาคม | ส้มเขียวหวาน มะขามป้อม ละมุด แตงโม ฝรั่ง ชมพู่ องุ่น มันแกว ขนุน ลิ้นจี่ อ้อย มะละกอ |
5 วิธีเลือกซื้อผลไม้ง่าย ๆ มือใหม่ก็ทำได้ ใช้ได้กับผลไม้ไทยและผลไม้นำเข้า
การเลือกผลไม้ตามฤดูกาลให้อร่อย ไม่เพียงแต่จะทราบว่าผลไม้ตามฤดูกาลมีอะไรบ้างเท่านั้น แต่ยังต้องรู้ถึงวิธีการเลือกซื้อผลไม้ที่ถูกต้องด้วย ซึ่งนอกจากจะช่วยในเรื่องของรสชาติแล้ว การเลือกผลไม้อย่างถูกต้องยังช่วยให้ผู้ทานรับประโยชน์ด้านสุขภาพจากผลไม้แต่ละชนิดได้อย่างเต็มที่
เลือกซื้อผลไม้
หากยังไม่เคยมีประสบการณ์การซื้อผลไม้ด้วยตัวเองมาก่อน ลองทำตาม 5 วิธีเลือกซื้อผลไม้ง่าย ๆ ดังนี้
1. สังเกตก้านและขั้วของผลไม้
ก้านและขั้วของผลไม้เป็นตัวบอกถึงความสดใหม่และความสุกดิบของผลไม้ โดยทั่วไปแล้ว ผลไม้สดพร้อมทานและมีรสชาติเข้มข้นมักจะมีก้านสีเขียวและขั้วยังไม่หลุดจากผลไม้ ในทางตรงกันข้าม ผลไม้ที่มีก้านสีน้ำตาลแห้งเหี่ยวมักจะมีรสชาติที่เจือจาง เนื่องจากเป็นผลไม้เก่า
อย่างไรก็ดี นอกจากจะสังเกตที่สีของก้านและขั้วของผลไม้แล้ว อย่าลืมทดลองบีบผลไม้เบา ๆ เพื่อตรวจดูความสุกดิบของผลไม้ด้วย โดยหากลองบีบเบา ๆ แล้วพบว่าเนื้อผลไม้ยังแข็งอยู่ ไม่แน่ว่าอาจเป็นผลไม้ที่โดนเก็บก่อนจะสุก ซึ่งนอกจากจะไม่อร่อยเท่าที่ควรแล้ว ยังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน
2. ดูสีของผลไม้แต่ละชนิด
ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ตามฤดูกาล ผลไม้นำเข้า หรือ ผลไม้เมืองไทย อย่าลืมสังเกตสีของผลไม้แต่ละชนิดให้ดีก่อนซื้อทุกครั้ง เนื่องจากสีของผลไม้จะเป็นตัวบ่งบอกถึงความสดใหม่ รวมไปถึงความสุกดิบของผลไม้ได้เป็นอย่างดี
เริ่มต้นสังเกตสีของผลไม้ตามฤดูกาลได้ง่าย ๆ เพียงศึกษาลักษณะ ลวดลาย รวมถึงสีที่ควรจะเป็นในแต่ละช่วงเวลาของผลไม้แต่ละชนิด จากนั้นจึงลองเทียบสีผลไม้ที่เจอตามห้างสรรพสินค้า หรือ ร้านขายผลไม้ เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกผลไม้
3. สังเกตผิวของผลไม้
กว่าจะมาเป็นผลไม้ให้ได้เลือกซื้อตามร้านค้า แน่นอนว่าผลไม้แต่ละลูกย่อมผ่านการดูแล เก็บเกี่ยว และขนส่งหลากหลายรอบจนกว่าจะมาถึงมือผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ด้วยเหตุนี้ นอกจากจะสังเกตที่ก้านและสีของผลไม้แล้ว อย่าลืมสังเกตลักษณะผิวของผลไม้ตามฤดูกาลก่อนตัดสินใจซื้อด้วยเช่นกัน
โดยส่วนใหญ่แล้ว ผลไม้ที่มีคุณภาพและผ่านการดูแลรักษามาอย่างดี จะมีผิวที่เงางาม ไม่มีรอยช้ำและรอยเล็บ ทั้งยังควรปราศจากรอยโดนศัตรูพืชเจาะทำลาย นอกจากนี้ ผลไม้ที่พร้อมรับประทานและเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพยังต้องไม่มีร่องรอยของเชื้อราตามขั้ว หรือ มีจุดดำขน ๆ ตามพื้นผิวของผลไม้ด้วย
4. เลือกผลไม้ที่มีน้ำหนักและเนื้อแน่น
หลังจากที่ตรวจสอบลักษณะภายนอกของผลไม้แล้ว ทีนี้ลองมาดูที่น้ำหนักและความแน่นของผลไม้ ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อรสชาติและคุณภาพของผลไม้แต่ละชนิดกัน
การตรวจสอบน้ำหนักและลักษณะเนื้อของผลไม้ตามฤดูกาลสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการทดลองหยิบผลไม้ 2 ลูกขึ้นมาเทียบกัน โดยทั่วไปแล้ว หากหยิบผลไม้ลูกไหนขึ้นมาแล้วรู้สึกว่าหนัก ๆ หรือ รู้สึกแน่น ๆ ก็แปลว่าผลไม้ลูกที่หยิบขึ้นมานั้นมีเนื้อที่แน่นด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดี หากรู้สึกว่าผลไม้ที่หยิบขึ้นมาเทียบกันมีน้ำหนักที่เท่ากัน หรือ รู้สึกไม่มั่นใจว่ามือของเราจะสัมผัสน้ำหนักของผลไม้ได้เที่ยงตรงหรือไม่ ขอแนะนำให้ลองนำผลไม้สัก 3 - 4 ลูกมาชั่งน้ำหนักเบื้องต้น จากนั้นจึงเลือกฝึกกะน้ำหนักมือด้วยการเทียบน้ำหนักจากผลไม้ลูกที่หนักที่สุด เท่านี้ก็มีโอกาสสูงที่จะได้เจอกับผลไม้เนื้อแน่นแล้ว
5. ทดลองดมกลิ่น
การดมกลิ่นเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทราบถึงคุณภาพและความสดใหม่ของผลไม้ก่อนตัดสินใจซื้อ โดยการสังเกตกลิ่นของผลไม้สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการหยิบผลไม้ขึ้นมา 1 - 2 ลูก จากนั้นจึงทดลองดมกลิ่นผลไม้
โดยทั่วไปแล้ว ผลไม้ที่มีคุณภาพและพร้อมรับประทานจะมีกลิ่นหอมของผลไม้ แต่ในทางตรงกันข้าม หากผลไม้ที่หยิบขึ้นไม่มีกลิ่น หรือ มีกลิ่นที่ ‘รู้สึกแปลก’ ก็มีความเป็นไปได้ว่าผลไม้ลูกดังกล่าวจะไม่มีคุณภาพ หรือ หากโชคร้ายอาจเป็นผลไม้เน่าในก็เป็นได้
อย่างไรก็ดี การดมกลิ่นผลไม้ควรให้ถูกสุขลักษณะ โดยปกติ การดมผลไม้เพียง 1 - 2 ลูกก็สามารถทราบได้ถึงคุณภาพของผลไม้ทั้งหมดที่นำมาวางขายแล้ว ดังนั้น หากไม่มีความจำเป็นก็ไม่ควรหยิบผลไม้ขึ้นมาดมทั้งหมด ทั้งนี้เพื่อรักษาความสะอาดให้กับผู้ซื้อท่านอื่น รวมถึงเป็นป้องกันไม่ให้เชื้อโรคที่ผิวของผลไม้เข้ามาสู่ร่างกายของคุณด้วย
3 วิธีเก็บรักษาผลไม้ง่าย ๆ อร่อยได้นาน
จัดเก็บผลไม้
หลังจากที่เลือกซื้อผลไม้กลับมาบ้านแล้ว สำหรับบ้านไหนที่ต้องการเก็บผลไม้เอาไว้รับประทานในภายหลัง แต่ยังต้องการเก็บรักษารสชาติที่ดีที่สุดของผลไม้เอาไว้ ลองมาทำตาม 3 วิธีเก็บรักษาผลไม้ง่าย ๆ ดังนี้
1. ไม่ควรล้างผลไม้ก่อนเก็บ
หลังจากที่ซื้อผลไม้ตามฤดูกาลมาแล้ว หากต้องการเก็บล็อกรสชาติและความสดใหม่ของผลไม้ ขอแนะนำให้นำผลไม้เข้าตู้เย็นโดยไม่ต้องนำไปล้างน้ำ เนื่องจากการนำผลไม้ไปล้างจะยิ่งเป็นการเพิ่มความชื้นและทำให้ผลไม้เน่าเสียได้เร็วยิ่งขึ้น
2. แยกชนิดผลไม้ก่อนเก็บ
การเก็บผลไม้หลายชนิดรวมกันอาจทำให้ผลไม้เสียเร็วกว่าที่ควรจะเป็น เนื่องจากผลไม้บางชนิดอาจปล่อยแก๊สเอทิลีนที่เร่งการสุกงอมของผลไม้ ซึ่งหากไม่รับประทานให้ทันก็จะทำให้ผลไม้เน่าเสียไปอย่างน่าเสียดายได้
ดังนั้น หลังจากซื้อผลไม้ตามฤดูกาลมาแล้ว อย่าลืมแยกประเภทผลไม้และวางแยกชั้นกัน เพื่อรักษาสภาพและรสชาติของผลไม้เอาไว้ให้นานที่สุดด้วย
3. เก็บผลไม้ในอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสม
หลังจากซื้อผลไม้ตามฤดูกาลมาแล้ว ขอแนะนำให้เก็บในบริเวณที่มีอุณหภูมิและความชื้นคงที่และเหมาะกับผลไม้ เนื่องจากการเปลี่ยนสภาพอากาศผลไม้บ่อย ๆ อาจทำให้ผลไม้เน่าเสียเร็วกว่าที่ควรจะเป็น
นอกจากนี้ พ่อบ้านและแม่บ้านยังควรเก็บผลไม้เอาไว้ในถุงกระดาษที่เจาะรู เพื่อให้ความชื้นและอากาศไหลเวียนได้อย่างสมดุล ซึ่งการเก็บผลไม้เอาไว้ในถุงหรือกล่องพลาสติกจะยิ่งเป็นการสะสมความชื้น ทำให้ผลไม้เน่าเสียเร็วกว่าที่ควรจะเป็นอีกด้วย
เท่านี้พ่อบ้านและแม่บ้านมือใหม่ก็สามารถเลือกซื้อผลไม้ตามฤดูกาลได้อย่างถูกต้อง ลงตัวทั้งความอร่อยและประโยชน์ทางสุขภาพที่จะได้รับ สำหรับพ่อบ้านและแม่บ้านที่เป็นสมาชิกบัตรเครดิต KTC ก่อนแวะไปช้อปผลไม้จากที่ไหน หากไม่อยากพลาดผลไม้ตามฤดูกาลแสนอร่อยในราคาสุดคุ้ม อย่าลืมมาเช็กดูโปรโมชันพิเศษกับบัตรเครดิต KTC ที่ Tops ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายผ่อน 0% นาน 3 เดือน
และโปรโมชันซุปเปอร์มาร์เก็ตในเครือ Lotus's สาขาใกล้บ้าน เพิ่มความคุ้มเพียงใช้คะแนนแลกรับเครดิตเงินคืน รับรองถูกใจคุณพ่อบ้านแม่บ้านแน่นอน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ KTC PHONE 02 123 5000