36 ที่เที่ยวอเมริกา (USA) แลนด์มาร์คที่ต้องไปเช็คอินสักครั้งในชีวิต
อเมริกาเป็นประเทศใหญ่ที่มีหลายเมืองแต่ละเมืองก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ถือเป็นแลนด์มาร์คหลากหลายจุด วันนี้ KTC WORLD รวบรวมที่เที่ยวอเมริกาจาก 9 เมือง คือ นิวยอร์ก (New York City) , วอชิงตัน ดี.ซี. (Washington, D.C) , ออร์แลนโด (Orlando) , ไมอามี่ (Miami) , ชิคาโก (Chicago) , ลาสเวกัส (Las Vegas) , ซานฟรานซิสโก (San Francisco) , ลอสแอนเจลิส (Los Angeles) และ ฮาวาย (Hawaii) มาให้เหล่านักท่องเที่ยวได้เก็บไว้เป็นเช็คลิสต์ แล้วไปให้ได้สักครั้งในชีวิต ( ดูโปรโมชั่นทัวร์อเมริกา )
KTC WORLD แนะนำ ที่เที่ยวอเมริกา ที่ไม่ควรพลาด
1. ตึกเอ็มไพร์เสตท (Empire State) - นิวยอร์ก (New York City)
ตึกเอ็มไพร์เสตทเป็นตึกสูง 103 ชั้น นักท่องเที่ยวนิยมไปชมวิวทิวทัศน์ของของเมืองนิวยอร์กโดยชั้นที่เปิดให้สามารถชมวิวได้คือ ชั้นที่ 86 และ 102 มีกล้องส่องทางไกลขนาดใหญ่ที่สามารถส่องแล้วเห็นรัฐที่อยู่ใกล้ๆได้ หากไปเที่ยวนิวยอร์กแล้วต้องอย่าพลาดที่จะขึ้นไปชมวิวแล้วถ่ายรูปสวยๆกลับมาเป็นที่ระลึก
2. สะพานบรูคลิน (Brooklyn Bridge) - นิวยอร์ก (New York City)
อีกหนึ่งกิจกรรมเมื่อมาเที่ยวอเมริกา คือการเดินเล่นบนสะพานสะพานบรูคลิน โดยสะพานบรูคลินเป็นสะพานแขวนที่ใช้ข้ามแม่น้ำอีสต์มีความยาว 486 เมตร สามารถมาเที่ยวได้ทุกช่วงเวลาแต่ช่วงเวลาที่แนะนำคือ หน้าร้อน นอกจากเดินเล่นบนสะพานแล้วยังมี สวนสาธารณะ Brooklyn Bridge Park เป็นจุดนั่งเล่น นั่งพักผ่อนชมพระอาทิตย์ยอดฮิตของทั้งชาวเมืองนิวยอร์กและนักท่องเที่ยว
3. เทพีเสรีภาพ (Statue of Liberty) - นิวยอร์ก (New York City)
แลนด์มาร์คของอเมริกาอีกที่หนึ่งที่คุ้นตากันดีคือ เทพีเสรีภาพ หรือ อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ เป็นประติมากรรมโลหะสำริด รูปเทพีลิเบอร์ตาส (Libertas) เป็นเทพีแห่งเสรีภาพของโรมัน โดยการไปชมเทพีเสรีภาพสามารถขึ้นเรือได้จากฝั่ง New York และ New Jersy สามารถจองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้าได้ โดยใช้เวลาเดินเที่ยวบนเกาะของเทพีเสรีภาพประมาณ 2 ชั่วโมง บนเกาะมีคาเฟ่และร้านอาหารให้ได้นั่งชิล
4. เซ็นทรัลพาร์ค (Central Park) - นิวยอร์ก (New York City)
เซ็นทรัลพาร์ค เป็นสวนสาธารณะใจกลางเมืองนิวยอร์ก เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของทั้งชาวนิวยอร์กและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ถือเป็นปอดของเมืองนิวยอร์กเลยเนื่องจากเซ็นทรัลพาร์คร่มรื่นและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ นอกจากนั้นยังมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม อย่าง สะพาน Springbanks Arch , น้ำพุ Bethesda และ Bethesda Terrace ที่เป็นโถงทางเดินตกแต่งตามแบบยุควิคตอเรีย หากมาเที่ยวอเมริกาแล้วมาที่เมืองนิวยอร์ก็อย่าลืมมานั่งเล่น นั่งปิคนิค ถ่ายรูปเช็คอินที่เซ็นทรัลพาร์ค
5. น้ำตกไนแองการา (Niagara Falls) - นิวยอร์ก (New York City)
น้ำตกไนแองการาอยู่ระหว่างสองประเทศคืออเมริกาและประเทศแคนาดา โดยน้ำตกไนแองการาเป็นน้ำตกที่เกิดมาเมื่อประมาณ 12,500 ปีมาแล้ว เป็นจุดรวมของน้ำตกทั้งสามสายคือ น้ำตกเกือกม้า น้ำตกอเมริกา และ น้ำตก Bridal Veil Falls จึงทำให้มีมวลน้ำมหาศาลและน้ำตกมีขนาดความกว้าง 675 เมตร มีความสูง 54 เมตร นักท่องเที่ยวนิยมมาล่องเรือชมความสวยงามของน้ำตก หรือ จะมาเดินเล่นที่สวนสาธารณะ Niagara Parkway ที่อยู่ตรงข้ามน้ำตกและถือเป็นจุดชมน้ำตกที่สวยที่สุดอีกด้วย
6. The Oculus World Trade Center - นิวยอร์ก (New York City)
The Oculus World Trade Center เป็นสถานที่เที่ยวสุดชิคที่มีสถาปัตยกรรมสุดเก๋อยู่ในเมืองนิวยอร์ก มีลักษณะโครงสร้างเป็นซี่ๆ เหมือนกระดูกของปีนกที่ยื่นออกมา คล้ายกับนกสีขาวเป็นสัญลักษณ์ของเสรีภาพที่หลุดพ้นจากโศกนาฏกรรมที่เคยเกิดขึ้นในอดีต นักท่องเที่ยวนิยมไปเดินเล่น ไปถ่ายรูปและชมความสวยงามของอาคาร
7. ไวท์ เฮ้าส์ (White House) - วอชิงตัน ดี.ซี. (Washington, D.C)
ไวท์ เฮ้าส์ หรือ ทำเนียบขาวที่หลายๆคนคุ้นชื่อคุ้นหูกันดี เป็นคฤหาสน์สีขาวทรงนีโอคลาสสิค ภายในมีทั้งหมด 6 ชั้น ประกอบไปด้วย ชั้นใต้ดิน 2 ชั้นเป็นห้องควบคุมระบบต่างๆ ชั้นพื้นดินเป็นห้องครัว ห้องสมุด ชั้นหนึ่ง เป็นห้องรับประทานอาหาร ชั้นสองเป็นพื้นที่พำนักส่วนตัวของประธานาธิบดีและครอบครัว และชั้นสาม ป็นพื้นที่ทำกิจกรรมสำหรับผ่อนคลาย นักท่องเที่ยวส่วนมากนิยมไปถ่ายรูปบริเวณด้านหน้า ไวท์ เฮ้าส์ เท่านั้นเพราะหากต้องการเข้าไปด้านในต้องติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อยื่นคำร้องเพื่อขอเยี่ยมชม ไวท์ เฮ้าส์เป็นบ้านพักของผู้นำสูงสุดมานานกว่า 220 ปี
8. อาคารรัฐสภาสหรัฐอเมริกา (United States Capitol) - วอชิงตัน ดี.ซี. (Washington, D.C)
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองวอชิงตัน ดี.ซี. ที่เหล่านักท่องเที่ยวจะต้องมาเช็คอินคือ อาคารรัฐสภาสหรัฐอเมริกา โดยที่นี่ถูกออกแบบโดย William Thornton เป็นอาคารหินอ่อนทรงนีโอคลาสสิค ภายในตกแต่งด้วยหินอ่อนและแกะสลักลวดลายเสาแบบกรีกและเปิดให้นักท่องเที่ยวชมเพียงบางส่วน เป็นแหล่งเก็บงานศิลปะและประวัติศาสตร์ที่สำคัญของอเมริกา
9. อนุสรณ์สถานเจฟเฟอร์สัน (Thomas Jefferson Memorial) - วอชิงตัน ดี.ซี. (Washington, D.C)
นายโทมัส เจฟเฟอร์สัน คือประธานาธิบดีคนที่สามของสหรัฐอเมริกา ได้รับการยกย่องให้เป็นบุคคลสําคัญในประวัติศาสตร์โลกเนื่องจากมีบทบาทสำคัญคือเป็นผู้เขียนคำประกาศอิสรภาพของอเมริกา ภายในเมื่อเดินขึ้นไปด้านบนจะมองเห็นวิวทิวทัศน์ของทำเนียบขาว เสาแต่ละต้นก็จะมีรูปปั้นของเจฟเฟอร์สันที่ทำขึ้นมาจากทองสำริด ความสูง 19 ฟุต (6 เมตร) นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินชมสถาปัตยกรรมอันสวยงามของที่นี่
10. อนุสาวรีย์วอชิงตัน (Washington Monument) - วอชิงตัน ดี.ซี. (Washington, D.C)
เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างเพื่อเป็นเกียรติแก่จอร์จ วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา โดยลักษณะของอนุเสาวรีย์เป็นแท่งโอเบลิสก์ ทำด้วยหินอ่อน หินแกรนิต และหินทรายมีความสูง 169 เมตร ใช้เวลาสร้างนาน 36 ปี อีกชื่อหนึ่งของอนุสาวรีย์วอชิงตันคือ เสาดินสอ นักท่องเที่ยวนิยมมาชมมาถ่ายรูปเช็คอิน
11. หอสมุดรัฐสภา (Library of congress) - วอชิงตัน ดี.ซี. (Washington, D.C)
หอสมุดรัฐสภาก่อตั้งมาตั้งแต่ ค.ศ. 1800 หอสมุดแห่งนี้ถือเป็นหอสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ห้องโถงกลางของหอสมุดสร้างและตกแต่งสไตล์ Italian Renaissance เสาแต่ละต้นที่อยู่ในห้องถูกเป็นเสาหินอ่อน ภายในบนเพดานถูกตกแต่งอย่างสวยงาม แต่ละห้องของหอสมุดใหญ่โตอลังการ รับรองว่าไปแล้วตื่นตาตื่นใจอย่างแน่นอน
12. Universal Orlando Resort - ออร์แลนโด (Orlando)
ออร์แลนโดถือเป็นเมืองแห่งสวนสนุกเพราะนอกจากจะมียูนิเวอร์แซลแล้ว ยังมีสวนสวนุกเลโก้แลนด์ สวนสนุก Seaworld และสวนสนุกวอลท์ ดิสนีย์ เวิลด์ มาเที่ยวออร์แลนโดก็ต้องเที่ยวให้ครบ สำหรับ Universal Orlando Resort แบ่งออกเป็น 4 โซนด้วยกันคือ
1. Universal Walk ที่เป็นโซนสำหรับขายของที่ระลึกและร้านค้าต่างๆ
2. Universal Volcano Bay เป็นสวนน้ำ
3. Universal Studios Florida
4. Islands of Adventure
เพื่อความสะดวกแนะนำให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น The Official Universal Orlando Resort มาไว้เพื่อดูแผนที่และเวลาในการแสดงโชว์ต่างๆ เข้าไปด้านในสวนสนุกแล้วรับรองว่าเหมือนหลุดเข้าไปอีกโลกอย่างแน่นอน
13. เลโก้แลนด์ (LEGOLAND Florida Resort) - ออร์แลนโด (Orlando)
ที่เที่ยวอเมริกาที่เอาใจเด็กโดยเฉพาะคือที่สวนสนุกเลโก้แลนด์ ภายในแบ่งเป็นโซน 14 โซน มีเครื่องเล่นมากกว่า 50 เครื่องเล่น มีม้าหมุนขนาดใหญ่ โรงภาพยนตร์ 4 มิติที่สามารถจุคนได้ถึง 700 ที่นั่ง และไฮไลท์คือเมืองจำลองที่สร้างจากตัวต่อเลโก้สามารถมาชมความน่ารักและถ่ายรูปคู่กับเมืองจิ๋วนี้ได้
14. สวนสนุก SeaWorld - ออร์แลนโด (Orlando)
เปิดประสบการณ์อันน่าทึ่งของโลกใต้นำ้พร้อมกับความสนุกของเครื่องเล่นที่น่าตื่นเต้นหลากหลายเครื่องเล่น ถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่อย่างแน่นอนโดยเฉพาะเด็กๆเพราะมี พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ มีสัตว์หลายชนิดให้ได้ชมไม่ว่าจะเป็น เพนกวิน วอรัส โลมา ที่สามารถชมได้อย่างใกล้ชิด หรือสามารถจองทัวร์เพื่อไปชมวาฬเบลูก้าได้อีกด้วย
15. สวนสนุกวอลท์ ดิสนีย์ เวิลด์ (Walt Disney World) - ออร์แลนโด (Orlando)
อีกหนึ่งที่เที่ยวอเมริกาสำหรับสาวกดิสนีย์คือ วอลท์ ดิสนีย์ เวิลด์ เป็นสวนสนุกในฝันของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ วอลท์ ดิสนีย์ เวิลด์ ใหญ่กว่าดิสนีย์แลนด์หลายเท่า หากมาที่นี่แนะนำให้ซื้อ FastPass เพราะที่นี่ทั้งใหญ่และมีเครื่องเล่นเยอะรับรองว่ามีเวลาไม่พอในการเล่นอย่างแน่นอน วอลท์ ดิสนีย์ เวิลด์ แบ่งออกเป็น 4 โซนด้วยกันคือ Magic Kingdom , Epcot , Disney's Animal Kingdom และ Disney's Hollywood Studios แต่ละโซนก็มีความสนุกที่แตกต่างกันออกไป
16. อุทยานแห่งชาติเอเวอร์เกลดส์ (Everglades National Park) - ไมอามี่ (Miami)
อุทยานแห่งชาติเอเวอร์เกลดส์ เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำครอบคลุม 1.5 ล้านเอเคอร์ หรือ 1,508,976 ไร่ ถือเป็นมรดกโลก มีสัตว์หายากหลายชนิด เช่น วัวทะเล หรือ พะยูนแมนนาที เสือดำ และสัตว์อื่นๆอีกหลายร้อยชนิด นอกจากนี้ยังมีต้นไม้กว่า 120 ชนิด กล้วยไม้ 40 ชนิด อุทยานแห่งชาติเอเวอร์เกลดส์ มีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวหลายกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็น ขึ้นหอคอยชมวิวของอุทยาน ล่องเรือชมอ่าวฟลอริดา พายคายัคเพื่อชมแอลลิเกเตอร์ พะยูน หรือโลมา และที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม ถือเป็นที่เที่ยวธรรรมชาติของประเทศอเมริกาที่ควรต้องมาให้ได้สักครั้ง
17. ท่าเรือไมอามี่ (Port Miami, The Largest Passenger Port in the World) - ไมอามี่ (Miami)
ที่เที่ยวอเมริกา ที่สักครั้งในชีวิตที่ต้องมาเห็นกับตาคือ ท่าเรือไมอามี่ อยู่ทางตอนใต้ของหาดไมอามี่เป็นท่าจอดเรือสำราญชั้นนำของโลก เช่น Symphony of the Seas, Carnival Conquest, Carnival Horizon, Carnival Sensation, Carnival Victory เป็นต้น และเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก นักท่องเที่ยวนิยมมาชมความสวยงามอลังการของเรือสำราญ และเดินเล่นที่ท่าเรือ แต่หากต้องการขึ้นเรือสำราญต้องมีการจองออนไลน์มาก่อนล่วงหน้า
18. หาดไมอามี่ - ไมอามี่ (Miami)
หาดไมอามี่ เป็นหาดทรายขาวมีลักษณะโค้งเว้ามีความยาว 12 กิโลเมตร ถือเป็นเมืองตากอากาศสุดฮิตของชาวอเมริกาและเป็นที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ถนนที่เดินเลียบชาดหาดเรียกว่า Miami Beach Boardwalk สามารถเดินเล่น ถ่ายรูป รับลมชมวิวได้ หรือกิจกรรมยอดฮิตที่ไม่ควรพลาดอีกอย่างหนึ่งก็คือ การอาบแดด และการชมบ้านเรือนที่มีสถาปัตยกรรมแบบอาร์ตเดคโค ในยามค่ำคืนหาดไมอามี่ก็ไม่ได้หลับไหลมีไนต์คลับยุค 50 ให้ได้ไปนั่งชิล
19. South Beach Miami - ไมอามี่ (Miami)
South Beach Miami เป็นหาดตอนใต้ของหาดไมอามี่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้แวะเวียนมาไม่ขาดสายเพราะที่นี่กลางวันสวยงามด้วยหาดทรายสีขาว ตัดกับทะเลสีฟ้า จะมานอนอาบแดดชิลๆ หรือเดินเล่นรับลมทะเลก็ฟินสุด กลางคืนที่หาดเต็มไปด้วยบาร์และไนต์คลับหลากหลายให้ได้เลือกนั่งตามสไตล์ มีถนนลินคอล์นที่เป็นแหล่งช็อปปิ้งสำหรับสายช็อป มีโรงแรมสวยๆให้ได้เลือกพัก เรียกได้ว่าเป็นที่เที่ยวอเมริกาอีกที่หนึ่งที่ครบครันเรื่องความสวยงาม ความบันเทิงและความสะดวกสบาย
20. น้ำพุบักกิงแฮม (Buckingham Fountain) - ชิคาโก (Chicago)
น้ำพุบักกิงแฮม เป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปเช็คอินของเหล่านักท่องเที่ยวในเมืองชิคาโก โดยน้ำพุเป็นน้ำพุที่มีความสวยงามตามสถาปัตยกรรมแบบร็อคโกโก (rococo) และได้รับฉายาว่าเป็นนำ้พุที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย แต่ไฮไลท์ของนำ้พุแห่งนี้อยู่ที่การแสดง แสง สี เสียง ที่จะมีขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน - เดือนตุลาคม เวลา 08.00 - 23.00 น.
21. เนวี เพียร์ (Navy Pier) - ชิคาโก (Chicago)
เนวี เพียร์ ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1916 เป็นสถานที่รวบรวมความบันเทิงที่สามารถเที่ยวได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ภายในมีท่าเรือยาว 1,010 เมตร มีร้านค้า ร้านอาหาร ม้าหมุน ชิงช้าสรรค์ หนัง 4 มิติ พิพิธภัณฑ์แก้ว และจุดสำหรับถ่ายรูปเดินเล่น บอกได้เลยว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ถูกใจทุกเพศทุกวัยอย่างแน่นอนโดยเฉพาะเด็กๆ
22. Chicago River Walk - ชิคาโก (Chicago)
หนึ่งในที่เที่ยวอเมริกา ในเมืองชิคาโกที่เรียกได้ว่าชิลสุดๆคือ Chicago River Walk เดินเล่นริมแม่น้ำชิคาโก โดยแม่น้ำแห่งนี้เป็นแม่น้ำสายธรรมชาติ เป็นแม่น้ำและคลองไหลที่ไหลผ่านเมืองชิคาโก ทางเดินบริเวณ Chicago River Walk มองขึ้นไปจะเห็นวิวตึกสูงระฟ้า แต่ละตึกมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามแตกต่างกันออกไป และมีอนุสาวรีย์ของ George Washington ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา Robert Morris และ Haym Salomon ผู้ซึ่งเป็นบิดาทางการเงินในยุคปฏิวัติอเมริกา ตั้งไว้เป็นแลนด์มาร์คของที่นี่
23. เพียร์ 39 (Pier 39) - ซานฟรานซิสโก (San Francisco)
เพียร์ 39 เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในซานฟรานซิสโก ไฮไลท์คือเจ้าสิงโตทะเล ที่นอนอยู่เต็มท่าเรือเป็นขวัญใจของเหล่านักท่องเที่ยว ที่เพียร์ 39 มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ ให้ได้ไปนั่งชิลๆ หรือไปเดินเล่นถ่ายรูปรับลมทะเลก็ถือว่าชิลสุดๆ
24. เกาะอัลคาทราซ (Alcatraz Island) - ซานฟรานซิสโก (San Francisco)
เกาะอัลคาทราซ เป็นเกาะเล็ก ๆในอดีตที่นี่เคยเป็นสถานที่ตั้งประภาคาร ป้อมปราการของกองทัพ เป็นคุกทหาร และเป็นเรือนจำกลางที่ขังนักโทษระดับประเทศ แต่หลังจากปี 1963 ก็ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของอเมริกา และยังเป็นสถานที่ถ่ายภาพยนตร์หลายๆเรื่องอย่าง The Rock
25. Golden Gate Bridge - ซานฟรานซิสโก (San Francisco)
หนึ่งในที่เที่ยวอเมริกายอดฮิตและถือเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญคือ สะพาน Golden Gate สะพานสร้างในสมัยของประธานาธิบดี แฟรงกลิน ดี. รูสเวลท์ ในปี ค.ศ. 1993 มีลักษณะเป็นสะพานสีส้ม มีความกว้าง 27 เมตร สูงกว่าระดับน้ำทะเล 67 เมตร และยาว 1,280 เมตร โดยจุดที่สามารถถ่ายรูปหรือชมวิวสะพานมีหลายจุดด้วยกัน สามารถเลือกเดินเล่น เดินถ่ายรูปได้ และไฮไลท์ของที่นี่อีกอย่างหนึ่งคือ หมอกบริเวณรอบสะพาน ที่ทำให้สะพานสวยงามยิ่งกว่าเดิม
26. ถนนลอมบาร์ด (Lombard Street) - ซานฟรานซิสโก (San Francisco)
ถนนลอมบาร์ด หรือ ถนนที่ได้รับฉายาว่าเป็นถนนที่คดเคี้ยวที่สุดในโลก เป็นถนนที่เชื่อมระหว่าง ถนนไฮด์ (Hyde) กับ ถนนลีเวนเวิร์ท (Leavenworth) ถนนมีลักษณะลาดชัน คดเคี้ยว มีการหักศอก มีลักษณะเป็นตัว S และมีความชันถึง 40 องศา มีความยาว 400 เมตร สามารถขับลงได้อย่างเดียว นักท่องเที่ยวนิยมมาที่นี่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิเนื่องจากจะทำให้บริเวณแห่งนี้มีความสวยงามเหมาะแก่การถ่ายรูป
27. ถนนฟรีมอนต์ (Fremont Street) - ลาสเวกัส (Las Vegas)
เที่ยวเมืองลาสเวกัสแบบชิลๆที่ถนน Fremont Street ที่นี่เคยเป็นที่ตั้งของคาสิโนดังๆหลายที่ และกลายเป็นย่านเมืองเก่า แม้ปัจจุบันที่นี่จะไม่คึกคักเท่ากับเดอะสตริปแล้ว แต่ก็ยังมีร้านค้า ร้านอาหารเรียงราย ให้ได้เดินเที่ยวเล่น หรือไปนั่งทานอาหารอร่อยๆ นอกจากนี้ยังมีการแสดงให้ได้ชม
28. เดอะสตริป (The Strip) - ลาสเวกัส (Las Vegas)
เดอะสตริปเป็นส่วนหนึ่งของถนนลาสเวกัสใต้ มีความยาว 6.8 กิโลเมตร เป็นศูนย์รวมคาสิโน โรงแรมหรู รีสอร์ทสวยๆมากมาย แต่ละโรงแรมแต่ละคาสิโนมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามโดดเด่น ยามค่ำคืนประดับประดาด้วยแสงสี แสงไฟ สีสันสวยงาม ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์น่าหลงไหลจนมีชื่อเสียงระดับโลก
29. พิพิธภัณฑ์ศิลปะลอสแอนเจลิสเคาน์ตี้ หรือ Los Angeles County Museum of Art (LACMA) - ลอสแอนเจลิส (Los Angeles)
อีกหนึ่งที่เที่ยวอเมริกาและถือเป็นแลนด์มาร์คเล็กๆของเมือง LA นั่นก็คือ LACMA หรือ พิพิธภัณฑ์ศิลปะลอสแอนเจลิสเคาน์ตี้ มีการแสดงผลงานมากกว่า 150,000 ชิ้นที่ครอบคลุมประวัติศาสตร์ศิลปะตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์และคอนเสิร์ตผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาให้ได้ชมอีกด้วย
30. ดิสนีย์แลนด์ แคลิฟอร์เนีย (Disneyland California) - ลอสแอนเจลิส (Los Angeles)
ดิสนีย์แลนด์ แคลิฟอร์เนีย ถือเป็นจุดกำเนิดของดิสนีย์แลนด์ทั้งหมด นักท่องเที่ยวคนใดเป็นสาวกของดิสนีย์แล้วล่ะก็ต้องมาให้ได้สักครั้ง โดยดิสนีย์แลนด์ แคลิฟอร์เนีย แบ่งออกเป็นสองโซนคือ
- ดิสนีย์แลนด์พาร์ค (Disneyland Park) มี 8 โซน
- ดิสนีย์แคลิฟอร์เนียแอดเวนเจอร์ (Disney California Adventure Park) มี 7 โซน
แพลนที่เที่ยวอเมริกาต้องเตรียมไว้สำหรับ ดิสนีย์แลนด์ แคลิฟอร์เนีย 2 วัน เพราะบอกได้คำเดียวว่ามาเที่ยวที่นี่วันเดียวอาจจะไม่พอไม่สนุกจุใจ
31. หอดูดาวกริฟฟิท (Griffith Observatory) - ลอสแอนเจลิส (Los Angeles)
ภายในหอดูดาวกริฟฟิทจัดแสดงเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และอวกาศ หากมีเวลาว่างเมื่อไปเที่ยวที่ LA แล้วล่ะก็ถือเป็นที่เที่ยวที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะได้เรียนรู้กับวิทยาศาสตร์และอวกาศแล้ว ยังเป็นจุดชมวิวเมืองลอสแอนเจลิสที่สวยงามอีกด้วย
32. ป้ายฮอลลีวูด (Hollywood Sign) - ลอสแอนเจลิส (Los Angeles)
ไฮไลท์ของลอสแอนเจลิสคงจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ ที่ถ้าเห็นแล้วก็ต้องรู้ว่าที่นี่คือ LA นั่นก็คือ ป้ายฮอลลีวูด หรือ Hollywood Sign ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาลี การเดินทางไปที่ป้ายฮอลลีวูดแบบใกล้ๆ ก็สามารถไปขึ้นรถบัสที่ Griffith Observatory ได้ ไปถึงแล้วก็ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งเคยมาที่นี่แล้ว ด้านบนยังสามารถมองเห็นวิวเมืองลอสแอนเจลิสได้แบบไกลๆ เป็นวิวที่สวยงามมากๆ แต่ป้ายฮอลลีวูดแห่งนี้สามารถมองเห็นได้จากทุกจุดในเมืองลอสแอนเจลิสเลย
33. เกาะโออาฮู (Oahu Island) - ฮาวาย (Hawaii)
หนึ่งในที่เที่ยวเมืองฮาวายที่เป็นสถานที่ยอดฮิตของเหล่านักท่องเที่ยวคือ เกาะโออาฮู เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสามของฮาวาย ภายในเกาะโออาฮู มีที่เที่ยวอย่างชายหาดไวกิกิ ชายหาดสีขาวที่เหล่านักเล่นเซิร์ฟจากทั่วโลกชื่นชอบ มีพระราชวังอิโอลานีที่มีสถาปัตยกรรมและงานศิลปะที่สวยงามให้ได้ชม มีอ่าวเพิร์ลฮาเบอร์ หรือ อ่าวไข่มุก ให้ได้ไปเที่ยวชม มีไดมอนด์ เฮด ปากปล่องภูเขาไฟที่ดับไปแล้วที่ผุดขึ้นกลางเกาะสุดมหัศจรรย์ให้ได้ชม
34. ชายหาดไวกิกิ - ฮาวาย (Hawaii)
หากใครมาเที่ยวฮาวาย ประเทศอเมริกาแล้วนั้นจุดหมายปลายทางที่พลาดไม่ได้ในการมาพักผ่อนคือหาดไวกิกิ เป็นชายหาดสที่เต็มไปด้วยรีสอร์ทและโรงแรมหรูระดับห้าดาว จะมานั่งชิลๆชมวิวทิวทัศน์ ชมพระอาทิตย์ตกหรือนอนอาบแดด สำหรับสายกิจกรรมก็มีการเล่นเซิร์ฟ โดยที่หาดแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องการเล่นเซิร์ฟระดับโลกเพราะคลื่นเหมาะทั้งกับมือใหม่ที่หัดเล่น และผู้ที่เล่นเก่งแล้ว หากต้องการเรียนเล่นเซิร์ฟก็มีจุดบริการนักท่องเที่ยว ในวันหยุดที่หาดไวกิกิจะมีการแสดงระบำฮาวายให้ได้ชมอีกด้วย
35. อุทยานแห่งชาตินาปาลี (Na Pali Coast State Park) - ฮาวาย (Hawaii)
อุทยานแห่งชาตินาปาลีเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติภูเขาไฟฮาวาย มีหุบเขาคาลาเลาที่เป็นภูเขาขนาดใหญ่มีลักษณะขรุขระทรงเหลี่ยมยาวมีสีเขียว สีส้ม สีน้ำตาลเข้มเป็นสีสันสดใสเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของหุบเขาแห่งนี้ อยู่ตามแนวชายหาดฝั่งเหนือมหาสมุทรแปซิฟิก สีสันของหุบเขาตัดกับสีของน้ำทะเลแปซิฟิกดูสวยงาม ที่นี่ยังมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์
36. อุทยานแห่งชาติภูเขาไฟฮาวาย (Hawaii Volcanoes National Park) - ฮาวาย (Hawaii)
อุทยานแห่งชาติภูเขาไฟฮาวายเป็นภูเขาไฟ 2 ลูกที่ยังไม่ดับ แต่ก็ยังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเนื่องจากบริเวณรอบๆมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม นักท่องเที่ยวนิยมขับรถชมธรรมชาติโดยรอบ และมีไฮไลท์เป็น เส้นทางสำรวจคาลาลาอู (Kalalau Trail) พื้นที่บางส่วนของอุทยานเป็นพื้นที่สงวนอาจจะไม่ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป ที่นี่เป็นที่เที่ยวอเมริกาที่เหมาะสำหรับสายลุยมากๆ เหมาะจะมาชมความสวยงามให้ได้สักครั้งในชีวิต ( ดูโปรโมชั่นทัวร์อเมริกา )
สมาชิกบัตรเครดิต KTC เที่ยวไทย เที่ยวต่างประเทศ จองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม / รีสอร์ท จองรถเช่า ประกันการเดินทาง หรือ ปรึกษาข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยว โปรโมชั่นสายการบิน โปรโมชั่นที่พัก ฯลฯ แสนสะดวก ไม่มีค่าธรรมเนียมการรูดบัตร ได้ที่ KTC World Travel Service โทร. 02 123 5050 ให้บริการข้อมูลการเดินทาง จองและวางแผนการเดินทาง (Travel Planner) ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง หรือ ส่งอีเมล์มาที่ ktcworld@ktc.co.th หรือ สอบถามข้อมูลผ่านช่องทาง LINE: KTC WORLD และ Facebook : KTC WORLD Community
ตรวจสอบโปรโมชั่น / สิทธิพิเศษบัตรเครดิต KTC ที่ KTC WORLD TRAVEL SERVICE คลิก
อ่านเรื่องราวการท่องเที่ยวอื่นๆเพิ่มเติม