4P คืออะไร จำเป็นหรือไม่กับการตลาดยุคใหม่ เจ้าของธุรกิจต้องรู้

ส่วนผสมทางการตลาด 4P กลยุทธ์ที่ช่วยให้ธุรกิจราบรื่น

เจ้าของธุรกิจต่างทราบกันดี ว่าธุรกิจจะดำเนินต่อไม่ได้เลย หากไม่มี “ลูกค้า” กลุ่มคนที่ช่วยสร้างความมั่นคง และเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อน ดังนั้นการวิเคราะห์ลูกค้าด้วยการวางแผนการตลาดอย่างเหมาะสม รวมไปถึงการมีสินค้าและการบริการที่ดี จึงเป็นหัวใจหลักที่ช่วยให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจ บอกต่อกันแบบปากต่อปาก และมีการซื้อสินค้าซ้ำจนกลายเป็นลูกค้าประจำ ซึ่งปัจจุบันมีแผนการตลาดมากมายที่น่าสนใจ หนึ่งในนั้นคือ 4P การตลาด ที่หากใครเป็นนักการตลาดมือทองอาจรู้จักกันดีอยู่แล้ว แต่สำหรับเจ้าของธุรกิจหน้าใหม่ อาจสงสัยว่าแท้จริงแล้วการตลาด 4P คืออะไร ช่วยในการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าได้จริงหรือไม่ บทความนี้ MAAI BY KTC ชวนเจ้าของธุรกิจไขคำตอบพร้อมกัน

4P Marketing คืออะไร? มีความสำคัญสำคัญอย่างไรกับธุรกิจ

4P Marketing หรือ ส่วนผสมทางการตลาด 4P (Marketing Mix) หนึ่งทฤษฎีของวงการ Marketing ที่เป็นตัวกำหนดและวางกลยุทธ์ต่าง ๆ ให้เข้ากันอย่างลงตัว มีส่วนช่วยในการวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าอย่างละเอียดและครอบคลุม ซึ่งแน่นอนว่าการเข้าใจแผนการตลาดที่ดี ย่อมช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินการและเติบโตต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้การตลาดแบบ 4P ยังสามารถส่งเสริมการขายได้ทั้งผ่านช่องทางออฟไลน์ และการขายของออนไลน์ โดยหัวใจหลักของการทำการตลาดแบบ 4P ประกอบไปด้วย Product (สินค้า), Price (ราคา), Place (ช่องทางการจำหน่าย) และ Promotion (การส่งเสริมการขาย) โดยหลัก 4P ทั้ง 4 ส่วน ล้วนเป็นพื้นฐานทางการตลาดที่ทุกธุรกิจต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพื่อการนำไปปรับใช้อย่างเหมาะสมและวางแผนไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้ธุรกิจดำเนินการต่อไปได้ตามต้องการ

สำหรับประโยชน์ของการใช้กลยุทธ์ 4P ในการประกอบธุรกิจและช่วยทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็ว มีดังนี้

1. ช่วยให้ธุรกิจสามารถพิจารณา รู้จัก เข้าใจสินค้าและบริการของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น
2. ข่วยให้ธุรกิจรู้จักกลุ่มลูกค้าของตัวเอง และสามารถนำความคิดเห็นมาพัฒนาผลิตภัณฑ์
3. ช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนการตลาด และต่อยอดการสร้างธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง
4. ช่วยให้ธุรกิจตัดสินใจการทำงานและจัดทำแคมเปญต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. ช่วยให้ธุรกิจสามารถกำหนดเป้าหมาย และสรุปยอดขายได้ง่ายขึ้น
6. ช่วยให้ธุรกิจตีตลาดได้อย่างเหมาะสม และรู้ตำแหน่งของกิจการในตลาดของตัวเอง
7. สามารถนำไปผนวกกับกลยุทธ์อื่น ๆ เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ และพัฒนาเพื่อกิจการที่ราบรื่นในระยะยาว

ส่วนประกอบของกลยุทธ์ 4P ตัวช่วยทางการตลาด

การตลาด 4P ประกอบด้วยอะไรบ้าง?

อย่างที่กล่าวไปตอนต้นบทความ ว่าการตลาด 4P ประกอบไปด้วยส่วนสำคัญจำนวน 4 ส่วน คราวนี้มาทำความเข้าใจกันต่อว่า P แต่ละตัวมีความหมายว่าอย่างไร พร้อมยกตัวอย่างการวิเคราะห์กลยุทธ์ 4P เพื่อให้ธุรกิจนำไปปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม ดังนี้

• Product (สินค้า) สำหรับคำว่า Product ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงกลุ่มสินค้าที่จับต้องได้ หรือสินค้าที่ส่งออกสู่ตลาดเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงกลุ่มสินค้าที่จับต้องไม่ได้ เช่น แอปพลิเคชัน เพลง ฯลฯ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นสินค้ากลุ่มไหนหรือแบบไหน ล้วนแต่เป็น Product ที่กำลังจะถูกส่งต่อให้กับลูกค้าทั้งสิ้น ซึ่งการวิเคราะห์ Product ต้องเริ่มจากการพิจารณา ว่าผลิตภัณฑ์ของธุรกิจตรงตามความต้องการของลูกค้าหรือไม่ นอกจากนี้จุดขายของผลิตภัณฑ์ ความโดดเด่น เอกลักษณ์ บรรจุภัณฑ์ คุณภาพ รวมไปถึงการรับประกันและการบริการหลังการขาย ล้วนเป็นปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณาเสมอ 
• Price (ราคา) การกำหนดราคาสินค้า ควรเลือกใช้กลยุทธ์อย่างเหมาะสมเช่นกัน เนื่องจากลูกค้าแต่ละกลุ่มมีพฤติกรรมและความสามารถในการใช้จ่ายต่างกัน ดังนั้นก่อนตัดสินใจกำหนดราคาสู่ท้องตลาด ควรพิจารณาต้นทุน ผลกำไร ส่วนลด และที่สำคัญต้องพิจารณาว่าธุรกิจของคุณเจาะตลาดแบบไหน เช่น ตลาดราคาเป็นมิตร ราคาระดับ และระดับหรูหรา เพื่อให้การวิเคราะห์ราคาทำได้ง่ายขึ้น
• Place (ช่องทาง/สถานที่จำหน่าย) หากเป็นร้านค้าแบบมีหน้าร้าน จำเป็นต้องเลือกทำเลอย่างเหมาะสม เช่น บริเวณที่มีฐานลูกค้า ความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์กับสถานที่ ฯลฯ ที่สำคัญต้องมีการพิจารณาร้านค้าหรือบริการประเภทเดียวกันในบริเวณใกล้เคียง ก่อนตัดสินใจลงทุนกับการสร้างร้านด้วยเสมอ แต่หากเป็นร้านค้าออนไลน์ การทำการตลาดบนเว็บไซต์ E-Commerce, Facebook Page, TikTok, Instagram เป็นช่องทางที่น่าสนใจ ดังนั้นต้องทำการศึกษาให้ดีเพื่อการขายสินค้าที่ราบรื่น
• Promotion (การส่งเสริมการขาย) เป็นทั้งการวางแผนการสื่อสาร การจัดทำโปรโมชั่นเพื่อส่งเสริมการขาย การทำโฆษณา การประชาสัมพันธ์ หรือแม้แต่การใช้ Influencer ล้วนเป็นวิธีเพิ่มยอดขายที่ช่วยส่งเสริมการตลาดที่น่าสนใจ ช่วยขยายฐานลูกค้า และดึงดูดลูกค้าให้เลือกซื้อสินค้าหรือบริการต่าง ๆ จากธุรกิจ

สำหรับตัวอย่างการใช้กลยุทธ์ 4P ให้ตอบโจทย์ธุรกิจ ยกตัวอย่าง 4P เครื่องสำอาง ที่สามารถทำตามขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้

โจทย์ >> ลูกค้า A กำลังมองหาลิปสติกสีสวย ติดทนนาน มีเฉดสีให้เลือกหลากหลาย แพ็กเกจสวยหรู ขนาดกะทัดรัดใช้งานง่าย ราคาระดับกลาง หาซื้อง่าย และมีโปรโมชั่นต่าง ๆ ที่ช่วยเพิ่มความคุ้มค่า ดังนั้นการพิจารณากลยุทธ์ 4P ให้ตอบโจทย์ลูกค้า สามารถทำได้ ดังนี้

1. Product >> ลิปสติกที่แบรนด์ของคุณผลิต ต้องตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า คือ มีตัวเลือกหลากหลาย แพ็กเกจสวย สีติดทนนาน และขนาดกะทัดรัดเพื่อการใช้งานที่สะดวก
2. Price >> แบรนด์ลิปสติกของคุณควรเป็นแบรนด์ระดับกลาง ที่สามารถเจาะกลุ่มได้ทั้งลูกค้านักศึกษาและวัยทำงาน ดังนั้นวัสดุควรมีความพรีเมียม ทนทาน ปลอดภัย เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้า ที่สำคัญราคาต้องมีความเหมาะสม ไม่แพงจนทำให้ลูกค้าสู้ไม่ไหว หรือถูกเกินไปจนลูกค้าลังเล
3. Place >> โดยส่วนใหญ่แล้ว ลูกค้าที่อุดหนุนผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง มักเป็นลูกค้าสาว ๆ ที่ต้องการความสะดวกสบายในการใช้จ่าย ดังนั้นการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์จึงตอบโจทย์ได้ดี เพราะฉะนั้นหากร้านของคุณจำหน่ายสินค้าบนช่องทาง Marketplace อย่าง Shopee และ Lazada พร้อมเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Facebook, Instagram ที่มีการอธิบายที่มาไปที่ไปของสินค้า จุดเริ่มต้นของแบรนด์ พร้อมรูปภาพประกอบ เป็นอีกวิธีที่ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นและทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายมากขึ้น
4. Promotion >> สุดท้ายคือการจัดทำโปรโมชั่นให้ตอบโจทย์ความต้องการ รวมไปถึงการโพสต์เนื้อหาที่คิดว่าเป็นประโยชน์กับลูกค้า เช่น การลงโฆษณาโปรโมทสินค้าบนโซเชียล การเลือกใช้ Influencer รีวิวสินค้า เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ นอกจากนี้การเพิ่มความคุ้มค่าให้ลูกค้า ด้วยระบบสะสมแต้ม เพื่อแลกรับของรางวัล ส่วนลด หรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้ลูกค้าเกิดการซื้อซ้ำและกลายเป็นลูกค้าประจำได้เช่นกัน

**เป็นเพียงตัวอย่างประกอบเท่านั้น ธุรกิจสามารถนำไปกลยุทธ์ 4P ปรับใช้ตามความเหมาะสม**

เพราะลูกค้าเปรียบเสมือนแรงผลักดันสำคัญ ที่ช่วยให้ธุรกิจก้าวไปได้อย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นไม่เพียงแต่การทำการตลาดแบบ 4P เท่านั้นที่สำคัญ แต่จำเป็นต้องวางกลยุทธ์ต่าง ๆ ให้มีความครอบคลุม เพื่อเป็นการตอบรับความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด หากธุรกิจของคุณกำลังมองหาตัวช่วยมัดใจลูกค้า ขยายฐานลูกค้า และสร้างฐานลูกค้าประจำให้กับธุรกิจ แนะนำบริการ MAAI BY KTC ระบบสะสมแต้ม ที่ช่วยให้ธุรกิจครองใจลูกค้า ทั้งยังเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้การวางกลยุทธ์การตลาด 4P กลายเป็นเรื่องง่าย ด้วยข้อมูลและความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำ

MAAI ตัวช่วยสำคัญทางธุรกิจ

MAAI BY KTC เป็นตัวช่วยทางการตลาด ที่มาในรูปแบบแพลตฟอร์มสำเร็จรูป ใช้งานง่าย รองรับการเชื่อมต่อแบบ Plug & Play สามารถเชื่อมต่อระบบสะสมแต้ม เข้ากับเว็บไซต์และแพลตฟอร์มต่าง ๆ ของธุรกิจได้อย่างง่ายดาย โดยธุรกิจสามารถจัดการคะแนน ทั้งการสะสมสม แลก โอน พร้อมกำหนดเงื่อนไขและสิทธิพิเศษต่าง ๆ ให้ลูกค้า ได้ผ่านทางพันธมิตรของ MAAI ที่มีความหลากหลาย ทั้ง ปั๊มน้ำมัน ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ ร้านค้าออนไลน์ ฯลฯ เพื่อช่วยเพิ่มความคุ้มค่าให้ลูกค้าและเพื่อการตลาดที่ดีของธุรกิจ ทั้งยังมี Solution ที่เข้าใจมุมมองของการทำธุรกิจ ดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญระบบสะสมคะแนนของเคทีซี ด้วยประสบการณ์กว่า 25 ปี ในธุรกิจบัตรเครดิต และประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการ Loyalty Program ช่วยเก็บฐานข้อมูลลูกค้าได้อย่างปลอดภัย ด้วย Data Security ที่ได้มาตรฐาน ช่วยให้การต่อยอดธุรกิจเป็นเรื่องง่ายกว่าเดิม หากสนใจสามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร 02-123-5678

คลิกสมัครสร้างระบบสะสมคะแนนกับ MAAI BY KTC เพื่อธุรกิจที่ราบรื่น