ปัจจุบันผู้คนมีวิถีชีวิตเร่งรีบมากขึ้น พนักงานเงินเดือน หลายๆ อาชีพทำงานนอกบ้าน กว่าจะกลับถึงบ้านก็เหนื่อยล้า จนทำให้การทำความสะอาดซักเสื้อผ้า กลายเป็นเรื่องหนักหนาสำหรับใครหลายคน ซึ่งจากการศึกษาของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) พบว่า ธุรกิจร้านสะดวกซักหรือธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ถูกจัดอันดับให้เป็นธุรกิจดาวรุ่งพุ่งแรงในปี 2567 เพราะมีการเติบโตทางด้านมูลค่าทะลุ ถึงหมื่นล้านบาทในระยะเวลาเพียง 3 ปี โดยในปี 2563 มีมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท ในปี 2564 พุ่งไปถึง 7,000 ล้านบาท และในปี 2565 ทะลุไปถึง 10,000 ล้านบาท (ที่มา : https://moneyandbanking.co.th/2024/107607)
ดังนั้น นี่คือโอกาสสำคัญทางธุรกิจสำหรับผู้ที่สนใจเปิดร้านสะดวกซัก สำหรับใครที่อยากทราบว่าร้านสะดวกซัก ลงทุนเท่าไหร่ เปิดร้านสะดวกซัก กี่ปี คืนทุน
วันนี้เรามีข้อมูลดีๆ มาฝากกัน
ร้านสะดวกซัก คืออะไร ?
ร้านสะดวกซัก (Laundromat) คือ ร้านที่ลูกค้าสามารถนำเสื้อผ้ามาซักเองและอบเองได้ด้วยเครื่องซักผ้าและอบผ้าอุตสาหกรรมแบบหยอดเหรียญ โดยจะต้องบริการตนเอง เป็นร้านที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ร้านสะดวกซักเหมาะสำหรับการนำเสื้อผ้าทั่วไปมาซัก และลูกค้าสามารถรับผ้าได้ทันทีหลังซักและอบเสร็จ โดยใช้เวลาเพียง 20 - 40 นาที เท่านั้น ซึ่งถือว่าตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในยุคนี้ที่ต้องการบริการที่สะดวกและรวดเร็ว
ซึ่งร้านสะดวกร้านจะแตกต่างกับร้านซักอบรีดตรงที่ร้านซักอบรีดจะมีเวลาเปิด - ปิดร้านที่แน่นอน มีพนักงานคอยให้บริการ แต่ต้องรอ 1 - 3 วันถึงจะรับผ้าได้ เนื่องจากต้องรอตามคิวให้บริการ แต่ข้อดีก็คือสามารถดูแลเสื้อผ้าที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษได้นั่นเอง
แนวโน้มธุรกิจของธุรกิจร้านสะดวกซัก
ปัจจุบันประเทศไทยแบ่งธุรกิจซักอบรีดออกเป็น 3 กลุ่มหลักๆ ได้แก่
- ร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ เป็นร้านที่นำเอาเครื่องซักผ้าสำหรับใช้ในครัวเรือนมาติดตั้งระบบหยอดเหรียญแล้วให้บริการ
- ร้านซักอบรีดทั่วไป ที่มีพนักงานคอยให้บริการซัก อบ และรีดผ้าให้
- ร้านสะดวกซัก ธุรกิจที่กำลังมาแรง โดยใช้เครื่องซักผ้าและอบผ้าอุตสาหกรรมแบบหยอดเหรียญ และเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
จากข้อมูลของบริษัท อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ ซิสเต็มส์ แอลแอลซี (Alliance Laundry System LLC) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องซักอบผ้าในกลุ่มอุตสาหกรรม ได้ประเมินว่า ภาพรวมธุรกิจร้านสะดวกซักของไทยในปี 2567 คาดว่าจะเติบโตประมาณ 10% และจะมีร้านสะดวกซักในไทยทั้งหมดประมาณ 5,500 ร้าน ซึ่งคาดว่าร้านที่เปิดใหม่จะเป็นร้านที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น โดยเฉลี่ยจะใช้เครื่องซักและอบในร้านทั้งหมดประมาณ 15 - 20 เครื่องต่อร้าน และขนาดของร้านจะอยู่ที่ 80 ตารางเมตรขึ้นไป
นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่าจะสามารถเติบโตได้ถึง 10,000 สาขาเป็นอย่างน้อย โดยจำนวนของร้านสะดวกซัก 1 ร้าน สามารถรองรับผู้ใช้บริการได้ประมาณ 6,000 - 8,000 คน ดังนั้น ด้วยจำนวนประชากรไทย 66 ล้านคน ประเทศไทยสามารถมีร้านสะดวกซักได้อย่างน้อย 10,000 สาขา โดยจะมีการเติบโตเฉลี่ย 1,000 สาขาต่อปี (ที่มา : https://positioningmag.com/1463515) ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับใครที่สนใจลงทุนเปิดร้านสะดวกซัก
ธุรกิจร้านสะดวกซัก สิ่งสำคัญคือ การเลือกสถานที่ตั้ง ควรใกล้หอพัก คอนโดมิเนียม หรือย่านที่พักอาศัย
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจลงทุนทำร้านสะดวกซัก
การเริ่มต้นธุรกิจร้านสะดวกซักต้องอาศัยการวางแผนที่รอบคอบ การลงทุนที่เหมาะสม และการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ แม้จะมีความท้าทาย แต่ด้วยแนวโน้มการเติบโตของตลาดและความต้องการที่เพิ่มขึ้น ธุรกิจนี้ก็มีโอกาสประสบความสำเร็จได้ หากสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด มีการบริหารจัดการที่ดี รวมไปถึงศึกษารายละเอียดต่างๆ ก่อนการลงทุน เช่น
การเลือกทำเล
- ควรอยู่ในแหล่งชุมชน เช่น ใกล้หอพัก คอนโดมิเนียม หรือย่านที่พักอาศัย
- มีที่จอดรถสะดวก เพราะลูกค้าส่วนใหญ่จะนำผ้ามาซักครั้งละมากๆ
- เข้าถึงง่าย มองเห็นได้ชัดเจน ควรอยู่ติดถนนหรือทางเดินหลัก
- พิจารณาความหนาแน่นของประชากรในพื้นที่ และกลุ่มเป้าหมายหลัก เช่น นักศึกษา คนทำงาน หรือครอบครัว
ร้านสะดวกซัก ลงทุนเท่าไหร่ งบประมาณ
- ค่าเช่าสถานที่ : ประมาณ 15,000 - 50,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับทำเลและขนาดพื้นที่
- ค่าเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าอุตสาหกรรม : ประมาณ 100,000 - 300,000 บาทต่อเครื่อง ขึ้นอยู่กับขนาดและแบรนด์
- ค่าตกแต่งร้าน : ประมาณ 100,000 - 500,000 บาท ขึ้นอยู่กับรูปแบบและขนาดของร้าน
- ค่าระบบน้ำและไฟฟ้า : ประมาณ 50,000 - 100,000 บาท
- เงินทุนหมุนเวียนสำหรับค่าใช้จ่ายรายเดือน: ประมาณ 50,000 - 100,000 บาท
รวมเงินลงทุนเริ่มต้นประมาณ 1 - 3 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับขนาดและรูปแบบของร้าน โดยราคานี้เป็นเพียงการประเมินเท่านั้น เนื่องจากขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย หากถามว่าร้านสะดวกซักกี่ปีคืนทุน ส่วนใหญ่ก็จะเฉลี่ยประมาณ 2 - 4 ปี
คู่แข่ง
- สำรวจร้านสะดวกซักในบริเวณใกล้เคียง ศึกษาจำนวนร้าน ขนาด และการให้บริการ
- ศึกษากลยุทธ์การตลาดและราคาของคู่แข่ง เพื่อกำหนดจุดขายที่แตกต่าง
- วิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของคู่แข่ง เพื่อหาโอกาสในการพัฒนาธุรกิจของตนเอง
- พิจารณาคู่แข่งทางอ้อม เช่น ร้านซักอบรีดแบบบริการเต็มรูปแบบ หรือบริการซักรีดออนไลน์
ข้อควรรู้อื่นๆ
การบำรุงรักษาเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า
- ควรมีการวางแผนการบำรุงรักษาเชิงป้องกันเป็นประจำ
- มีช่างผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้บริการเมื่อเกิดปัญหา
การจัดการด้านความปลอดภัย
- ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าและทรัพย์สิน
- มีระบบแสงสว่างที่เพียงพอ โดยเฉพาะในเวลากลางคืน
- ติดตั้งระบบเตือนภัยและอุปกรณ์ดับเพลิง
การทำการตลาดและโปรโมชั่น
- สร้างแบรนด์ที่น่าจดจำและมีเอกลักษณ์
- ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้
- จัดโปรโมชั่นพิเศษ เช่น ทดลองซักฟรี 3 วันแรกที่เปิดร้าน
การให้บริการลูกค้าที่มีคุณภาพ
- รับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากลูกค้าเพื่อปรับปรุงบริการ
- สร้างระบบสมาชิกเพื่อรักษาฐานลูกค้าประจำ
- ฝึกอบรมพนักงาน (ถ้ามี) ให้มีทักษะการบริการที่ดี
การปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับ
- ขออนุญาตประกอบกิจการให้ถูกต้องตามกฎหมาย
- ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมในการกำจัดน้ำเสีย
- จัดทำประกันภัยธุรกิจเพื่อคุ้มครองความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
ร้านสะดวกซักนับเป็นรูปแบบธุรกิจที่มีศักยภาพสูงในการเติบโตในอนาคต เนื่องจากตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี ทั้งในแง่ของความสะดวกและราคาที่สมเหตุสมผล
อย่างไรก็ตาม การจะประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ ผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีการวางแผนที่รอบคอบ และมอบความสะดวกสบายให้กับลูกค้ามากที่สุด โดยเฉพาะเรื่อง “การชำระเงินผ่านทางออนไลน์” ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่พกเงินสดน้อยลง แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในการให้บริการโดยการมอบความสะดวกสบายให้กับลูกค้าอย่างสูงสุด เพราะลูกค้าไม่จำเป็นต้องพกเงินสดหรือเหรียญมากมาย อีกทั้งช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ทั้งกับลูกค้าและร้านสะดวกซักอีกด้วย
นอกจากนี้ ร้านสะดวกซักยังสามารถติดตามพฤติกรรมการใช้บริการของลูกค้าได้ง่าย สามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงบริการและทำการตลาด รวมถึงบริหารจัดการรายรับจากหลายสาขาได้ในระบบเดียว
หากคุณกำลังมองหาบริการรับชำระเงินผ่าน QR Code ที่มีประสิทธิภาพ บริการ QR PAY จาก KTC Merchant คือทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับธุรกิจคุณ เพราะสามารถช่วยเพิ่มความสะดวก รวดเร็วในการชำระเงินของลูกค้า สามารถสร้าง QR Code ได้ง่าย ทั้งแบบป้ายตั้งและการสร้างผ่านแอป สำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่สนใจ สามารถสมัครออนไลน์ได้เลย หรือสอบถามเพิ่มเติม โทร. 02 123 5700 กด 3
ตอบรับทุกบริการ ชำระเงิน ด้วย KTC MERCHANT