ขึ้นชื่อว่าอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีขับรถชนคนบาดเจ็บ หรือกระทั่งเสียชีวิต เพราะนอกจากจะสร้างความเสียหายทั้งต่อร่างกายและจิตใจแล้ว ยังนำมาซึ่งความกังวลเกี่ยวกับความรับผิดชอบและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามมา ก่อให้เกิดคำถามว่าขับรถชนคนบาดเจ็บ ประกันจ่ายไหม และเราจะต้องรับผิดชอบส่วนใดบ้าง? เพื่อรับมือและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด บทความนี้จะพาไปเจาะลึกประเด็นเกี่ยวกับความคุ้มครองจากประกันภัยรถยนต์ กรณีเกิดอุบัติเหตุชนคนได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ทั้งเงื่อนไขความคุ้มครอง และขั้นตอนแนวทางปฏิบัติหากเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นมาจริงๆ ให้คุณดีลทุกสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม มีวิธีอย่างไรบ้างไปติดตามกันได้เลย
ขับรถชนคนบาดเจ็บประกันจ่ายไหม?
คำถามที่ว่าหากประสบอุบัติเหตุขับรถชนคนบาดเจ็บ ประกันจ่ายไหม จะต้องติดคุกหรือเปล่านั้น ตามหลักการแล้วความคุ้มครองจะขึ้นอยู่กับประเภทของกรมธรรม์ประกันภัยที่คุณมี ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว ประกันภัยรถยนต์จะให้ความคุ้มครองทั้งในส่วนของคู่กรณีและตัวผู้เอาประกันเอง เพื่อช่วยบรรเทาภาระความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยแบ่งความรับผิดชอบออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่
- ความรับผิดชอบต่อคู่กรณี
สำหรับกรณีที่รถของคุณไปเฉี่ยวชนหรือทำให้บุคคลภายนอกได้รับความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย ค่าชดเชย หรือค่ารักษาพยาบาล ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) จะให้ความคุ้มครองเบื้องต้นตามที่กฎหมายกำหนด โดยครอบคลุมค่าเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และอนามัยของบุคคลภายนอก
หากความเสียหายเกินวงเงินของพ.ร.บ. ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ (เช่น ประกันชั้น 1, ชั้น 2+, ชั้น 3+ ฯลฯ) จะเข้ามาช่วยคุ้มครองส่วนเกิน โดยจะครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยการเสียชีวิต หรือค่าเสียหายต่อทรัพย์สินของคู่กรณีตามวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ โดยหากเป็นประกันชั้น 1 อาจมีวงเงินคุ้มครองตั้งแต่ 2 - 5 ล้านบาท และหากเป็นประกันชั้น 2, 2+, 3 และ 3+ ก็จะมีวงเงินคุ้มครองรองลงมา
- ความรับผิดชอบต่อผู้เอาประกัน
นอกเหนือจากความคุ้มครองต่อคู่กรณีแล้ว ประกันภัยรถยนต์บางประเภทยังให้ความคุ้มครองแก่ตัวผู้เอาประกันภัยเองด้วย หากผู้ขับขี่เป็นฝ่ายถูก หรือแม้แต่เป็นฝ่ายผิดแต่ได้รับบาดเจ็บ ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ โดยเฉพาะประกันชั้น 1 จะมีวงเงินคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถที่เอาประกันภัย รวมถึงความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณเองด้วย อย่างไรก็ตาม รายละเอียดความคุ้มครองและวงเงินจะแตกต่างกันไปตามเงื่อนไขของกรมธรรม์แต่ละประเภทที่คุณเลือกทำไว้ จึงควรศึกษารายละเอียดของกรมธรรม์แต่ละฉบับอย่างรอบคอบเสมอ
ขับรถชนคนบาดเจ็บ พ.ร.บ. จ่ายไหม?
ความคุ้มครองเบื้องต้นจากพ.ร.บ. เมื่อขับรถชนคนบาดเจ็บจะแบ่งออกเป็น 2 กรณีหลัก ๆ หากผู้ประสบภัยเป็นฝ่ายผิดหรือยังไม่พิสูจน์ความผิด พ.ร.บ. จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามจริงไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน และหากมีการเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร จะได้รับค่าชดเชยเบื้องต้น 35,000 บาทต่อคน (รวมกันสูงสุดไม่เกิน 65,000 บาท กรณีเสียชีวิตหลังการรักษา)
แต่หากผู้ประสบภัยไม่ใช่ฝ่ายผิดจะได้รับความคุ้มครองที่สูงขึ้น โดยค่ารักษาพยาบาลตามจริงสูงสุด 80,000 บาทต่อคน และค่าชดเชยกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงสูงสุด 500,000 บาทต่อคน นอกจากนี้ยังรวมถึงค่าชดเชยการสูญเสียอวัยวะตามเงื่อนไข และค่าชดเชยรายวันกรณีพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในอีกวันละ 200 บาท ไม่เกิน 20 วัน
ดังนั้น การมีพ.ร.บ. ติดรถไว้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อเป็นหลักประกันความปลอดภัยและค่าเยียวยาเบื้องต้นในยามเกิดเหตุไม่คาดฝันนั่นเอง
ชับรถชนคนบาดเจ็บ ทำอย่างไรดี?
เหตุการณ์ขับรถชนคนบาดเจ็บเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่หากเกิดขึ้นแล้วการรับมืออย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อลดความเสียหายและผลกระทบที่อาจตามมา มาดูกันว่าขั้นตอนที่ควรพึงกระทำ มีอะไรบ้าง
ตั้งสติให้ดี
สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อเกิดอุบัติเหตุขับรถชนคนบาดเจ็บ คือการตั้งสติให้มั่นคง อย่าตกใจหรือตื่นตระหนก เพราะการมีสติจะช่วยให้คุณตัดสินใจและดำเนินการได้อย่างถูกต้องมากที่สุด พยายามควบคุมอารมณ์และประเมินสถานการณ์รอบข้างอย่างรวดเร็ว เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่ายที่อยู่ในเหตุการณ์
ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ โดยที่ไม่หลบหนี
หลังจากตั้งสติได้แล้ว สิ่งสำคัญต่อมาคือ การเข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างเร่งด่วนที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการโทรศัพท์เรียกรถพยาบาล หรือให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากคุณมีความรู้ ห้ามหลบหนีจากที่เกิดเหตุเด็ดขาด เพราะนอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังเป็นการไร้มนุษยธรรมและจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก
ติดต่อหาประกันและเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เมื่อให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว ให้รีบติดต่อบริษัทประกันภัยทันที เพื่อแจ้งเหตุและขอคำแนะนำในการดำเนินการ พร้อมทั้งแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบและบันทึกเหตุการณ์อย่างเป็นทางการ การแจ้งเหตุและประสานงานกับทั้งสองฝ่ายอย่างรวดเร็ว จะช่วยให้การดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่น
ถ่ายรูปในที่เกิดเหตุ
เพื่อเป็นหลักฐานสำคัญในการดำเนินการกับบริษัทประกันภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ถ่ายรูปในที่เกิดเหตุให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ควรเน้นภาพมุมกว้างที่แสดงสภาพถนน ตำแหน่งรถยนต์ และจุดที่เกิดเหตุ ขับรถชนคนบาดเจ็บ รวมถึงภาพความเสียหายของรถและอาการบาดเจ็บของผู้ประสบภัย หากมีพยานในที่เกิดเหตุ ควรขอข้อมูลติดต่อไว้ด้วย เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนและเรียกร้องค่าสินไหมในภายหลัง
โทษทางกฎหมาย หากขับรถชนคนบาดเจ็บ
เหตุการณ์ขับรถชนคนบาดเจ็บ นอกจากความเสียหายทางร่างกายและทรัพย์สินแล้ว สิ่งสำคัญที่ผู้ขับขี่ต้องรับทราบคือ โทษทางกฎหมายที่อาจตามมา หากไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้องหรือเป็นฝ่ายกระทำความผิด โดยโทษที่ผู้ขับขี่อาจได้รับ มีดังนี้
- กรณีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 390)
- กรณีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300)
- กรณีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท (ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291)
- กรณีเป็นขับรถหลบหนี ไม่แจ้งเหตุ หรือไม่ให้การช่วยเหลือ
- หากไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 - 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- หากมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 5,000 - 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- หากไม่แสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ภายใน 6 เดือน นับแต่วันเกิดเหตุ รถคันที่ใช้หลบหนีอาจถูก ยึดตกเป็นของรัฐตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 78 และคดีมีอายุความยาวนานถึง 15 ปี
ขับรถชนคนบาดเจ็บ ต้องรีบให้ความช่วยเหลือทันที
หากประสบเหตุขับรถชนคนบาดเจ็บ สิ่งสำคัญที่สุดคือการตั้งสติและเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทันที ห้ามหลบหนีเด็ดขาด เพราะถือว่ามีความผิดอาญาและมีโทษร้ายแรง ควรแจ้งประกันและตำรวจ พร้อมถ่ายรูปในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานเพื่อต่อสู้คดีต่อไป การปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยให้สามารถรับมือถือสถานการณ์ไม่คาดคิดได้อย่างถูกต้องและลดผลกระทบที่อาจตามมาได้ ส่วนใครที่สถานการณ์ทางการเงินกำลังฉุกเฉินอยู่ล่ะก็ ไม่ต้องหนีไปไหน เพราะสินเชื่อรถแลกเงิน KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน พร้อมเป็นตัวช่วยเคียงข้างคุณ ขอสินเชื่อรถยนต์หรือสินเชื่อบิ๊กไบค์ในวงเงินสูงสุด 100% อาชีพไหนก็สมัครได้ อีกทั้งยังมีบริการ พี่เบิ้ม Delivery ไปทำรายการให้ถึงหน้าบ้าน อนุมัติไวใน 1 ชั่วโมง รับเงินทันที โดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน และผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน
กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร
เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
*วงเงินอนุมัติเป็นไปตามความสามารถในการชำระหนี้และราคาประเมินมูลค่ารถ
*อนุมัติไวใน 1 ชั่วโมง รับเงินทันที เมื่อเอกสารครบถ้วนถูกต้องและโอนเงินเข้าบัญชีกรุงไทยหรือบัญชีพร้อมเพย์
*กรณีรถยนต์ติดไฟแนนซ์ อนุมัติและโอนเงินหลังจากกรรมสิทธิ์ในรถเป็นชื่อผู้กู้เรียบร้อยแล้ว
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21%-24% ต่อปี