อย่าตกเป็นเหยื่อ 5 วิธีป้องกันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่ให้โดนหลอก

รู้ทันกลโกงมิจฉาชีพทางโทรศัพท์ รู้ก่อน ไหวตัวทัน

ปัจจุบันมีแก๊งมิจฉาชีพทางโทรศัพท์หรือที่เรียกว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก่อปัญหารบกวนผู้คน จนทำให้มีคนตกเป็นเหยื่อและสูญเงินจำนวนมาก แถมบางคนถึงขั้นโอนให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จนหมดตัว เพราะมิจฉาชีพเหล่านี้มีวิธีการหลอกลวงที่บีบคั้นให้คนเชื่อและโอนเงินให้ในที่สุด ฉะนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นกับตนเองและคนรอบข้าง วันนี้พี่เบิ้มมีทริคดี ๆ มาแนะนำ เพื่อให้ควรรู้สิธีสังเกตและรับมือกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้

วิธีการหลอกลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์

การหลอกลวงกลุ่มเป้าหมายของแก๊งคอลเซ็นเตอร์โดยมากใช้วิธีการเดิม ๆ แต่มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหา เปลี่ยนชื่อหน่วยงานที่แจ้งเรื่อง แต่ขั้นตอนการพูดคุยจะคล้ายเดิม ดังนี้

• แนะนำตัวและเข้าสู่ประเด็นน่ากังวล

แก๊งคอลเซ็นเตอร์มักเริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวเอง พร้อมตำแหน่งหรือชื่อองค์กรเพื่อเสริมความน่าเชื่อถือ แล้วเข้าสู่เรื่องที่โทรมาทันที

• แอบอ้างหน่วยงานขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ

แก๊งคอลเซ็นเตอร์มักจะแอบอ้างหน่วยงานที่มีชื่อเสียงเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ตนเอง โดยหน่วยงานที่มักถูกแอบอ้าง เช่น หน่วยงานสังกัดตำรวจ บริษัทขนส่งทั้งเอกชนและรัฐบาล สถาบันทางการเงิน หรือศาลยุติธรรม เป็นต้น

• หาช่องทางอื่นในการพูดคุย เพื่อเพิ่มความสมจริง

หลังจากแนะนำตัวและเห็นว่าเหยื่อเริ่มคล้อยตามประเด็นที่พูด แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะหาทางคุยกับเหยื่อผ่านช่องทางอื่น เช่น ไลน์ เพื่อให้เหยื่อเชื่อว่าเป็นหน่วยงานจริงจากภาพโปรไฟล์และชื่อหน่วยงาน ทั้งยังสะดวกต่อการส่งหลักฐานเพิ่มเติมอื่น ๆ เพื่อหลอกให้เหยื่อตายใจ

• หลอกให้เหยื่อโอนเงินหรือโหลดแอปพลิเคชันเพื่อตรวจสอบ

เมื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์เห็นว่าเหยื่อหลงเชื่อและกังวลถึงผลที่ตามมาจะหลอกให้เหยื่อโอนเงิน โดยให้เหตุผลรับรอง เช่น กรณีหลอกว่าเป็น DSI ปลอมและเหยื่อเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดคดีฟอกเงินจะหลอกให้เหยื่อโอนเงินเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน กรณีที่หลอกให้กู้เงินดอกเบี้ยถูกจะให้โอนเงินเพื่อเปิดยอด เป็นต้น

กระบวนการทำงานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะสุ่มเป้าหมายจากหลากหลายกลุ่ม และที่ผ่านมามีคนตกเป็นเหยื่อจำนวนไม่น้อย แต่เมื่อหลงกลแล้วจำนวนเงินที่เสียไปค่อนข้างมาก แถมการทวงคืนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ฉะนั้นก่อนกดโอนเงินออกจากบัญชี ควรตั้งสติและตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดก่อนเสมอ เพื่อไม่ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ทำงานสำเร็จ

5 วิธีรับมือกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์

การรู้ทันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ช่วยลดโอกาสในการโดนหลอก

แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะมีวิธีการหลอกผ่านทางโทรศัพท์ ทำให้เหยื่อไม่เห็นหน้าหรืออากัปกิริยาของคู่สนทนา นอกจากนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังมักใช้น้ำเสียงที่แสดงถึงอำนาจ การข่มขู่ เพื่อให้เหยื่อกลัวและไม่คิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจทำอะไร โดยวิธีป้องกันตัวไม่ให้พลาดพลั้งตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีดังนี้

• ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Whoscall

แอปพลิเคชัน Whoscall เป็นแอปที่ผู้ใช้งานบันทึกเบอร์โทรต่าง ๆ เอาไว้ หากมีเบอร์ของมิจฉาชีพโทรเข้ามา เบอร์ดังกล่าวจะถูกบันทึกไว้ว่าเป็นมิจฉาชีพ ช่วยลดโอกาสในการพูดคุยกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้

• ตรวจสอบกับหน่วยงานที่โดนแอบอ้างก่อนโอนเงิน

ก่อนโอนเงินให้กับใครก็ตามที่ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว ควรตรวจสอบกับหน่วยงานก่อน หากแอบอ้างว่าเป็นไปรษณีย์ไทยควรสอบถามไปรษณีย์ไทยว่ามีนโยบายให้โอนเงินเพื่อธุรกรรมประเภทนี้หรือไม่ โดยปกติแก๊งคอลเซ็นเตอร์เมื่อเห็นว่าเหยื่อไหวตัวทันมักจะตัดบทสนทนาทันที

• ถามหาหลักฐานประกอบเรื่องราวทุกครั้ง

หลักฐานที่แน่นหนาและชัดเจนจะช่วยพิสูจน์เรื่องราวที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์กล่าวถึงได้ ควรตรวจสอบหลักฐานทุกชิ้นที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ส่งมา เพราะส่วนใหญ่มักเป็นหลักฐานที่หาได้จากอินเทอร์เน็ต

• ติดต่อธนาคารโดยตรงเมื่อเกิดปัญหา

หากจำเป็นต้องโอนเงินให้กับหน่วยงานใดที่ติดต่อมาทางโทรศัพท์ และกังวลว่าจะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ควรให้ปลายสายติดต่อกับธนาคารโดยตรง เพราะหากมีการกระทำผิดกฎหมายจริง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีสิทธิอายัดบัญชีได้

• กู้สินเชื่อกับแหล่งที่เชื่อถือได้และถูกกฎหมาย

กรณีที่ต้องการเงินด่วนควรเลือกกู้สินเชื่อกับสถาบันทางการเงิน เพื่อให้การกู้สินเชื่อถูกกฎหมาย ไม่ควรหลงเชื่อแก๊งหลอกกู้เงินทางอินเทอร์เน็ตหรือทางโทรศัพท์ ยิ่งหากผู้กู้มีทรัพย์สิน เช่น บ้าน หรือรถ ยิ่งสะดวกต่อการกู้สินเชื่อ และไม่เสี่ยงต่อการโดนหลอกด้วย

การตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์สามารถเกิดขึ้นได้ แต่จะลดโอกาสตกเป็นเหยื่อหากรู้วิธีรับมือ สาเหตุใหญ่ที่ทำให้คนตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์คือกลัวการข่มขู่นั่นเอง ส่วนใครที่ต้องการเงินก้อนฉุกเฉิน และไม่อยากตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพในอนาคตควรเลือกแหล่งเงินก้อนที่น่าเชื่อถือ เช่น สินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงินที่ให้เงินก้อนสูงสุด 1 ล้านบาท สำหรับผู้ที่มีรถ ไม่ต้องจอดรถทิ้งไว้ รู้ผลอนุมัติภายใน 2 ชั่วโมง และรับเงินทันทีเมื่อรู้ผล พร้อมมีบริการ พี่เบิ้ม Delivery ที่ไปรับสมัคร และตรวจสภาพรถยนต์ถึงที่บ้าน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเงินด่วน โดยไม่ต้องรอง้อแก๊งคอลเซ็นเตอร์

รู้แหล่งเงินด่วนสินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ไม่หลงเชื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์