• Credit Card
    • Credit Card
    • Rewards Program
    • Installment Payment
    • Donation
    • Auto Payment
    • Rates and Fees
    • KTC Device Pay
  • Personal Loan
    • Loan Product
    • Installment Payment
    • Rates and Fees
  • Promotions
  • Merchant
    • Merchant Service
    • EDC Service
    • QR Code Payment
    • Online Payment Gateway
    • Auto Payment Service
    • Link Payment
    • ALIPAY & ALIPAY+
  • KTC WORLD
  • KTC U SHOP
  • Customer Service
    • Contact KTC
    • KTC MOBILE APPLICATION
    • Payment Channel
    • KTC E-Book
    • Download Manual / Form
    • FAQ
Credit Card
Credit Card
  • Credit Card
  • Forever Rewards
  • Flexi Installment
  • Donation
  • Auto Payment
  • Rates and Fees
  • KTC Device Pay
Personal Loan
Personal Loan
  • Loan Product
  • Flexi Installment
  • Rates and Fees
PromotionsPromotions
Merchant
Merchant
  • Merchant Service
  • EDC Service
  • QR Code Payment
  • Online Payment Gateway
  • Auto Payment Service
  • Link Payment
  • ALIPAY & ALIPAY+
KTC WORLDKTC WORLD KTC U SHOPKTC U SHOP
Customer Service
Customer Service
  • Contact KTC
  • KTC MOBILE APPLICATION
  • Payment Channel
  • KTC E-Book
  • Download Manual / Form
  • FAQ
เปลี่ยนภาษา

EN

TH

KTC Search Icon KTC Search Icon
Apply Card
KTC Login KTC Login Login KTC Login
KTC Profile

My Account

  • KTC Profile

    My Product

  • KTC Promotions

    My Promotions

  • KTC Logout

    Log out

KTC Profile
  1. Home
  2. /
  3. Article
  4. /
  5. Knowledge
  6. /
  7. 10 วิธีพรีเซนต์งาน ให้น่าสนใจ ด้วยเทคนิคแบบมืออาชีพ
  1. Home
  2. /
  3. Article
  4. /
  5. Knowledge
  6. /
  7. 10 วิธีพรีเซนต์งาน ให้น่าสนใจ ด้วยเทคนิคแบบมืออาชีพ
พรีเซนต์งาน

10 วิธีพรีเซนต์งาน ให้น่าสนใจ ด้วยเทคนิคแบบมืออาชีพ

Category : Knowledge

10 เทคนิคพรีเซนต์งานแบบมืออาชีพให้น่าสนใจได้ตั้งแต่เริ่มต้น

เชื่อว่าใครที่เคยเข้าประชุมหรือเข้าฟังการพรีเซนต์งาน ต้องเคยประสบกับสภาวะของอารมณ์เบื่อหน่าย หรืออยากงีบหลับพักสายตากันมาบ้าง นั่นเป็นเพราะว่าการนำเสนอหรือการเลือกวิธีพรีเซนต์งานนั้นธรรมดาและเรียบง่ายจนเกินไป แต่บางครั้งที่หัวพรีเซนต์ดูเหมือนจะน่าเบื่อ แต่กลับฟังได้อย่างสนุกแถมยังตั้งใจฟังได้ตั้งแต่ต้นจนจบด้วย ซึ่งก็เป็นเพราะผู้พรีเซนต์งานมีการนำเสนอที่ดี และมีเทคนิคการพรีเซนต์นั่นเอง สำหรับใครที่ต้องเตรียมตัวพรีเซนต์งาน วันนี้เรามี 10 เทคนิคพรีเซนต์งานแบบมือโปรที่ไม่ต้องไปขอพรเรื่องงานก็ปังได้มาบอกกัน

เลือกอ่านตามหัวข้อ

  • 1. ใช้โทนเสียงที่เหมาะสมในการนำเสนอและสื่อสาร
  • 2. เน้นการฝึกซ้อมเพื่อลดความตื่นเต้นในการพรีเซนต์วันจริง
  • 3. เลือกใช้ภาษากายที่เหมาะสมและไม่ฝืนจนเกินไป
  • 4. หลีกเลี่ยงการใช้ตัวอักษรและสีที่ไม่สบายตาในการทำพรีเซนต์
  • 5. พยายามให้ผู้ชมมีส่วนร่วมกับการพรีเซนต์ของเรา
  • 6. หลีกเลี่ยงการใช้ตัวหนังสือที่เยอะจนเกินไปในการทำพรีเซนต์
  • 7. เน้นการสื่อสารด้วยภาพมากกว่าตัวอักษร
  • 8. นำเสนอกรณีศึกษา (Case Study) เพื่อเพิ่มความน่าสนใจในตัวพรีเซนต์
  • 9. ใช้กฎ 10-20-30 ในการพรีเซนต์งาน
  • 10. เลือกใช้สื่อให้หลากหลายในนำเสนอสไลด์หรือพรีเซนต์
  • สรุปพรีเซนต์งานให้น่าสนใจไม่ใช่เรื่องยากแต่ต้องขยันซ้อม

1. ใช้โทนเสียงที่เหมาะสมในการนำเสนอและสื่อสาร

พรีเซนต์งานแบบมืออาชีพ

เทคนิคพรีเซนต์งานเทคนิคแรกเลยก็คือ เลือกใช้โทนเสียงให้เหมาะสมสำหรับการพรีเซนต์งาน โดยโทนเสียงที่ช่วยให้การพรีเซนต์มีความน่าสนใจ ควรเป็นโทนเสียงสูงต่ำที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน และมีการเว้นจังหวะของการพูด เพื่อเน้นความสำคัญของเนื้อหาและหัวข้อที่สำคัญ ซึ่งเรื่องนี้ทางผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดอย่าง Jonah Berger ได้ให้คำแนะนำว่าการใช้ระดับโทนเสียงที่แตกต่างและเว้นจังหวะอย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจในการนำเสนอ และยังเป็นการเพิ่มความรู้สึกมั่นใจให้กับผู้พรีเซนต์งานด้วย

2. เน้นการฝึกซ้อมเพื่อลดความตื่นเต้นในการพรีเซนต์วันจริง

เทคนิคที่สองของการพรีเซนต์งานให้น่าสนใจ คือ การฝึกซ้อมอยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อรู้วันและเวลาที่ต้องนำเสนอแล้วยิ่งต้องฝึกมากขึ้น ซึ่งการฝึกพูดพรีเซนต์งานไม่เพียงแค่ช่วยให้แม่นยำในเนื้อหาเท่านั้น แต่ยังช่วยให้พูดได้คล่องขึ้น และลดความตื่นเต้นได้ ส่วนใครที่อยากอัปสกิลการพรีเซนต์ขั้นสุด แนะนำให้ลองสมัครคอร์สสอนพรีเซนต์งานแบบออนไลน์ หรือเรียนต่อปริญญาโทเพื่อเรียนรู้และฝึกประสบการณ์ก็เป็นวิธีที่ช่วยให้เข้าใจถึงหลักการพรีเซนต์งานได้มากขึ้น


ทั้งนี้หากบริษัทไหนไม่มีสวัสดิการพนักงานออกงบด้านการเรียนรู้ให้ อย่าลืมมองหาบัตรกดเงินสดไว้ใช้สมัครเรียนกันสักใบ เพื่อโอกาสในการได้รับสิทธิ์สำหรับส่วนลดหรือโปรโมชันที่ให้ความคุ้มค่าพร้อมสิทธิพิเศษอีกมากมาย

3. เลือกใช้ภาษากายที่เหมาะสมและไม่ฝืนจนเกินไป

การพรีเซนต์เป็นการนำเสนอเรื่องการทำงานที่มักจะมาในหัวข้อซีเรียสและต้องทำความเข้าใจ หากพรีเซนต์งานด้วยท่าทางที่ไม่มั่นใจก็ยิ่งลดความน่าสนใจได้ อีกทั้งยังทำให้ผู้พูดดูไม่มีความเป็นมืออาชีพด้วย ดังนั้นภาษากายจึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ โดยเทคนิคสร้างความน่าสนใจในภาษากายทำได้ ดังนี้

  • เลือกตำแหน่งวางมือให้ดี

    มือคือหนึ่งในภาษากายที่สามารถบอกถึงความมั่นใจได้เป็นอย่างดี การวางตำแหน่งมือควรอยู่แนบชิดลำตัวและแบมือออกอย่างเป็นธรรมชาติ หรือหากรู้สึกว่าเป็นท่าทางที่ดูเกร็งเกินไป ให้เปลี่ยนไปวางมือไว้ที่บริเวณหน้าท้อง ไม่ควรเปลี่ยนตำแหน่งมือไปมาหรือขยับนิ้ว แกะ เกา ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เพราะทำให้ผู้ฟังเห็นว่ากำลังไม่มั่นใจ

  • แสดงออกทางสีหน้าและสายตา

    ระหว่างการนำเสนอเนื้อหาบนสไลด์ หากเป็นหัวข้อหรือเรื่องที่ต้องการเน้นถึงความสำคัญ นอกจากน้ำเสียงที่ใช้แล้วสีหน้าและแววตาต้องแสดงออกถึงอารมณ์และความหนักแน่นของเนื้อหานั้น ๆ หรือหากเป็นการพูดโดยทั่วไปพยายามสบตาผู้ฟังบรรยายบ้างเพื่อสังเกตสีหน้าและอารมณ์ของผู้ฟัง รวมทั้งยังช่วยแสดงถึงความเป็นธรรมชาติของผู้พูดด้วย

  • ท่าทางของการยืน

    อีกหนึ่งภาษากายที่ช่วยลดความตื่นเต้นและให้ท่าทางที่เป็นธรรมชาติได้ดีคือท่ายืน คงไม่ดีแน่หากยืนพูดในลักษณะหลังค่อม หรือยืนบิดตัวไปมา โดยท่ายืนที่ดีสำหรับการพรีเซนต์งานแบ่งได้เป็น 2 ช่วง

    ท่ายืนก่อนพรีเซนต์งาน : ท่ายืนก่อนนำเสนอเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดความกังวลและเพิ่มความมั่นใจได้มากขึ้น โดยการวางมือที่บริเวณข้างสะโพก ยืดอกให้ตัวตรงและเชิดคางขึ้นเล็กน้อย

    ท่ายืนระหว่างพรีเซนต์ : เทคนิคการพรีเซนต์ระหว่างนำเสนอคือยืนตัวตรง อกผายไหล่ผึ่งจะช่วยเสริมให้มีบุคลิกที่มั่นใจ และดึงดูดสายตาผู้ฟังได้มากขึ้น

นอกจากเรื่องของภาษากายที่จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับผู้ฟัง และสร้างความมั่นใจให้ผู้พรีเซนต์งานได้แล้ว การเลือกเครื่องแต่งกายอย่างเหมาะสม ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยดึงดูดสายตาและเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับผู้พรีเซนต์ได้ หากใครอยากได้เทคนิคการเลือกเครื่องแต่งกายที่เหมาะสม สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ “แต่งตัวไปสัมภาษณ์งาน”

4. หลีกเลี่ยงการใช้ตัวอักษรและสีที่ไม่สบายตาในการทำพรีเซนต์

วิธีพรีเซนต์งานให้น่าสนใจและเพิ่มความน่าสนใจให้กับผู้ฟังด้วยการใช้สีตัวอักษร และฟอนต์ที่อ่านง่ายในการทำสไลด์งานพรีเซนต์ โดยสีที่ใช้ควรมีไม่เกิน 4 สี จะช่วยให้มองได้สบายตาไม่รบกวนสายตาจนเกินไป และควรเลือกใช้สีตัวอักษรตัดกับพื้นหลังเพื่อให้ข้อความเด่นและนำสายตา นอกจากนี้การเลือกใช้ฟอนต์ที่อ่านง่ายในการพรีเซนต์งานอย่าง Serif หรือ Sans Serif และควรเลือกใช้ขนาดตัวหนังสือตั้งแต่ 18-24 pt สำหรับเนื้อหา ในส่วนของหัวข้อให้อยู่ที่ 26-42 pt

5. พยายามให้ผู้ชมมีส่วนร่วมกับการพรีเซนต์ของเรา

เทคนิคพรีเซนต์งาน

ผู้พรีเซนต์งานที่ดีต้องเพิ่มความน่าสนใจ และดึงดูดผู้ฟังให้จับประเด็เนื้อหาได้นมากขึ้น โดยระหว่างการพรีเซนต์งานควรสร้าง Engagement กับผู้ชม/ผู้ฟังไปด้วย เช่น การเตรียมคำถามมาถามผู้ชม/ผู้ฟังโดยมีของรางวัลให้ หรือการยิงคำถามกลับในทันทีที่พูดจบประเด็นสำคัญด้วยการสุ่มถาม นอกจากนี้ยังสามารถดึงดูดผู้ฟังและสร้าง Engagement ได้ด้วยรูปแบบการนำเสนอ เช่น การให้ผู้ชม/ผู้ฟังช่วยวาดภาพประกอบอย่างง่าย ที่สอดคล้องกับเนื้อหา หรือการเปิดคลิปวิดีโอระหว่างพรีเซนต์งานก่อนจะเข้าสู่ช่วงการยิงคำถามต่อไป เป็นต้น

>> นอกจากเรื่องการพรีเซนต์งานแล้ว การวัด Performance ด้วย KPI คืออีกหนึ่งเรื่องที่มนุษย์เงินเดือนจะพลาดไม่ได้

6. หลีกเลี่ยงการใช้ตัวหนังสือที่เยอะจนเกินไปในการทำพรีเซนต์

ตัวหนังสือบนสไลด์พรีเซนต์งานที่มากเกินไปส่งผลให้เกิดความน่าเบื่อ ไม่น่าติดตาม และยังไม่ดึงดูดสายตาผู้ชม หากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการพรีเซนต์งานควรใช้ตัวหนังสือในจำนวนที่เหมาะสม ไม่ควรใส่ข้อมูลเยอะเกินไป หากต้องการอ้างอิงเนื้อหาจำนวนมากควรย่อยประเด็นให้เหลือใจความสำคัญ หรือ Keyword หลัก ๆ เท่านั้น หรือหากมีหลายประเด็นให้ใช้เป็น Bullet Points ในการนำเสนอจะช่วยให้สไลด์น่าสนใจ อ่านง่าย และน่าติดตามจนจบการนำเสนอ

7. เน้นการสื่อสารด้วยภาพมากกว่าตัวอักษร

การพรีเซนต์งาน

กรณีที่เนื้อหาในการพรีเซนต์มีจำนวนมากสไลด์ที่ใช้พรีเซนต์งานก็มีจำนวนมากตามไปด้วย ทำให้ผู้ฟังหมดความสนใจได้ง่าย ให้เปลี่ยนจากข้อความมาเป็นใช้การสื่อสารด้วยภาพแทน เพราะรูปภาพหรือวิดีโอจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจได้มากกว่า และช่วยดึงดูดสายตา สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมและผู้ฟังได้ดีกว่าด้วย ข้อดีของการพรีเซนต์งานที่สื่อสารด้วยภาพนอกจากช่วยสะกดความสนใจของผู้ฟังแล้ว ยังช่วยลดระยะเวลาพรีเซนต์ลง และยังช่วยให้ผู้พรีเซนต์สามารถพูดสิ่งที่ต้องการนำเสนอให้จบภายในระยะเวลาที่กำหนดอีกด้วย

8. นำเสนอกรณีศึกษา (Case Study) เพื่อเพิ่มความน่าสนใจในตัวพรีเซนต์

ผู้นำเสนอเนื้อหาต้องสามารถพาผู้ฟังเข้าถึงเนื้อหาที่นำเสนอได้ การมีเอกสารที่เป็นกรณีตัวอย่างหรือกรณีศึกษามาแจกเพื่อประกอบการพรีเซนต์งานด้วย เป็นอีกเทคนิคที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจและช่วยให้ผู้อ่านได้รู้สึกอินไปกับเนื้อหาที่พรีเซนต์ นอกจากแนบเอกสารสำหรับอ่านแล้ว อาจมีช่องกรอกข้อความสำหรับการแสดงความคิดเห็นหรือวิธีแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับกรณีศึกษานั้น ๆ ด้วย ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่เพิ่ม Engagement ระหว่างผู้นำเสนอกับผู้ฟังได้

9. ใช้กฎ 10-20-30 ในการพรีเซนต์งาน

กฎ 10-20-30 เป็นกฎที่อดีตนักการตลาดของ Apple อย่าง Guy Kawasaki คิดขึ้นมาโดยให้ความเห็นว่าการปฏิบัติตามกฎนี้จะช่วยให้ผู้ฟังสนใจและตั้งใจฟังการพรีเซนต์งานได้ตั้งแต่ต้นจนจบ โดยรายละเอียดของกฎ 10-20-30 มีดังนี้

ทำสไลด์ไม่เกิน 10 หน้า

สำหรับใครที่เคยทำสไลด์พรีเซนต์งานคงจะทราบดีว่าการที่ต้องทำสไลด์มากกว่า 10 หน้าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และในทางกลับกันผู้ที่ต้องฟังพรีเซนต์เป็นเวลานานที่มีเนื้อหามากกว่า 10 หน้า ยิ่งทำให้การจดจำและตั้งใจฟังน้อยลงไปด้วย ดังนั้น เมื่อต้องพรีเซนต์งานให้สรุปเนื้อหาโดยใส่เนื้อหามาให้ไม่เกิน 10 สไลด์ เพื่อให้ผู้ฟังรู้ถึงเป้าหมายของสิ่งที่เราจะพูด และในการพรีเซนต์ควรพูดให้จบประเด็นก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนไปสไลด์ถัดไป

ใช้เวลาพูดไม่เกิน 20 นาที

การนั่งฟังพรีเซนต์ที่ยาวนานเกินไปย่อมส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึกของผู้ฟังได้ ซึ่งเวลาที่เหมาะสมสำหรับการมีสมาธิและตั้งใจฟังการพรีเซนต์งานโดยทั่วไปแล้วไม่เกิน 20 นาที แม้ว่าจะมีรายละเอียดเนื้อหาเยอะแต่การควบคุมเวลาให้จบได้ตามกำหนดจะช่วยให้ผู้ฟังจดจำและตั้งใจฟังได้ดีกว่า โดยแบ่งรายละเอียดเนื้อหาการพูดในแต่ละช่วงได้ ดังนี้

      • พูดเกริ่นนำ 1 นาที : การพรีเซนต์งานแต่ละครั้งต้องมีการชี้แจ้งหัวข้อและประเด็นให้ทราบก่อนแล้ว ดังนั้น ตอนเกิ่นนำให้พูดเพียงแค่แนะนำตัวและเข้าประเด็นให้สั้น และกระชับที่สุด
      • พูดเข้าหัวข้อ 4 นาที : หลังจากเกริ่นนำแล้วให้พูดถึงหัวข้อโดยให้จับประเด็นสำคัญของหัวข้อมาพูดเกริ่นนำให้ผู้ฟังรู้สึกสนใจและอยากฟังเนื้อหาต่อไป
      • บรรยายเนื้อหา 13 นาที : เข้าสู่การบรรยายเนื้อหา ช่วงเวลานี้สามารถพูดแตกประเด็น นำเสนอปัญหา แนวคิดและสถิติต่าง ๆ หรือมีกิจกรรมเพื่อสร้าง Engagement กับผู้ฟัง
      • สรุปไม่เกิน 2 นาที : สรุปเนื้อหาที่พรีเซนต์ทั้งหมดให้สั้นและกระชับ โดยเหลือเวลาช่วงสุดท้ายไว้เป็นการถาม-ตอบ

ขนาดฟอนต์ใหญ่กว่า 30

ฟอนต์ที่ตัวใหญ่กว่า 30 pt ช่วยดึงดูดสายตาของผู้ฟังได้ดีกว่าเมื่ออยู่บนหน้าจอ โดยอาจแบ่งเป็นฟอนต์ขนาด ใหญ่กว่า 30 pt ของหัวข้อ และลดขนาดลงสำหรับรายละเอียดของเนื้อหา ข้อดีของฟอนต์ขนาดใหญ่แบบนี้ยังช่วยลดจำนวนข้อความบนสไลด์ให้น้อยลง ทำให้พูดรายละเอียดได้มากขึ้น และไม่ต้องคอยอ่านข้อความบนสไลด์ให้เสียบุคลิกด้วย

10. เลือกใช้สื่อให้หลากหลายในนำเสนอสไลด์หรือพรีเซนต์

พูดพรีเซนต์งาน

การนำเสนองานด้วย Power Point เพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถมัดใจผู้ชม/ผู้ฟังให้สนใจได้จนจบการพรีเซนต์งาน ดังนั้นควรวางแผนการนำเสนอให้มีความน่าสนใจมากขึ้นด้วยการใช้ภาพประกอบ คลิปวิดีโอ การเลือกเสียงประกอบให้เข้ากับ Mood & Tone ของเนื้อหา หรือใช้เสียงประกอบเมื่อมีการเล่นมุกตลก นอกจากนี้การใช้แอปพลิเคชันช่วยทำเกมถาม-ตอบ ก็เป็นรูปแบบการนำเสนองานที่ดึงดูดใจผู้ฟังให้โฟกัสกับการพรีเซนต์ได้อีกด้วย

ไม่เพียงแค่การลงทุนเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับทักษะการพรีเซนต์งานเท่านั้น แต่การลงเรียนเพื่อเพิ่มทักษะในการทำงานยังช่วยเพิ่้มโอกาสที่จะได้ทำอาชีพที่ชอบด้วย ใครมีฝันอยากทำอะไรต้องฝึกทักษะแบบไหน สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ “อาชีพในฝัน”

สรุปพรีเซนต์งานให้น่าสนใจไม่ใช่เรื่องยากแต่ต้องขยันซ้อม

วิธีการพรีเซนต์งานแบบมืออาชีพไม่ใช่เรื่องยาก หากมีการเตรียมความพร้อมมาดี รู้จุดแข็งจุดอ่อนของตัวเอง ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดคือการฝึกซ้อมและเรียนรู้เพื่อสร้างประสบการณ์ในการนำเสนอให้มากขึ้น นอกจากนี้การนำเทคนิคที่เราแนะนำมาปรับใช้ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจ และสร้างความน่าสนใจให้กับการพรีเซนต์ได้มากขึ้น หากทำได้ดี งานที่มี Career Path ดี ๆ รออยู่ไม่ไกลแน่นอน

นอกจากเรื่องของเทคนิคและกลยุทธ์ที่ใช้ในการพรีเซนต์งานตามที่ได้นำเสนอไปแล้ว การได้เรียนรู้จากมืออาชีพโดยตรงก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยให้ได้เทคนิคและวิธีนำเสนอที่แตกต่างมากขึ้น ซึ่งหากใครที่อยากเรียนด้านนี้อย่างจริงจัง สามารถที่สมัครคอร์สเรียนออนไลน์หรือลงเรียนเพิ่มเพื่อเสริมทักษะเรื่องการพรีเซนต์งาน เเละตัวช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายนี้ เราขอนำเสนอผลิตภัณฑ์บัตรกดเงินสด KTC PROUD ที่สามารถนำมารูดจ่ายค่าเรียนได้ นอกจากจะรูดจ่ายค่าสินค้าเเละบริการได้เเล้วนั้น ยังสามารถผ่อนซื้อสินค้าได้นานสูงสุด 24 เดือน 0% กับร้านค้าที่ร่วมรายการ กดเงินสดจากตู้ ATM หรือเลือกโอนผ่านแอปฯ KTC Mobile ก็ทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง

บัตรกดเงินสด KTC PROUD ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี

รูด โอน กด ผ่อน ครบในบัตรเดียว

สมัครบัตรกดเงินสด KTC PROUD คลิกเลย!

*กู้เท่าที่จําเป็นและชําระคืนได้ตามกําหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 20%-25% ต่อปี

Apply Online Service

KTC Credit cards and KTC PROUD

QR Code สมัครออนไลน์ด้วยตนเอง
Scan QR Code
to apply online service
Learn more

Apply Online Service

KTC Credit cards
and KTC PROUD

Apply Now Learn more

Add your contact details
for call back service.

Get advice and help with applying KTC products.

บัตรเครดิต KTC KTC Credit Card สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH KTC CASH KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน บิ๊กไบค์ KTC P BERM
Car for Cash (Big bike)
บัตรกดเงินสด KTC PROUD KTC PROUD สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม KTC P BERM
Car for Cash (Car)
KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มอเตอร์ไซค์ KTC P BERM
Car for Cash
(Motorcycle)
บัตรเครดิต KTC KTC Credit Card บัตรกดเงินสด KTC PROUD KTC PROUD สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH KTC CASH สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม KTC P BERM
Car for Cash (Car)
KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน บิ๊กไบค์ KTC P BERM
Car for Cash (Big bike)
KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มอเตอร์ไซค์ KTC P BERM
Car for Cash
(Motorcycle)

About KTC

  • Vision / Mission
  • General Information
  • Group’s Shareholding
  • Organization Structure
  • Board of Directors
  • Executives
  • Company Secretary
  • Compliance and Internal Audit
  • Financial Controller
  • Data Protection Notice
  • Cookies Notice
  • PR News
  • Article
  • Career / Internship

Customer Services

  • Online Services
  • Rates and Fees
  • Interest / Fee Calculator
  • Payment Channels
  • KTC Auto Payment
  • Download
  • Announcement
  • FAQ
  • Site Map

Sustainability Development

  • Economic Dimension
  • Social Dimension
  • Environmental Dimension
  • Internal Control
    and Risk Management
  • Information Security Management System (ISO/IEC 27001:2013) Certification

Investor Relations

  • Financial Hightlight
  • Publications and Webcast
  • Shareholder
  • Bondholder
  • Policy
  • IR Contact

KTC PHONE

02 123 5000
CAC Certified

Download App

KTC Mobile
KTC Mobile KTC Mobile KTC Mobile
ติดตามข่าวสารได้ที่
KTC LINE KTC LINE KTC Facebook KTC Facebook KTC instagram KTC instagram KTC Youtube KTC Youtube KTC TikTok KTC TikTok KTC twitter KTC twitter
© 2020 Krungthai Card PCL.
Follow us on
KTC LINE KTC LINE KTC Facebook KTC Facebook KTC instagram KTC instagram KTC Youtube KTC Youtube KTC TikTok KTC TikTok KTC twitter KTC twitter

EN

TH

KTC LIVE CHAT

Live Chat

KTC LIVE CHAT
สมัครบัตรเครดิต KTC
สมัครกดเงินสด KTC PROUD
All
Promotion
Credit card
Article
News
0 Result
คุณกำลังหมายถึง?
    See more

    Not found

    Check your search keywords and try again.
    Try searching with fewer keywords.
    History Search
    History empty
    Clear all
    KTC
    Filter promotion
    All category
    • Select all
    • Clear all
    All brand
    • Select all
    • Clear all
    Choose Product

    KTC Credit Card

    KTC PROUD

    KTC CASH

    สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ <span>KTC พี่เบิ้ม</span>

    KTC P BERM

    Filter

    ตัวกรอง

    Search
    www.ktc.co.th ไม่รองรับเบราว์เซอร์ Internet Explorer
    หากดำเนินการต่อ การใช้งานในบางเมนู/รายการอาจไม่สมบูรณ์

    © 2019 Krungthai Card PCL.

    EN

    TH

    Live Chat